เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1712 การต่อสู้ของสัตว์อสูรในตํานาน

บทที่ 1712 การต่อสู้ของสัตว์อสูรในตํานาน

บทที่ 1712 การต่อสู้ของสัตว์อสูรในตํานาน

หลังจากวังสุริยันยังมีวิหารเทพทั้งห้าก่อนจะถึงวิหารกลางที่เทพธิดาจื่อเว่ยและราชันมังกรอยู่

“เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาทําสิ่งนี้ต่อไป” ราชันมังกรหันหน้าไปทางเทพธิดาจื่อเว่ย “เจ้าเรียกพวกมันมาหรือยัง?”

การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นน่าเกลียด “มีเพียงสองตัวที่มา”

ราชันมังกรุงนงงก่อนจะเปิดปากกล่าวอีกครั้ง “กังวนจื่อไม่มางั้นหรือ? ย้อนกลับไปมันทําข้อตกลงกับเทพอมตะบัวสวรรค์ไว้แล้ว อีกสองตัวที่มาสามารถปิดกั้นแท่นบูชาแห่งโชคได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น”

วิหารเทพทั้งห้าปล่อยพายุทรายพุ่งเข้าโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

“โฮก…”

เสียงคํารามของพยัคฆ์ดังขึ้น เมื่อพายุทรายหายไป พยัคฆ์ตัวหนึ่งก็เดินออกมา

มันมีร่างกายที่เหมือนทําจากโลหะ มันมีผิวสีทองและฟันสีเงิน ดวงตาของมันเหมือนกับทีมที่ส่องประกายระยิบระยับ บนหน้าผากของมันมีเลขเก้าสิบห้าสลักอยู่

ปรมาจารย์ห้าธาตุตกใจ “วังสวรรค์มีสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานด้วยงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” ชิงช่ายฉวนกล่าว “วังสวรรค์มีสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งหมดสามตัว พยัคฆ์ปีศาจตัวนี้เป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่หายาก”

“ในอดีตผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งพลังปราณของวังสวรรค์สร้างพยัคฆ์ปีศาจขึ้นมามากมาย และใช้พวกมันเป็นไพ่ตายของเขา ในยุคนั้นแทบไม่มีผู้ใดสามารถแข่งขันกับเขา”

“พยัคฆ์ปีศาจตัวนี้เป็นหนึ่งในนั้น มันคือหมายเลขเก้าสิบห้า หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดมาเยี่ยมชมวังสรรค์และเห็นมัน ท่านตั้งชื่อให้มันว่าหมายเลขเก้าสิบห้า”

“มีเรื่องเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง” ปรมาจารย์ห้าธาตุถอนหายใจด้วยความชื่นชม

พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าโจมตีแท่นบูชาแห่งโชคด้วยพลังการต่อสู้ระดับแปด

ชิงช่ายฉวนวิเคราะห์ “พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าอาศัยอยู่ในถ้ําทรายนิรันดร์ วังสวรรค์สั่งให้มันมาที่นี่ กระเรียนหยกเขียวหร่านตันน่าจะมาที่นี่เช่นกัน แต่กังซวนจื่ออาจไม่มา”

ปรมาจารย์ห้าธาตุถาม “หร่านตัน กังซวนจื่อ พวกมันเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานอีกสองตัวงั้นหรือ?”

แต่เขายังรู้สึกสงสัย “เหตุใดปิงช่ายฉวนถึงมั่นใจว่ากังซวนจื่อจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้? พวกเขามีสายลับอยู่ในวังสวรรค์หรือไม่?

ปีงช่ายฉวยกล่าวต่อ “หร่านตันเป็นกระเรียนหยกเขียวแรกกําเนิดบนเส้นทางแห่งยา มันอยู่ในการดูแลของนิกายกระเรียนอมตะ แต่มันมักจะมาฝึกฝนอยู่ในวังสวรรค์ สําหรับกังซวนจื่อ มันคือเถาวัลย์สวรรค์ มันเป็นพืชอสูรแรกกําเนิดที่ทรงพลังมาก มันจะใช้เวลาแตกหน่อสามร้อยปี ดอกของมันจะเบ่งบานหลังจากสามร้อยปี และอีกสามร้อยปีผลของมันจะสุก ผลของมันสามารถขยายพื้นที่ท้องฟ้าของมิติช่องว่าง ดังนั้นเถาวัลย์สวรรค์จึงถูกเรียกว่าสวรรค์ที่ชั้นที่สิบ”

“สวรรค์ชั้นที่สิบ…” ปรมาจารย์ห้าธาตุตระหนักถึงบางสิ่งและชี้นิ้วไปทางซ้าย “เสาเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าต้นนั้นงั้นหรือ?”

เสาเถาวัลย์ที่อยู่ด้านหลังวิหารกลางของวังสวรรค์ใหญ่โตและสะดุดตามาก ปรมาจารย์ห้าธาตุสามารถสังเกตเห็นได้ทันที

“ถูกต้อง เถาวัลย์สวรรค์ถูกนํามายังวังสวรรค์โดยเทพอมตะบัวสวรรค์ มันมีข้อตกลงกับเขา แต่มันไม่ต้องปฏิบัติตามคําสั่งของผู้ใด”

ปรมาจารย์ห้าธาตุรู้สึกได้เปิดหูเปิดตา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพืชอสูรแรกกําเนิดในตํานานจะสามารถเพิกเฉยต่อคําสั่งของวังสวรรค์

แต่เขาเข้าใจเหตุผล

เถาวัลย์สวรรค์มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเกินไป ผลของมันสามารถขยายพื้นที่ท้องฟ้าของมิติช่องว่าง นี่เป็นการเพิ่มรากฐานของพวกเขาโดยตรงวังสวรรค์กําลังใช้ประโยชน์จากมัน ดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่อย่างอิสระในระดับหนึ่ง

ห้องโถงใหญ่ในวิหารกลาง

“โอ้ ไม่” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว “แท่นบูชาแห่งโชคหลังนี้เป็นของปลอม!”

“กระไรนะ!?” ราชันมังกรประหลาดใจ

เทพธิดาจื่อเว่ยบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งเพื่อยิ่งลําแสงสีรุ้งออกไป

แสงสีรุ้งพุ่งปะทะแท่นบูชาแห่งโชคและเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมัน

มันคือสัตว์สี่เท้าที่มีขนสีม่วง ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าพยัคฆ์ปีศาจ

พังพอนหางสุนัข!

“โอ้ พวกโง่ พวกเจ้าตระหนักถึงข้าในที่สุด ฮ่าฮ่าฮ่า” พังพอนหางสุนัขหัวเราะเย้ยหยัน

“เจ้าคือ…พังพอนหางสุนัขของเทพอมตะตะวันเดือดเหมาหลีชิวงั้นหรือ?” พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าตกใจมาก

พังพอนหางสุขัขเคลื่อนไหวทันที

“บึม!”

พังพอนหายสุขัขกระทืบเท้าลงบนร่างของพยัคฆ์ปีศาจและเปิดปากคํารามเสียงต่ํา “จําไว้ เรียกข้าว่าท่านปู่เหมา!”

พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าคําราม “ในแง่ของอายุ ข้าเป็นปู่ของเจ้า!”

มันพยายามดิ้นรนลุกขึ้นแต่พังพอนหางสุนัขยังไม่ขยับเขยื้อน

พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าลอบตกใจอย่างลับๆ “สัตว์ร้ายตัวนี้มีพละกําลังมหาศาล แต่ข้าจะถูกกดขี่เช่นนี้ได้อย่างไร?

“ฮ่าฮ่าฮ่า แมวโง่กับพังพอนโง่ พวกเจ้าเป็นคู่รักที่เหมาะสม มันเป็นการต่อสู้ที่น่าสนใจจริงๆ” เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงหัวเราะดังมาจากด้านบน

พังพอนหางสุนัขมองขึ้นไปและเห็นผู้อมตะนั่งอยู่บนก้อนเมฆ “โอ้ เจ้าคือกระเรียนหยกเขียว เหตุใดเจ้าถึงแสดงตัวราวกับมนุษย์? ลงมา ให้ท่านปู่เหมาผู้นี้สอนวิธีเป็นนกที่ถูกต้องให้เจ้า!”

เสียงหัวเราะหยุดลง กระเรียนหยกเขียวโกรธมาก “อวดดี ข้าจะฉีกผิวหนังของเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!”

กระเรียนหยกเขียวกําลังจะลงไปแต่มันถูกหยุดโดยเทพธิดาจื่อเว่ย นางออกคําสั่งให้มันไปที่วิหารเทพทั้งห้า

แท่นบูชาแห่งโชคที่แท้จริงยังไม่แสดงตัวแต่ตําแหน่งของมันถูกเปิดเผยแล้ว

กระเรียนหยกเขียวรับคําสั่ง แต่ในจังหวะที่มันกําลังจะจากไป เหมาหลีชิวกลับกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้าและโจมตีกระเรียนหยกเขียวกลางอากาศ

กระเรียนหยกเขียวกรีดร้องก่อนที่มันจะรีบสร้างระยะห่างออกไป

แต่ในวินาทีต่อมากรงเล็บของเหมาหลีชิวกลับคว้าขาของกระเรียนหยกเขียวเอาไว้

“มาหาท่านปู่ผู้นี้!” พังพอนหางสุนัขเย้ยหยันและดึงขาของกระเรียนหยกเขียวอย่างรุนแรง

กระเรียนหยกเขียวโกรธจัดแต่มันไม่สามารถทําสิ่งใด มันถูกโยนลงไปและสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น

กระเรียนหยกเขียวคิด “สัตว์ร้ายจากภาคเหนือมีพละกําลังมหาศาล!”

กระเรียนหยกเขียวพยายามลุกขึ้นแต่เหมาหลี่ชิวยังกระโจนเข้าโจมตีมันอีกครั้ง

อมกับเสียงกรีดร้องของกระเรียนหยกเขียว

“อา..อันธพาลอย่าดึงขนข้า!”

“อ๊าก..สัตว์ไร้สมอง อย่ากัดขาข้า!”

“เจ้าโง่! อย่าแตะคอที่สง่างามของข้า”

“คอข้าหัก มันหักแล้ว!”

“อาก! ขาข้าหัก ขาของข้าหักแล้ว!”

ราชันมังกร “…”

เทพธิดาจื่อเว่ย “”

ปรมาจารย์ห้าธาตุ “…”

ยิ่งช่ายฉวน “ ”

เสียงกรีดร้องของกระเรียนหยกเขียวดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าแมวโง่ เจ้าทําสิ่งใดอยู่! เหตุใดไม่มาช่วยข้า?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ก่อนหน้านี้เจ้าดูมีความสุขดี พวกเจ้าเล่นกันต่อเถอะ ข้าจะไปแล้ว” พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าหัวเราะและบินไปยังวิหารเทพทั้งห้า

“เจ้าจะไปที่ใด?” เหมาหลีชิวหัวเราะ ร่างแยกของมันพุ่งเข้าโจมตีพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าด้วยความเร็วสูง

“เราทั้งสองต่างเป็นชาย เหตุใดเจ้าถึงมานอนทับข้าเช่นนี้!?” พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าโกรธมาก

กระเรียนหยกเขียวกรีดร้อง “ถูกต้อง ปล่อยพวกเราไป อา หยุดแตะหว่างขาของข้า เจ้าชั่ว!”

พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าโกรธมาก มันชอบทุบตีผู้อื่นและชอบอยู่ด้านบน แต่ตอนนี้มันกลับเป็นฝ่ายอยู่ด้านล่าง นี่ทําให้มันรู้สึกอัปยศ

พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าพยายามดิ้นรน “เพียงร่างแยก เจ้าจะขัดขวางข้าได้อย่างไร? หือ?”

ใบหน้าของพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้ากลายเป็นมันงงก่อนจะเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวเล็กน้อย “นี่คือร่างหลักหรือร่างแยก? เหตุใดมันถึงทรงพลังนัก?”

ในห้องโถงใหญ่ของวิหารกลาง ราชันมังกรนึกถึงบางสิ่ง “นี่คือ…”

การเคลื่อนไหวของเหมาหล่ชิวทําให้แท่นบูชาแห่งโชคสามารถเดินทางไปถึงวิหารเทพทั้งห้าได้ในที่สุด

“ข้าอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิหารเทพทั้งห้าให้เจ้าฟังแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” ปิงช่ายฉวนกล่าวกับปรมาจารย์ห้าธาตุ

ปรมาจารย์ห้าธาตุมองไปข้างหลังด้วยความกังวล “ท่านปู่เหมาจะยื้อไว้ได้นานเท่าใด?”

“อย่ากังวล มันใช้ท่าไม้ตายอมตะคู่เหมือนสมบูรณ์ของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันสามารถสร้างร่างแยกที่มีพลังการต่อสู้เท่ากับร่างหลัก” ริมฝีปากของปิงชายฉวนม้วนตัวขึ้น

“เข้าใจแล้ว” ปรมาจารย์ห้าธาตุไม่ลังเลอีกต่อไป

หลังจากนั้นแสงห้าธาตุก็พุ่งเข้าโจมตีวิหารเทพทั้งห้าด้วยความเร็วสูง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท