เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1681 ความก้าวหน้า

บทที่ 1681 ความก้าวหน้า

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1681 ความก้าวหน้า

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

ภาคกลางน้อย

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนค่อยๆบินขึ้นสู่อากาศ

จากมุมสูงสามารถมองเห็นลําธารใสสะอาดที่มีความสูงขึ้นมาถึงเข่าบนพื้นตะกอน มีดอกไม้ตูมขนาดเท่าบ้านจํานวนมากอยู่ที่นี่ พวกมันเป็นพืชอสูรเดียวดายที่เรียกว่าบุปผาวารีสุดขั้ว

ฟางหยวนได้รับมันมาจากถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า

หลังจากกวาดตามอง ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะฤดูร้อน

วิญญาณอมตะฤดูร้อนระดับแปดมาจากผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้เชี่ยชา แม้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับหก แต่ร่างหลักของฟางหยวนมีลิ้นจี่ขาวอมตะ ด้วยการให้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลายืมวิญญาณรวมถึงลิ้นจี่ขาวอมตะร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจึงสามารถใช้งานวิญญาณเกือบทั้งหมดที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ์

ท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณอมตะฤดูร้อนเป็นแกนกลางถูกกระตุ้นใช้งาน

เซี่ยซามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อจัดการมิติช่องว่างโดยเฉพาะได้แก่ท่าไม้ตายอมตะเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิ ท่าไม้ตายอมตะไถพรวนฤดูร้อน ท่าไม้ตายอมตะเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงและท่าไม้ตายอมตะกักตุนฤดูหนาว

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะที่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนใช้ไม่ใช่หนึ่งในนั้นแต่มันถูกดัดแปลงมาจากท่าไม้ตายอมตะไถพรวนฤดูร้อน มันถูกสร้างขึ้นเพื่อการเพาะปลูกบุปผาวารีสุดขั้วโดยเฉพาะ

บุปผาวารีสุดขั้นจะบานในฤดูร้อนและจะออกผลในฤดูใบไม้ผลิ

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอยู่ในระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดและด้วยความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา มันง่ายมากสําหรับเขาที่จะดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

หลังจากกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอย่างต่อเนื่อง สภาพแวดล้อมก็กลายเป็นฤดูร้อนอุณหภูมิสูงขึ้นอากาศแห้งลง

เมื่อฤดูร้อนมาถึง บุปผาวารีสุดขั้วเริ่มเติบโตขึ้นด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้ว ยตาเปล่ามันค่อยๆเบ่งบานอย่างช้าๆ

ดอกไม้สีขาวชมพูจํานวนมากเบ่งบานอยู่ในลําธาร

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนเฝ้ามองอย่างสงบ ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความคาดหมายของเขา

ในไม่ช้าหมอกสีขาวก็เริ่มลอยขึ้นสู่อากาศอย่างช้าๆ มันเกิดจากเกสรตัวเมียของบุปผาวารีสุดขั้ว

หมอกเหล่านี้ค่อยๆขยายออกไปปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ฟางหยวนหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะอากาศเริ่มมีความชื้นมากขึ้น

หมอกปกคลุมพื้นดินและค่อยๆเปลี่ยนมันให้เป็นแอ่งน้ําตื้น

“ข้าจะตั้งชื่อมันว่าทุ่งหมอกสุดขั้ว ก้าวแรกสําเร็จแล้ว” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเฝ้ามองด้วยความยินดี

“หมอกสุดขั้นจะเป็นอาหารของวิญญาณความเสียใจหลังจากนี้”

อาหารของวิญญาณความเสียใจคือหมอกเหล่านี้ ปัญหาที่ยุ่ง ยากเล็กน้อยก็คือมันต้องเป็นหมอกที่สดใหม่ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถซื้อมันจากภายนอก

“เมื่อหมอกควบแน่นในระดับหนึ่งและก่อตัวเป็นชั้นน้ําอยู่บนพื้นดิน ข้าจะสา มารถปลูกพืชและนําสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเช่นปลาบินหรือเป็ดเข้ามาเพาะเลี้ยง”

“จากนั้นข้าจะขยายอาณาเขตของมันออกไป ด้วยวิธีนี้วิญญาณความเสียใจจะไม่ขาดอาหาร”

การให้อาหารวิญญาณอมตะระดับแปดเป็นโครงการขนาดใหญ่เสมอ

“ด้วยการเพิ่มขึ้นของทุ่งหมอกสุดขั้ว ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิก็ถูกพัฒนาไปแล้ว สิบแปดส่วนปัจจุบันความเร็วของเวลาในมิติช่องว่างของข้าลดลงอย่างมาก การผลิตทรัพยากรต่างๆรวมถึงลิ้นจี่ขาวอมตะลดลงเช่นกัน”

ครั้งนี้ฟางหยวนไม่ได้ใช้วิธีเร่งเวลาแต่เลือกใช้ประโยชน์จากสระแก่นแท้ปี ด้วยวิธีนี้เขาจะไม่สูญเสียพลังงานอมตะและไม่มีข้อเสียของท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาแต่มันสามารถปรับเปลี่ยนความเร็วในมิติช่องว่างของเขาได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ

“แม้ข้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากสระแก่นแท้ปี แต่ข้าไม่สามารถทําให้เวลาเดินเร็วขึ้นโดยไม่คิดให้รอบคอบ มิฉะนั้นภัยพิบัติจะมาถึงอย่างรวดเร็ว”

ปัจจุบันฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่พลังการต่อสู้ของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก นอกจากนั้นก่อนหน้านี้เขายังเปิดเผยท่าไม้ตายเกือบทั้งหมดระหว่างการซุ่มโจมตีของวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลา ดังนั้นตอนนี้มันจึงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการก้าวข้ามภัยพิบัติ

หากฟางหยวนวางมิติช่องว่างลงเพื่อเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ เขาจะตกเป็นเป้าหมาย ของศัตรูวังสวรรค์และกองกําลังอื่นๆจะค้นพบตําแหน่งของเขาและปิดล้อมเขา

“เวลาช้าลงแต่ข้ายังสามารถจัดการมิติช่องว่างเพื่อเพิ่มรากฐานและสะสมลิ้นจี่ขาวอมตะ”

ยิ่งพัฒนามิติช่องว่างได้มากเท่าใด อัตราการผลิตพลังงานอมตะของมันก็ยิ่งเพิ่มสูงเท่านั้น

เป้าหมายในปัจจุบันของเขาคือการสะสมลิ้นจีขาวอมตะ

วิธีเปลี่ยนหินวิญญาณอมตะเป็นลิ้นจี่ขาวอมตะมีประสิทธิภาพต่ําเกินไป มันต้องใช้หินวิญญาณอมตะหนึ่งหมื่นก้อนเพื่อเปลี่ยนเป็นลิ้นจี่ขาวอมตะหนึ่งก้อน

มิติช่องว่างจักรพรรดิสามารถผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะได้หนึ่งร้อยผลทุกปี เปรียบเทียบกับเวลาของโลกภายนอกมันคือครึ่งเดือน

เวลาผ่านไปฟางหยวนยังบ่มเพาะอยู่อย่างสันโดษ ตอนนี้ห้าภูมิภาคเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว

แม้จะไม่มีเบาะแสของฟางหยวนแต่โลกของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

สาเหตุมาจากการสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพี

ร่องลึกใต้พิภพปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในทั้งห้าภูมิภาคโดยเฉพาะภาคใต้

“ครืน…”

ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้น หงอี้ล้มลงบนพื้นด้วยความอ่อนล้า เขาหอบหายใจด้วยใบหน้าซีดขาวขณะมองหุบเขาขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า

เมื่อเส้นโลหิตปฐพี่สั่นสะเทือน เขาและผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆเริ่มวิ่งอย่างดุเดือด

นี่เป็นการหลบหนีที่วุ่นวาย

หลายครั้งที่หงอี้สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ด้วยความโชคดี

ในช่วงเวลาสําคัญเขาสามารถใช้พละกําลังได้มากกว่าปกติและสามารถกระโดดข้ามหน้าผาโดยไม่คาดคิด

“อันตรายมาก! ข้าเกือบเสียชีวิตที่นี่!” หงอี้ลุกขึ้นยืนแต่ยังหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เขามองลงไปในหุบเขาและเห็นเพียงความมืดเท่านั้น

“ดูเหมือนภาคกลางทั้งหมดจะเกิดแผ่นดินไหวในช่วงเวลานี้ มันทําให้เกิดหุบเขาเช่น นี้เป็นจํานวนมาก”กระทั่งผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์เช่นหงอี้ก็ยังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของโลกใบนี้

“อา…มันคือสิ่งใด?” หงอี้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

วิญญาณอมตะปาค่อยๆบินออกมาจากกลุ่มฝุ่นควัน

วิญญาณอมตะปาดวงนี้ได้รับบาดเจ็บและบินขึ้นมาอย่างยากลําบาก มันบินไปทางซ้ายและขวาก่อนจะหมดแรงและล้มลงที่เท้าของหงอี้

หงอี้ตะลึง

วังสวรรค์

เทพธิดาจื่อเว่ยกรีดร้องขณะปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาจากร่างกาย

วังสวรรค์ทั้งหมดสั่นสะเทือนเล็กน้อย พลังงานลึกลับไหลเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่

ค่ายกลวิญญาณอมตะเริ่มบดขยี้เทพปีศาจจิตวิญญาณที่ถูกขังอยู่ตรงกลาง

เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามต่อต้านด้วยพลังทั้งหมดของเขาแต่ยังไม่สามารถป้องกันการโจมตีของค่ายกลวิญญาณอมตะ ความทรงจําของเขาถูกดึงออกมา

“ในที่สุดข้าก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกายาแห่งความฝัน ฮ่าฮ่าฮ่า” เทพธิดาจื่อเว่ยหัวเราะ แม้ใบหน้าของนางจะซีดขาว แต่นางยังแสดงออกด้วยความตื่นเต้น

นางทํางานหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ด้านหนึ่งนางกําลังรับมือกับการสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพีที่นําความปั่นป่วนมาสู่ภาคกลาง อีกด้านหนึ่งนางพยายามจัดการเทพปีศาจจิตวิญญาณ

นางใช้ความพยายามอย่างมากในการดึงงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันมาจากเทพ ปีศาจจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของค่ายกลวิญญาณอมตะ นางต้องหยิบยืมพลังอํานาจทั้งหมดจากถ้ําสวรรค์ของวังสวรรค์

การทํางานหนักของนางได้รับผลตอบแทนในที่สุด

ฤดูร้อนมาเยือนแต่ความร้อนแรงของอากาศยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับความร้อนแรงจากไฟในหัวใจของกลุ่มผู้อมตะ

การสั่นสะเทือนของเส้นโลหิตปฐพีไม่มีสัญญาณที่จะหยุดลง ตรงข้าม มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆวิญญาณอมตะ และทรัพยากรทุกชนิดปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความรื่นเริงของทั้งห้าภูมิภาค

ในถ้ําสวรรค์ห้าเซียง เสียงหัวเราะของฟางหยวนดังขึ้น

“ในที่สุดข้าก็เข้าใจท่าไม้ตายอมตะกายาสวรรค์!”

กระเรียนขาวยืนอยู่ด้านหน้าฟางหยวน

“ผู้ใดจะคิดว่ากายาสวรรค์จะมีความสามารถเช่นนี้”

“ด้วยสิ่งนี้การบ่มเพาะของข้าจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ปัญหาเกี่ยวกับภัยพิบัติของข้าจะถูกแก้ไข!”

ฟางหยวนลูบขนของกระเรียนขาวด้วยดวงตาส่องประกาย

ท่าไม้ตายอมตะกายาสวรรค์มาในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างแท้จริง!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท