บทที่ 1686 สัตว์ประหลาดฟางหยวน
ฟางหยวนค้นพบถ้ําสวรรค์นักรบอสูร สิ่งสําคัญที่สุดคือมันไม่เคยกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ทั้งเก้า
“แต่นี่เป็นถ้ําสวรรค์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของข้ายังไม่เพียงพอ”
ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง แต่มันยังไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตามเขาสามารถยกระดับความสําเร็จด้วยการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน
ภาคใต้มีอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอยู่มากมาย มั่นเพียงพอที่จะทําให้ฟางหยวนบรรลุระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเขาเพียงต้องก้าว ข้ามอุปสรรคบางอย่างเท่านั้น
นอกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนยังมีวิธีสํารองสําหรับการยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง มันคือการใช้วิญญาณเรียกภัยพิบัติและท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติเพื่อดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมาจากแดนน้ําแข็งของภาคเหนือ
“เจ้าของเดิมของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติมาหนึ่งครั้ง”
ผู้อมตะระดับแปดต้องผ่านหมื่นภัยพิบัติจํานวนสามครั้งเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับเก้า
หมื่นภัยพิบัติเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงและน่ากลัวที่สุด มันอาจทําให้ผู้อมตะระดับแปดตกตายแต่มันก็เป็นโอกาสก้าวหน้าครั้งสําคัญของพวกเขา
หมื่นภัยพิบัติคือตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของผู้อมตะระดับแปดผู้อมตะระดับแปดที่ก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติหนึ่งครั้งกับสองครั้งมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
หากฟางหยวนสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์นักรบอสูร เขาจะสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติหนึ่งครั้งทันที การเติบโตของเขาจะทําให้วังสวรรค์ตื่นตระหนก
ราชันมังกรและโป้ชิงคือผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านหมื่นภัยพิบัติสองครั้ง
อย่างไรก็ตามราชันมังกรตระหนักว่าตนเองไม่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งที่สามเพื่อบรรลุเป็นผู้อมตะระดับเก้า ดังนั้นเขาจึงหลอมรวมมิติช่องว่างของตนเองเข้ากับวังสวรรค์และใช้มิติช่องว่างเทียม ในทางกลับกัน โป้ชิงพยายามก้าวเข้าสู่ระดับเก้าแต่เขาเสียชีวิตระหว่างหมื่นภัยพิบัติครั้งที่สาม
“ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรไม่เคยกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ทั้งเก้าแล้วมันผ่านภัยพิบัติมาก มายมาได้อย่างไร?”
มันไม่ง่ายที่จะก้าวข้ามภัยพิบัติซ้ําแล้วซ้ําอีกโดยพึ่งพาเพียงกําลังของตัวมันเอง
ในอดีตจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องเปลี่ยนถ้ําสวรรค์ให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเกรงกลัวต่อภัยพิบัติ นี่เป็นทางเลือกที่ฉลาด แน่นอนว่าวิธีการเปลี่ยนถ้ําสวรรค์เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องง่ายและหาได้ยาก ไม่ใช่ทุกถ้ําสวรรค์ที่สามารถทําเช่นนี้
กายาสวรรค์ยังส่งข้อมูลให้กับฟางหยวนอย่างต่อเนื่อง
ฟางหยวนค้นพบปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด ภัยพิบัติทั้งหมดของถ้ําสวรรค์แห่ง นี้ล้วนเป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร
ภัยพิบัติสวรรค์จะให้กําเนิดสัตว์อสูรเดียวดาย ภัยพิบัติใหญ่จะให้กําเนิดสัตว์อสูรบรรพ กาลและหมุนภัยพิบัติจะให้กําเนิดสัตว์อสูรแรกกําเนิด
“มันใช้วิธีใด? มันสามารถกําหนดประเภทของภัยพิบัติงั้นหรือ? หากทุกภัยพิบัติเป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร มันจะกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการ หลังจากทั้งหมดสัตว์อสูรมีร่างกายภาพมันไม่เหมือนพายุฝนหรือหมอกควัน”
ฟางหยวนค้นพบข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาถอนหายใจ “ถ้ําสวรรค์แห่งนี้ไม่พยายามหยุดยั้งภัยพิบัติแต่มันเปลี่ยนภัยพิบัติทั้งหมดให้เป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร ช่างน่าอัศจรรย์นัก”
ภัยพิบัติมีหลายประเภทแต่พวกมันจะได้รับผลกระทบจากการจัดเตรียมของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรและเปลี่ยนเป็นภัยพิบัติสัตว์อสูรทั้งหมด
นอกจากท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ ตอนนี้ฟางหวนพบวิธีใหม่ในการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติแล้ว มันคือวิธีเปลี่ยนเป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร
“ถ้ําสวรรค์แห่งนี้สามารถดํารงอยู่มาเป็นเวลานาน นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นถ้ําสวรรค์วรรณกรรมหรือถ้ําสวรรค์นักรบอสูร พวกมันล้วนก็มีความลึกซึ้งของตัวเอง”
“นี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ”
“ถ้ําสวรรค์แห่งนี้มีประชากรจํานวนมากรวมถึงทรัพยากรจํานวนนับไม่ถ้วน สิ่งสําคัญคือวิธีเปลี่ยนภัยพิบัติเป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร หากข้าได้รับวิธีนี้ มันจะมีประโยชน์มาก”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฟางหยวนส่งลิ้นจี่ขาวอมตะให้กายาสวรรค์ทันที
เขาเข้าสู่ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรแต่ไม่ถูกปิดกั้นโดยผู้อมตะระดับแปดเพราะไม่มีผู้อมตะระดับแปดอยู่ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้ามา ถ้ําสวรรค์เริ่มสั่นสะเทือน พลังงานลึกลับพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางและกดดันฟางหยวน
“มันคือสิ่งใด?” ฟางหยวนรู้สึกสับสนเล็กน้อยแต่เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็ว
“เป็นเช่นนี้ ข้าเป็นคนนอก ถ้ําสวรรค์ปฏิเสธข้า มันปฏิบัติต่อข้าเหมือนภัยพิบัติชนิดหนึ่ง
ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรสามารถเปลี่ยนทุกภัยพิบัติให้เป็นภัยพิบัติสัตว์อสูร ตอนนี้มันกําลังส่งผลกระทบต่อฟางหยวน
ฟางหยวนไตร่ตรอง เป็นไปได้ที่จะต่อต้านมัน แต่ข้าเกรงว่าการต่อสู้จะจบลงด้วยการทําลายล้าง แม้กายาสวรรค์จะค้นพบมรดกที่ถูกทิ้งไว้ แต่มันอาจถูกทําลาย”
ในกรณีนี้มันจะดีที่สุดที่เขาจะไม่ทําลายการจัดเตรียมของถ้ําสวรรค์นักรบอสูร
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็หยุดต่อต้านขัดขืน ร่องรอยของพลังงาแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจํานวนมากถูกเพิ่มเข้าไปในร่างกายของเขาเป็นการชั่วคราว ในเวลาเดียวกันร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสายอื่นของเขาก็เปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
“อัศจรรย์นัก! ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสายอื่นถูกเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง” ฟางหยวนถอนหายใจชื่นชม วิธีนี้ไม่ธรรมดา ดูเหมีอนข้าต้องเข้าออกถ้ําสวรรค์แห่งนี้สองสามครั้งและปล่อยให้การจัดเตรียมนี้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของข้า จากนั้นข้าจะสามารถทําความเข้าใจแก่นแท้ของมัน!”
“แน่นอนว่าวิธีที่รวดเร็วที่สุดคือการยึดครองมรดกที่แท้จริง ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถทําความเข้าใจวิธีการดั่งเดิมของมันได้อย่างสมบูรณ์!”
ร่างกายของฟางหยวนขยายใหญ่ขึ้นและค่อยๆเปลี่ยนเป็นสัตว์อสูร
หากไม่ใช่เพราะกายาสวรรค์ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีผลข้างเคียงฟางหยวนย่อมไม่กล้ายอมรับอิทธิพลนี้
“โฮก…”
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่มีศีรษะเป็นวัว ร่างกายของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา
ถ้ําสวรรค์นักรบอสูรสั่นสะเทือน
ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นฟางหยวน หลังจากมีนงง เสียงกรีดร้องก็ปะทุขึ้น
“สวรรค์ สัตว์ประหลาดยักษ์!”
“สัตว์ประหลาดปรากฏตัวอีกแล้ว!”
“สัตว์ประหลาดตัวนี้มีขนาดใหญ่โตมาก กลิ่นอายของมันแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง!”
“เร็วเข้า เรียกนักรบอสูร!”
ภายใต้ความกังวลของผู้คน นักรบอสูรปรากฏตัวขึ้นในที่สุด
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ด แต่กลิ่นอายของเขาค่อนข้างแปลก
“ในประวัติศาสตร์เคยมีสัตว์ประหลาดยักษ์ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียว ข้ารู้สึกได้ถึงพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวของมันด้วยการมองเพียงครั้งเดียว!”
เขาถอนหายใจก่อนที่เจตจํานงแห่งการต่อสู้จะลุกไหม้ขึ้นในดวงตาของเขา “แต่ข้าต้องปกป้องบ้านเกิด ข้าต้องเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ไปกันเถอะสหายของข้าเปลี่ยนร่าง!”
ชายวัยกลางคนตะโกนเสียงดังและระเบิดแสงสว่างออกมาจากร่างกาย
เสียงกรีดร้องของนกอินทรีย์ดังขึ้นขณะที่นกอินทรีย์สีเงินบินลงมาจากท้องฟ้า มันคือสัตว์อสูรบรรพกาล
อินทรีย์เงินปลดปล่อยแสงสว่างออกมาจากร่างกายของมันเช่นกัน
ชายวัยกลางคนกับนกอินทรีย์สีเงินพุ่งปะทะกันกลางอากาศ
“บึม!”
เมื่อแสงสว่างจางหาย รูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนแปลงไป เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีศีรษะเป็นนกอินทรีย์ ปีกสองข้างงอกออกมาจากแผ่นหลัง ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นเท่ากับกําแพงเมือง
ผู้คนโห่ร้องด้วยความยินดี
“เขามาแล้ว นักรบอินทรีย์!”
“นักรบอินทรีย์ ฆ่าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้!”
“เราจะสนับสนุนท่าน ท่านต้องประสบความสําเร็จ!”
เสียงโห่ร้องให้กําลังใจดังขึ้น
นักรบอินทรีย์บินขี้สูท้องฟ้า เขาพึมพํา “ข้าจะไม่ทําให้พวกเจ้าผิดหวัง!
“ปัง!”
ฟางหยวนตบนักรบอินทรีย์ด้วยมือข้างเดียว
“บึม!”
ร่างของนักรบอินทรีย์ถูกส่งลงจากท้องฟ้าราวกับดาวตกก่อนจะพุ่งปะทะพื้นอย่างรุนแรง หลุมขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นพร้อมกับฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ
เงียบกริบ
อาการวิงเวียนศีรษะพุ่งเข้าโจมตีนักรบอินทรีย์และทําให้เขาแทบหมดสติ
เขาใช้กําลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านอาการวิงเวียนและค่อยๆปีนขึ้นมาจากหลุมลึก
“เกิดสิ่งใดขึ้น? ข้าข้าถูกสัตว์ประหลาดยักษ์ส่งลงมากระแทกพื้นจริงๆงั้นหรือ?” นักรบอินทรีย์ตอบสนองได้ในที่สุด
เมื่อนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาปรากฏให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่างไม่สามารถปกปิด
“ความเร็วชนิดนี้ไร้สาระเกินไป! ร่างกายใหญ่โตจะสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและคล่องแคล่วถึงระดับนี้ได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้”