เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1693 จื่อเว่ยยืมวิญญาณ

บทที่ 1693 จื่อเว่ยยืมวิญญาณ

บทที่ 1693 จื่อเว่ยยืมวิญญาณ

ตั้งแต่กําเนิดใหม่ พลังการต่อสู้ของฟางหยวนเพิ่มสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยาก

อย่างไรก็ตามเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้แย่งชิงวังมังกรเพียงลําพัง

ท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดที่ต่อสู้เพื่อวังมังกร ราชันมังกรมีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้า นอกจากนั้นยังมีผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งของทะเลตะวันออกอีกหลายคน

ฟางหยวนมีเวลาบ่มเพาะน้อยเกินไป การเอาชนะราชันมังกรและคว้าวังมังกรมาครอบครองยากเกินไปสําหรับเขา

แต่ฟางหยวนรู้ว่าเขาไม่สามารถเฝ้ามองอยู่ด้านข้าง

หากวังสวรรค์ได้รับวังมังกร พวกเขาจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการคงอยู่ของวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย มันอาจถือกําเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สวรรค์ปลูกไว้ในทะเลตะวันออกเพิ่มเริ่มต้นยุคของเส้นทางแห่งความฝัน

การดึงถ้ำสวรรค์นิรันดรเข้ามาจะทําให้สถานการณ์วุ่นวายมากขึ้น

ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายเท่าใด ฟางหยวนก็ยิ่งมีโอกาสมากเท่านั้น

รากฐานของผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกไม่สามารถดูแคลน ฟางหยวนอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างง่ายดายหากไม่ระวัง

สําหรับราชันมังกร ฟางหยวนตระหนักว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

“ราชันมังกรกําลังปกป้องฟงจินฮวง เขาไม่สามารถใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่ เขายังไม่ได้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ แต่กระทั่งเขาจะใช้เพียงวิธีบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เขาก็ยังแข็งแกร่งที่สุด เขาสามารถต่อต้านทุกคนได้ด้วยตัวเขาเพียงลําพัง”

ไปหนิงปิงและคนอื่นๆยังฝึกฝนอยู่บนเกาะบัวหิน แม้พวกนางจะได้รับความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต แต่พวกนางก็มีพลังการต่อสู้บนจุดสูงสุดของระดับเจ็ดเท่านั้น”

น่าเสียดายที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของข้าถูกทําลาย หากมันยังอยู่ ตอนนี้มันคงกลายเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดและมีประโยชน์กับข้าเป็นอย่างมาก”

“หากข้าสามารถขโมยวิญญาณอมตะจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูร ข้าจะสามารถแปลงร่าง ข้าจะได้รับพลังการต่อสู้ชั่วคราว น่าเสียดายที่ข้าไม่มีเวลาสํารวจ

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

แต่ความจริงมักเป็นเช่นนี้ ถนนไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ ไม่ใช่ทุกสิ่งจะราบรื่นไปทั้งหมด

วังมังกรหลบหนีอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกยังไม่ปรากฏตัวออกมาทั้งหมด ราชันมังกรรอกําลังเสริมจากวังสวรรค์ ยังมีเวลาก่อนที่พวกเขาจะต่อสู้กันอย่างจริงจัง

ฟางหยวนไม่แน่ใจเกี่ยวกับทัศนคติของถ้ำสวรรค์นิรันดร แต่กระทั่งพวกเขาจะมีเจตนาร้าย การล่อให้พวกเขาเข้าสู่การต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อฟางหยวนมากกว่าภัยคุกคาม

ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ ฟางหยวนจะมีโอกาสฉกชิงวังมังกร สร้างความเสียหายให้กับวังสวรรค์ และตรวจสอบความตั้งใจของถ้ำสวรรค์นิรันดร

อย่างไรก็ตามหลายวันผ่านไปชิงช่ายฉวนก็ยังไม่มา แต่เขามอบข้อมูลสําคัญให้กับฟางหยวน วังสวรรค์พบเกาะบัวหินในสายธารแห่งกาลเวลา พวกเขากําลังพยายามยึดครองมัน

ปิงช่ายฉวนแนะนํา “เจ้ามีวิญญาณกาลเวลา เจ้าเป็นผู้สืบทอดของเทพปีศาจบัวแดงโดยชอบธรรม หากวังสวรรค์นํามรดกของเจ้าไป เจ้าจะลําบากขณะที่วังสวรรค์จะแข็งแกร่งขึ้น เทพปีศาจบัวแดงสามารถทําลายวิญญาณชะตากรรม มีความเป็นไปได้สูงที่มรดกที่แท้จริงของเขาจะมีวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

คํากล่าวของปิงช่ายฉวนไม่มีปัญหา เขาไม่รู้ว่าฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงส่วนหนึ่งมาแล้ว

ฟางหยวนไม่ได้รับวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรม แต่มันอาจอยู่ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงส่วนอื่น

นี่เป็นไปได้

แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่ปิงช่ายฉวนจะให้ข้อมูลเท็จเพื่อจับฟางหยวนเช่นกัน

ตอนนี้ฟางหยวนมีสองทางเลือก เขาอาจเฝ้าดูและรอโอกาสคว้าวังมังกรหรือไปที่สายธารแห่งการเวลาเพื่อชิงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

แต่ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกใด พวกมันต่างอันตรายและมีความเสี่ยงสูง

ฟางหยวนเริ่มคิดวิธีที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้

ภาคใต้

ถ้ำสวรรค์คุณธรรม

สองผู้อมตะระดับแปดเดินเคียงข้างกันขึ้นไปบนภูเขา กลิ่นอายของพวกเขาถูกกดไว้อย่างสมบูรณ์

คนทางซ้ายสวมเสื้อผ้าปานสีเทา มันดูเรียบง่ายและธรรมดามาก แต่ร่างกายที่กํายําของเขาไม่สามารถปกปิด เขาสวมหมวกทรงกรวยและปิดซ่อนใบหน้าของตน

มันคือผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพรุ่นปัจจุบันที่มีชื่อเสียงในโลกของผู้อมตะภาคใต้ ลั่วเว่ยหยิน

คนทางขวาเป็นหญิง นางมีรูปร่างสง่างาม เส้นผมของนางยาวลงมาถึงเอว นางอยู่ในชุดคลุมสีม่วงที่งดงามและดูลึกลับ ดวงตาของนางเหมือนสระน้ำลึกที่แฝงไว้ด้วยความโศกเศร้า

มันคือผู้นําวงสวรรค์ ผู้ครอบครองกระดานหมากรุกกลุ่มดาว ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน เทพธิดาจื่อเว่ย

เทพธิดาจื่อเว่ยเดินทางมาพบลั่วเว่ยหยินอย่างเงียบๆ มีเหตุผลใดซ่อนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้?

ระหว่างทาง ลั่วเว่ยหยินและเทพธิดาจื่อเว่ยพูดคุยกันเพียงไม่กี่คําแต่ทั้งสองยังแสดงออกด้วยความเป็นมิตร

เป็นเพียงเวลานี้ที่ศาลาสีแดงเล็กๆปรากฏขึ้นจากต้นไม้สีเขียว ลั่วเว่ยหยินกล่าว “ท่านหญิงจื่อเว่ย เราไปพักที่ศาลานั้นกันเถอะ”

“เป็นความคิดที่ดี” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบาง

ทั้งสองเดินเข้าไปในศาลาสีแดง มีเก้าอี้วางอยู่ภายใน แต่เทพธิดาจอเว่ยไม่นั่ง นางเดินไปที่ขอบศาลาและมองทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ

ศาลาหลังนี้สร้างขึ้นบนขอบหน้าผา มันมีทัศนียภาพที่งดงาม

ถ้ำสวรรค์คุณธรรมเต็มไปด้วยธรรมชาติ มีหมู่บ้านเล็กๆ และบรรยากาศที่เงียบสงบ

บนท้องฟ้ามีภูเขาลอยฟ้า ภูเขาเหล่านี้สร้างขึ้นบนดินเมฆ บนภูเขาแต่ละลูกมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ภูเขาบางลูกเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีเขียว ภูเขาบางลูกมีฝนโปรยปรายและสายรุ้งฟังดงาม ภูเขาบางลูกมีน้ำตกขนาดใหญ่

นกกระเรียนบินอยู่บนท้องฟ้าและส่งเสียงขับขาน สิ่งมีชีวิตและทรัพยากรอมตะจํานวนมากปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง

สิ่งที่เทพธิดาจื่อเว่ยให้ความสนใจเป็นพิเศษคือมนุษย์เห็ดและมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอย่างกลมกลืน

“มันเป็นสวรรค์อย่างแท้จริง เทพอมตะสวรรค์พิภพต้องการสร้างโลกเช่นนี้ แต่มนุษย์เป็นผู้ปกครองโลก มนุษย์กลายพันธุ์จะเปรียบเทียบกับพวกเราได้อย่างไร? แต่ถึงกระนั้นข้ายังชื่นชม ความสามารถของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขาทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อความฝันนี้ เขาไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างช้าๆ

วังสวรรค์เป็นของมนุษย์ อุดมการณ์ของมันคือการปกครองมนุาย์และกดขี่มนุษย์กลายพันธุ์ แต่เทพอมตะสวรรค์พิภพต้องการความเท่าเทียมและไม่แบ่งแย่งเผ่าพันธุ์

เนื่องจากอุดมการณ์ที่แตกต่างเทพอมตะสวรรค์พิภพจึงไม่ได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เขาสร้างถ้ำสวรรค์ของเขาเองในห้าภูมิภาคและพยายามสร้างโลกในอุดมคติของตน

ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “แม้อุดมการณ์ของเราจะแตกต่าง แต่ทัศนคติของเราที่มีต่อปีศาจเหมือนกัน ท่านหญิงจื่อเว่ยมาที่นี่เพื่อขอยืมวิญญาณ หากมันเป็นวิญญาณอมตะดวงอื่น นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่วิญญาณความเมตตาเป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้ เหตุใดข้าถึงต้องหยุดท่าน? อย่างไรก็ตามหากคนนอกต้องการยืมวิญญาณ ตามกฏของเทพอมตะ ท่านต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อให้ได้รับคุณสบัติในการยืมวิญญาณ การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการบ่มเพาะสูงเท่าใด มันก็ยิ่งยากลําบากเท่านั้น เทพธิดาจื่อเว่ยโปรดเข้าใจ”

“ภูเขาลูกนี้ไม่ง่ายที่จะขึ้นไปจริงๆ แต่ข้าเข้าใจเจตนาของเทพอมตะสวรรค์พิภพ การเดินขึ้นภูเขาลูกนี้มีประโยชน์ต่อข้าเช่นกัน” เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม “เอาล่ะ ไปกันต่อเถอะ”

สายธารแห่งกาลเวลา

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังของวังสวรรค์ตั้งอยู่รอบๆค่ายกลวิญญาณอมตะ

“ท่านฟงจิวเก้อ พวกเราปิดล้อมเกาะบัวหินแล้ว ตอนนี้พวกเราสามารถสํารวจมัน” จางซุนจือกล่าว

ฟงจิวเก้อพยักหน้า เดิมที่เขาต้องการใช้สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อสร้างเพลงพรหมลิขิต แต่ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อเขาเข้ามาในสายธารแห่งกาลเวลา เกาะบัวหินจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

“เกาะบัวหินถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจบัวแดง ข้าควรไปดูวิธีที่น่าตกใจของเขา”

ฟงจิวเก้อกําลังจะเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะ

“บึม!”

แต่เสียงระเบิดกลับดังขึ้น คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เขาอยู่เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

“ศัตรู!”

“ผู้ใดกล้าโจมตีวังสวรรค์!”

กลุ่มผู้อมตะโกรธมาก

จะเป็นผู้ใดได้นอกจากฟางหยวน

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์มีนงงเล็กน้อย บางคนตะโกน “ปีศาจ ครั้งก่อนเจ้าต้องหลบหนี แต่เจ้ายังกล้ากลับมาอีกงั้นหรือ? รนหาที่ตาย!”

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง หลังจากครุ่นคิด เขาตัดสินใจมายังสายธารแห่งกาลเวลา

ท้ายที่สุดการต่อสู้เพื่อวังมังกรมีความไม่แน่นอนมากเกินไป

สําหรับเกาะบัวหิน หากเขาไม่มา วังสวรรค์จะได้รับมันไปอย่างแน่นอน ฟางหยวนครอบครองวิญญาณกาลเวลา เขาข้อได้เปรียบ

“ฟางหยวน เราพบกันอีกครั้ง” เสียงของฟงจิวเก้อดังออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

ใบหน้าของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นจริงจัง ดูเหมือนครั้งนี้เขาต้องต่อสู้กับฟงจิวเก้ออีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท