เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1696 ทําลายเกาะบัวหิน

บทที่ 1696 ทําลายเกาะบัวหิน

บทที่ 1696 ทําลายเกาะบัวหิน

“มา!” ราชันมังกรปรากฏตัวขึ้นเหนือวังมังกร

ด้วยแรงดึงดูดมหาศาล วังมังกรค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดที่เห็นสิ่งนี้เร่งกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของตน

ราชันมังกรถอนหายใจและหายตัวไป จากจุดนั้น

วังมังกรฉวยโอกาสบินออกจากทะเลขึ้นสู่ท้องฟ้า

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดกําลังจะไล่ล่าแต่ราชันมังกรกลับปรากฏตัวขึ้นและกีดขวางเส้นทางของพวกเขา

เสียงคํารามของมังกรดังขึ้น ราชันมังกรเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าไปรอบๆ การต่อสู้ที่ดุเดือดทําให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น

โดยไม่มีฟงจินฮวงเป็นภาระ ราชันมังกรสามารถแสดงพลังการต่อสู้ที่แท้จริงออกมา

อย่างไรก็ตามผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันตกยังมีไพ่ตายของตน

แม้พวกเขาจะแพ้ราชันมังกรแต่พวกเขายังสามารถรักษาชีวิต เผชิญหน้ากับภัยคุกคามร้ายแรง พวกเขาจึงสามารถสร้างความร่วมมือ

ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ ผู้บ่มเพาะสันโดษ และปีศาจอมตะ ทุกคนทํางานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับราชันมังกร

ราชันมังกรรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไป วิธีการของราชันมังกรถูกมองเห็นในไม่ช้า กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเริ่มตอบโต้ได้อย่างเหมาะสม

ในโลกใบนี้ไม่มีวิญญาณอมตะหรือท่าไม้ตายอมตะที่ไร้เทียมทาน มีเพียงผู้อมตะที่ไม่สามารถเอาชนะ

ไม่ว่าท่าไม้ตายอมตะจะซับซ้อนเพียงใด มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ราชันมังกรทรงพลังมาก กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ในสถานการณ์นี้ ไม่มีผู้ใดต้องการต่อสู้จนตัวตาย วังมังกรบินไปรอบๆ ขณะที่ราชันมังกรไม่สามารถสร้างเขตแดนเพื่อกักขังศัตรู

กรงเล็บมังกรเคลื่อนไหวราวกับพายุ ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกถูกบังคับ ให้ล่าถอยราชันมังกรคว้าจับวังมังกรไว้ด้วยกรงเล็บภูตผี

วังมังกรสั่นสะท้านขึ้น มันทําลายกรงเล็บภูตผีและหลบหนีอีกครั้ง

ราชันมังกรถอนหายใจ สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว มันไม่ง่ายที่จะยึดครองวังมังกรและต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกพร้อมกัน

ความพยายามหลายครั้งของเขาจบลงด้วยความล้มเหลว

“ราชันมังกรแข็งแกร่งเกินไป เราจะทําอย่างไร?”

“เมื่อเขาต่อสู้อย่างจริงจัง เราไม่มีโอกาสเข้าใกล้วังมังกรโดยไม่ต้องคิดถึงการยึดครองมัน!”

“โชคดีที่วังมังกรแข็งแกร่งพอ ราชันมังกรไม่สามารถยึดครองมันได้โดยง่าย”

“เราไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดําเนินต่อไป การต่อต้านของวังมังกรอ่อนแอลงเรื่อยๆ ราชันมังกรจะสามารถกําหราบมันในที่สุด”

ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ พวกเขาลอบสื่อสารกันและต้องการให้คนอื่นๆใช้ไพ่ตายกับราชันมังกร

ผู้อมตะระดับแปดทุกคนล้วนมีไพ่ตายของตนเอง

ไพ่ตายของผู้อมตะระดับแปดล้วนทรงพลัง แต่ไม่มีผู้ใดต้องการเปิดเผย ไม่มีผู้ใดบอกได้ว่าไพ่ตายของพวกเขาจะล้มเหลวในการต่อสู้ที่ซับซ้อนนี้หรือไม่

ยิ่งท่าไม้ตายอมตะทรงพลังเท่าใด ผลกระทบย้อนกลับของมันก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น

กระทั่งราชันมังกรก็ไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณออกมา

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการใช้แต่มันมีความเสี่ยงสูงเกินไปและอาจกลายเป็นการทําร้ายตัวเอง

ในการต่อสู้กับราชันภูเขาม่วง ราชันมังกรตรวจสอบหลายครั้งกระทั่งแน่ใจว่าศัตรูไม่มีวิธีการอื่น เขาจึงสามารถปลดปล่อยไพ่ตายออกมา

ในสถานการณ์ปัจจุบัน หากราชันมังกรใช้ไพ่ตายของตนและถูกศัตรูตอบโต้ สิ่งใดจะเกิดขึ้น?

ผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ล้วนมีรากฐานที่ลึกซึ้ง พวกเขาอาจมีวิธีการบางอย่าง

สายธารแห่งกาลเวลา

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน

ฟางหยวนในร่างอสูรปีวอกแรกกําเนิดใช้ท่าไม้ตายอมตะเปิดเส้นทาง

“ปิงช่ายฉวน หลีกไป!”

ฟางหยวนตะโกนเตือนก่อนจะสะบัดพัดในมือ

พายุกรรโชกแรงพุ่งเข้าโจมตีรังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่นอย่างดุเดือด พวกมันถูกส่งออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน

แต่ในช่วงเวลาสําคัญ ฟงจิวเก้อและชิงเย่หวังบินออกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะและพุ่งเข้าต่อสู้กับฟางหยวนและทิ้งช่ายฉวนโดยตรง

แม้พวกเขาจะไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินยังสามารถสนับสนุนพวกเขา

ผู้อมตะระดับเจ็ดของวังสวรรค์สามารถซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินแม้มันจะเล็กลงไปมาก็ตาม

“ปรมาจารย์ห้าธาตุ รีบใช้แสงห้าธาตุของเจ้าเร็วเข้า!” ฟางหยวนตะโกน

เสียงของปรมาจารย์ห้าธาตุดังออกมาจากประตูสิ้นปี “ข้าไม่สามารถใช้มันเป็นครั้งที่สองในช่วงเวลาสั้นๆ นอกจากนั้นค่ายกลวิญญาณอมตะยังได้รับการแก้ไข แสงห้าธาตุก่อนหน้านี้ไม่มีประโยชน์มากนัก”

ท่าไม้ตายอมตะนักรบเพลง!

ฟงจิวเก้อส่งนักรบเพลงสี่ตนออกมาปิดล้อมฟางหยวน

ร่างของชิงเย่หวังระเบิดแสงดาวออกมาขณะพุ่งเข้าโจมตีปิงชายฉวน

ชิงช่ายฉวนและฟางหยวนมองหน้ากันก่อนจะทิ้งศัตรูและบินเข้าไปหาค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน

นี่เป็นแผนการที่ฉลาด

ตราบเท่าที่ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกทําลาย ฟงจิวเก้อและชิงเย่หวังจะต้องกลับเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขา

ฟงจิวเก้อและชิงเย่หวังพยายามหยุดพวกเขาขณะที่ปรมาจารย์ห้าธาตุบังคับประตูสิ้นปีต่อสู้กับนาวานิรันดร์ที่มีชิงเย่เป็นผู้ควบคุม

ภายใต้การโจมตีที่ดุเดือด ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินสั่นสะเทือนและเกิดรอยแตกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามรังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่นสามารถกลับเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง

“ฟางหยวน เจ้ายังไม่เชื่อข้าอีกงั้นหรือ?” สถานการณ์เลวร้าย ปิงช่ายฉวนตะโกนด้วยความกังวล

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาสูดหายใจและบินเข้าไปหาชิงช่ายฉวน

ปิงชายฉวนกางแขนออกและสร้างโล่แสงขึ้นรอบตัวเขากับฟางหยวน

นี่คือท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบชีวิตหรือท่าไม้ตายอมตะ ทุกอย่างจะถูกแช่แข็งหากบุกเข้ามา

“ทําลายมัน!” ฟงจิวเก้อและชิงเย่หวังตะโกนพร้อมกัน

รังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่นโจมตีโล่แสงอย่างหนักหน่วง

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่นและพยายามรักษาโล่แสงเอาไว้

แม้เขาจะมีพลังการต่อสู้บนจุดสูงสุดของระดับแปด แต่เผชิญหน้ากับการโจมตีของสองผู้อมตะระดับแปดและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสองหลัง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ฟางหยวนฉวยโอกาสเปลี่ยนกลยุทธ์ ร่างอสูรปีวอกแรกกําเนิดถูกกําจัดออกไปและถูกแทนที่ด้วยราชันภูต

หลังจากเปลี่ยนเป็นราชันภูต ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทันที

กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุออกมา ฟงจิวเก้อและชิงเย่หวังระวังตัวมากขึ้น

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป!

“ระวัง!” ชิงช่ายฉวนหยุดใช้โล่แสงและก้าวไปข้างหน้า

เขาช่วยกําจัดสิ่งกีดขวางเพื่อเปิดทางให้ฟางหยวน

ฟางหยวนพุ่งเข้าไปหาชิงเย่หวังแต่ยังไม่โจมตี

ชิงเย่หวังเร่งล่าถอยขณะที่ฟงจิวเก้อเคลื่อนที่ไปรอบๆและพยายามโจมตีฟางหยวนจากด้านหลัง

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น เขาบินขึ้นไปและยิงตราประทับเหล่าโปไปยังค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน

ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินหยุดทํางาน ผู้อมตะระดับเจ็ดหลายคนเสียชีวิตทันที

ชิงช่ายฉวนรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น

ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกทําลายลงทีละชั้น

ปรมาจารย์ห้าธาตุตกใจมาก “ตราประทับเหล่าโปของฟางหยวนสามารถทําลายแกนกลางของค่ายกลวิญญาณ เขาทําได้อย่างไร?”

“บึม!”

ฟงจิวเก้อโจมตีฟางหยวน

ฟางหยวนอดทนต่อการโจมตีของฟงจิวเก้อ เขาให้ความสําคัญกับการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินเท่านั้น

แม้เขาจะอยู่ในร่างราชันภูต แต่เขายังพ่นเลือดออกมาสามคํา วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากตายขณะที่วิญญาณอมตะหลายดวงได้รับบาดเจ็บ

สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนและชิงช่ายฉวนกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง

ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินหดเล็กลงเหลือหนึ่งในสามของขนาดดั่งเดิม มันอยู่ห่างจากการถูกทําลายล้างเพียงก้าวเดียว

“ปกป้องข้า!” ฟางหยวนกล่าวกับปิงช่ายฉวน

ปิงชายฉวนใช้โล่แสงขณะที่ฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิดอีกครั้ง

“ปกป้องข้า!” ฟงจิวเก้อตะโกนสิ่งเดียวกัน

ซิ่งเย่หวังและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสองหลังปิดล้อมฟงจิวเก้อ

ท่าไม้ตายอมตะลมมรณะ!

ฟงจิวเก้อเสียงและประสบความสําเร็จในการเรียกลมมรณะ

ปิงชายฉวนตะโกนเตือนฟางหยวน “ท่าไม้ตายของข้าไม่สามารถปิดกั้นลมมรณะ ถอย!”

อย่างไรก็ตามเป้าหมายของลมมรณะไม่ใช่โล่แสงของปิงชายฉวนแต่เป็นเกาะบัวหิน!

ภายใต้การจ้องมองของฟางหยวน เกาะบัวหินถูกลมมรณะกลืนกินเข้าไป

มันเผชิญหน้ากับลมมรณะที่สามารถทําลายล้างทุกสิ่ง

“ฟงจิวเก้อ เจ้า!” ชิงช่ายฉวนโกรธมาก

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดครึ้ม

“หากเราไม่ได้รับมัน พวกเจ้าก็เช่นกัน!” ชิงเย่หวังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท