เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1678 เทพอมตะเสียใจแต่ข้าไม่

บทที่ 1678 เทพอมตะเสียใจแต่ข้าไม่

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1678 เทพอมตะเสียใจแต่ข้าไม่

“เจ้ากล่าวสิ่งใด?” ราชันมังกรได้ยินไม่ชัด

“ข้าบอกว่าข้าเสียใจ” หงถิงกล่าวอีกครั้ง

คิ้วของราชันมังกรขมวดแน่นทันที “เสียใจ? หงถิง อย่ากล่าวเรื่องไร้สาระ เจ้ารู้อยู่แล้ว มีกี่คนที่อุทิศตนและเสียสละเพื่อเจ้า? หากเจ้ากล่าวเช่นนี้ ผู้คนที่ช่วยเหลือเจ้ามาตลอดชีวิตจะไม่ได้รับความยุติธรรม พ่อแม่ของเจ้า ภรรยาผู้ล่วงลับของเจ้าผู้อมตะที่เสียสละตนเองเพื่อให้เจ้าก้าวข้ามภัยพิบัติ

ราชันมังกรตําหนิหงถึงอย่างรุนแรง

“ท่านราชันมังกร การตายของหลิวซูเชียนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เราสามารถทําความเข้าใจความรู้สึกของเทพอมตะบัวแดง เขาเพียงสับสนชั่วคราวเท่านั้น” ผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามไกล่เกลี่ย

“เทพอมตะบัวแดง…ฮ่าฮ่าฮ่า” หงถิงหัวเราะด้วยความรังเกียจ เขามองราชันมังกรด้วยดวงตาแดงก่ำ “หากต้องเสียสละและเสียสละมากขึ้นในอนาคตเพื่อตําแหน่งนี้ ข้าก็ไม่ต้องการมัน!”

“พอแล้ว!” ราชันมังกรโกรธมาก “ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ากล่าวไร้สาระอีกต่อไป หงถิง! เจ้าคิดว่าตําแหน่งเทพอมตะของเจ้าสามารถได้รับหรือละทิ้งได้ตามที่เจ้าต้องการงั้นหรือ? ทั้งหมดเป็นชะตากรรม นี่คือภารกิจในชีวิตของเจ้าไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก็ตาม!”

หงถึงหัวเราะเสียงดัง เขามองราชันมังกร “แท้จริงแล้วเทพอมตะที่ยิ่งใหญ่กลับไม่สามารถทําสิ่งที่เขาพอใจ เขาไม่สามารถแม้แต่จะปฏิเสธตําแหน่งเทพอมตะ”

ราชันมังกรกล่าวด้วยน้ําเสียงเย็นชา “บอกข้า หงถิง บนโลกใบนี้ผู้ใดสามารถทําตามที่ตนเองพอใจ? ความคิดของเจ้ายังเด็กเกินไป เจ้าคิดว่าการเป็นเทพอมตะและเป็นผู้นําฝ่ายธรรมะไม่ต้องเสียสละงั้นหรือ? มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย? เพื่อปกครองและดูแลวังสวรรค์ เจ้าต้องจ่ายด้วยบางสิ่ง หากเจ้าไม่เสียสละ เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติเข้าสู่วังสวรรค์!”

ร่างกายของหงถึงสั่นสะท้านขึ้น

“ท่านราชันมังกร ท่านเทพอมตะ โปรดสงบอารมณ์ ตอนนี้เราควรพักฟื้นและรักษาอาการบาดเจ็บแทนที่จะทะเลาะกัน” ผู้อมตะคนอื่นๆพยายามไกล่เกลี่ย

หงถึงค่อยๆก้มศีรษะลงและกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “ข้าต้องการชุบชีวิตพวกเขา”

คิ้วของราชันมังกรยกขึ้น ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ําแข็ง “เจ้าต้องการชุบชีวิตผู้ใด?”

“ทุกคนที่เสียสละเพื่อข้า ท่านพ่อท่านแม่ของข้า หลิวซูเซียน และคนอื่นๆ”

“อวดดี!” ราชันมังกรตะโกนและชี้นิ้วไปที่หงถึง “เจ้ามีความคิดนอกรีตเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้ารู้อยู่แล้ว ข้าบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้ว ชีวิตและความตายถูกกําหนดโดยโชคชะตาชีวิตและความตายเป็นกฏแห่งเต๋ที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตและความตายของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ภายใต้การจัดเตรียมของโชคชะตา เจ้าต้องการชุบชีวิตคนตายงั้นหรือ? เจ้ากําลังพยายามทําให้โลกทั้งใบตกสู่ความโกลาหล เจ้ายังไม่ได้เรียนรู้อีกมั้นหรือ? ยิ่งต่อต้านโชคชะตาโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายยิ่งกว่าจะเกิดขึ้นรอบตัวเจ้า!”

“แม้จะเกิดโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายกว่าข้าก็จะยอมรับมัน! ท่านอาจารย์ ศิษย์มีคําถามติดอยู่ในใจมาตลอด เหตใด? เพราะเหตุใดเราต้องยอมรับการจัดเตรียมของโชคชะตา? หากไม่มีโชคชะตา โลกจะวุ่นวายจริงๆงั้นหรือ? เป็นไปได้หรือไม่ที่โลกจะน่าอยู่มากขึ้น!?” หงถิงถาม

ร่างกายของราชันมังกรสั่นด้วยความโกรธ กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็เริ่มถอยหลังและรู้สึกราวกับหงถึงไม่ใช่คนที่พวกเขารู้จักอีกต่อไป

“ท่านเทพอมตะ ความคิดของท่านอันตรายเกินไป”

“ถูกต้อง หากปราศจากโชคชะตา เผ่าพันธุ์มนุษย์จะไม่รุ่งเรือง”

“วิญญาณชะตากรรมเป็นสมบัติล้ําค่าของวังสวรรค์ ท่านเทพอมตะจะทําลายมันงั้นหรือ? นี่…นี่…”

“พวกเจ้าทั้งหมด…” หงถิงมองผู้อมตะที่อยู่รอบๆและรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว

เวลาผ่านไป

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสายธารแห่งกาลเวลา

ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของชีวิต เขาดูเหมือนคนจรที่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกและไม่มีที่ใดที่สามารถเรียกว่าบ้าน

ใบหน้าของเขายังมีเงาของหงถึงในอดีต แต่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เทพปีศาจบัวแดงมองสายธารแห่งกาลเวลาและถอนหายใจ “ถึงเวลาทิ้งมรดกของข้า ไว้เบื้องหลังแล้ว”

เขาเดินลงมาอย่างช้าๆ เท้าของเขาหยุดก่อนที่มันจะสัมผัสสายธารแห่งกาลเวลา “เกาะบัวหินเกาะแรกจะเป็นเกาะบัวหินที่สําคัญที่สุด ข้าจะใช้วิญญาณความเสียใจเป็นแกนกลางของเกาะและทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้ปีศาจต่างโลกเพราะเขามีความหวังมากที่สุดในการทําลายวิญญาณชะตากรรม”

เกาะบัวหินค่อยๆปรากฏขึ้น

เทพปีศาจบัวแดงทิ้งวิญญาณความเสียใจระดับแปดไว้ที่นี่รวมถึงทรัพยากรอมตะบนเส้นทาง แห่งกาลเวลา ความทรงจําบางส่วน ความหมายที่แท้จริง เคล็ดลับการหลอมรวม และท่าไม้ตาย

หลังจากเสร็จสิ้นการจัดเตรียม เทพปีศาจบัวแดงก็บินจากไปอย่างช้าๆด้วยร่างกาย ที่อ่อนล้าของเขา

เวลาผ่านไป

คนนอกบุกเข้าไปสู่เกาะบัวหิน

เขามีรูปร่างผอมบาง ศีรษะโล้น เท้าเปล่า ขาของเขาเปื้อนโคลนเหมือนชาวนาที่กลับจากการทํางานในทุ่งมาทั้งวัน

อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขากลับดูอ่อนเยาว์ ดวงตาส่องประกายและเต็มไปด้วยความเมตตา

ความหมายที่แท้จริงที่อยู่ในร่างเทพปีศาจบัวแดงปรากฏขึ้นและเผยรอยยิ้มให้กับชาย เท้าเปล่า “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ”

“ข้าคือสวรรค์พิภพ ในที่สุดข้าก็พบที่นี่หลังจากใช้ความพยายามมากมาย”

คนผู้นี้ก็คือเทพอมตะสวรรค์พิภพ ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าเรียบร้อยแล้ว

เทพปีศาจบัวแดงถามอย่างตรงไปตรงมา “ท่านมาเยือนที่นี่เพื่อสิ่งใด?”

เทพอมตะสวรรค์พิภพยิ้ม “ท่านบัวแดง เหตุใดต้องถามเมื่อรู้อยู่แล้ว?”

เทพปีศาจบัวแดงเผยรอยยิ้ม “ท่านพูดถูก วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหายแต่ยังไม่ถูกทําลายอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นทุกอย่างจึงสามารถสังเกตเห็นได้จากสายธารแห่งกาลเวลา”

เทพปีศาจบัวแดงหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าสามารถให้ท่านยืมวิญญาณความเสียใจ สำหรับความตั้งใจที่จะขโมยผู้สืบทอดของข้า นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของท่าน”

เทพอมตะสวรรค์พิภพกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แม้เขาจะเป็นปีศาจต่างโลก แต่เขาไม่ใช่คนไร้ความรู้สึก ไม่สายเกินไปที่จะหันหลังกลับ ผู้ใดบ้างที่ไม่ต้องการได้รับการปลดปล่อย? ข้ายินดีทดลอง!”

เทพปีศาจบัวแดงหัวเราะ “เอาล่ะ ร่างหลักของข้ากังวลอยู่บ้างเมื่อสร้างเกาะแห่งนี้ ท้ายที่สุดข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถป้องกันวังสวรรค์ อย่างไรก็ตามเมื่อท่านเคลื่อนไหวด้วยตนเอง ข้าก็ไม่จําเป็นต้องกังวล นี่คือวิญญาณความเสียใจรับมัน”

วิญญาณความเสียใจบินเข้าไปหาเทพอมตะสวรรค์พิภพอย่างช้าๆขณะที่ฝ่ายหลังรับมันไว้อย่างระมัดระวัง

“สมกับเป็นวิญญาณความเสียใจ มันกระตุ้นความรู้สึกเสียใจอันไร้ขอบเขตออกมาอย่างต่อเนื่อง มีเพียงคนที่ปราศจากความเสียใจแม้แต่น้อยเท่านั้นที่มีภูมิคุ้มกันต่อมัน มิฉะนั้นผู้อมตะที่เข้าใกล้มันจะรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!” เทพอมตะสวรรค์พิภพเผยรอยยิ้มขมขืน “หากข้ายังไม่บรรลุระดับเก้า ข้าจะไม่สามารถกําหราบมัน”

“ดูเหมือนท่านจะมีความเสียใจอยู่ในใจเช่นกัน” เทพปีศาจบัวแดงถอนหายใจ

เทพอมตะสวรรค์พิภพเผยรอยยิ้มบาง “ผู้ใดบนโลกใบนี้ที่ไม่มีความเสียใจในชีวิต?”

หลังจากเก็บวิญญาณความเสียใจเข้าไปในมิติช่องว่าง เทพอมตะสวรรค์พิภพก็โค้งคํานับเทพปีศาจบัวแดง “เช่นนั้นขาขอลา เมื่อถึงเวลาข้าจะส่งเขามาที่นี่อย่างแน่นอน”

ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ความงุนงงค่อยๆหายไปจากดวงตาของเขา

เขาได้รับความทรงจําบางส่วนของเทพปีศาจบัวแดงและเข้าใจเหตุผลทั้งหมด

“ข้าไม่เคยคาดหวังว่าจะมาถึงเกาะบัวหินโดยตรง แม้เทพปีศาจบัวแดงและเทพอมตะสวรรค์ พิภพจะตายไปแล้วแต่การจัดเตรียมของพวกเขายังทํางานอยู่”

ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะมองความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงและวิญญาณความเสียใจที่ลอยอยู่ด้านหน้า

ความหมายที่แท้จริงในร่างของเทพปีศาจบัวแดงเผยรอยยิ้มกล่าว “ฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทําลายวิญญาณชะตากรรม ดังนั้นรับมรดกที่แท้จริงของข้าไป มันรอเจ้ามาเป็นเวลากว่าล้านปีแล้ว”

ฟางหยวนพยักหน้าและยื่นมือออกไปคว้าจับวิญญาณความเสียใจ

เทพปีศาจบัวแดงเร่งเตือน “ระวังวิญญาณความเสียใจไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง มิฉะนั้น เจ้าจะจมอยู่ในความเสียใจที่ไม่รู้สิ้นสุด! ข้าเตรียมวิธีการไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้าเพียงแค่..”

“ไม่จําเป็น” ฟางหยวนคว้าวิญญาณความเสียใจเอาไว้และปรับแต่งมันทันทีอย่างไม่แยแส

เทพปีศาจบัวแดงตะลึง “เจ้า…”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท