เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1731 ค่ายกลห้าภูมิภาค
สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ
พายุหมุนขนาดใหญ่พุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์
องค์ชายฟงเซี่ยนและปาซื่อปาที่อยู่ด้านนอกมองไปยังขอบฟ้า
ผู้อมตะระดับแปดสองคนค่อยๆปรากฏตัวขึ้น
พวกเขาคือหลี่ฮวงและชิงเย่
“ในที่สุดเราก็มาถึง!”
“มันยังไม่สาย”
ทั้งสองมาถึงในที่สุด
“วายร้ายฟางหยวนอยู่ที่ใด?” ดวงตาของหลี่ฮวงส่องแสงสีแดงออกมาและพยายามตรวจสอบ
เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อฟางหยวน
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนจงใจล่าถอยไปในทิศทางตรงข้ามกับแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ เขาทําให้หลี่ฮวงและคนอื่นๆเคลื่อนที่ห่างออกไปไกลมาก หลังจากนั้นฟางหยวนก็ใช้ท่าไม้ตายท่องแดนอมตะเดินทางมายังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติและทิ้งกลุ่มของหลี่ฮวงไว้ข้างหลัง
วังสวรรค์ไม่มีหอคอยดวงประทีป หลี่ฮวงและชิงเย่ต้องเดินทางไกลเพื่อมายังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติด้วยความร้อนใจ
“พวกเขาร่วมมือกัน” ชิงเย่ตอบ สายตาของเขากวาดผ่านค่ายกลวิญญาณอมตะและวายุไร้ขอบเขต
“ท่าไม้ตายนี้แข็งแกร่งมาก! มันเป็นภัยคุกคามต่อค่ายกลวิญญาณอมตะ เราควรกําจัดมันออกไป”
“วูหยงมีท่าไม้ตายอมตะวายุไร้ขอบเขตและอําลาสหาย หากเป็นไปได้ เราควรฆ่าเขา หากเขาสามารถกลับภาคใต้ เขาจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของวังสวรรค์ในอนาคต!”
หลี่ฮวงและชิงเย่พูดคุยก่อนจะมุ่งหน้าไปยังวายุไร้ขอบเขต
องค์ชายฟงเซี่ยนและปาซื่อปารีบไปที่นั่นเช่นกัน
“ไป!” องค์ชายฟงเซี่ยนตะโกนและสะบัดมือส่งบอลเพลิงนับร้อยพุ่งออกไป
“ใช้ไฟโจมตีข้างั้นหรือ? น่าขัน!” หลี่ฮวงไม่หลบ
บอลเพลิงขององค์ชายฟังเซี่ยนปะทะเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของหลี่ฮวงแต่ฝ่ายหลังไม่ได้รับบาดเจ็บ ตรงข้าม เสื้อคลุมเพลิงสุริยันของหลี่ฮวงกระทั่งทรงพลังขึ้น
การแสดงออกขององค์ชายฟังเซี่ยนไม่เปลี่ยน เขาชี้นิ้วไปที่หลี่ฮวง
เปลวเพลิงสีม่วงพุ่งออกไปพัวพันหลี่ฮวงเอาไว้
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่บนท้องฟ้าและทําให้อุณหภูมิรอบๆพุ่งสูงขึ้น
ปาซื่อปาเฝ้ามองการต่อสู้ขององค์ชายฟงเซี่ยนและคิด “ฮืม องค์ชายฟงเซี่ยนยังทําหน้าที่ของเขาอยู่ เขาปกปิดตนเองได้ดี”
ปาซื่อปาได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับตัวตนขององค์ชายฟงเซี่ยนผ่านรูหยงแต่เขาแสร้งทําเป็นไม่รู้
วูหยงและฟางหยวนคาดเดาไว้แล้ว องค์ชายฟงเซี่ยนยังมีประโยชน์ต่อวงสวรรค์ ในสงครามหาภูมิภาค เขาจะมีประโยชน์มากขึ้น
องค์ชายฟงเซี่ยนและหลี่ฮวงต่างเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งไฟ การต่อสู้ของพวกเขาทําให้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง มวลอากาศร้อนทําให้สิ่งมีชีวิตต้องหลบหนี
ปาซื่อปาและชิงเย่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกฎและความมืดตามลําดับ แม้การต่อสู้ของพวกเขาจะไม่ทําให้เกิดความโกลาหลมากนัก แต่มันก็ยังไร้ปรานี
หลี่ฮวงล่วงรู้ตัวตนขององค์ชายฟงเซี่ยน พวกเขาเพียงแสดงละครเท่านั้น
แต่ปาซื่อปาและชิงเย่ต่อสู้กันจริงๆ
ปาซื่อปาคํารามและส่งแสงลึกลับจํานวนมากพุ่งเข้าโจมตีชิงเย่ราวกับดาบหรือกระบี่
มันเป็นการโจมตีต่อเนื่องที่ปาซื่อปาฝึกฝนมานาน
ท่าไม้ตายประเภทนี้สามารถสนับสนุนและเพิ่มพลังการโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ
เงื่อนไขคือปาซื่อปาต้องใช้ท่าไม้ตายเดิมและไม่สามารถเปลี่ยนเป็นท่าไม้ตายอื่น
ชิงเย่ถูกบังคับให้ล่าถอย เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของเขา “ข้าไม่สามารถปล่อยให้มันดําเนินต่อไป เมื่อเขาโจมตีต่อเนื่องถึงครั้งที่สิบแปด การป้องกันของข้าจะพังทลายลง”
ชิงเย์ใช้ท่าไม้ตายอมตะทําให้ร่างกายของเขาหายไปในความมืด
บนท้องฟ้า มันเหมือนหยดน้ำหมึกที่ตกลงสู่ผิวน้ำและกระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ปาซื่อปาหรี่ตามอง “นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของชิงเย่ ท้องฟ้าสีดํา!”
ทั้งสองฝ่ายมีข้อมูลของกันและกัน
ท้องฟ้าสีดําเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ ในทางทฤษฎี มันสามารถขยายตัวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ปาซื่อปาบินถอยหลัง
เขาตัดสินใจหลีกเลี่ยง
หากปาซื่อปาเข้าไปในเขตแดนนี้ พลังการต่อสู้ของเขาจะลดลง
แต่เหตุผลสําคัญคือองค์ชายฟงเซี่ยน
ปาซื่อปากรู้ว่าองค์ชายฟงเซี่ยนเป็นสายลับ หากเขาเข้าไปในเขตแดนอมตะ เขาจะไม่สามารถมองเห็นภายนอก ชิงเย่อาจอนุญาตให้องค์ชายฟงเซี่ยนและหลี่ฮวงเข้าไปในเขตแดนและร่วมมือกันกําจัดเขา
เมื่อเวลานั้นมาถึง ปาซื่อปาจะต้องต่อสู้กับศัตรูสามคนพร้อมกัน
ขณะที่การต่อสู้ของพวกเขาติดอยู่ในทางตัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า
ท่ามกลางพวกมันมีคฤหาสน์มังกรน้ำแข็งและหอคอยวายุรวมอยู่ด้วย
เดิมที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้อยู่ปกป้องเมืองจักรพรรดิ แต่ตอนนี้เมืองจักรพรรดิกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมดจึงมาที่นี่เพื่อเป็นกําลังเสริม
คฤหาสน์มังกรน้ำแข็งเริ่มปล่อยแสงสีฟ้าออกมา
แสงสีฟ้าควบรวมเป็นมังกรไร้เขาสีฟ้าอ่อน มันเปิดปากและส่งก้อนน้ำแข็งจํานวนนับไม่ถ้วนไปยังปาซื่อปา
ความเร็วของปาซื่อปาลดลงอย่างมาก เขาพยายามหลีกเลี่ยงเขตแดนของชิงเย่ ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังต้องต่อต้านการโจมตีของคฤหาสน์มังกรน้ำแข็ง
“บึม บึม บึม!”
คฤหาสน์มังกรน้ำแข็งถูกโจมตีและเริ่มส่งสัญญาณของการพังทลาย
มังกรไร้เขาสีฟ้าอ่อนสองตัวบินเข้าหดตัวอยู่รอบๆคฤหาสน์มังกรน้ำแข็งและพ่นแสงลึกลับออกมา
“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้สามารถขับไล่ความเสียหายของตัวมังเอง!” หัวใจของปาซื่อปาจมดิ่งลง เขาไม่สามารถทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ได้ในเวลาอันสั้น หากเขายังดําเนินการต่อไป ท้องฟ้าสีดําจะกลืนกินเขาเข้าไปในที่สุด เขาต้องล่าถอย
ในจังหวะนี้หอคอยวายุก็เข้าสู่สนามรบ
มันไม่ได้ช่วยชิงเย่หรือหลี่ฮวงแต่กลับพุ่งเข้าไปในวายุไร้ขอบเขต
“เป็นลมที่ดี” ผู้ควบคุมหอคอยวายุหัวเราะเสียงดัง
ด้วยการรบกวนของหอคอยวายุ วายุไร้ขอบเขตจึงอ่อนกําลังลง
คฤหาสน์วิญญาณอมตะเข้าสู่สนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายของฟางหยวนกําลังตกอยู่ในอันตราย
“พวกเรามาแล้ว!”
ในช่วงเวลาสําคัญคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังก็บินออกมาจากค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ หนึ่งในนั้นคือบ้านไม้ไผ่สายลม
ด้วยความช่วยเหลือจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะเจ็ดหลัง แรงกดดันของปาซื่อปาลดลงอย่างมาก
ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การต่อสู้ที่โกลาหล คฤหาสน์วิญญาณอมตะต่อสู้กันอย่างดุเดือดและทําให้สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน
ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ
ใบหน้าของวูหยงและคนอื่นๆกลายเป็นมืดครื้ม
แม้พวกเขาจะส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกไปและสามารถรักษาเสถียรภาพ แต่พวกเขาก็ต้องใช้ไพ่ตายล่วงหน้า
พวกเขากําลังเสียเปรียบ
ตอนนี้การทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบจะเป็นสิ่งตัดสิน
“ด้วยความเร็วของเรา โอกาสชนะจะลดลงเรื่อยๆ” ฟางหยวนถอนหายใจก่อนถาม “มรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูสามารถจัดการค่ายกลนี้หรือไม่?”
ย้อนกลับไปที่เทือกเขาห้าภูมิภาค วูหยงทําลายมันและได้รับมรดกที่แท้จริงของเต๋าจู
ด้วยการอนุมานของฟางหยวน มรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูสามารถเลียนแบบกําแพงภูมิภาค ภายในกําแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะพบฟันเฟือนจากการใช้ท่าไมตายอมตะ
ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหรือค่ายกลวิญญาณอมตะ พวกมันคือท่าไม้ตายอมตะ ชนิดหนึ่ง
ฟางหยวนคิดว่าหากเขาได้รับมรดกที่แท้จริงนี้ เขาจะมีวิธีต่อต้านค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์
วูหยงและจื่อชิวหยูมองหน้ากัน วูหยงกล่าว “ข้าได้รับมรดกนี้มีวิธีสร้างกําแพงภูมิภาคอยู่จริง แต่…”
จื่อชิวหยูกล่าวเสริม “แต่วิธีนี้ต้องใช้เส้นโลหิตปฐพีเพื่อสร้างค่ายกล มันยุ่งยากและซับซ้อนมาก”
เต๋าจูสร้างเทือกเขาห้าภูมิภาคขึ้นมาโดยพึ่งพาเส้นโลหิตปฐพีและค่ายกลวิญญาณอมตะ
วูหยงได้รับมรดกของเต๋าจูและค้นพบว่าแก่นแท้ของมันคือค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค
ตระกูลวไม่เชี่ยวชาญด้านค่ายกล วูหยงจึงทํางานร่วมกับจือชิวหยูและสามารถค้นพบความลึกซึ้งของมัน
“เราต้องพึ่งพาเส้นโลหิตปฐพีจริงๆงั้นหรือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้ว “เดี๋ยว! ข้าได้ยินว่าเมื่อไม่นานมานี้ผู้อมตะของตระกูลฮั่วได้รับวิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพีจากร่องลึกใต้พิภาพ เราสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้แทนเส้นโลหิตปฐพีหรือไม่?”
วูหยงและจื่อชิวหยูมองหน้ากัน พวกเขาต้องถอนหายใจให้กับความคิดที่รวดเร็วของฟางหยวน
จื่อชิวหยูสายศีรษะ “ความจริงก็คือข้าได้รับวิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพี่ผ่านการทําธุรกรรมกับตระกูลฮั่วมาแล้ว หากใช้มันแทนเส้นโลหิตปฐพี เราต้องดัดแปลงค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค ข้าพยายามแล้วและมีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่มันยังห่างไกลจากความสําเร็จ”
โดยปกติผู้อมตะต้องใช้เวลาหลายปีในการดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะ
แม้จือชิวหยู่จะมีความสําเร็จบนเส้นาทางแห่งค่ายกล แต่เขายังขาดความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาไม่สามารถอนุมานได้เร็วนัก
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น “ค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคจะเป็นโอกาสของเรา จื่อชิวหยู เจ้าไม่สามารถทําคนเดียว แต่เจ้าสามารถร่วมมือกับข้าและผู้อมตะคลื่นทมิฬ ด้วยวิธีนี้เราจะมีโอกาสประสบความสําเร็จ มาลองดูกันเถอะ”