เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1711 สมรภูมิวังสวรรค์

บทที่ 1711 สมรภูมิวังสวรรค์

บทที่ 1711 สมรภูมิวังสวรรค์

ทางซ้าย!

นี่คือเส้นทางที่เทพปีศาจไร้ขอบเขตสร้างขึ้นเมื่อหนึ่งล้านปีก่อน

แท่นบูชาแห่งโชคพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

วังสวรรค์นิ่งเงียบไปเป็นเวลานานก่อนจะเริ่มเปิดฉากโจมตี

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ปรมาจารย์ห้าธาตุเฝ้าสังเกตสถานการณ์ “หากข้าไม่เห็นสิ่งนี้ด้วยตาของตนเอง ข้าจะไม่เชื่อว่าอาคารเหล่านี้จะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมด! แม้ส่วนใหญ่จะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก แต่รากฐานของวังสวรรค์ก็น่ากลัวเกินไป”

ท่านหญิงดอกไม้หัวเราะเบาๆ “ปรมาจารย์ห้าธาตุ นี่คือวังสวรรค์ มันถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สามล้านปีก่อนและอยู่มาถึงวันนี้ แม้วิญญาณชะตากรรมจะได้รับความเสียหาย แต่พวกเขายังเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของโลก มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะครอบครองสิ่งเหล่านี้”

“ดูวิหารเหล่านั้น พวกมันล้วนถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์”

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้สนับสนุนซึ่งกันและกันแต่พวกมันก็สามารถแยกตัวออกไปได้อย่างง่ายดาย

“อย่างไรก็ตามไม่จําเป็นต้องประเมินค่าพวกมันสูงเกินไป หลังจากทั้งหมดพวกมันเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก สิ่งสําคัญก็คือพวกมันมีความเชี่ยวชาญเพียงด้านเดียว พวกมันไม่มีความสามารถครอบคลุมทุกแง่มุมเหมือนคฤหาสน์วิญญาณอมตะของโลกภายนอก”

ปรมาจารย์ห้าธาตุพยักหน้า “ข้าเข้าใจ หากมันต้องการความสามารถที่ครอบคลุมทุกแง่มุม พวกมันต้องใช้วิญญาณอมตะมากกว่านี้ นอกจากสามเทพปีศาจ ไม่มีผู้ใดกล้าบุกโจมตีวังสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จําเป็นต้องลงทุนกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้”

“เราบุกโจมตีวังสวรรค์อย่างกะทันหัน นี่ถือเป็นจุดอ่อนของพวกเขา นอกจากสามเทพปีศาจ ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะบุกโจมตีวังสวรรค์ แม้ข้าจะตายที่นี่ ชีวิตของข้าก็ไม่สูญเปล่า!”

ปรมาจารย์ห้าธาตุเต็มไปด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้ เขาเป็นคนเหนือ เขามีธรรมชาติที่รักการต่อสู้ของคนเหนือ

สําหรับเขา การตายในสนามรบถือเป็นเกียรติสูงสุด

แท่นบูชาแห่งโชคเคลื่อนที่ไปจนถึงประตูสวรรค์กลาง

มันเป็นประตูขนาดใหญ่ที่ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีมากมาย

“นี่คือประตูสวรรค์กลาง?”

“มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล

ปรมาจารย์ห้าธาตุมองไปรอบๆและไตร่ตรอง

“สมาชิกใหม่ของวังสวรรค์ต้องผ่านการทดสอบจากประตูสวรรค์กลางก่อนจะสามารถเข้าร่วมกับวังสวรรค์” ปีศาจกระทิงกล่าว

ประตูสวรรค์ถูกปิดเอาไว้และกีดขวางเส้นทางของแท่นบูชาแห่งโชค

ห้องโถงใหญ่ในวิหารกลาง

ราชันมังกรถาม “ประตูสวรรค์กลางเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งข้อมูล แต่มันมีพลังป้องกันที่อ่อนแอ มันไม่สามารถหยุดพวกเขา เรามีไข่มุกทองคําอยู่ในคลังกี่เม็ด?”

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบ “สามพันหกร้อยเม็ด”

ราชันมังกรพยักหน้า “นําทั้งหมดออกมาสนับสนุนประตูสวรรค์กลาง ข้าแน่ใจว่าถ้ําสวรรค์นิรันดรมีไพ่ตายอยู่ในมือ แต่พวกเขาไม่ขาดสติปัญญา เราต้องสงบสติอารมณ์และจัดการพวกเขาโดยไม่ตื่นตระหนก เราจะถ่วงเวลาพวกเขาและรอจนกว่าวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ เมื่อเวลานั้นมาถึงการทํางานหนักและการเสียสละทั้งหมดของเราจะได้รับผลตอบแทน”

“ทราบแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยตอบรับและเร่งดําเนินการ

วิหารกลางเป็นสถานที่ควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมดของวังสวรรค์ ด้วยการใช้งานมัน เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถเปิดคลังสมบัติของวังสวรรค์และนําไข่มุกทองคําทั้งหมดออกมา

ไข่มุกทองคําร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน

แต่แท่นบูชาแห่งโชคไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

อย่างไรก็ตามไข่มุกทองคํากลับควบรวมเป็นนักรบเกราะทองจํานวนมาก ในมือของพวกมันยังมีอาวุธทุกประเภท

กองทัพนักรบเกราะทองปิดล้อมแท่นบูชาแห่งโชคและเริ่มโจมตีศัตรูของมันอย่างดุเดือด

แท่นบูชาแห่งโชคเกิดการสั่นสะเทือน พลังงานอมตะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว

“มันคือสิ่งใด?” ปรมาจารย์ห้าธาตุตะลึง “นักรบเกราะทองมีความแข็งแกร่งเท่ากับสัตว์อสูรบรรพกาล แต่พวกมันไม่มีชีวิต พวกมันเป็นท่าไม้ตายอมตะงั้นหรือ?”

“นี่คือไข่มุกทองคํา มันถือกําเนิดจากราชาไข่มุกทองคําในอดีต เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโลหะของวังสวรรค์ ไข่มุกทองคําเหล่านี้เป็นท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของเขา” ปีศาจกระทิงกล่าว

ท่านหญิงดอกไม้หัวเราะ “วังสวรรค์เพียงโยนไข่มุกทองคําเหล่านี้ออกมาราชันมังกรและเทพธิดาจื่อเว่ยยังไม่ปรากฏตัว ดูเหมือนพวกเขาต้องการถ่วงเวลาจนกว่าวิญญาณชะตากรรมจะฟื้นตัว”

ปีศาจกระทิงพยักหน้า “นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด แม้วังสวรรค์จะใหญ่โต แต่มีผู้อมตะระดับแปดเหลืออยู่ที่นี้เพียงไม่กี่คน พวกเขาต้องแบ่งกําลังออกไปยังสนามรบด้านนอก”

“ดังนั้นเราจึงต้องใช้ช่วงเวลานี้ให้คุ้มค่า” ดวงตาของท่านหญิงดอกไม้ส่องประกายขึ้น

ปีศาจกระทิงกล่าวเสียงต่ํา “ให้ข้าทํา”

หลังกล่าวจบคํา เขาเริ่มควบคุมแท่นบูชาแห่งโชค

แท่นบูชาแห่งโชคปลดปล่อยแสงสว่างออกมา ท่ามกลางแสงสว่าง เมฆมงคลก่อตัวขึ้นและผลักกองทัพนักรบเกราะทองทั้งหมดออกไป

ต่อมาประตูสวรรค์กลางก็พังทลายลง

แท่นบูชาแห่งโชคไม่ทําลายล้างนักรบเกราะทองหรือประตูสวรรค์กลาง มันเพียงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเท่านั้น

นี่คือการต่อสู้ที่ต้องแข่งขันกับเวลา

วังสวรรค์ต้องการถ่วงเวลา ถ้ําสวรรค์นิรันดรจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แผนกา ของฝ่ายตรงข้ามประสบความสําเร็จ

ระหว่างทาง นักรบเกราะทองพยายามโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค แต่พวกมันไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู

ในไม่ช้าแท่นบูชาแห่งโชคก็ไปถึงวังป้ายวิญญาณ แต่สิ่งที่พวกเขาพบคือวังป้ายวิญญาณบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

“วังสวรรค์ย้ายวังป้ายวิญญาณงั้นหรือ?” ปรมาจารย์ห้าธาตุรู้สึกมีความสุขแต่ยังสงสัย

ปิงช่ายฉวนกล่าวเสียงต่ํา “วังป้ายวิญญาณในคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล มีข้อมูลข่าวสารและรายชื่อของผู้คนสลักไว้ที่นี่ ผู้คนเหล่านี้เป็นเครือข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ของวังสวรรค์ในห้าภูมิภาค”

ปรมาจารย์ห้าธาตุตกใจ “นั่นหมายความว่าหากเราทําลายมัน ข้อมูลของวังสวรรค์จะถูกเปิดเผย ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาต้องย้ายมันออกไป”

ปรมาจารย์ห้าธาตุรู้สึกเสียดาย

เครือข่ายข้อมูลของวังสวรรค์ใหญ่โตมาก มันครอบคลุมทั้งห้าภูมิภาค

วังสวรรค์มีสิบนิกายโบราณเป็นกองกําลังย่อย พวกเขาปกครองภาคกลางมาหลายยุคสมัย พวกเขาบ่มเพาะตัวตนชั้นสูงและส่งคนเหล่านี้ในยังภูมิภาคต่างๆอย่างลับๆ

สําหรับภูมิภาคอื่น พวกเขาไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว ถ้ําสวรรค์นิรันดรและกองกําลังพันธมิตรภาคใต้พึ่งก่อตั้งขึ้นไม่นานมานี้ พวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์ของภาคกลาง

“ลืมมันไปซะ โดยปราศจากสิ่งกีดขวาง เราสามารถประหยัดเวลาได้มาก” ปิงช่ายฉวนกล่าว

หลังจากนั้นแท่นบูชาแห่งโชคก็พบกับสิ่งกีดขวางที่สาม มันคือวังสุริยัน

วังสุริยันปลดปล่อยแสงที่ร้อนแรงออกมา มันทําให้สภาพแวดล้อมดูบิดเบี้ยว แม้สมาชิกถ้ําสวรรค์นิรันดรจะอยู่ภายในแท่นบูชาแห่งโชค แต่พวกเขายังรู้สึกถึงความร้อนที่กําลังแผดเผา

แท่นบูชาแห่งโชคพุ่งตรงเข้าไป อย่างไรก็ตามแม้มันจะยังอยู่ในระยะไกลแต่วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากก็ถูกเผาทําลายไปแล้ว

วังสุริยันแข็งแกร่งมาก แม้การป้องกันของมันจะอ่อนแอ แต่แท่นบูชาแห่งโชคก็ไม่สามารถเข้าใกล้มัน

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม”

แท่นบูชาแห่งโชคใช้ท่าไม้ตายของมันโจมตีวังสุริยันจากระยะไกล

แต่ทุกการโจมตีกลับถูกทําลายก่อนที่พวกมันจะเข้าถึงวังสุริยัน

“อุปสรรคนี้ยากเกินไป เราไม่มีผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งแสงหรือเส้นทางแห่งความมืด” ปรมาจารย์ห้าธาตุขมวดคิ้วลึก

“อย่ากังวล” ปีศาจกระทิงกล่าว “วังสุริยันอาจดูแข็งแกร่งแต่แท้จริงแล้วมันอ่อนแอ ตราบเท่าที่เราเข้าไปใกล้ เราจะสามารถทําลายมัน ข้าจะไป”

“เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน” ท่านหญิงดอกไม้หัวเราะเบาๆอยู่บนไหล่ของปีศาจกระทิงโดยปราศจากความกังวล

ปรมาจารย์ห้าธาตุประหลาดใจมาก

“มันไม่อันตรายเกินไปงั้นหรือ?” ปรมาจารย์ห้าธาตุกล่าวอย่างระมัดระวัง

ชิงชายฉวนสายศีรษะ “ความเร็วเป็นกุญแจสําคัญสําหรับเรื่องนี้”

เขาควบคุมแท่นบูชาแห่งโชคเพื่อเปิดทางให้ปีศาจกระทิงและท่านหญิงดอกไม้

หลังจากนั้นปีศาจกระทิงและท่านหญิงดอกไม้ก็พุ่งออกไปทันที

“เข้ามา!” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มเย็นชาและควบคุมวังสุริยันให้ปลดปล่อยพลังอํานาจออกมาจนถึงที่สุด

“โอ้ ไม่” ปรมาจารย์ห้าธาตุตกใจ

ในช่วงเวลาสําคัญท่านหญิงดอกไม้กลายเป็นเกราะแสงสีชมพูปกคลุมอยู่บนร่างกายของปีศาจกระทิง

ปีศาจกระทิงคํารามและพุ่งเข้าไปหาวังสุริยันโดยไม่เกรงกลัว

การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นมืดครื้ม นางกล่าวอย่างขมขืน “วังสุริยันจบแล้ว”

หลังจากสิบลมหายใจ วังสุริยันก็ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์

ท้องฟ้ามืดลงทันที

ท่ามกลางซากปรักหักพัง ปีศาจกระทิงถือศพของท่านหญิงดอกไม้เอาไว้ในมือและบินกลับเข้าไปในแท่นบูชาแห่งโชคด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

วังสุริยันถูกทําลายแต่ท่านหญิงดอกไม้เสียชีวิต!

ปรมาจารย์ห้าธาตุต้องการปลอมใจปีศาจกระทิง แต่เขากลับไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา

ปีศาจกระทิงและท่านหญิงดอกไม้เป็นคู่รักอมตะ ทั้งสองได้รับตําแหน่งราชันเหนือของถ้ําสวรรค์นิรันดรร่วมกัน เมื่อคนหนึ่งตาย ขณะที่อีกคนรอด พวกเขาย่อมรู้สึกเจ็บปวด

อย่างไรก็ตามแม้ท่านหญิงดอกไม้จะตายแต่ใบหน้าของนางยังมีรอยยิ้ม

ปีศาจกระทิงมองศพของท่านหญิงดอกไม้เป็นเวลานานก่อนที่ร่างของนางจะกลายเป็นกลีบดอกไม้กระจายออกไป

ปีศาจกระทิงวางกลีบดอกไม้ไว้บนศีรษะของเขาอย่างระมัดระวังและอ่อนโยน การแสดงออกเช่นนี้แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่เย็นชาและแข็งแกร่งของเขาอย่างสิ้นเชิง

“ไปต่อ” ปีศาจกระทิงมองไปข้างหน้า

ภายใต้การควบคุมของปิงช่ายฉวน แท่นบูชาแห่งโชคเดินหน้าต่อไป

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท