เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1728 พันธมิตรชั่วคราว

บทที่ 1728 พันธมิตรชั่วคราว

บทที่ 1728 พันธมิตรชั่วคราว

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

“ค่ายกลนี้เป็นอย่างไร?” วูหยงถาม

ด้านข้างเขาคือผู้อมตะระดับแปดจื่อชิวหยูและอี้ห่าวฟาง ติดตามมาด้วยกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดของภาคใต้

ไม่ไกลนักยังมีเหยากวง จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู และชูตู๋

หลังจากหารือ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงชั่วคราว พวกเขาตัดสินใจสร้างความร่วมมือและโจมตีวังสวรรค์

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทํางานร่วมกัน ข้อตกลงพันธมิตรค่อนข้างยืดหยุ่น พวกเขายังระวังซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม วูหยงค่อนข้างพอใจกับมัน

“ภาคใต้กับภาคเหนือร่วมมือกัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์!

“ด้วยความช่วยเหลือจากภาคเหนือ เราจะไม่เสียเปรียบด้านกําลังรบ แม้วังสวรรค์จะส่งกําลังเสริมออกมา แต่ปาชื่อปาและองค์ชายฟังเซี่ยนที่อยู่ด้านนอกสามารถหยุดพวกเขาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เราจะมีเวลาเพียงพอที่จะตอบสนอง

วูหยงคิด

จื่อชิวหยูกล่าวมาจากด้านข้าง “นี่เป็นค่ายกลรูปแบบใหม่ ข้าไม่เคยเห็นมันในบันทึกใดๆมาก่อน”

เหยากวงเผยรอยยิ้ม “สหายภาคใต้สามารถพักฟื้น กลุ่มของข้าพึ่งมาถึงและอยู่ในสภาพที่ดี ให้เราตรวจสอบมัน”

วูหยงป้องหมัดขึ้น “ทุกคนรู้จักความกล้าหาญของคนเหนือ เราจะรออยู่ที่นี่และพักฟื้น หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น เราจะให้ความช่วยเหลือทันที”

เหยากวงพยักหน้าและออกคําสั่งบางคน

ผู้อมตะกลุ่มนี้ถูกคัดเลือกมาโดยปิงช่ายฉวนเพื่อปฏิบัติภารกิจนี้โดยเฉพาะ

การบุกโจมตีวังสวรรค์เป็นเรื่องสําคัญ ปิงช่ายฉวนต้องเก็บเป็นความลับ หากมีคนรู้มากเกินไป แผนการของเขาอาจล้มเหลว พวกเขาจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้

ดังนั้นปิงช่ายฉวนจึงเลือกคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดเพียงไม่กี่คน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

หลังจากทั้งหมดองค์ชายฟงเซียนเป็นสายลับของภาคกลางที่มีความสําเร็จมากที่สุด

หลังจากปิงช่ายฉวนพ่ายแพ้ในสมรภูมิวังสวรรค์ เขาออกคําสั่งเหยากวงก่อนจะติดต่อฟางหยวน

เหยากวงเข้าใจความสําคัญของภารกิจนี้ เนื่องจากโอกาสในการฉกชิงวิญญาณชะตากรรมลดลงแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจึงกลายเป็นสนามรบที่สําคัญที่สุด ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถทําลายมัน แผนการของวังสวรรค์จะล้มเหลว

ด้วยวิธีนี้ วังสวรค์ต้องใช้เวลาอีกมากในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ความหวังของอีกสี่ภูมิภาคจะเพิ่มขึ้น

นี่เป็นเหตุผลที่ภาคเหนือกับภาคใต้สามารถบรรลุข้อตกลงและทํางานร่วมกันด้วยความจริงใจ

วังสวรรค์มีท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง แต่ภาคเหนือกับภาคใต้ก็สามารถร่วมมือกัน นี่เป็นสิ่งที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

เหยากวงส่งเหนียงเอ๋อยู่ออกไปตรวจสอบค่ายกลวิญญาณอมตะ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เขาสามารถปกป้องตนเอง

แนวป้องกันชั้นนี้ของค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นเหมือนถ้ําใต้พิภพ มันเป็นถ้ําขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย บนพื้นปูด้วยหญ้าหลากหลายสีสัน

เหนียงเอ๋อตรวจสอบอย่างระมัดระวังภายใต้การเฝ้ามองของทุกคน

เหนียงเอ่อผู้มีความสามารถในการเคลื่อนที่ เขาสามารถรักษาชีวิตจากสถานการณ์อันตราย แต่เผชิญหน้ากับค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ เขาไม่กล้าประมาท

หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ชีวิตของเขาอาจจบลงที่นี่

เมื่อเหนียงเอ๋อเคลื่อนที่เข้าไป หินงอกหินย้อยเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มันเหมือนฟันของสัตว์อสูรที่ต้องการกัดเหยื่อ

เหนียงเอ๋อฝพยายามวิ่งหนี แต่แสงสีรุ้งกลับจํากัดความสามารถในการเคลื่อนที่ของเขา มันยังทะลวงผ่านการป้องกันของเขาอีกด้วย

“แสงสีรุ้งคือค่ายกลบิดทวารทั้งเจ็ด โจมตีแสงสีรุ้งและช่วยเหนียงเอ๋อยู่ออกมาก่อนจะสายเกินไป!” จื่อชิวหยูตะโกนเตือน

ผู้อมตะภาคเหนือกับภาคใต้ทํางานร่วมกันและสามารถช่วยเหนียงเอ๋อฝูออกมาได้ในที่สุด

“เกือบแล้ว หากไม่มีพวกเจ้า ข้าคงตายไปแล้ว” เหนียงเอ๋อยู่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ใบหน้าของเจ้า” นูเอ๋อเฉียงชี้ไปที่ใบหน้าของเหนียงเอ๋อ

“มีสิ่งใด?” เหนียงเอ๋อฝูยกมือขึ้นจับใบหน้าของตนและสัมผัสได้ถึงเนื้อที่แข็งเหมือนหินหยก

“เจ้ายังถูกโจมตี ดูเหมือนมันไม่ได้เป็นเพียงค่ายกลบิดทวารทั้งเจ็ดแต่มีค่ายกลหนานหยกรวมอยู่ด้วย” ผู้อมตะคลื่นทมิฬกล่าว

เขาเป็นสมาชิกของถ้ําสวรรค์นิรันดรที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกล

คํากล่าวของเขาได้รับการยอมรับจากจื่อชิวหยู “นี่เป็นการผสมผสานระว่างค่ายกลปิดทวาร ทั้งเจ็ดและค่ายกลหนานหยกจริงๆ”

“แล้วเราจะทําลายมันอย่างไร?” วูหยงถาม

จื่อชิวหยูเผยรอยยิ้มมั่นใจ “หากมีเพียงพวกเราอาจเป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้เรามีสหายภาคเหนือ มันไม่ใช่ปัญหา”

ขณะที่กองกําลังของภาคเหนือและภาคใต้สร้างความร่วมมือ ฟางหยวนกําลังต่อสู้กับหลี่ฮวง และชิงเย่

“ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์เป็นปัญหาจริงๆ” ดวงตาของฟางหยวนสองประกายเย็นเยียบ

หลี่ฮวงและซิงเย็ได้รับการสนับสนุนจากท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน ความสามารถของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นในทุกแง่มุม นั่นทําให้พวกเขาสามารถไล่ตามฟางหยวน สําหรับคฤหาสน์ วิญญาณอมตะของภาคกลาง มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงสองหลังที่ไล่ล่าเขา ส่วนที่เหลือกําลังไล่ล่ากลุ่มผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก

หลังจากได้รับข้อมูลจากปิงชายฉวน ฟางหยวนบินไปในทิศทางตรงข้ามกับแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ที่ติ

ถึงเวลาแล้ว!” ฟางหยวนสะบัดแขนเสื้อส่งบุตรแห่งภูตจํานวนนับไม่ถ้วนออกไป

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย!

ฟางหยวนผสานตัวเข้าไปในกองทัพบุตรแห่งภูต

“ฟางหยวน เจ้าจะไปที่ใด?” หลี่ฮวงตะโกน

“เจ้าถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบแล้ว เจ้าไม่สามารถซ่อนตัว” ชิงเย่หัวเราะเย้ยหยัน

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสองพุ่งเข้าไปหาร่างหลักของฟางหยวน

เห็นได้ชัดว่าวังสวรรค์เริ่มใช้มาตรการตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยของฟางหยวนแล้ว

“นี่ค่อนข้างลําบาก” ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบินเข้าสู่สวรรค์สีขาว

ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า กายาสวรรค์

ด้วยความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายนี้ ฟางหยวนค้นพบเมฆดําขาวอย่างรวดเร็ว

“โอ้ ไม่ หยุดเขา!”

“ทําลายเมฆดําขาวเหล่านั้น!”

หลีฮวงและชิงเย่รู้ว่าฟางหยวนต้องการใช้เมฆดําขาวเพื่อหลบหนี

ฟางหยวนหัวเราะ “เหตุใดพวกเจ้าไม่ลองค้นหาร่างหลักของข้าอีกครั้ง?”

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกร!

นี่เป็นท่าไม้ตายใหม่ที่ฟางหยวนรวมท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร ราชันภูต บุตรแห่งภูต และใบหน้าที่คุ้นเคยเข้าด้วยกัน มันเป็นหนึ่งในความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขา

อสูรวิญญาณร่างมังกรดาบบรรพกาลจํานวนนับไม่ถ้วนบินออไป

“เป็นวิธีการที่น่าทึ่ง!” การแสดงออกของหลี่ฮวงและชิงเย่เปลี่ยนแปลงไป

อสูรวิญญาณมังกรดาบบรรพกาลสามารถระเบิดตัวเอง มันมีพลังอํานาจที่น่าเหลือเชื่อ

กระทั่งเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของหลี่ฮวงก็ไม่สามารถต่อต้าน หลังจากถูกโจมตีหลายครั้ง เสื้อคลุมเพลิงสุริยันก็อ่อนแอลงมาก

ซิงเย่อยู่ในสภาพที่น่าอนาถมากกว่า เขาคิดด้วยความตกใจ “ท่าไม้ตายนี้ช่างทรงพลังนัก!!

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกรไม่มีจุดอ่อน มันทรงพลังมาก แต่มันเหมือนวายุไร้ขอบเขตของวูหยงที่ต้องจ่ายด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

วายุไร้ขอบเขตของวูหยงใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋หนึ่งหมื่นร่องรอย แต่หมื่นภูตมังกรของฟางหยวนใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต่ําสี่พันร่องรอย

หลี่ยวงและชิงเย่กําลังยุ่งอยู่กับการปกป้องตนเอง ดังนั้นฟางหยวนจึงมีโอกาสหลบหนีโดยพึ่งพาเมฆดําขาว

เขาเข้าสู่สวรรค์สีดําก่อนจะใช้ท่าไม้ตายท่องแดนอมตะเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

“ข้ามาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติในที่สุด” ฟางหยวนถอนหายใจ

เขาได้รับตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติมาจากปิงชายฉวน

“ผู้ใด?” การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้กองกําลังของภาคเหนือและภาคใต้ตื่นตัวมาก

“ข้าเอง” ฟางหยวนกันเสียงเย็น

ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลเมี่แตระหนักถึงตัวตนของฟางหยวน

ฟางหยวนสังเกตสนามรบอย่างรวดเร็ว วายุไร้ขอบเขตดึงดูดความสนใจของเขามากที่สุด ต่อมาก็เป็นองค์ชายฟงเซี่ยนและปาชื่อปา

“เจ้าอยู่ที่นี่” ชูตู๋ที่ได้รับบาดเจ็บปานกลางบินเข้าไปทักทายฟางหยวน

องค์ชายฟงเขียนและปาชื่อปามองฟางหยวนด้วยสายตาซับซ้อน

ตอนนี้กลุ่มของวูหยงและเหยากวงสามารถผ่านแนวป้องกันสามชั้นแต่พวกเขายังติดอยู่ที่แนวป้องกันชั้นต่อไป

ด้วยการเตรียมการของปิงชายฉวน กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือรู้ว่าฟางหยวนกําลังมา นั่นหมายความว่าผู้อมตะภาคใต้ก็ต้องรู้เช่นกัน

ฟางหยวนสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในภาคเหนือและภาคใต้ กองกําลังฝ่ายธรรมะของทั้งสองภูมิภาคพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องร่วมมือกันต่อต้านศัตรูร่วมที่แข็งแกร่ง นั่นคือวังสวรรค์

“ไม่ว่าค่ายกลวิญญาณอมตะจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่มันจะหยุดข้าได้อย่างไร”

“เวลามีน้อย ข้าไม่ต้องการคําอธิบายเพิ่มเติม เปิดเส้นทางให้ข้า ข้าจะระเบิดกายาแห่งความฝัน!”

ฟางหยวนพยักหน้าให้กับชูตู้และเริ่มโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะโดยไม่ยอมเสียเวลา

ชูตู้และคนอื่นๆมีความสุขมาก พวกเขากําลังรอสิ่งนี้จากฟางหยวน

ฟางหยวนมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝัน ตราบเท่าที่เขาจุดชนวนกายาแห่งความฝัน อาณาจักรแห่งความฝันจะกระจายออกไป ค่ายกลวิญญาณอมตะจะพังทลายลง

เพียงไม่นานฟางหยวนก็พบกับเหยากวงและคนอื่นๆ

เหยากวงชําเลืองมองวูหยงและจงใจถาม “ฟางหยวน เจ้ามาแล้วงั้นหรือ?”

ใบหน้าของวูหยงแข็งค้างไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปทางเหยากวงและกล่าว “ให้ฟางหยวนทําข้อตกลงพันธมิตรก่อน บอกเขาว่าข้ายินดีละทิ้งความบาดหมางระหว่างเราและสร้างความร่วมมือชั่วคราว!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท