เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1748 การเสียสละของราชันมังกร

บทที่ 1748 การเสียสละของราชันมังกร

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1748 การเสียสละของราชันมังกร

การทําลายวิญญาณชะตากรรมจะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ แต่สถานการณ์ของท์ งห้าภูมิภาคจะยังเหมือนเดิมเพราะเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว

เมื่อปราศจากวิญญาณชะตากรรม ไม่ว่าจะเป็นวังสวรรค์หรือเต่าสวรรค์ก็จะไม่สามารถใช้งานมันได้

ในสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน มนุษย์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ หลังจากทั้งหมดพวกเขาไม่เคยมองว่าเผ่าพันธุ์อื่นแข็งแกร่ง

แต่เทพปีศาจบัวแดงไม่ใช่ปีศาจต่างโลก แล้วเขาจะทําลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างไร?

แม้เขาจะเกิดใหม่นับครั้งไม่ถ้วน แต่เทพปีศาจบัวแดงก็ไม่สามารถหาวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นในการเกิดใหม่ครั้งนี้เขาจึงมาเกลี้ยกล่อมราชันมังกรให้ร่วมมือกับเขา

แต่ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะมีความลับเช่นนี้ แผนการของเทพปีศาจบัวแดงล้มเหลว

เทพปีศาจบัวแดงต้องการเกลี้ยกล่อมราชันมังกรแต่ราชันมังกรก็รอโอกาสนี้เพื่อโน้มน้าวศิษย์ของเขาอยู่แล้ว

“หงถึง หยุดซะที” ราชันมังกรกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้าเพื่อให้เจ้ากลับใจฝายธรรมะไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียงเท่านั้นแต่มันยังรวมถึงการเสียสละเพื่อมนุษชาติ วังสวรรค์และเทพอมตะกลุ่มดาวเสียสละตัวเอง แล้วเจ้า? บิดามารดาและภรรยาของเจ้าเสียชีวิตเพื่อปูทางให้เจ้าก้าวเข้าสู่ระดับเก้า การเสียสละของพวกเขามีความจําเป็นและมีคุณค่า เจ้ายังไม่เข้าใจอีกขั้นหรือ?ไหงถึงหยุดเดี๋ยวนี้”

“ไม่ ข้าจะไม่หยุด” เทพปีศาจบัวแดงยังแน่วแน่ “ท่านอาจารย์ ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าทําให้ท่านผิดหวังซ้ําแล้วซ้ําอีก แต่นี่เป็นเส้นทางที่ข้าต้องการเดินต่อไป”

ราชันมังกรสายศีรษะ “ข้าไม่ผิดหวัง หากเจ้าตกลง ข้าจะสงสัย ข้ารู้ว่าเจตจํานงของเจ้าจะไม่สั่นไหวโดยง่าย ตอนนี้ให้อาจารย์ใช้ตนเองเป็นแบบอย่างเพื่อสอนเจ้า”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

ขณะที่เทพปีศาจบัวแดงกําลังสับสน ราชันมังกรกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่เตรียมไว้

ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร!

ความสับสนของเทพปีศาจบัวแดงถูกแทนที่ด้วยความตกใจเมื่อเขาตระหนักถึงผลกระทบของท่าไม้ตายนี้

เทพปีศาจบัวแดงตะโกน “ท่านอาจารย์ ท่านจะสังหารมนุษย์มังการทั้งโลกจริงหรือ? พวกเขาคือบุตรหลานของท่าน!”

“ถูกต้อง” ราชันมังกรกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้าเป็นบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร ตั้งแต่ข้าสร้างวิธีเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกร ข้าก็เตรียมสิ่งนี้ไว้แล้ว มันจะทําให้ข้าสามารถกําจัดมนุษย์มังกรทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

“เดิมที่ข้าคิดว่าจะใช้วิธีนี้เมื่อเผ่ามนุษย์มังกรต้องการปกครองโลก อย่างไรก็ตามเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวสั่งให้ข้าปล่อยพวกเขาไปชั่วคราวและใช้มันในอนาคต”

“ข้าลังเลมาตลอด หงถึง เจ้าเคยเห็นบุตรหลานของข้า พวกเขาเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสําหรับข้า พวกเขาทําให้ข้าเพลิดเพลินไปกับวัยชรา เห้อ…ข้าแก่แล้ว”

“ท่านอาจารย์…” เทพปีศาจบัวแดงไม่สามารถกล่าวสิ่งใด

ดวงตาของราชันมังกรเปลี่ยนเป็นสีแดง เทพปีศาจบัวแดงไม่เคยเห็นแง่มุมที่อ่อนไหวของราชันมังกรมาก่อน

ราชันมังกรกล่าวต่อ “แม้วิญญาณชะตากรรมจะไม่กําหนดให้มนุษย์มังกรปกครองโลก แต่เผ่ามนุษย์มังกรก็ยังเป็นภัยคุกคามต่อวังสวรรค์และเผ่ามนุษย์”

“เผ่ามนุษย์มังกรถูกสร้างขึ้นโดยข้า อายุขัยของมนุษย์มังกรยืนยาวกว่ามนุษย์ แล้วมนุษย์จะไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรได้อย่างไร? เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์มังกรจะเพิ่มจํานวนขึ้นเรื่อยๆขณะที่ประชากรมนุษย์จะลดลงอย่างต่อเนื่อง”

“สิ่งที่น่ากลัวก็คือมนุษย์มังกรเกิดจากมนุษย์ นั่นจะทําให้ความระวังตัวของมนุษย์ลดลงตามธรรมชาติ โดยปราศจากชื่อเสียงของข้าและการปกป้องของเทพอมตะ ผู้ใดจะสามารถกดขี่เผ่ามนุษย์มังกร?”

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เผ่ามนุษย์มังกรจะปราบปรามเผ่ามนุษย์ในอนาคต หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดวิญญาณชะตากรรมจะกําหนดให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลกอีกครั้ง ผลที่ตามมาจะไม่สามารถจินตนาการ”

ราชันมังกรมองเทพปีศาจบัวแดงอย่างลึกซึ้ง “เมื่อเจ้ามาที่นี่และพยายามเกลี้ยกล่อมข้า ข้าก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือช่วงเวลาที่เทพอมตะกลุ่มดาวพยากรณ์ไว้ เผ่ามนุษย์มังกรไม่ควรมีอยู่ แต่การกําจัดพวกเขาก็ต้องมีคุณค่าเช่นกัน คุณค่านี้มีไว้เพื่อโน้มน้าวเจ้า ศิษย์ของข้าไหงถึงอาจารย์ต้องการสอนจิตวิญญาณแห่งการเสียสละแก่เจ้า ข้าจะแสดงจิตวิญญาณของมนุษย์ให้เจ้าเห็น!”

เทพปีศาจบัวแดงอุทาน “ท่านอาจารย์…”

ร่างของราชันมังกรสั่นสะท้านขึ้นและไม่สามารถกลั้นน้ําตาเอาไว้ได้อีกต่อไป

เขาฆ่าบุตรหลานทั้งหมดของเขาด้วยตนเอง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเจ็บปวดแต่ไม่มีร่องรอยของความเสียใจ

เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง “หงถึง ศิษย์ของข้า เส้นทางของเจ้าไม่สามารถไปต่อ เจ้าไม่สามารถเอาชนะวังสวรรค์!”

“ พลังอํานาจของวังสวรรค์ไม่ได้มีเพียงรากฐานหรือวิญญาณชะตากรรม!”

“พลังอํานาจที่แท้จริงของมันมาจากการเสียสละของผู้อมตะจากรุ่นสู่รุ่น ทุกคนต่างปกป้องมนุษยชาติ!”

“หากปราศจากการเสียสละเหล่านี้ เผ่ามนุษย์จะถูกเหยียบย่ําและตกเป็นทาสของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เราจะไม่มีชีวิตที่ดีเช่นตอนนี้”

“หงถึง อาจารย์สอนเจ้า วังสวรรค์หล่อเลี้ยงเจ้า สิ่งที่เจ้าได้รับคือผลของการอุทิศตนและการเสียสละตนเองของบรรพบุรุษของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!”

“กลับมาเถอะ หงถึง!”

“ทําตามสิ่งที่ชะตากรรมกําหนด!”

เทพปีศาจบัวแดง “”

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

ความทรงจําของราชันมังกรผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เขามองวังมังกรและเย้ยหยัน “น่าเสียดาย จิตวิญญาณมังกร การดํารงอยู่ของเจ้าถูกอนุมานไว้แล้วโดยเทพธิดาจื่อเว่ย เจ้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น”

ในเวลาต่อมาราชันมังกรกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้ท่าไม้ตายอมตะนี้เพื่อเกลี้ยกล่อมเทพปีศาจบัวแดงแต่ไม่สําเร็จ

อย่างไรก็ตามตอนนี้มันมากเกินพอที่จะฆ่าไปหนิงปิง

ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร!

ร่างของไปหนิงปิงสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง หัวใจของนางราวกับถูกบางคนบดขยี้ นางล้มลงบนพื้นและไอออกมาเป็นเลือด

จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องด้วยความตกใจ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

มันไม่รู้ความลับในอดีต

ในความเป็นจริงมันพึ่งถือกําเนิดขึ้นหลังจากเผ่ามนุษย์มังกรถูกทําลายล้างโดยราชันมังกร

ภายใต้การเฝ้ามองของจิตวิญญาณมังกร ไปหนิงปิงเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ศพที่เย็นเยียบของนางนอนอยู่ในวังมังกร

วังสวรรค์

เทพธิดาจื่อเว่ยเดินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะที่กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณ

นางมาที่นี่เพื่อตรวจสอบบางสิ่ง

“ข้ากังวลมากเกินไป แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะดุร้ายและทรงพลัง แต่เทพปีศาจจิต วิญญาณในปัจจุบันเป็นเพียงดวงวิญญาณที่เหลืออยู่ โดยปราศจากวิญญาณและพลังงานอมตะ เขาจะทําสิ่งใดได้? เขาไม่แม้แต่จะสามารถหลบหนีออกจากที่นี่”

“โอ้ จิตวิญญาณมังกรปรากฏตัวขึ้นแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบางเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้

นางอนุมานการคงอยู่ของจิตวิญญาณมังกรเนื่องจากความสงสัยเกี่ยวกับการกดขี่แม่ทัพมังกรทั้งสี่ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

หลังจากค้นพบการควงอยู่ของจิตวิญญาณมังกร ราชันมังกรและเทพธิดาจื่อเว่ยจึงวางแผนทั้งหมด

นี่เป็นกับดักสําหรับผู้อมตะของทะเลตะวันออกรวมถึงจิตวิญญาณมังกระและตี้จางเฉิง

หากไม่มีกลยุทธ์ดังกล่าว เทพธิดาจื่อเว่ยจะกล้าใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคนและแสดงภาพเหตุการณ์ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติได้อย่างไร?

เทพธิดาจื่อเว่ยเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เก็บวิญญาณอมตะความเมตตาเอาไว้

นางคิดกับตนเอง “ตอนนี้ถึงเวลาจัดการวิญญาณกาลเวลาของฟางหยวนแล้ว”

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

“บึม!”

วังมังกรถูกส่งลอยกลับหลัง จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันถูกทําลาย หอคอยดวงตาสวรรค์กลับมาอีกครั้งผู้อมตะของวังสวรรค์หัวเราะอย่างเต็มที่ แผนการของพวกเขาประสบความสําเร็จ

“บัดซบ! ทั้งหมดเป็นอุบายของวังสวรรค์” ฟางหยวนต้องยอมรับความจริง เราแพ้การต่ อสู้ครั้งนี้!”

ชิงช่ายฉวนตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน

การกลับมาของหอคอยดวงตาสวรรค์ทําให้ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น

ถึงเวลาล่าถอย” สายตาของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามีท่าไม้ตายท่องแดนอมตะ เขามีโอกาสหลบหนีหากใช้มันในเวลาที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ปิดล้อมฟางหยวนและคนอื่นๆนําโดยลั่วเว่ยหยิน

ถั่วเว่ยหยินเข้าใจสถานการณ์และเร่งใช้ท่าไม้ตายอมตะแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ

แดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศสามารถหยุดการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทั้งหมด

ท่าไม้ตายอมตะของแท่นบูชาแห่งโชคก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ทุกคนตกตะลึงกับความสามารถนี้ของถั่วเว่ยหยิน

การเคลื่อนไหวของถั่วเว่ยหยินทําให้ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือจมลงสู่ความสิ้นหวัง

อีกด้านหนึ่งราชันมังกรสามารถหลบหนีจากตี้จางเฉิงและพุ่งไปยังวังมังกร

จางเฉิงต้องการไล่ตามแต่มันถูกกีดขวางโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์

“ราชันมังกร คนทรยศของเผ่ามนุษย์มังกร!” จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องขณะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของวังมังกร

ราชันมังกรไม่สามารถค้นหามันได้ในเวลาอันสั้น เขาทําได้เพียงใช้กําลังบังคับปรับแต่งวังมังกรอีกครั้งเท่านั้น

เขาหัวเราะ “ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับจางเฉิง ตอนนี้ตราบเท่าที่ข้าสามารถควบคุมวังมังกร ตี้จางเฉิงจะกลายเป็นทาสของข้า วังสวรรค์จะได้รับสัตว์อสูรแรกกําเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!”

จิตวิญญาณมังกรสาปแช่งราชันมังกรที่น่ารังเกียจและน่าสะพรึงกลัวด้วยความโกรธ มันใช้ความพยายามทั้งหมดต่อต้านการปรับแต่งของราชันมังกรขณะเดียวกันก็เรียกต์จางเฉิงกลับมา

ตี้จางเฉิงคํารามซ้ําแล้วซ้ําอีกและพยายามหลบหนีจากสิ่งกีดขวาง

แนวป้องกันของวังสวรรค์เกือบพังทลายแต่ในช่วงเวลาสําคัญหอคอยดวงตาสวรรค์สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะยอมจํานนต่อโชคชะตาอีกครั้ง

ตี้จางเฉิงถูกโจมตีอย่างหนัก

ผู้อมตะเกือบครึ่งที่อยู่รอบข้างฟางหยวนเสียชีวิตทันที

พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าน่ากลับเกินไป

มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่สามารถต่อต้านพลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะยอมจํานต่อโชคชะตา

“ฟางหยวน อย่าคิดว่าจะรอด!”

“เจ้าหนีไม่พ้น”

“ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้เตรียมมาเป็นพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ รับไป!”

ผู้อมตะระดับแปดเกือบสิบคนปิดล้อมฟางหยวนและใช้ท่าไม้ตายอมตะโจมตีเขาจากทุกทิศทาง

“พวกเขาพยายามปิดผนึกวิญญาณกาลเวลาของข้า บัดซบ!” ฟางหยวนกัดฟันแนน

เขาไม่ลังเลที่จะใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกรแต่พวกมันยังถูกปราบปรามโดยกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์

ทันใดนั้นเสียงคํารามของมังกรก็ดังไปทั่วสนามรบ ศีรษะขนาดมหึมาของจางเฉิงพุ่งชนทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวฟางหยวน

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานตัวนี้กําลังรีบร้อนเช่นกัน มันอดทนต่อท่าไม้ตายอมตะจํานวนมากและพยายามไปเสริมกําลังให้กับวังมังกร

“ฮ่าฮ่าฮ่า ช้าไปแล้ว!” ราชันมังกรหัวเราะเสียงดัง เขาปรับแต่งวังมังกรส่วนใหญ่ไปแล้วและกําลังจะจับจิตวิญญาณมังกร

จิตวิญญาณมังกรตะโกน “ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าสมปรารถนา!”

“บึม!”

วังมังกรระเบิดตัวเองอย่างรุนแรง วังมังกรที่เคยยิ่งใหญ่เหลือเพียงซากปรักหักพัง

“จังหวะนี้!”ด้วยการใช้ประโยชน์จากความโกลาหล ฟางหยวนสามารถหลบหนีออกจากวงล้อม

“ปีศาจกําลังจะตอบโต้ ข้าจะปกป้องทุกคน!” ถั่วเว่ยหยินตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศอีกครั้ง

“ได้เวลาแล้ว!” ในเวลาเดียวกันเทพธิดาจื่อเว่ยก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียม!

ราชันมังกรฉีกกระชากแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศเพื่อเปิดทางเข้าไปหาฟางหยวน

จางเฉิงที่อยู่ระหว่างทางก้มหน้าลงทําความเคารพราชันมังกร

“ฟางหยวน ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” ราชันมังกรปรากฏตัวต่อหน้าฟางหยวนราวกับการเคลื่อนย้ายข้ามมิติ

ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย ฟางหยวนพยายามใช้ท่าไม้ตายทั้งหมดแต่พวกมันยังไร้ประโยชน์

“ปัง!”

ฟางหยวนถูกโจมตีโดยราชันมังกรโดยตรง ร่างของเขาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษเลือดเนื้อและกระดูกกระเด็นไปทุกหนทุกแห่ง

เขาตายแล้ว!

ฟางหยวนตายแล้ว ความหวังสุดท้ายหายไปแล้ว

ชิงช่ายฉวยและคนอื่นๆเหมือนทหารที่พ่ายศึก พวกเขายืนมีนงงอยู่ในจุดเกิดเหตุ

หลังจากชั่วครูบางคนคิดที่จะมอบตัว ขณะที่ปิงช่ายฉวยตะโกนเสียงดังและพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

ราชันมังกรหัวเราะเย้ยหยันก่อนจะสังหารชิงช่ายฉวยและคนอื่นๆ

หลังจากไม่นานสงครามอันยาวนานก็สิ้นสุดลง

“เราชนะ!”

“วังสวรรค์จงเจริญ ราชันมังกรจงเจริญ!”

ผู้อมตะภาคกลางโห่ร้องด้วยความยินดี

ราชันมังกรกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาที่ถั่วเว่ยหยิน

ถั่วเว่ยหยินโค้งคํานับ “ท่านราชันมังกรโปรดออกคําสั่ง?”

ราชันมังกรหัวเราะ “เราเป็นหนี้เจ้าที่ให้ยืมวิญญาณความเมตตา เจ้าเข้าข้างพวกเราในการต่อสู้ครั้งนี้ วังสวรรค์จะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน”

ถั่วเว่ยหยินรีบขอบคุณ

ราชันมังกรลอบติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย “ใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียมหรือยัง?”

เทพธิดาคือเว่ยกล่าว “เรียบร้อยแล้ว พวกเราจะโจมตีลัวเว่ยหยินตอนนี้หรือไม่?”

ราชันมังกรตอบกลับ “ปล่อยเขาไป หากเราทําร้ายเขา ผู้ใดจะกล้าเข้าข้างพวกเรา ในอนาคต?ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียมเป็นการตอบโต้วิญญาณกาลเวลา ไม่ว่าฟางหยวนจะกําเนิดใหม่หรือไม่ ตราบเท่าที่ข้ายังอยู่ เขาจะไม่สามารถทําสิ่งใด”

ราชันมังกรสูดหายใจลึกก่อนกล่าว “ในที่สุดแผนการของเราก็ประสบความสําเร็จ”

เสียงของเทพธิดาจื่อเว่ยเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ถูกต้อง โดยใช้แผนการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมล่อให้ผู้อมตะอีกสี่ภูมิภาคเข้ามาและกระตุ้นให้คนภาคกลางเกิดความเกลียดชัง เราสามารถกําจัดศัตรูและภัยคุกคามภายใน ยุคที่ยิ่งใหญ่กําลังจะมาถึง ภาคกลางของเราจะรวมเป็นหนึ่ง พวกเขาจะเชื่อฟังคําสั่งของวังสวรรค์”

นางรู้ว่าราชันมังกรกําลังจะตาย

ราชันมังกรหัวเราะอย่างเต็มที่ เขาไม่สนใจความตายของตน “มีเจ้าอยู่ ข้าสามารถพักผ่อนได้อย่างสงบสุข”

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจะไม่ต่อสู้ในแนวหน้า พวกเขามีประโยชน์มากกว่าในการวางแผน

“ท่านอาจารย์!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟงจินฮวงภายใต้การคุ้มครองของฟงจิวเก้อมาถึงและกรีดร้

นางรู้เช่นกันว่านี่คือช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของราชันมังกร

ราชันมังกรลูบศีรษะฟงจินฮวงและกล่าว “วันหนึ่งผู้คนก็ต้องตาย ใบไม้ร่วงหล่นและหวนคืนสู่รากเหง้า ต้นไม้ต้นใหม่จะโผล่ขึ้นมาแทนต้นเก่า ศิษย์ของข้า ไม่จําเป็นต้องโศกเศร้า”

ในเวลาเดียวกันราชันมังกรลอบส่งเสียงและออกคําสั่ง “ฮวงเอ๋อ เจ้าจะกลายเป็นเทพอมตะและน้ําวังสวรรค์สู่ความรุ่งโรจน์ ภาคกลางตั้งอยู่ระหว่างสีภูมิภาค เราไม่มีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ แต่เราเหนือกว่าพวกเขา เรามีระบบนิกายที่คงอยู่มานาน ก่อนหน้านี้ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะอาจไม่พอใจวังสวรรค์ที่ครอบครองทรัพยากรมากมาย”

“แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เราจะไม่มีภัยคุกคามภายใน ใจของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว เจตจํานงของพวกเราหลอมรวมเป็นหนึ่ง พวกเขาต้องการแก้แค้น วังสวรรค์จะกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคน วังสวรรค์คงอยู่มาหลายล้านปี เรายังมีวิญญาณชะตากรรม หลังจากนี้เราจะพิชิตโลกทั้งใบ รวมมนุษยชาติเป็นหนึ่ง สร้างกองกําลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนและคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์!”

“อาจารย์ทําให้เจ้าได้เพียงเท่านี้”

หลังกล่าวจบคําราชันมังกรก็มองไปยังเส้นขอบฟ้า

อาทิตย์กําลังจะตกดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง

แสงสุดท้ายสองมาที่ร่างของราชันมังกร

เขามังกรของเขาหักแต่มันทําให้เขายิ่งดูชั่วร้ายและน่าเกรงขามมากขึ้น

ดวงตามังกรของเขายังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

เกล็ดมังกรแตกและเต็มไปด้วยบาดแผล กรงเล็บมังกรของเขาคร่าชีวิตผู้อมตะระดับแปดมานับไม่ถ้วน

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์มองเขาอย่างเงียบๆ

ไม่มีผู้ใดส่งเสียงออกมา

ตี้จางเฉิงก้มศีรษะลงและไม่ขยับเขยื้อน

โลกเกิดการสั่นสะเทือนและส่งเสียงดังไปทั่ว

เป็นเพียงเวลานี้ที่กําแพงภูมิภาคหายไปอย่างสมบูรณ์ เส้นโลหิตปฐพีของห้าภูมิภาคเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว

โดยปราศจากกําแพงภูมิภาค ผู้คนสามารถเดินทางผ่านห้าภูมิภาคได้อย่างอิสระ ในเวลาเดียวกันความแตกต่างของปราณสวรรค์พิภพก็ค่อยๆหายไป

ราชันมังกรยิ้มและกล่าวอย่างมีความหวัง

“อา…ยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว…”

นี่คือประโยคสุดท้ายของเขา

เขาปิดเปลือกตาลงอย่างช้าๆ

เวลาของเขาหมดลงแล้ว

เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า บุคคลในตํานานล่วงลับไปแล้ว

แต่ร่างกายที่ยิ่งใหญ่ของเขายังอยู่ในสายตาของคนภาคกลางทั้งหมด

การเสียสละทั้งหมดของเขาเหมือนประกายไฟที่ลุกกองเพลิงขึ้นในหัวใจของผู้คน

นี่คือราชันมังกร

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท