เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1721 ช่วงเวลาสุดท้ายของราชันมังกร

บทที่ 1721 ช่วงเวลาสุดท้ายของราชันมังกร

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1721 ช่วงเวลาสุดท้ายของราชันมังกร

ราชันมังกรตระหนักว่ามันคือมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์

เขารู้สึกว่าความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นในเวลาเดียวกันความทรงจําเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะเดินผ่านกิ่งและใบก็ถูกสลักไว้ในความทรงจําของเขา

พลังของท่าไม้ตายอมตะเดินผ่านกิ่งและใบคือการปลดปล่อยผู้อมตะจากความคิดในแง่ลบหมด

“ข้าช่างน่าสงสารจริงๆ” ราชันมังกรเย้ยหยันตนเอง

เขาเข้าใจเกมส์หมากรุกของเทพทั้งสองในศาลาแห่งความเสียใจ มันเป็นหนึ่งเดียวกับวังสวรรค์และสามารถดึงพลังอํานาจถ้ําสวรรค์แห่งนี้ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง นี่เป็นข้อตกลงระหว่างเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวและเทพปีศาจไร้ขอบเขต

โซ่เงินที่พันธนาการราชันมังกรคือพลังอํานาจของมัน แต่ท่าไม้ตายอมตะเดินผ่านกิ่งและใบของเทพอมตะบัวสวรรค์สามารถปลดปล่อยราชันมังกร

“เทพอมตะบัวสวรรค์ทุ่มเทอย่างมากเพื่อมัน” ราชันมังกรถอนหายใจ

ราชันมังกรกวาดตามองไปรอบๆและหยุดสายตาที่แท่นบูชาแห่งโชค

ก่อนหน้านี้เขาถูกกักขัง ความโกรธ ความเกลียดชังเกาะกุมอยู่ในหัวใจของเขา ตอนนี้เมื่อเขาได้รับอิสรภาพ อารมณ์เหล่านี้จึงปะทุออกมา

ผู้อมตะทั้งหมดรู้สึกถึงความสงบก่อนเกิดพายุใหญ่

ราชันมังกรบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณเป็นหลักและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นเส้นทางรองทุกครั้งที่เขาหายใจ มันสามารถสร้างความปั่นป่วน มันยังส่งผลกระทบต่อกําแพงปราณเล็กน้อย

หางมังกรของราชันมังกรสะบัดไปมา กรงเล็บและเขามังกรของเขาส่องแสงสีม่วงทองออกมาระลอกคลื่นก่อนตัวขึ้นรอบตัวเขา เขาเหมือนสัตว์ร้ายที่พึ่งตื่นขึ้น

สายตานับไม่ถ้วนมองไปที่ราชันมังกร

“ไม่ดีแล้ว!” ยิ่งช่ายฉวนกัดฟันแน่น

ท่านหญิงดอกไม้หมดสติขณะที่ราชันมังกรหลุดจากพันธนาการ ถ้ําสวรรค์นิรันดรกําลังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ พวกเขาต่อสู้อย่างสุดกําลัง เช่อเว่ยและกงเยี่ยนพยายามต่อต้านอย่างสิ้นหวัง พวกเขาไม่เปิดโอกาศให้ศัตรูทะลวงเข้าไป

หยวนเชียงตู้ฟนเลือดออกมาจากปาก เขาพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเอาไว้และตัดสินใจเสียสละตนเอง

ปิงช่ายฉวนพยายามคิดแผนการอย่างหนัก

สถานการณ์เลวร้ายมาก ขณะเดียวกันเขาก็ใช้ไพ่ตายไปหมดแล้ว เขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากเทพปีศาจไร้ขอบเขตได้อีก

ราชันมังกรกลับมาด้วยพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ แม้เขาจะยังไม่เคลื่อนไหว แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากทุกคน

“เขาคือราชันมังกรสั้นหรือ?” ผู้อมตะของวังสวรรค์บางคนมองราชันมังกรด้วยความชื่นชม

บางคนแก่กว่าราชันมังกรและไม่รู้จักเขา “เขาเป็นหนึ่งในพวกเรางั้นหรือ?”

“ในที่สุดท่านราชันมังกรก็กลับมา” เทพธิดาจอเว่ยตื่นเต้นมาก นางเข้าใจอย่างชัดเจนว่าราชันมังกรแข็งแกร่งที่สุด

“วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์ช่างอัศจรรย์นัก หลังจากยุคของเทพอมตะบัวสวรรค์ หอคอยดวงตาสวรรค์ได้รับการดัดแปลงนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสิบปีที่ผ่านมามันได้รับความเสียหายและซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง แต่วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์กลับยังอยู่และไม่ถูกค้นพบ”

“ท่าไม้ตายอมตะของเขาซ่อนอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะอันดับหนึ่งของโลกใบนี้โดยไม่ถูกค้นพบและไม่ขัดขวางการทํางานของหอคอยดวงตาสวรรค์ ช่างน่าประทับใจนัก”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เทพธิดาจื่อเว่ยก็เกิดแรงบันดาลใจ “อย่าบอกว่าข่าวลือเป็นจริง? เทพอมตะบัวสวรรค์สร้างเส้นทางแห่งจิตรกรรมขึ้นมา ภาพวาดของเขาสามารถเก็บท่าไม้ตายอมตะได้อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งนี้มีความลึกซึ้งในระดับเดียวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่ไม่ขัดแย้งกันของร่างทารกอมตะ”

เทพธิดาจื่อเว่ยทําได้เพียงคาดเดา

แม้เทพอมตะบัวสวรรค์จะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาก็มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสวรรค์พิภพ เขาสามารถจัดเตรียมบางสิ่งที่ส่งผลต่ออนาคต

สิ่งสําคัญที่สุดคือความช่วยเหลือของเขามาในช่วงเวลาที่สําคัญที่สุด การควบคุมจังหวะเวลาของเขาแม่นยําและไร้ที่ติ

ชิงช่ายฉวนรู้สึกกังวล เขาออกคําสั่ง “ปิดกั้นราชันมังกร!”

แม้ผู้อมตะภาคเหนือจะไม่ได้รับคําสั่ง แต่ทุกคนสามารถบอกได้ว่าราชันมังกรเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

“ฆ่า!” ผู้อมตะภาคเหนือผู้หนึ่งตะโกนและพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

ผู้อมตะภาคเหนือคนที่สองติดตามไปด้านหลัง

“ให้ข้าเผชิญหน้ากับเขา!” แต่ผู้อมตะภาคเหนือคนที่สามเข้าถึงตัวราชันมังกรเป็นคนแรก

26R5

ราชันมังกรยังสงบนิ่งและไม่เคลื่อนไหว

“โฮก…”

เสียงคํารามของมังกรดังขึ้น ปราณมังกรสีม่วงทองปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ผู้อมตะภาคเหนือที่มาถึงก่อนหยุดเคลื่อนไหว เขาก้มศีรษะลงและเห็นรูบนหน้าอกของตนเอง

เลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเขา

“บึม!”

ปราณมังกรขนาดเล็กจํานวนมากปะทุออกมาและระเบิดร่างของเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ตายทันที!

เขาเป็นผู้อมตะที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือแต่เขากลับไม่สามารถรับการโจมตีของราชันมังกรได้แม้แต่ครั้งเดียว

“เป็นไปได้อย่างไร?” เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ สองผู้อมตะภาคเหนือที่ต้องการฆ่าราชันมังกรรู้สึกพูดไม่ออก

“รนหาที่ตาย” เสียงของราชันมังกรดังขึ้น

“ไม่!” สองผู้อมตะภาคเหนือป้องกันตัวด้วยทุกสิ่ง

สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้

อย่างไรก็ตามกรงเล็บมังกรยังพุ่งตามเข้ามา

การป้องกันของสองผู้อมตะภาคเหนือฟังทลายลงทันที พวกเขาถูกส่งลงสู่พื้นราวกับดาวตกและสร้างหลุมขนาดใหญ่เอาไว้

ทั้งสองหมดสติอยู่ในหลุม

การโจมตีของราชันมังกรทําให้ทุกคนตกตะลึง

“ช่างน่ากลัวนัก!”

กระทั่งสมาชิกของวังสวรรค์ก็รู้สึกไม่แตกต่าง

ชายชราที่ไม่รู้จักราชันมังกรประหลาดใจมาก “หลายปีผ่านไปมีรุ่นน้องที่ทรงพลังเช่นนี้จริงๆ”

“เขาเป็นอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดงและยังเป็นผู้พิทักษ์เต่ําอีกด้วย” สมาชิกวังสวรรค์ด้านข้างอธิบาย

ชายชราอุทาน “โอ้ ไม่แปลกใจเลย”

ผู้พิทักษ์เต่มักเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากเทพอมตะเสมอ

“เขากําลังมา!” ชิงช่ายฉวนสูดหายใจลึกและตั้งสมาธิ

หลังจากราชันมังกรเอาชนะสามผู้อมตะภาคเหนือ เขาก็พุ่งตรงไปยังแท่นบูชาแห่งโชค

“ปกป้องข้า!” ชิงช่ายฉวนตะโกน

ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรเร่งเข้าไปสนับสนุนแท่นบูชาแห่งโชค

ท่าไม้ตายอมตะจํานวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาราวกับดอกไม้ไฟ

ปราณมังกรสีม่วงทองส่องประกายขึ้นอีกครั้ง ราชันมังกรหายตัวไปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในระยะไกล

ท่าไม้ตายอมตะถูกบังคับให้เปลี่ยนทิศทาง แต่ราชันมังกรยังหายตัวไปอย่างต่อเนื่องทําให้ท่าไม้ตายเหล่านั้นพลาดเป้าทั้งหมด

“ออกไป!” ราชันมังกรตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

ท่าไม้ตายอมตะทั้งหมดถูกผลักออกไป บริเวณรอบๆกลายเป็นซากปรักหักพัง

ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรพุ่งเข้าไปหาราชันมังกร

“พวกเจ้าโจมตีแล้ว ตอนนี้รับการโจมตีของข้า” ราชันมังกรหัวเราะ

ถ้ําสวรรค์นิรันดรสูญเสียผู้อมตะไปอีกสองคนในครั้งนี้

ราชันมังกรยังเคลื่อนที่เข้าไปหาแท่นบูชาแห่งโชค

ปิงช่ายฉวนไม่มีทางเลือกนอกจากบังคับแท่นบูชาแห่งโชคให้ล่าถอย

ราชันมังกรยังไล่ล่าต่อไปโดยไม่คํานึงถึงกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือที่พยายามขัดขวางเขา

เขาสามารถทะลวงผ่านแนวป้องกันทั้งหมด แน่นอนว่าเขายังต้องหลีกเลี่ยงท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังบางท่า

ดวงตาของปิงชายฉวนเผยให้เห็นถึงความตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร? เหตุใดราชันมังกรถึงมีพลังมหาศาลในเวลาสั้นๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งในการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์งั้นหรือ?”

ชิงช่ายฉวนคิดผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ราชันมังกรแข็งแกร่งด้วยตัวของเขาเอง

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของราชันมังกรมาจากท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์

ยิ่งอายุขัยของเขาเหลือน้อยเท่าใด ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ก็ยิ่งมอบความแข็งแกร่งให้เขา มากเท่านั้น

มันช่วยขยายความสามารถในทุกแง่มุมให้กับราชันมังกร พลังการต่อสู้ของราชันมังกรเพิ่มขึ้นทุกวินาที

พลังชีวิตของเขาลดลงแต่พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้น นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขามันเป็นความแข็งแกร่งที่ราชันมังกรไม่เคยมีมาก่อน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท