เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1734 ความยิ่งใหญ่ของเทพอมตะตะวันเดือด

บทที่ 1734 ความยิ่งใหญ่ของเทพอมตะตะวันเดือด

บทที่ 1734 ความยิ่งใหญ่ของเทพอมตะตะวันเดือด

“พรวด!”

หยวนเชียงตู๋กระอักเลือดและล้มลงบนพื้น

เขาได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ด้วยผลกระทบย้อนกลับที่เกิดจากความเสียหายของค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทําให้เขาหมดสติทันที

หากไม่มีหยวนเชียงตู๋ การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมจะหยุดลง

กงเยี่ยนได้รับผลกระทบเช่นกัน

ด้วยท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของกงเยี่ยน เขาสามารถย้ายความเสียหายที่เกิดขึ้นกับค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมมายังร่างกายของตนเอง

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมพังทลายลง กงเยี่ยนจึงได้รับผลกระทบที่รุนแรง

เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขา เขาทรุดตัวลงกับพื้น โชคดีที่เช่อเว่ยให้ความช่วยเหลือเขาได้อย่างทันท่วงที

“อาการของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เช่อเว่ยถาม

“ข้ายังไม่ตาย…” กงเยี่ยนกระอักเลือดออกมา

ผู้อมตะของวังสวรรค์เริ่มตื่นตระหนก

“ไปเสริมกําลังเร็วเข้า!”

“เราต้องซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

“หยวนเชียงตู๋รับผิดชอบการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม คนอื่นไม่สามารถรับหน้าที่ต่อได้ในระยะเวลาอันสั้น เราต้องปลุกเขาก่อน!”

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์รีบร้อนพุ่งเข้าไป

“เราไม่สามารถทําลายมันได้อย่างสมบูรณ์” ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายเย็นเยียบ

เขาออกคําสั่ง “ปีศาจกระทิง ปรมาจารย์ห้าธาตุ กลับมา!”

แสงแห่งโชคอยู่ได้ไม่นาน ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเมื่อกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์บุกโจมตี

ก่อนหน้านี้ผู้อมตะของวังสวรรค์ไม่สามารถให้การสนับสนุนกงเยี่ยนและเช่อเว่ยเพราะพวกเขาไม่ต้องการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุต้องล่าถอยกลับเข้าไปในแท่นบูชาแห่งโชค

เช่อเว่ยไม่สามารถทําสิ่งใด

ปีศาจกระทิงเข้าสู่แท่นบูชาแห่งโชคและแสดงออกด้วยความกังวล “ท่านหญิงดอกไม้ติดอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ เราไม่รู้สถานการณ์ที่นั่น”

ปิงช่ายฉวนพยักหน้า “เราจะทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมก่อนจะไปช่วยเหลือ…”

“บึม!”

ปิงช่ายฉวนยังกล่าวไม่จบเมื่อแท่นบูชาแห่งโชคเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ร่างหนึ่งเหยียบลงบนแท่นบูชาแห่งโชคและฝังมันลงใต้ดิน

ราชันมังกร!

เจ้าไม่สามารถไปไกลกว่านี้” ราชันมังกรปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมา และทําให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก

“บึม บึม บึม”

ราชันมังกรเริ่มต่อยแท่นบูชาแห่งโชค

แท่นบูชาแห่งโชคจมลงไปใต้พื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแท่นบูชาแห่งโชคและขยายตัวออกไปก่อนจะเกิดรูช่องโหว่

วิญญาณจํานวนมากเสียชีวิต จึงช่ายฉวนเตรียมท่าไม้ตายอมตะเพื่อตอบโต้ ปีศาจกระทิงรับผิดชอบการซ่อมแซมแท่นบูชาแห่งโชค ปรมาจารย์ห้าธาตุอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

“ความเร็วในการทําลายสูงเกินไป ข้าไม่สามารถซ่อมแท่นบูชาแห่งโชคได้ทันเวลา” ปีศาจกระทิงตะโกน

ศีรษะของปรมาจารย์ห้าธาตุเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอย่างบ้าคลั่ง

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น “อดทนไว้”

ราชันมังกรทรงพลังมาก กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะตะวันเดือดก็ยังไม่สามารถอดทนต่อการโจมตีที่ไม่สิ้นสุดของคนผู้นี้

“ขึ้นไป!” ปิงช่ายฉวนตะโกน แท่นบูชาแห่งโชคพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง

ราชันมังกรยังต่อยแท่นบูชาแห่งโชคอย่างต่อเนื่อง

“ลงไป!” ราชันมังกรตะโกนและยกกําปั้นขึ้น

ท่าไม้ตายอมตะค้อนมังกรถล่มปฐพี!

แท่นบูชาแห่งโชคถูกส่งลงไปราวกับลูกบอลยาง

หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแท่นบูชาแห่งโชคและเผยให้เห็นปิงช่ายฉวนที่อยู่ภายใน

ปิงช่ายฉวนไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

ความแข็งแกร่งของราชันมังกรเหนือจินตนาการของเขาไปแล้ว

กระทั่งสมาชิกวงสวรรค์ยังตกตะลึง

“ทุกคน ไป!” กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือที่ถูกอัญเชิญมาจากอดีตเร่งเข้าไปสนับสนุน

ผู้อมตะของวังสวรรค์เผชิญหน้ากับผู้อมตะของภาคเหนือโดยตรง

การต่อสู้ที่วุ่นวายปะทุขึ้นอีกครั้ง

ด้านหลังฉากการต่อสู้ที่วุ่นวายนี้ ราชันมังกรทุบทําลายแท่นบูชาแห่งโชคอย่างไม่หยุดยั้ง

ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดปูทางด้วยเลือดและเข้าถึงตัวราชันมังกรในที่สุด

แท่นบูชาแห่งโชคไม่สามารถต่อต้านราชันมังกร” ปิงช่ายฉวนต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้

เมื่อความสิ้นหวังทั้งเจ็ดมาถึง ปิงช่ายฉวนจึงมีเวลาพักหายใจ เขาควบคุมแท่นบูชาแห่งโชคต่อสู้กับราชันมังกรร่วมกับความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

ท่าไม้ตายอมตะเขี้ยวมังกรบิน!

ราชันมังกรเปิดปากส่งเขี้ยวมังกรพุ่งออกไป

เขี้ยวมังกรบินไปรอบๆแท่นบูชาแห่งโชคราวกับพายุดาบ

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขี้ยวของราชันมังกรงอกออกมาอีกครั้งและถูกส่งออกไปโจมตีความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ท่าไม้ตายอมตะกรงเล็บมังกร!

ท่าไม้ตายอมตะหมัดมังกรโกลาหล!

กรงเล็บมังกรและหมัดมังกรโจมตีความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคอย่างบ้าคลั่ง

โชคกลายเป็นซากปรักหักพัง ปีศาจกระทิงไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ทันเวลา

ท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัย!

ปราณมังกรสีม่วงทองเก้าตัวรัดพันอยู่รอบตัวราชันมังกร

ทุกการโจมตีของความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคถูกปิดกั้นโดยเก้ามังกรคุ้มภัยราชันมังกรเหนือกว่าอย่างชัดเจน

เมื่อเวลาผ่านไปฝ่ายของถ้ำสวรรค์นิรันดรจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“พวกเจ้ากล้าบุกวังสวรรค์ของข้า พวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!” ราชันมังกรคําราม

“ พวกเจ้าไม่เหลือความหวังแล้ว” ราชันมังกรโจมตีแท่นบูชาแห่งโชคก่อนจะส่งความสิ้นหวังทั้งเจ็ดบินออกไป

“พวกเจ้ามาได้ไกลที่สุดเท่านี้!”

“พวกเจ้าจะล้มเหลว วังสวรรค์จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์!”

เสียงของราชันมังกรดังไปทั่วสนามรบ

“หากพวกเจ้ายังมีวิธีใดก็ใช้ออกมาให้หมด ข้าจะส่งพวกเจ้าไปสู่หุบเหวแห่งความสิ้นหวังด้วยตนเอง!” ราชันมังกรกล่าวอยู่

ปิงช่ายฉวนอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช

สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆแต่ดวงตาของเขายังสว่างไสว

ความทรงจําผุดขึ้นในใจของเขา

“นี่คือวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงงั้นหรือ? อัศจรรย์นัก! สมกับเป็นสมบัติของท่านจริงๆ” ปิงช่ายฉวนยืนอยู่ด้านข้างเทพอมตะตะวันเดือด

เทพอมตะตะวันเดือดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ บุตรหลานของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น”

“ท่านช่างมีเมตตานัก” ปิงช่ายฉวนชื่นชม

“อย่างไรก็ตาม…” เทพอมตะตะวันเดือดเปลี่ยนน้ำเสียง “มันจะพังทลายลงในที่สุด”

“อันใด!?”

“ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้มันพังทลายลงในวันหนึ่ง ปิงช่ายฉวน เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา จงเข้าสู่การจําศีล เมื่อวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลงในอนาคต มันจะเป็นเวลาที่เราบุกโจมตีวังสวรรค์”

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค

“แม้ข้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้สถานการณ์จะสิ้นหวัง แม้ข้าจะใช้ไพ่ตายไปหมดแล้ว แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้เพราะนี่เป็นแผนการของเทพอมตะตะวันเดือด!”

ค์นิรันดรจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ!”

ปิงช่ายฉวนตะโกน

“เจ้ายังทุกข์ทรมานไม่พองั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยัน

ปิงช่ายฉวนกันเสียงเย็น “เจ้าไม่มีวันเข้าใจความยิ่งใหญ่ของชายผู้นั้น!”

ห่างออกไป

“บึม!”

พังพอนหางสุนัขเหมาหลีชิวกลายเป็นควันและหายตัวไปจากที่เกิดเหตุ

“ในที่สุดเราก็สามารถกําจัดร่างแยกสมบูรณ์!”

“มันคู่ควรกับเป็นท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์”

“ที่นี่คือวังสวรรค์ ด้วยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกฏสี่คน เราสามารถถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะร่างแยกสมบูรณ์ได้ในที่สุด”

พังพอนหางสุนัขใช้ท่าไม้ตายอมตะร่างแยกสมบูรณ์ต่อสู้กับสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานสองตัวของวังสวรรค์

โชคดีที่ผู้อมตะของวังสวรรค์ที่ตื่นขึ้นช่วยทําลายท่าไม้ตายนี้

“เข้ามาสู้กับข้าอีกครั้ง!”

“เจ้าหมาน้อย เจ้าทําให้ขนของข้าหลุดออกเกือบหมด!”

พยัคฆ์ปีศาจและกระเรียนหยกเขียวรวมถึงกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ปิดล้อมพังพอนหางสุนัข เหมาหลี่ชิว

แม้เหมาหลี่ชิวจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่สามารถต่อต้านศัตรูจํานวนมากพร้อมกัน ในไม่ช้ามันก็ได้รับบาดเจ็บ

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสองไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเช่นกัน

“เจ้าบ้านไม่กลัวตาย!”

“แม้มันจะตาย มันก็อาจกัดเนื้อของข้าออกไปในการโจมตีครั้งสุดท้าย”

พยัคฆ์ปีศาจตะโกน “เหล่าหลีชิว เหตุใดเจ้าต้องสละชีวิตเพื่อเทพอมตะตะวันเดือด? เขาเลี้ยงดูเจ้าเพราะความสามารถโดยกําเนิดของเจ้าและต้องการฆ่าเจ้าเพื่อยืดอายุของเขา!”

“แล้วอย่างไร?” เหมาหลีชิวหัวเราะ

ความทรงจําผุดขึ้นในใจของมัน

บนภูเขาท่ามกลางอาทิตย์อัศดง เหมาหลีชิวขดตัวเหมือนลูกสุนัขอยู่ข้างเท้าของเทพอมตะตะวันเดือด

เทพอมตะตะวันเดือดลูบศีรษะของมัน

อายุขัยของเทพอมตะตะวันเดือดใกล้สิ้นสุดแล้ว เขาอาจต้องการฆ่ามันเพื่อยืดอายุขัยของเขา

แต่เหมาหลีชิวไม่กล้าต่อต้าน มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพอมตะตะวันเดือด

“อย่ากลัว เหมาหลี่ชิว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเพื่อยืดอายุขัยของข้า” เทพอมตะตะวันเดือดหัวเราะ

ร่างของเหมาหลีชิวกลายเป็นแข็งค้าง

เทพอมตะตะวันเดือดมองท้องฟ้ายามเย็นและกล่าว “ข้ายังจําวันแรกที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่ได้ดี ฮ่าฮ่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เจ้าเติบโตขึ้นแล้ว”

“กล่าวตามตรง ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นเหมือนบุตรชายของข้า”

“ในฐานะบิดา ข้าจะทําร้ายบุตรชายของตนเองได้อย่างไร?”

เหลาหลีชิวรู้ว่าเทพอมตะตะวันเดือดไม่ได้โกหกเพราะเขาไม่มีความจําเป็นต้องโกหก

เหมาหลีชิวถามด้วยความงุนงง “แต่นายท่าน ท่านสามารถยืดอายุขัยด้วยการฆ่าข้า”

“ยืดอายุสั้นหรือ?” เทพอมตะตะวันเดือดหัวเราะ “มันเป็นเพียงการยื้อเวลาเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น สุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย”

เขาส่ายศีรษะ “การมีชีวิตอยู่ภายใต้โชคชะตาจะมีความหมายใด? ความตายไม่ใช่เรื่องยากที่จะยอมรับ”

“นายท่าน…”

“สัญญากับข้าว่าเจ้าจะใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ทําในสิ่งที่เจ้าชอบ ข้าจะไม่ออกคําสั่งใดๆกับเจ้า จงเป็นตัวของเจ้าเองและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

“นายท่าน…”

ความทรงจําของเหมาหลีชิวจบลง

มันกวาดตามองศัตรูทั้งหมดก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “นายท่าน แม้ข้าจะตาย ข้าก็จะตอบแทนความเมตตาของนายท่าน!”

“มันตัดสินใจที่จะตาย!”

“ถูกต้อง มันกําลังจะต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย!”

“ระวังการโจมตีครั้งสุดท้ายของมัน!”

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรค์แสดงออกอย่างเย็นชา

สวรรค์สีดํา

วังสวรรค์แห่งโชค

ผีดิบอมตะตะวันเดือดนั่งไขว้

ฉากการต่อสู้ในวังสวรรค์สะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา

ใบหน้าของเขาไม่แสดงความโศกเศร้าหรือปิติขณะที่เขายกมือขวาขึ้นอย่างช้าๆ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท