เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1746 การทรยศอีกครั้งของไปหนิงปิง

บทที่ 1746 การทรยศอีกครั้งของไปหนิงปิง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1746 การทรยศอีกครั้งของไปหนิงปิง

ถั่วเว่ยหยินอาจไม่มีท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีแต่เขาทรงพลังในด้านอื่นๆ

เขาป้องกันการโจมตีด้วยความโกรธของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือได้อย่างง่ายดายกระทั่งฟางหยวนก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

“สมกับเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ!” ผู้อมตะของวังสวรรค์เฝ้ามองด้วย ความสนใจ

ถั่วเว่ยหยินปิดกั้นผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง ผู้อมตะของวังสวรรค์แทบไม่ต้องทําสิ่งใด

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะภาคใต้และภาตเหนือตระหนักถึงพลังที่แท้จริงของถั่วเว่ยหยิน

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อถั่วเว่ยหยิน มันเป็นความเกลียดชังที่รุนแรงกว่าความเกลียดชังที่พวกเขามีต่อฟางหยวนหลายเท่า!

นี่เป็นเพราะการปรากฏตัวของถั่วเว่ยหยินทําลายความหวังสุดท้ายของพวกเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ราชันมังกรหัวเราะเสียงดัง เขาถูกตี้จางเฉิงพัวพัน แต่ลั่วเว่ยหยินกลับออกมากอบกู้สถานการณ์ได้ในเวลาที่เหมาะสม

ราชันมังกรมีความสุขมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากถั่วเว่ยหยิน

เพราะสิ่งนี้หมายความว่าฝ่ายของเทพอมตะสวรรค์พิภพยอมจํานนต่อพวกเขา

“นี่คือหัวใจของผู้คน ย้อนกลับไปเมื่อวิญญาณชะตากรรมปรากฏขึ้น เทพอมตะแรกกําเนิดอาศัยมันเพื่อเปลี่ยนความคิดของผู้อมตะเผ่ามนุษย์จํานวนมากและปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาตอนนี้สิ่งเดียวกันกําลังเกิดขึ้นอีกครั้ง!

วิญญาณชะตากรรมที่ได้รับความเสียหายไม่คู่ควรที่จะได้รับการเคารพ แต่วิญญาณชะตากรรมที่สมบูรณ์แบบคือธงสงครามที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

วิญญาณชะตากรรมสามารถบังคับผู้อมตะจํานวนนับไม่ถ้วนให้เปลี่ยนความคิดและทรยศต่อฝ่ายของพวกเขา

รค์และภาคกลางจึงสามารถประหยัดพลังงาน

ราชันมังกรรู้สึกชื่นชมเทพธิดาจื่อเว่ยที่เลือกใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคนและเผยแพร่ฉากเหตุการณ์ทั้งหมดออกไปทั้งห้าภูมิภาคและสองสวรรค์

การเคลื่อนไหวของถั่วเว่ยหยินจะเป็นตัวอย่างและทําให้ผู้อมตะทั้งหมดยอมก้มศีรษะให้กับวังสวรรค์ในอนาคต

ผลกระทบของผู้บุกเบิกยิ่งใหญ่มาก

โดยเฉพาะเมื่อมันคือลั่วเว่ยหยินผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

เมื่อผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกลังเล พวกเขาจะคิดถึงการเปลี่ยนข้างของถั่วเว่ยหลินและทําตาม

การกระทําของถั่วเว่ยหยินเหมือนพายุที่ไร้รูปลักษณ์แต่อิทธิพลของมันกลับแผ่กระจายไปทั่วโลก

ผู้อมตะของภูมิภาคอื่นที่เตรียมตัวล่าถอยตัดสินใจล่าถอยเร็วขึ้น

ขณะเวลาเดียวกันจ้าวเหลียนหยุนที่อยู่ในนิกายคฤหาสน์วิญญาณก็ต้องการออกมา

“เทพธิดาจ้าว เจ้าจะไปที่ใด? ข้างนอกอันตรายมาก” ปู่เจิ้นซื่อถาม

จ้าวเหลียนหยุนยิ้ม “ข้าได้รับการปกป้องจากวิญญาณแห่งความรัก ศัตรูจะหลบหนีข้าด้วยความหวาดกลัว หากเราต้องการเคลื่อนไหว นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่สุดงั้นหรือ?”

ในไม่ช้าความปรารถนาของจ้าวเหลียนหยุนก็ได้รับการอนุมัติจากผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

ผู้อมตะของภาคกลางตระหนักว่านี่คือเวลาตอบโต้ที่ดีที่สุด

“สังหารหัวขโมยที่กล้าบุกรุกภาคกลาง!”

“กําจัดคนน่ารังเกียจเหล่านี้!”

“ข้าจะระบายความโกรธกับพวกเจ้า!”

การโต้กลับเริ่มขึ้น

ผู้อมตะจากสี่ภูมิภาคถูกโจมตี บางคนถึงขั้นเสียชีวิต

ฉากเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วทั้งภาคกลางพร้อมกับขวัญกําลังใจของคนภาคกลางที่พุ่งสูงขึ้น

ในทางตรงข้ามสถานการณ์ของฟางหยวนและคนอื่นๆอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ

ราชันมังกรมีความสุขมาก

นี่คือฉากที่เขาต้องการเห็น

ด้วยการใช้วิญญาณชะตากรรมเป็นธงสงคราม ผู้อมตะภาคกลางทั้งหมดถูกปลุกระดมและรวมใจเป็นหนึ่ง

วิญญาณชะตากรรมเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้าที่ไม่สามารถใช้งานได้โดยตรง แต่ในมือของวังสวรรค์ พวกเขาสามารถใช้อิทธิพลของมันเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมด

โดยไม่จําเป็นต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า ราชันมังกรสามารถพึ่งพาอิทธิพลของวิญญาณชะตากรรมเพื่อบรรลุสิ่งนี้

ผู้ใช้วิญญาณจะเลี้ยงดู ใช้ และหลอมรวมวิญญาณ ในแง่การใช้วิญญาณ ตอนนี้วังสวรรค์ได้ก้าวข้ามขีดจํากัดของการใช้วิญญาณชะตากรรมไปแล้ว

ผู้อมตะของวังสวรรค์โจมตีศัตรูของพวกเขาจากทุกทิศทาง

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือถูกปิดล้อม บางคนกรีดร้อง บางคนหวาดกลัว บางคนตื่นตระ

หนก บางคนรอคอยความตายอย่างสงบ

หัวใจของฟางหยวนถูกปกคลุมไปด้วยเงามืด เขาไม่สามารถทําลายการป้องกันของถั่วเว่ยหยินขณะที่หอคอยดวงตาสวรรค์ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา

ราชันมังกรตั้งใจนําตี้จางเฉิงออกห่างจากสนามรบ

“โอกาสของศัตรูถูกปิดผนึกแล้ว” ผู้อมตะของวังสวรรค์เกือบทั้งหมดคิดเช่นเดียวกันนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าในที่สุดมันก็ถึงเวลาของข้าแล้ว”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงที่ฟางหยวนรู้สึกคุ้นเคยดังขึ้นในสนามรบ

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรก็ปรากฏขึ้นด้านหลังหอคอยดวงตาสวรรค์

“ไปหนิงปิง? นางควบคุมวังมังกรได้อย่างไร?” ฟางหยวนประหลาดใจมาก

ผู้อมตะคนอื่นๆตกใจยิ่งกว่า

ไปหนิงปิงเตรียมการลอบโจมตีของนางมานานแล้ว ขณะที่ทุกคนกําลังตกตะลึง วังมังกรพ่นควันที่หนาทึบไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์

หอคอยดวงตาสวรรค์ราวกับจมลงสู่หนองน้ํา

ในช่วงเวลาสําคัญผู้อมตะที่อยู่ภายในหอคอยดวงตาสวรรค์กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของพวกเขา

ท่าไม้ตายอมตะหอคอ

หอคอยดวงตาสวรรค์กลายเป็นภาพมายาราวกับภูตผี

“เปลี่ยนเป็นร่างภูตฝั่งั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า” ไปหนิงปิงเย้ยหยัน “เจ้าประเมินข้าต่ําเกินไป จิตวิญญาณมังกร!”

เด็กชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างไปหนิงปิงหัวเราะ “นายท่าน โปรดดู!”

แม้หอคอยดวงตาสวรรค์จะเปลี่ยนร่างเป็นภูตผีแต่มันยังไม่สามารถหลบหนีจากควันหนาทึบ

“นี่คือ…ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน!” ฟางหยวนและคนอื่นๆตกตะลึงและมีความสุขขณะที่ผู้อมตะของวังสวรรค์ตกตะลึงและโกรธจัด

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ทุกคนไม่เข้าใจ

ย้อนกลับไปเล็กน้อย

ภาคกลาง ถ้ํามังกรเร้น

การต่อสู้มาถึงช่วงเวลาสําคัญ

กําลังเสริมของวังสวรรค์ทําให้สถานการณ์ของสี่แม่ทัพมังกรดีขึ้น

พวกเขาทําให้การต่อสู้ยิ่งดุเดือด

สี่แม่ทัพมังกรยังหลบอยู่ในวังมังกร กลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออกติดพันอยู่ในการต่อสู้กับกําลังเสริมของวังสวรรค์

ทันใดนั้นร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นที่ขอบสนามรบ

มันคือไปหนิงปิง

เฉินอี้ใช้ท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรมส่งไปหนิงปิงออกจากสมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

แต่ไปหนิงปิงกลับถูกส่งตัวมาที่นี่โดยไม่คาดคิด

ผู้อมตะของวังสวรรค์เห็นไปหนิงปิงและต้องการกําจัดนาง

ผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่ต้องการให้ไปหนิงบิงออกไปเปิดเผยความลับของที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกําจัดผู้เห็นเหตุการณ์

ไปหนิงปิงตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

“นี่เป็นปัญหา!” ไปหนิงปิงเปลี่ยนร่างเป็นไปเชียงแต่มันไร้ประโยชน์

เมื่อความตายใกล้เข้ามา นางไม่กลัว แต่นางไม่พอใจ “ข้ามาได้เท่านี้นั้นหรือ?”

“ไม่ นายท่าน!” ในช่วงเวลาสําคัญนางได้ยินเสียงของเด็กชายผู้หนึ่ง

หลังจากนั้นไปหนิงปิงก็ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในส่วนลึกของวังมังกร

ฉากนี้ทําให้ผู้อมตะระดับแปดทั้งหมดตกตะลึงและหยุดต่อสู้

“เจ้าคือผู้ใด?” ไปหนิงปิงถามสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่ต่อหน้า

เขาเป็นเด็กชายในร่างมนุษย์ที่มีเขาอยู่บนศีรษะและหางอยู่ด้านหลัง ดวงตามังกรที่กลมโตของเขาดูน่ารักและน่าเอ็นดู

เด็กชายมองไปหนิงบิงและกล่าว “แดนศักดิ์สิทธิ์มีจิตวิญญาณแผ่นดิน ถ้ําสวรรค์มีจิตวิญญาณสวรรค์ วังมังกรก็มีข้า จิตวิญญาณมังกร!”

“วังมังกร? นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรงั้นหรือ? แล้วเหตุใดจึงเรียกข้าว่านายท่าน?” ไปหนิงปิงถาม

จิตวิญญาณมังกรหัวเราะ “วังมังกรยอมรับท่านเป็นเจ้านาย ตอนนี้ท่านเป็นทางเลือกเดียวของข้าเพราะท่านคือมนุษย์มังกรที่เหลือรอดจากเงื้อมมือของวังสวรรค์ ท่านเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเจ้านายของข้า”

“นายท่าน ข้ารอท่านอยู่ ราชันมังกรไม่รู้ถึงการคงอยู่ของข้า ข้าซ่อนตัวและทําให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเขาประสบความสําเร็จในการปรับแต่งวังมังกร วังสวรรค์ทรงพลังเกินไป ข้าขอร้องนายท่านโปรดกําจัดภัยคุกคามในปัจจุบันและอนาคต เราจะนําเผ่ามนุษย์มังกรเอาชนะเผ่ามนุษย์และปกครองโลกใบนี้!”

ไปหนิงปิงขมวดคิ้ว “ข้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แม้ข้าจะมีท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตข้าก็ไม่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด ในสถานการณ์ปัจจุบัน กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งใด”

“นายท่าน ท่านต้องมั่นใจ วิญญาณชะตากรรมเปิดเผยเรื่องนี้มานานแล้ว เผ่ามนุษย์จะล่มสลายเผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลก เผ่ามนุษย์มังกรของเราคือผู้นําคนต่อไปของโลกใบนี้ พวกเราถูกกําหนดให้ขับไล่เผ่ามนุษย์และรวมโลกเป็นหนึ่ง ราชันมังกรที่ชั่วร้ายไม่คู่ควรกับการเป็นบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร เขาเป็นคนทรยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าพันธุ์!”

“วังมังกรยังไม่ได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามวังมักงรเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด แม้มันจะใช้พลังทั้งหมดออกมา แต่มันยังยากที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ ดังนั้นข้าขอแนะนําให้นายท่านปราบต์จางเฉิง!”

ไปหนิงปิงประหลาดใจ “ข้าสามารถเอาชนะจางเฉิงงั้นหรือ?”

จิตวิญญาณมังกรเผยรอยยิ้มมั่นใจ “นายท่าน มั่นใจได้ จางเฉิงเกลียดชังเผ่ามนุษย์ มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามนุษย์มังกรของเรา เพียงวังมังกรไม่สามารถกําหราบมันได้อย่างสมบูรณ์แต่ด้วยการคงอยู่ของนายท่าน เงื่อนไขทั้งหมดจะถูกเติมเต็ม”

ไปหนิงปิงกระพริบตาซ้ําแล้วซ้ําอีก

นางมีข้อสงสัยมากมายเช่นคํากล่าวที่ว่าเผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลก มันไม่ใช่เผ่ามนุษย์ที่จะปกครองโลกนั้นหรือ? หากวิญญาณชะตากรรมกําหนดเช่นนั้นจริง เหตุใดวังสวรรค์ยังพยายามฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม?

ไปหนิงปิงระงับความสงสัยทั้งหมดและเริ่มรู้สึกตื่นเต้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจมาก”

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าก่อนตายจะมีเหตุการณ์ที่พลิกผันเช่นนี้

“วังสวรรค์ดูเหมือนจะเก็บความลับมากมายเอาไว้

“แม้ข้าจะเคยเป็นมนุษย์ แต่ตอนนี้ข้าเป็นมนุษย์มังกร การนําเผ่ามนุษย์มังกรล้มล้างเผ่ามนุษย์ทําให้ข้ารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ”

“การต่อต้านวังสวรรค์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่การนําเผ่ามนุษย์มังกรล้มล้างเผ่ามนุษย์ยิ่งน่าตื่นเต้นมากกว่า!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ น่าสนใจ

ดวงตาของไปหนิงปิงส่องประกายขึ้น “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสิ่งใดหรือมีแผนการใด ข้าไม่สนอย่างไรก็ตามหากเจ้าไม่ช่วยข้า ข้าคงตายไปแล้ว เป้าหมายของเจ้าน่าสนใจมาก ข้ายอมรับข้าควรทําอย่างไร?”

ไปหนิงปิงแตกต่างจากคนอื่นๆ นางเป็นปีศาจที่แท้จริงและจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ทําให้นางรู้สึกตื่นเต้นเท่านั้น

สิ่งที่เรียกว่าเผ่ามนุษย์ไม่สามารถผูกมัดนาง

ถั่วเว่ยหยินทรยศภาคใต้ขณะที่นางทรยศมนุษยชาติ

จิตวิญญาณมังกรมีความสุขมาก “นายท่าน ด้วยความต้องการของท่าน จางเฉิงจะภักดีต่อท่าน”

จิตวิญญาณมังกรตื่นเต้นจนน้ําตาไหล “ยอดเยี่ยม ข้าแทบยอมแพ้แล้ว แต่การปรากฏตัวของนายท่านทําให้การรอคอยของข้าไม่สูญเปล่า!”

“เจตจํานงสวรรค์ในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว นางเปลี่ยนการเปิดเผยของวิญญาณชะตากรรม แต่สิ่งนี้ไม่สําคัญ ผู้อมตะที่จําศีลอยู่ในสุสานอมตะเสียชีวิตไปมากมาย ตอนนี้เจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวสูญเสียพลังงานไปมาก เจตจํานงสวรรค์เริ่มปราบปรามนางแล้วความจริงที่นายท่านปรากฏตัวขึ้นที่นี่คือสิ่งพิสูจน์เรื่องนี้”

“ตอนนี้เราจะปราบจางเฉิง จากนั้นก็กลับไปยังสนามรบ ไม่ว่าวังสวรรค์หรือกองกําลังพันธมิตรภาคใต้และภาคเหนือ ข้าหวังว่าพวกเขาจะตายทั้งหมด นี่เป็นโอกาสที่จะยึดครองวิญญาณชะตากรรม!”

“ตราบเท่าที่เราได้รับวิญญาณชะตากรรม เราจะสามารถเลียนแบบสิ่งที่เทพอมตะแรกกําเนิดทําในอดีต ด้วยการถือมันไว้ในมือ เราจะเปลี่ยนหัวใจของผู้คน เผ่ามนุษย์มังกรจะทะยานขี้นสู่ท้องฟ้า!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท