เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1722 ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

บทที่ 1722 ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1722 ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ของราชันมงกรทําให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ราชันมังกรมองสายธารแห่งกาลเวลาด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนและถอนหายใจเบาๆ “เห้อ.บัวแดงข้าเห็นท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตและสนับสนุนอนาคตของเจ้าแล้ว ตอนนี้ให้ข้าแสดงท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ให้เจ้าดู!”

คํากล่าวของราชันมังกรทําให้ผู้อมตะภาคเหนือโกรธ

เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมด มีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่อยู่ในสายตาของเขา

ผู้อมตะภาคเหนือล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ พวกเขามีความเย่อหยิ่งและความภาคภูมิใจในตนเอง แต่พวกเขาไม่สามารถตอบโต้คํากล่าวของราชันมังกร เพราะการดํารงอยู่ของพวกเขาในเวลานี้เป็นผลมาจากท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจบัวแดงจริงๆ

“เจ้าแก่ พูดมาก!”

“อย่าดูถูกพวกเรา!”

“พวกเราจะแสดงพลังให้เจ้าดู!”

ผู้อมตะของภาคเหนือพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

ราชันมังกรหัวเราะและปลดปล่อยปราณมังกรสีม่วงทองออกไปอย่างต่อเนื่อง

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม”

ราชันมังกรอาละวาดอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือ ในทางตรงข้ามกลุ่มผู้อม ตะภาคเหนือพบกับความทุกข์ทรมานจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม

ราชันมังกรรวดเร็วเกินไป กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือไม่สามารถหยุดเขา

ทุกท่าไม้ตายอมตะต้องใช้เวลาเตรียมตัว

ราชันมังกรให้ความสําคัญกับแท่นบูชาแห่งโชคมากที่สุด เขาไม่ต้องการเสียเวลากับกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือ

“หยุดเขา!”

“อย่าหนี หากมีความกล้าก็มาสู้กับข้า!”

“เราต้องหยุดเขา!”

ปราณมังกรสีม่วงทองระเบิดออกมาอีกครั้ง

สนามรบเงียบลง ชิงช่ายฉวนเงยหน้าขึ้น

ในที่สุดราชันมังกรก็มาถึงแท่นบูชาแห่งโชค

“โอ้ ไม่” เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของปีงช่ายฉวน

ในเวลาต่อมาราชันมังกรก็คํารามและใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขา

ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ํา

แรงกดดันมหาศาลและร่วงหล่นลงจากอากาศ

โลกราวกับหยุดนิ่ง ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่

“บึม!”

แท่นบูชาแห่งโชคไม่สามารถต่อต้านและถูกส่งลงสู่พื้น

ผู้อมตะของวังสวรรค์มองราชันมังกรด้วยตกใจและประหลาดใจ

เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดด้วยตัวเขาเพียงลําพัง

“บัดซบ! ราชันมังกรเคยใช้ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ําที่ทะเลตะวันออกแต่พลังของมันมากกว่าเดิมสิบเท่า!” ชิงช่ายฉวนไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

ราชันมังกรแข็งแกร่งเกินไป

“เจ้าแก่นี่แข็งแกร่งมาก ดูเหมือนพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านปูเหมาผู้ นี้!” ไกลออกไปเหมาหลี่ซิวและร่างแยกของมันต้องการเข้าไปช่วย

“ต้องการจากไปงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!” กระเรียนหยกเขียวกรีดร้องและโจมตีร่างแยกของเหมาหลีชิว

“หยุดอยู่ตรงนั้น!” พยัคฆ์ปีศาจคว้าขาหลังด้านขวาของเหลาหลีชิวเอาไว้

“พวกโง่!” เหมาหกี่ชิวโกรธจัด มันไม่สามารถหลบหนีจากสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสอง

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสองอาจไม่สามารถพลิกสถานการณ์ แต่พวกมันยังสามารถยื้อเวลาได้เล็กน้อย

“ไปให้พ้น!” แท่นบูชาแห่งโชคลอยขึ้นมาอีกครั้งขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือใช้ท่าไม้ตายอมตะโจมตีราชันมังกรอย่างพร้อมเพรียง

แม้ราชันมังกรจะแข็งแกร่ง แต่เขายังไม่สามารถทําลายแท่นบูชาแห่งโชคและกําจัดผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมดได้ในครั้งเดียว

“ไปช่วยท่านราชันมังกร!”

“เราจะให้ถ้ําสวรรค์นิรันดรชดใช้ด้วยเลือด!”

“วังสวรรค์จะถูกยั่วยุได้อย่างไร?”

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์เร่งเข้าไปสนับสนุนราชันมังกร

ผู้อมตะภาคเหนือส่วนหนึ่งปิดกั้นผู้อมตะวังสวรรค์ขณะที่อีกส่วนต่อสู้กับราชันมังกร

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค หัวใจของปิงชายฉวนจมดิ่งลง

ตอนนี้วังสวรรค์เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน

ค์นิรันดรไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเทพอมตะหรือเทพปีศาจ พวกเขาจะล้มเหล วในการบุกวังสวรรค์

เป้าหมายของพวกเขาคือการฉกชิงวิญญาณชะตากรรม แต่ตอนนี้พวกเขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิตโดยไม่ต้องกล่าวถึงการฉกชิงสิ่งใด

ในความเป็นจริงถ้ําสวรรค์นิรันดรอยู่ห่างจากความสําเร็จเพียงก้าวเดียว มันเป็นเพียงเพราะการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์ที่ทําลายแผนการของพวกเขา

“แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะล้มเหลว แต่วังสวรรค์ของพวกเจ้าก็ไม่สามารถประสบความสํา เร็จ!”ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายขึ้น

เขาตัดสินใจและออกคําสั่งให้ผู้อมตะภาคเหนือทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถฉกชิงวิญญาณชะตากรรม พวกเขาก็ต้องหยุดวังสวรรค์จากการฟื้นฟูมัน

ด้วยวิธีนี้วังสวรรค์จะต้องจัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอีกครั้งในอนาคตเพื่อซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรมต่อไป

นั่นจะทําให้อีกสี่ภูมิภาคมีเวลาพักหายใจ

แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะไม่มีโอกาสบุกวังสวรรค์อีก แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก สถานการณ์บังคับให้ปิงชายฉวนต้องตัดสินใจเช่นนี้

“ทราบแล้ว!” ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุรับคําสั่งก่อนจะเริ่มโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

“พรวด!”

กงเยี่ยนกระอักเลือดออกมา

แต่เขายังเผยรอยยิ้มบาง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเทพธิดาจ่อเว่ยจึงให้ข้าดูแลค่ายกลวิญญาณอมตะนี้? เมื่อข้าอยู่ที่นี่ พวกเจ้าจะไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุขมวดคิ้ว

พวกเขาตระหนักว่าการโจมตีของพวกเขาถูกย้ายไปที่กงเยี่ยน นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่ งกฎกงเยียนสามารถโอนถ่ายความเสียหายมาที่ตัวเอง

“พวกเจ้าต้องการทําลายค่ายกล แต่คิดว่าพวกเราจะอนุญาตงั้นหรือ?”

“มีพวกเราอยู่ที่นี่ อย่าแม้แต่จะคิด!”

ด้านนอก กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเช่นกัน

ปิงช่ายฉวนเปลี่ยนเป้าหมายและพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ฝ่ายของวังสวรรค์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องมันเท่านั้น

ด้วยวิธีนี้การต่อสู้จึงเข้าสู่สภาวะชะงักงัน

ผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งหมดปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะ มีเพียงราชันมังกรที่กําลังโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

แม้ราชันมังกรจะถูกขัดขวางโดยผู้อมตะภาคเหนือ เขาก็ยังสามารถโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

แท่นบูชาแห่งโชคถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่มันยังสามารถยืนหยัด ในความเป็นจริงมันกระทั่งสามารถตอบโต้ราชันมังกร

อย่างไรก็ตามจุดประสงค์หลักของแท่นบูชาแห่งโชคในเวลานี้คือการรักษาท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตเอาไว้

หากปิงช่ายฉวนหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้าย

การโจมตีของราชันมังกรทําให้หัวใจของปิงชายฉวนสั่นไหว เขาไม่รู้ว่าแท่นบูชาแห่งโชคจะอดทนได้นานเพียงใด

ตอนนี้วังสวรรค์เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน

“เปรี้ยง!”

สายฟ้าฟาดลงบนแผ่นหลังของราชันมังกร

แต่ร่างของราชันมังกรไม่ขยับแม้แต่น้อย เมื่อแสงสว่างจางหาย แผ่นหลังของเขาเผยให้เห็นเกล็ดมังกรสีม่วงทอง

ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ทําให้ร่างกายของราชันมังกรแข็งแกร่งและขยายใหญ่ขึ้น

กรงเล็บมังกรของเขาแหลมคมขึ้น หางมังกรยาวขึ้นเขามังกรเติบโตขึ้นและดูเหมือนมงกุฎขนาดใหญ่วางอยู่บนศีรษะของเขา

ราชันมังกรแข็งแกร่งขึ้นทุกวินาที

ชิงช่ายฉวนและกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้

“สัตว์ประหลาด!” ผู้อมตะภาคเหนือบางคนตะโกนด้วยความเกลียดชัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเรา ผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือ ชอบจัดการสัตว์ประหลาด!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะเจ็ดคนเดินออกมาจากสายธารแห่งกาลเวลา

“อา…เป็นพวกเขา!” ชิงช่ายฉวนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข

ผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือเป็นสมาชิกตระกูลฮวงจิน สามคนเป็นผู้อมตะระดับแปด อีกสี่คนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขามาจากช่วงเวลาเดียวกันในประวัติศาสตร์

ในยุคของพวกเขา สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานออกอาละวาดและสร้างหายนะครั้งใหญ่ดังนั้นตระกูลฮวงจินจึงรวมตัวกันและคัดเลือกผู้อมตะเจ็ดคนเพื่อเรียนรู้ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณสุดท้ายพวกเขาจึงสามารถคืนความสงบสุขให้กับภาคเหนือ

ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณ ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด!

กลุ่มผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือกลายร่างเป็นยักษ์ทองคําสามเศียรสี่กรที่มีวงแหวนโลหะอยู่ด้านหลัง

ท่าไม้ตายอมตะดาปวงแหวน!

ยักษ์ทองคําส่งดาบวงแหวนออกไปและสร้างภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง

“ดาบวงแหวน?” รูม่านตาของราชันมังกรหดเล็กลง เขารู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท