เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1707 วิกฤตวังสวรรค์

บทที่ 1707 วิกฤตวังสวรรค์

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1707 วิกฤตวังสวรรค์

ภาคกลาง ถ้ํามังกรเร้น

มังกรจํานวนนับไม่ถ้วนบินไปรอบๆซ่งฉีหยวนราวกับลูกบอลขนาดใหญ่

“มังกรพิษบรรพกาลเหล่านี้เกิดขึ้นจากค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่พวกมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นั่นทําให้พวกมันดูเหมือนของจริง” ซ่งฉีหยวนปกป้องตัวเองขณะไตร่ตรอง

มันไม่ยากที่จะกําจัดมังกรพิษบรรพกาล แต่การทําเช่นนั้น เขาจะพบอุปสรรค์อื่น

มังกรพิษบรรพกาลถูกสร้างขึ้นโดยค่ายกลวิญญาณอมตะ หากค่ายกลวิญญาณอมตะไม่ถูกทําลาย มันก็ไร้ประโยชน์ที่จะกําจัดมังกรพิษบรรพกาลเหล่านี้

“น่าเสียดายที่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของข้าต่ําเกินไป จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่พบจุดอ่อนของมัน” ซ่งฉีหยวนกัดฟันแน่น

ท่าไม้ตายอมตะเกราะแสงไร้พ่าย!

เขาใช้เกราะแสงทรงกลมปกป้องตนเอง

ไม่ว่ามังกรพิษบรรพกาลจะดุร้ายเพียงใดแต่พวกมันก็ไม่สามารถทะลวงผ่านเกราะแสงไร้พ่ายของซ่งฉีหยวน

จากสิ่งนี้คนผู้หนึ่งสามารถมองเห็นรากฐานที่แข็งแกร่งบนเส้นทางแห่งแสงของซ่งฉีหยวน โชคไม่ดีที่คู่ต่อสู้ของเขาคือค่ายกลวิญญาณอมตะ โดยปราศจากความเข้าใจ เขาก็ไม่สามารถทําลายมัน

บนโลกใบนี้มีเส้นทางแห่งการบ่มเพาะอยู่มากมาย ก่อนหน้านี้ฟางหยวนถูกตอบโต้โดยเส้นทางมนุษย์และเส้นทางแห่งข้อมูล ตอนนี้ซ่งฉีหยวนถูกตอบโต้โดยเส้นทางแห่งค่ายกล

แม้ผู้อมตะระดับแปดจะสามารถเลียนแบบเส้นทางสายอื่น แต่ซ่งฉีหยวนกําลังเผชิญหน้ากับค่ายกลวิญญาณอมตะที่วังสวรรค์จ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อสร้างมันขึ้นมา มันกระทั่งสามารถผนึกสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานเช่นตี้เจิ้งเฉิง แล้วซ่งฉีหยวนจะสามารถทําสิ่งใด

ซ่งฉีหยวนไม่พบจุดอ่อนใดๆของค่ายกลวิญญาณอมตะและทําได้เพียงรอคอยโอกาส

ผู้อมตะเฒ่าไป่เฟิงควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะและสังเกตสถานการณ์ทั้งหมด

ผู้อมตะวัยเยาว์ระดับหกฟงชานจื่อยืนอยู่ด้านข้างชายชรา

ฟงชานจื่อมองภาพเหตุการณ์และส่งเสียงให้กําลังใจ “ท่านปู่ ยอดเยี่ยม! ผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ติดกับดักและไม่สามารถหลบหนี ครั้งนี้เราสามารถสร้างผลงานใหญ่ มันสามารถชดใช้ความผิดของเรา มันจะทําให้เราสามารถออกจากสถานที่บัดซบแห่งนี้ ท่านจะกลายเป็นสมาชิกที่แท้จริงของวังสวรรค์!”

เฒ่าไป่เฟิงส่ายศีรษะ “หลานชาย เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง ผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ยังไม่หมดหนทาง พวกเขาไม่ได้รับอันตราย พวกเขาไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะสังเกตการณ์และรอกําลังเสริม เมื่อพวกเขาพบจุดอ่อนใดๆ พวกเขาจะโจมตีด้วยพลังอํานาจที่น่าตกใจ”

ฟงชานจื่อตะลึง “แล้วเราจะทําอย่างไร? ท่านปู่ เหตุใดกําลังเสริมจากวังสวรรค์ยังมาไม่ถึง?”

เฒ่าไป่เฟิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวังสวรรค์กําลังวางแผนใดอยู่? เราเพียงต้องปกป้องที่นี่อย่างดีที่สุดเท่านั้น”

หลังชายชรากล่าวจบคํา ค่ายกลวิญญาณอมตะก็เริ่มสั่นสะเทือน

“เกิดสิ่งใดขึ้น? ผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้พบจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณอมตะแล้วงั้นหรือ?” ฟงชานจื่อตกใจมาก

“ไม่ มันคือมังกรปีศาจตนนั้น!” ใบหน้าของเฒ่าไป่เฟิงกลายเป็นซีดเผือด

ถ้ํามังกรเร้นเป็นสถานที่ผนึกมังกรปีศาจตี้เจิ้งเฉิง ตอนนี้ตี้เจิ้งเฉิงกําลังดิ้นรนและพยายามปลดปล่อยตนเอง

ตี้เจิ้งเฉิงเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานที่ถือกําเนิดขึ้นจากความเกลียดชัง ความ โกรธ ความแค้น และอารมณ์เชิงลบทั้งหมด

หากมันถูกปลดปล่อย ภาคกลางจะพบกับหายนะครั้งใหญ่

เฒ่าไป่เฟิงอยู่ที่นี่เพื่อหยุดมังกรปีศาจ

แต่ตอนนี้ฟางหยวนและผู้อมตะของภูมิภาคอื่นกําลังอาละวาดอยู่ในภาคกลาง ความรู้สึกในเชิงลบจํานวนมหาศาลจึงก่อตัวขึ้น

ตี้เจิ้งเฉิงได้รับอารมณ์เหล่านี้และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ชายชราเร่งใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะกําหราบตี้เจิ้งเฉิง

“หลังจากราชันมังกรใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะนครั้งก่อน พลังอํานาจของมันลดลงสา มสิบส่วนตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยห้าสิบส่วน เฒ่าไป่เฟิง หากเจ้าหลบหนีไปตอนนี้ เจ้าอาจรอดชีวิต มิฉะนั้นเมื่อข้าทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้สําเร็จ ข้าจะแยกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ” ตี้เจิ้งเฉิงคํารามเสียงดังและทําให้ร่องลึกใต้พิภพเกิดการสั่นสะเทือน

“อย่าแม้แต่จะคิด!” ความมุ่งมั่นของเฒ่าไป่เฟิงยังไม่สั่นคลอน

“ข้าพบจุดอ่อนแล้ว!” ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกชิงอวี๋อันระเบิดพลังออกมาอย่างกะทันหัน

ท่าไม้ตายอมตะภูเขาถล่ม!

“บึม!”

ภูเขามายาร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่าและโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะโดยตรง

“พรวด!”

ค่ายกลวิญญาณอมตะทรุดตัวลง เฒ่าไป่เฟิงกระอักเลือดคําโตออกมา ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว เขาเกือบเสียชีวิตในครั้งเดียว

“แค่ก…แค่ก….”

เสียงแตกร้าวดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่ายกลวิญญาณอมตะส่วนใหญ่ถูกทําลายแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ควบคุมส่วนเล็กๆที่ยังปกป้องส่วนสุดท้ายของมันเอาไว้อย่างน่าสมเพช

วิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้อมตะระดับแปดจากทะเลตะวันออกเปลี่ยนแปลงไป

“ข้าพบคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดแล้ว!” ดวงตาของเฉินกงเชิ้งส่องประกายขึ้น

“ไป!” ซ่งฉีหยวนหัวเราะเสียงดังและเคลื่อนไหวทันที

ชิงอวี๋อันอยู่ข้างหลังเพื่อรักษาตัวเอง เขาได้รับบาดเจ็บจากการพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ เขาไม่สามารถคลี่คลายค่ายกลแต่เขาใช้กําลังทําลายมันโดยตรง

ตี้เจิ้งเฉิงคํารามด้วยความตื่นเต้น การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเปลี่ยนแปลงไป

“เร็วเข้า ทําลายพื้นที่ควบคุม!”

“ข้ากําลังจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า”

“ราชันมังกร เมื่อข้าออกไป ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆและกินเจ้าทีละคํา!”

เสียงของตี้เจิ้งเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง

“ท่านปู่ ท่านปู่ อดทนไว้!” ในพื้นที่ควบคุมฟงชานจอกรีดร้อง “เหตุใดกําลังเสริมของวังสวรรค์ยังไม่มา?”

เฒ่าไป่เฟิงกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง

ภาคกลาง เมืองจักรพรรดิ

นี่เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างขึ้นจากวิญญาณ มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์อันดับหนึ่งของโลกใบนี้

มันเป็นจุดรวมตัวของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง

รอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมขึ้นที่นี้

ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในเมฆมงคลบนท้องฟ้า นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งโชคที่ช่วยปกปิดร่องรอยของเขา

นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันตัวอีกมากกว่าสิบวิธีที่ฟางหยวนใช้

ผลลัพธ์ที่ได้น่าพอใจมาก

ตอนนี้เขากําลังมองไปที่เมืองจักรพรรดิ

“ยังไม่มีผู้ใดลงมืออีกขั้นหรือ?”

“ถ้ําสวรรค์นิรันดรไม่ตอบสนอง บัดซบ!”

ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

เขาไม่รู้ว่ากองกําลังพันธมิตรภาคใต้กําลังโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออกก็กําลังบุกถ้ํามังกรเร้น

“ข้าไม่สามารถปล่อยให้วังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ข้าต้องทําลายเมืองจักรพรรดิและสังหารผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดในการแข่งขันรอบสุดท้าย!!

ฟางหยวนออกคําสั่ง จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าราวกับอุกกาบาต

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ถูกควบคุมโดยไห่ลั่วหลัน ไป่หนิงปิง อิงอู๋เซี่ย และผู้อมตะตระกูลฉี กล่าวได้ว่าลูกน้องเกือบทั้งหมดของฟางหยวนอยู่ที่นี่แล้ว

“ผู้ใดกล้าโจมตีพวกเรา ข้าจะฆ่ามันให้หมด!” เสียงของหลี่ฮวงดังขึ้น เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ปกป้องเมืองจักรพรรดิ

หลังกล่าวจบคํา คฤหาสน์วิญญาณอมตะจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นและบินไปรอบๆเมืองจักรพรรดิราวกับดาวเคราะห์ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์

ฟางหยวนถอนหายใจ ‘คฤหาสน์วิญญาณอมตะของข้าสร้างขึ้นโดยใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะของถ้ําสวรรค์ไป่เชียงและคฤหาสน์วิญญาณอมตะผนึกกายาสวรรค์ ข้ายังเพิ่มวิญญาณบางดวงเข้าไป แต่มันยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม’

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่มีความคิดที่จะล่าถอย

สถานการณ์อยู่ในการคาดหมายของเขา แต่เขาไม่มีทางเลือก เวลามีจํากัด เขาต้องทําบางสิ่ง

ฟางหยวนตัดสินใจแล้วว่าในสถานการณ์คับขันเขาจะลงมือด้วยตนเอง

ดังคาด คฤหาสน์วิญญาณอมตะของเขาถูกกําหราบโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังของสัตว์

การป้องกันของวังสวรรค์แข็งแกร่งมาก

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของฟางหยวนพ่ายแพ้ในที่สุด

ฟางหยวนถอนหายใจ เขากําลังจะเคลื่อนไหวแต่ในจังหวะนี้เขากลับหันหน้าไปอีกทางอย่างกะทันหัน

ผู้อมตะระดับแปดหลายคนปรากฏตัวขึ้น ตามมาด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกหลายหลัง

“มันคือผู้อมตะระดับแปดของทะเลทรายตะวันตกและคฤสน์วิญญาณอมตะของพวกเขา!” หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก เขามีความสุขมาก

….

วังสวรรค์

“กองกําลังหลักจากทะเลทรายตะวันตกมาถึงแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยถอนหายใจ “หากกําแพงภูมิภาคยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม วังสวรรค์ของเราจะไม่พบกับการโจมตีที่รุนแรงระดับนี้”

นางกล่าวถูก

ยุคที่ยิ่งใหญ่กําลังจะมาถึง เส้นโลหิตปฐพีเกิดการเปลี่ยนแปลง กําแพงภูมิภาคกําลังจะหายไป อีกสี่ภูมิภาครู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง

ภาคกลางแข็งแกร่งที่สุด นี่เป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนมาตั้งแต่โบราณ

การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์เหมือนการเติมเชื้อเพลิงเข้าไปกองไฟ ผู้อมตะอีกสี่ภูมิภาคต้องหยุดพวกเขา

“กองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดยังมาไม่ถึง” ราชันมังกรกล่าว

“ถูกต้อง” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว “มีคนเหนือเพียงไม่กี่คนที่มาถึงแล้ว กองกําลังหลักของพวกเขายังไม่ปรากฏตัว ฟางหยวนก็เช่นกัน เมื่อพิจารณาถึงการต่อสู้ในสายธารแห่งกาลเวลา เขาอาจร่วมมือกับบิงช่ายฉวนอีกครั้ง!”

เทพธิดาจื่อเว่ยกัดฟันแน่น “ข้าจะอนุมานอย่างเต็มกําลังอีกครั้ง”

ราชันมังกรพยักหน้าก่อนที่การแสดงออกของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน “ไม่จําเป็น พวกเขามาถึงแล้ว”

เทพธิดาจื่อเว่ยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หมอกสีรุ้งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าก่อนที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดแท่นบูชาแห่งโชคจะปรากฏขึ้น

“เดรัจฉานภาคเหนือกล้าหาญเกินไปแล้ว! พวกเขากล้าบุกโจมตีวังสวรรค์ของข้าโด ยตรง!” เทพธิดาจื่อเว่ยโกรธมาก

เฒ่าเจิ้งหยวนที่อยู่ด้านข้างพูดไม่ออก

ราชันมังกรหัวเราะและลุกขึ้นยืน “นี่คือนิสัยของคนเหนือ”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท