เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1699 โจมตีทุกที่

บทที่ 1699 โจมตีทุกที่

บทที่ 1699 โจมตีทุกที่

นิกายรวมพลังเป็นหนึ่งในสถานที่ลงทะเบียนของการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

“การแข่งขันกําลังจะเริ่มขึ้น ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะมีโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ขอบคุณสวรรค์” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนถอนหายใจ

ผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ใกล้ๆจําเขาได้และเริ่มพูดคุย

“ดู มันคือปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ลั่วเฉิง!”

“เขาแพ้ในการแข่งขันครั้งก่อนเพราะอุบัติเหตุ ตอนนี้เขามาแข่งขันอีกครั้ง”

“โดยปกติการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะจัดขึ้นทุกหนึ่งร้อยปี ลั่วเฉิงไม่ควรมีโอกาสที่สอง แต่ผู้ใดจะคิดว่าเพียงสิบปีภาคกลางจะจัดการแข่งขันขึ้นอีกครั้ง!”

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนได้ยินบทสนทนาดังกล่าวแต่ยังแสดงออกอย่างสงบนิ่ง

เขาต้องการพิสูจน์ตนเองในครั้งนี้

“ข้าไม่สามารถดูแคลนคู่ต่อสู้

“แม้ข้าจะทํางานอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ภาคกลางใหญ่โตเกินไป ห้าภูมิภาคมีอัจฉริยะนับไม่ถ้วน

‘กระทั่งตอนนี้ก็มีอัจฉริยะคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมากมายแล้ว…’

ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนมองไปรอบๆและให้ความสนใจผู้ใช้วิญญาณสามคนคนแรก เป็นชายชราที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี คนที่สองเป็นเด็กหนุ่มที่ทําผลงานได้ดีในครั้งก่อน คนสุดท้ายเป็นเด็กสาวดาวรุ่งที่พึ่งปรากฏตัวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

‘การแข่งขันครั้งนี้จะต้องดุเดือดมาก!!’

“ข้าต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ข้าจะไม่พลาดอีกครั้ง!”

“ข้าจะพิสูจน์ตัวเอง ข้าจะทําให้ภรรยาและลูกๆของข้าภาคภูมิใจ!”

“บึ้ม!”

อสูรบีบรรพกาลพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและทําลายห้องโถงจนกลายเป็นซากปรักหักพัง

ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนลั่วเฉิงหายไปในอากาศ

อัจฉริยะวัยเยาว์เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ แม้แต่ซากศพของนางก็ไม่หลงเหลือ

“ต่อไป” บนท้องฟ้า ร่างของฟางหยวนหายไปในพริบตา

นี่เป็นจุดที่สิบห้าที่เขาโจมตี

ภาคกลางสูญเสียผู้ใช้วิญญาณจํานวนมาก คนเหล่านี้เป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ แล้วพวกเขาจะรับมือสัตว์อสูรบรรพกาลได้อย่างไร?

กระทั่งผู้อมตะระดับหกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์อสูรบรรพกาล

ฟางหยวนเข่นฆ่าผู้ใช้วิญญาณที่มีพรสวรรค์อย่างไร้ปรานี กระทั่งวังสวรรค์ยังรู้สึกปวดใจ

“ปีศาจฟางหยวนช่างชั่วร้ายนัก เขาสร้างปัญหาในที่สุด!”

“บัดซบ! พวกเราจะไม่ทําสิ่งใดเลยงั้นหรือ?”

“ท่านหญิงจื่อเว่ย ข้าสงสัยว่า…”

เทพธิดาจื่อเว่ยสายศีรษะ “ฟางหยวนระวังตัวมาก เขาส่งอสูรบีบรรพกาลออกมาเท่านั้น แม้เขาจะสังหารผู้ใช้วิญญาณจํานวนมากและทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ แต่เขาไม่ได้โจมตีด้วยตนเอง”

เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายนใจ “ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ เขารู้ว่ายิ่งเขาโจมตีมากเท่าใด เขาก็ยิ่งจะทิ้งร่องรอยไว้มากเท่านั้น มันยากที่ข้าจะค้นหาเขา ข้าต้องการเบาะแสเพิ่มเติมและเวลามากขึ้น”

“แต่เหตุใดเขาถึงมีอสูรปบรรพกาลมากมายเช่นนี้?” ผู้อมตะบางคนขมวดคิ้ว

“ตามข้อมูลของภาคใต้ เซี่ยชามีสระแก่นแท้มีอยู่ในมิติช่องว่างของนาง เขาน่าจะใช้สิ่งนี้จับอสูรปี” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าว

โดยปกติผู้อมตะจะไม่โจมตีมนุษย์อย่างไร้เหตุผล กระทั่งปีศาจอมตะก็ไม่ทําเรื่อง เช่นนี้ นี่คือฉันทามติโดยปริยายของโลกผู้อมตะ แต่ฟางหยวนทําลายกฏอย่างไม่แยแส

“ฟางหยวนเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสําหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง!” เทพธิดาจื่อเว่ยโกรธจัด “ยิ่งเขามีชีวิตอยู่นานเท่าใด สิ่งมีชีวิตก็ยิ่งตกตายมากเท่านั้น”

ราชันมังกรยังสงบนิ่ง

“ฟางหยวนปรากฏตัวแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเราคาดหวังสิ่งนี้งั้นหรือ? ทําตามแผนของเรา แม้ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล เราก็ต้องฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม!” ราชันมังกรเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ผู้อมตะของวังสวรรค์ตระหนักว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่นของราชันมังกร

ฟางหยวนเป็นปัญหาที่วังสวรรค์ไม่สามารถเพิกเฉย แต่พวกเขามีแผนอยู่แล้ว

หลายวันต่อมา ข่าวของฟางหยวนถูกแพร่กระจายออกไป

ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์

“ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะแล้วงั้นหรือ?”

“ในโลกนี้มีผู้อมตะอยู่จริงๆ”

“ฟางหยวนฆ่าพ่อของข้า ข้าต้องแก้แค้น!”

“กระทั่งผู้ใช้วิญญาณระดับห้าก็ยังเป็นเพียงมดปลวกสําหรับผู้อมตะ”

“เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนพยายามทําลายการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ข้าจะไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น!”

“ไป เหตุใดจะไม่? หากเราไม่ไป ไม่ใช่ว่าเราจะตกลงสู่หลุมพรางของฟางหยวนงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง แม้ข้าจะเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณและไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน แต่เพื่อล้างแค้นให้กับภรรยาของข้า ข้ายินดีสละชีวิต ข้าจะไม่ปล่อยให้ปีศาจฟางหยวนประสบความสําเร็จ!”

บางคนหวาดกลัว บางคนโกรธแค้น บางคนถอยกลับ บางคนมุ่งมั่น

วันเวลาผ่านไป การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมยังดําเนินต่อไป

ภาคกลางมีสถานที่ลงทะเบียนมากมาย แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่เขายังไม่สามารถกําจัดผู้ใช้วิญญาณทั้งหมด

สถานที่หลายแห่งยังได้รับการปกป้องจากผู้อมตะของภาคกลางอย่างลับๆ

โดยเฉพาะเมื่อวังสวรรค์เตรียมตัวมาแล้ว พวกเขาใช้วิธีส่งมอบป้ายประจําตัวให้กับผู้เข้าแข่งขันโดยตรง เมื่อไม่มีผู้คนมารวมตัวกันที่จุดลงทะเบียน การสังหารของฟางหยวนจึงไม่มีประสิทธิ์ภาพมากนัก

แม้ฟางหยวนจะสังหารผู้ใช้วิญญาณไปนับหมื่นคน แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมครั้งนี้

ขั้นตอนการลงทะเบียนจบลงแล้ว การแข่งขันกําลังจะเริ่มขึ้น

“โอ้?” ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่งของภาคกลาง เขากําลังจะโจมตีแต่เขากลับขมวดคิ้วอย่างกะทันหัน

“ฟางหยวน เจ้าจะไปที่ใด?”

“ตาย!”

ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลางพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

ฟางหยวนไม่ต้องการต่อสู้ เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะท่องแดนอมตะเพื่อหลบหนี

ผู้อมตะภาคกลางปรากฏตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเพราะข้าใช้ท่าไม้ตายท่องแดนอมตะบ่อยเกินไป พวกเขาจึงสามารถอนุมานมันงั้นหรือ?”

“พวกเขารู้ว่าข้าจะปรากฏตัวที่ใด พวกเขาใช้วิธีใด มันเกี่ยวกับเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือไม่?”

สภาพแวดล้อมของฟางหยวนเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากตําแหน่งเดิมหลายแสน

แต่การแสดงออกของเขายังเคร่งขรึม เขาตระหนักถึงการคงอยู่ของผู้อมตะระดับแปดที่พุ่งเข้ามาหาเขาจากสามทิศทาง

“ฟางหยวน เจ้าจะไปที่ใด?”

“วังสวรรค์จัดเตรียมท่าไม้ตายสายตรวจสอบไว้มากกว่าสิบท่าเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ เจ้าไม่สามารถหลบหนีได้อีก!”

“ หนึ่งในนั้นถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะแรกกําเนิด ฮ่าฮ่าฮ่า ปีศาจ ยิ่งเจ้าเข่นฆ่าผู้คนมากเท่าใด ความเกลียดชังที่ผู้คนมีต่อเจ้าก็ยิ่งมากเท่านั้น ความเกลียดชังของผู้ใช้วิญญาณเหล่านี้จะติดตามเจ้าไปทุกหนทุกแห่ง”

สามผู้อมตะระดับแปดมาถึงอย่างรวดเร็ว

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะกรงข่าวลือ!

ทันใดนั้นผู้อมตะระดับแปดคนที่สี่ก็ปรากฏตัวขึ้นและใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเพื่อจับฟางหยวน

“เราจับฟางหยวนได้แล้ว!”

“กรงข่าวลือของท่านโจวซ่งซินเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่ใช้เวลากระตุ้นการทํางานน้อยที่สุด แม้แต่ฟางหยวนก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา”

ผู้อมตะคนที่สี่มีความสุขมาก

“ท่านราชันมังกร ในที่สุดเราก็จับฟางหยวนได้แล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยตื่นเต้นมาก

“อืม” ราชันมังกรตอบสั้นๆ

ดวงตาของเทพธิดาจือเว่ยส่องประกายสว่างไสว “ท่านราชันมังกร นี่เป็นโอกาสที่หายาก ข้าขอแนะนําให้ท่านลงมือกําจัดฟางหยวนด้วยตนเอง”

ราชันมังกรสายศีรษะ “ฟางหยวนเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมเป็นสิ่งสําคัญที่สุด มันไม่ใช่เวลาที่ข้าจะลงมือ”

“ท่านราชันมังกร…” เทพธิดาจื่อเว่ยต้องการกล่าวบางคําแต่การแสดงออกของนางกลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ในจังหวะนี้สถานที่จัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกโจมตีโดยผู้อมตะบางคน

แท้จริงแล้วไม่เพียงสถานที่จัดการแข่งขัน แต่แหล่งทรัพยากรที่มีชื่อเสียงของภาคกลางก็ถูกโจมตีและปล้นสะดมเช่นกัน

“กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติก็ยังถูกโจมตี!” การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นมืดครึม นางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “มีผู้อมตะจํานวนมากมุ่งเป้ามาที่พวกเรา?”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท