เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1679 มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

บทที่ 1679 มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1679 มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

สายน้ำไหลจากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต

ฟางหยวนยืนอยู่บนเกาะบัวหินของเทพปีศาจบัวแดงและมองไปยังสายธารแห่งกาลเวลาอยู่อย่างเงียบๆ

สายธารแห่งกาลเวลาถือเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่พิเศษที่สุด

มันเคลื่อนที่ผ่านโลกทั้งใบ หากปราศจากมัน โลกของผู้ใช้วิญญาณจะกลายเป็นภาพนิ่งที่ไร้ชีวิตและไร้การเปลี่ยนแปลง

ฟางหยวนครอบครองภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปแต่เขาไม่สามารถยึดครองสายธารแห่งกาลเวลา

แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพแห่งนี้เป็นของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสัตว์ทุกตัว หญ้าทุกต้น หินทุกก้อน น้ําทุกหยด ทุกสิ่งล้วนได้รับประโยชน์จากสายธารแห่งกาลเวลา

ผู้อมตะสามารถครอบครองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่อยู่ภายในมิติช่องว่างของพวกเขาเท่านั้น

สายธารแห่งกาลเวลาคือสมบัติส่วนรวมของคนทั้งโลก

พื้นผิวของสายธารแห่งกาลเวลาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นบางๆของแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

มันเป็นสถานที่ที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่มากที่สุดในโลก

ฟางหยวนยืนอยู่ที่ขอบเกาะบัวหิน เขาสามารถมองเห็นอสูรปี ฉลามนิ้วกาลเวลา และวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมากด้วยการกวาดตามองเพียงครั้งเดียว

หลายวันผ่านไปแล้วตั้งแต่ฟางหยวนมาถึงเกาะบัวหิน

ในช่วงเวลานี้เขาดูดซับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและทําให้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขามุ่งสู่ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด

ด้วยความสําเร็จระดับนี้ ฟางหยวนได้รับความเข้าใจใหม่มากมายเกี่ยวกับสายธารแห่งกาลเวลา มันไม่ใช่เรื่องผิวเผินแต่เป็นแก่นแท้ของสายธารแห่งกาลเวลา มันเหมือนม่านลึกลับค่อยๆเปิดออกและทําให้เขาเข้าใจการทํางานของโลกใบนี้มากขึ้น

ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทําให้ฟางหยวนเติบ โตขึ้นในทุกแง่มุม

ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา ตอนนี้ฟางหยวนเข้าใจแก่นแท้ของมันอย่างสมบูรณ์และ สามารถกู้คืนพลังอํานาจดั่งเดิมของมัน

อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเซี่ยชา ตอนนี้ฟางหยวนสามารถดัดแปลงพวกมันให้เหมาะสมกับตนเองมากขึ้น

การเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและเส้นทางแห่งการหลอมรวม ฟางหยวนมั่นใจมากในการคิดค้น พัฒนา และดัดแปลงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะทุกเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทางแห่งกาลเวลา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด ถัดมาคือวิญญาณความเสียใจ

ยังไม่ต้องกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของวิญญาณดวงนี้ ด้วยการเป็นวิญญาณอมตะระดับ แปดคุณค่าของมันก็ไม่ธรรมดาแล้ว

ตอนนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปดในการครอบครองทั้งสิ้นห้าดวงได้แก่วิญญาณ ทัศนคติ วิญญาณดาบแห่งปัญญา วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ํา วิญญาณป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ และวิญญาณความเสียใจ

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณความเสียใจ เขาสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะสระแห่งความโศกเศร้าได้อย่างไร้อุปสรรค

แน่นอนว่าความยากลําบากยังมีอยู่ แต่อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพังทลายลงแล้ว นั่นคือวิญญาณความเสียใจ ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจบัวแดงจัดเตรียมมรดกที่แท้จริงนี้ เขาอนุมานสถานการณ์ของฟางหยวนและเตรียมทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาไว้เป็นจํานวนมาก

ด้วยสิ่งเหล่านี้ ฟางหยวนจะสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เหนือกว่าสระแห่งความโศกเศร้า

เขายังสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะและยกระดับวิญญาณอมตะที่มีอยู่แล้ว

ทรัพยากรอมตะที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้อย่างน้อยก็เป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด มีทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมาก

หากวังสวรรค์เห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้ฟางหยวนได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาโดยไม่สนใจค่าใช้จ่าย แต่ตอนนี้การกระทําทั้งหมดของพวกเขากลับกลายเป็นไร้ความหมาย

ท่ามกลางท่าไม้ตายอมตะที่ฟางหยวนได้รับ ส่วนใหญ่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ใช้วิญญาณกาลเวลาเป็นแกนกลาง สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จท่าไม้ตายนี้ ใช้วิญญาณอมตะหลายดวงสนับสนุนวิญญาณกาลเวลา มันจะทําให้การใช้วิญญาณกาลเวลประสบความสําเร็จเต็มร้อยส่วน

การใช้วิญญาณกาลเวลาเพียงดวงเดียวมีโอกาสประสบความสําเร็จต่ําเกินไป นอกจากนั้นมันยังมีข้อเสียคือโชคจะลดลง สําหรับท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จ ข้อเสียเรื่องโชคลดลงยังคงอยู่ แต่การกําเนิดใหม่จะประสบความสําเร็จอย่างแน่นอน โอกาสล้มเหลวของมันเป็นศูนย์

ด้วยท่าไม้ตายนี้การใช้งานวิญญาณกาลเวลาจะปลอดภัยมาก ฟางหยวนตัดสินใจเตรียมความพร้อมสําหรับท่าไม้ตายนี้

ฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะหลายท่า ท่ามกลางพวกมันมีท่าไม้ตายอมตะท่าหนึ่งที่เทพปีศาจบัวแดงจัดเตรียมไว้ให้ฟางหยวนเป็นพิเศษ เดิมที่มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า แต่หลังจากผ่านกาลเวลามานั้นล้านปี พลังอํานาจของมันลดลงไปบ้าง

ชื่อของท่าไม้ตายนี้คือตัวตนในอนาคต

ท่าไม้ตายนี้พึ่งพาพลังอํานาจของสายธารแห่งกาลเวลา ผู้อมตะสามารถยืมสถานะในอนาคตของพวกเขาเป็นการชั่วคราว

ตัวอย่างเช่นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะในอนาคต ภายใต้พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต เขาจะสามารถยืมตัวตนผู้อมตะของเขาในอนาคตและต่อสู้ในสถานะผู้อมตะได้ชั่วคราว

กระทั่งฟางหยวนก็ยังพูดไม่ออกกับพลังอํานาจที่ลึกลับและน่าสะพรึงกลัวของท่าไม้ตายนี้

โชคไม่ดีที่ท่าไม้ตายนี้อ่อนแอลงและตกลงมาอยู่ในระดับเจ็ด มันไร้ประโยชน์สําหรับฟางหยวน

ในการอนุมานของเทพปีศาจบัวแดง ฟางหยวนยังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเมื่อเขาพบเกาะบัวหินแห่งนี้ แต่เทพปีศาจบัวแดงไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แม้เขาจะสามารถเลียนแบบความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่มันอาจเกิดข้อบกพร่องบางอย่างในการอนุมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่วิญญาณชะตากรรมได้รับบาดเจ็บขณะที่เส้นทางแห่งโชคปรากฏขึ้น ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา

‘ข้าก้าวเข้าสู่ระดับแปดแล้ว ข้าทําได้เพียงมอบท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตให้กับ ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าเท่านั้น’

‘สิ่งนี้สามารถชดเชยความแข็งแกร่งและคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ของพวกเขา’

‘น่าเสียดายที่ข้าสูญเสียกําลังคนไปมากก่อนหน้านี้’

มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมีมากมายแต่ฟางหยวนยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เหตุผลเป็นเพราะเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ทิ้งสิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุดเอาไว้ นั่นคือวิธีการบางอย่างหรือทางลัดที่จะทําไปสู่การทําลายวิญญาณชะตากรรม

ความทรงจําที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้มีเพียงประสบการณ์ในการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าและชีวิตที่น่าเศร้าของเขา สําหรับวิธีการหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาหรือวิธีบุกวงสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม ความทรงจําเหล่านี้ไม่ได้ถูกทิ้งไว้

ความทรงจําข้ามมาถึงช่วงเวลาที่เทพปีศาจบัวแดงสร้างเกาะบัวหิน สิ่งใดคือเหตุผลของการจัดเตรียมนี้?

ฟางหยวนสอบถามจากความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดง

คําตอบที่ได้รับคือไม่มีทางลัดในการทําลายวิญญาณชะตากรรม แม้เทพปีศาจบัวแดงจะเคยใช้ทางลัดบางอย่างในยุคสมัยของเขา ทางลัดเหล่านั้นก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว อย่าประมาทวังสวรรค์ หากพบทางลัดๆใด ต้องระวัง มันอาจเป็นกับดักของวังสวรรค์

เหตุใดเทพปีศาจบัวแดงไม่ทิ้งความทรงจําอื่นๆเอาไว้สําหรับคําถามนี้ ความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดงไม่มีคําตอบ เขาเพียงคาดเดาว่า “ร่างหลักอาจไม่ต้องการชี้ทางให้เจ้าเดิน เพราะมันอาจนําไปสู่ความเข้าใจผิด การทําลายวิญญาณชะตากรรมขึ้นอยู่กับทางเลือกของเจ้าเอง”

ฟางหยวนถามต่อว่าเกาะบัวหินเกาะอื่นๆอยู่ที่ใด

ความหมายที่แท้จริงในร่างเทพปีศาจบัวแดงไม่รู้

อย่างไรก็ตามคําตอบนี้อยู่ในความคาดหมายของฟางหยวน

หากเกาะบัวหินทุกเกาะสามารถระบุตําแหน่งของเกาะอื่น พวกมันคงถูกค้นพบหรือถูกวังสวรรค์ยึดครองไปแล้ว เพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ เทพปีศาจบัวแดงจึงสร้างเกาะบัวหินแต่ละเกาะแยกจากกันโดยที่แต่ละเกาะไม่สามารถระบุตําแหน่งของเกาะอื่น

“วิญญาณชะตากรรมต้องถูกทําลาย!”

วังสวรรค์ที่มีวิญญาณชะตากรรมและวังสวรรค์ที่ไม่มีวิญญาณชะตากรรมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม แม้ฟางหยวนจะไม่ถูกผูกมัดด้วยโซ่ตรวนแห่งโชคชะตา แต่คนอื่นๆและสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกใบนี้จะได้รับอิทธิพลและ ถูกควบคุมโดยโชคชะตา

เมื่อเวลานั้นมาถึงทุกคนและทุกสิ่งจะกลายเป็นศัตรูของเขาทั้งหมด

มันอาจฟังเกินจริงไปเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องจริง

อีกเหตุผลที่สําคัญกว่าคือการคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาชีวิตนิรันดร์ของฟางหยวน

วิญญาณชะตากรรมไม่อนุญาตให้มีการดํารงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์หรือการฟื้นคืนชีพ สิ่งมีชี วิตทั้งหมดต้องตาย

ดังนั้นไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ฟางหยวนก็ต้องทําลายวิญญาณชะตากรรม

เทพปีศาจบัวแดงอนุมานมานานแล้ว เขาไม่กังวเลเกี่ยวกับแรงจูงใจของฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท