เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1723 การโจมตีที่รุนแรง

บทที่ 1723 การโจมตีที่รุนแรง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1723 การโจมตีที่รุนแรง

ดาบวงแหวนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก มันได้รับการยอมรับว่าเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดในโลกผู้อมตะภาคเหนือ มันสามารถแยกลมมรณะออกจากกันได้เป็นการชั่วคราว ทุกคนรู้จักความน่าสะพรึงกลัวของมันเป็นอย่างดี

“ข้าจะหลบได้หรือไม่?” ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชันมังกร

ดาบวงแหวนพุ่งตรงเข้ามาที่หน้าผากของเขา

ในช่วงเวลาสําคัญราชันมังกรสามารถหลบดาบวงแหวนแต่เขามังกรของเขาถูกตัดออกไป

ราชันมังกรตกตะลึง

ยักษ์ทองคําขยับนิ้วของมัน

ท่าไม้ตายอมตะเชื่อกอมตะ!

นี่เป็นวิธีจับตัวผู้อมตะอันดับหนึ่งของภาคเหนือ

เชือกสีทองปรากฏขึ้นบนร่างของราชันมังกร มันรัดพันรอบเอวของเขาสามรอบ ขณะเดียวกันมันก็ถูกดึงเข้าไปหายักษ์ทองคํา

ท่าไม้ตายอมตะดาบวงแหวน!

ยักษ์ทองคําส่งดาบวงแหวนออกมาอีกครั้ง

ราชันมังกรกัดฟันแน่น เขาคํารามเสียงดัง มัดกล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้นและทําให้เขาหลุดออกจากการพันธนาการของเชือกอมตะ

ยักษ์ทองคําต้องการจับราชันมังกรอีกครั้ง

เขี้ยวของราชันมังกรพุ่งออกมาจากปากและบินไปรอบๆเหมือนดาบที่ปกป้องร่างกายของเขา

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะเขี้ยวมังกรบิน!

แม้ยักษ์ทองคําจะมีท่าไม้ตายอมตะเชื่อกอมตะที่ทรงพลัง แต่มันยังถูกตัดขาดโดยเขี้ยวมังกร

บิงชายฉวนรู้สึกสงสัยและเสียใจ “เขี้ยวมังกรดั้งเดิมมีขนาดเท่าท่อนแขน แต่ตอนนี้มันเหมือนเสายักษ์สองต้น ราชันมังกรใช้วิธีใดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง น่าเสียดายที่ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอ่อนแอลงมากเพราะการฟื้นตัวขึ้นของวิญญาณชะตากรรม หากมันมีพลังดั้งเดิม ราชันมังกรจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีก่อนหน้านี้!”

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณที่สร้างขึ้นจากผู้อมตะระดับแปดจํานวนสามคนและผู้อมตะระดับเจ็ดอีกสี่คน

พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงของตระกูลฮวงจิน พวกเขามีชื่อเสียงมากในอดีต ท่าไม้ตายอมตะดาบวงแหวนเป็นไพ่ตายของเผ่าชานอวี่ ขณะที่ท่าไม้ตายเชือกอมตะเป็นไพ่ตายของเผ่าเย่หลิว

ด้วยการคงอยู่ของความสิ้นหวังทั้งเจ็ด สถานการณ์กลายเป็นชะงักงันอีกครั้ง

แท่นบูชาแห่งโชคปลอดภัยชั่วคราว แต่ฝ่ายของถ้ำสวรรค์นิรันดรยังไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

ผู้อมตะของวังสวรรค์สร้างแนวป้องกันสามชั้น ผู้อมตะภาคเหนือไม่สามารถเข้าไปใกล้โดยไม่ต้องกล่าวถึงการเข้าไปภายใน

“สถานกาณ์อาจดูเหมือนชะงักงันแต่วังสวรรค์มีความได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ” ชิงช่ายฉวนแสดงออกอย่างเย็นชา

ผู้อมตะภาคเหนือรักการต่อสู้ พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าผู้อมตะของภูมิภาคอื่น

บิงชายฉวนเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ เขาเต็มไปด้วยประสบการณ์ แม้สถานการณ์จะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่สามารถสั่นคลอนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา

เขาพยามยามหาทางออก

“ถ้ำสวรรค์นิรันดรวางแผนมาเป็นอย่างดี เรามีวิธีตอบโต้ของเรา”

“ตอนนี้เราต้องติดต่อฟางหยวนและคนอื่นๆเพื่อมุ่งเป้าไปที่โลกภายนอก”

ชิงช่ายฉวนเร่งติดต่อฟางหยวนและคนอื่นๆ เพื่อออกคําสั่ง

“พวกเขากําลังใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อติดต่อกับโลกภายนอก!” สมาชิกวงสวรรค์บางคนสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของปิงช่ายฉวน

เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น วังสวรรค์ไม่มีวิธีต่อต้านวิธีบนเส้นทางแห่งโชค

เมืองจักรพรรดิ

ฟางหยวนในร่างราชันภูตบินอยู่บนท้องฟ้า

ในสายตาของเขา หลี่ฮวงและชิงเย่เหมือนคบเพลิงสองดวงที่พุ่งเข้ามาหาเขาท่ามกลางความ

ฟางหยวนชี้นิ้วและส่งบุตรแห่งภูตจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปกีดขวางหลี่ฮวงกับชิงเย่

จากนั้นเขาก็โจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่ใกล้ที่สุด

ผู้อมตะที่อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะตกใจมากและเร่งล่าถอย

“ฟางเลิ้ง ใช้ท่านั้นเร็ว!” ผู้อมตะบางคนตะโกน

ฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เช่นกัน เขายิงลําแสงสีแดงเลือดออกไปแต่ฟางหยวนสามารถหลบเลี่ยง

หลี่ฮวงและชิงเย่ฉวยโอกานี้พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเย้ยหยัน “นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งเลือดอย่างชัดเจน กองกําลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งเช่นวังสวรรค์กลับกล้าใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดในที่สาธารณะ!”

“อืม คนโง่จะเข้าใจสิ่งที่พวกเรากําลังทําอยู่ได้อย่างไร?”

“คนชั่วจากทะเลทรายตะวันตก พวกเจ้าอิจฉาความมั่งคั่งของภาคกลาง นี่เป็นการดูหมิ่นกองกําลังฝ่ายธรรมะของมนุษยชาติ!”

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางตอบโต้

“ไม่ดีแล้ว” ฟางหยวนกัดฟันแน่น หลี่ฮวงและชิงเย่น่ารําคาญเกินไป เขารู้สึกราวกับติดอยู่ในหนองน้ำ

ในสถานการณ์ปัจจุบันวิธีที่ดีที่สุดของฟางหยวนคือมือปีศาจปล้นวิญญาณ ด้วยท่าไม้ตายนี้ เขาจะสามารถทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์

แต่หลี่ฮวงและชิงเย่กําลังก่อกวนเขาและทําให้เขาไม่มีโอกาส

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกระวังตัวมาก พวกเขาไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับฟางหยวน

ตระกูลฟางสร้างความร่วมมือกับฟางหยวนอย่างลับๆ แต่พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ในที่สาธารณะ

หลายปีก่อนตระกูลฟางได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นั่นทําให้กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกพยายามกดดันพวกเขา ตอนนี้ตระกูลฟางต้องกดตัวเองให้ต่ำ หากพวกเขาให้ความร่วมมือกับฟางหยวนในการต่อสู้ครั้งนี้ กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกจะมีข้ออ้างเพิ่มเติมในการปราบปรามพวกเขา

“การแข่งขันกําลังจะจบ!” ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์

สิ่งสําคัญที่สุดคือเหตุใดถ้ำสวรรค์นิรันดรถึงไม่ทําสิ่งใดเลย? หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนได้รับการติดต่อจากปิงช่ายฉวน

ชิงชายฉวนบอกทุกสิ่งเกี่ยวกับการบุกวังสวรรค์ของถ้ำสวรรค์นิรันดร

มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ปิงช่ายฉวนไม่ปิดบังหรือสร้างเรื่องเท็จเพราะเขารู้ว่าฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา

“พวกงูพิษ!” ฟางหยวนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

ถ้ำสวรรค์นิรันดรมีเป้าหมายของตนเอง แต่ตอนนี้พวกเขากําลังพบปัญหาและอาจล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายและต้องการให้ฟางหยวนก่อความวุ่นวายเพื่อป้องกันไม่ให้วังสวรรค์สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

ในสมรภูมิวังสวรรค์ ถ้ำสวรรค์ยืนยาวทําได้เพียงรักษาเสถียรภาพ พวกเขาไม่มีโอกาสชนะ

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนสามารถทําลายเมืองจักรพรรดิและการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์จะหยุดลง พวกเขาจะไม่ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งความสําเร็จจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

หากปราศจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ หยวนเชียงตูจะไม่สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

นี่เป็นโอกาสชนะเพียงหนึ่งเดียว

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

แม้เขาจะรู้ว่าถ้ำสวรรค์นิรันดรกําลังใช้ประโยชน์จากเขา แต่แผนการนี้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงต้องทํามัน

ฟางหยวนเคลื่อนที่ราวกับภูตผีไปรอบๆด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

ทุกที่ที่เขาไป แนวป้องกันของวังสวรรค์จะเกิดความปั่นป่วน

น่าเสียดายที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะของทะเลทรายตะวันตกไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของวังสวรรค์

หลี่ฮวงและชิงเยกีดขวางเส้นทางของฟางหยวนอีกครั้ง

หากเป็นก่อนหน้านี้แนวป้องกันของวังสวรรค์จะฉวยโอกาสฟื้นฟูตัวเอง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป

ฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

ไม่ว่าจะเป็นกรรไกรฤดูใบไม้ผลิหรือพัดฤดูร้อน พวกมันต่างมุ่งไปที่เมืองจักรพรรดิ

สิ่งนี้ทําให้การแสดงออกของหลี่ฮวงและชิงเย่เปลี่ยนไป

“ระวัง ปีศาจกําลังจะเข้าไป!”

“หยุดเขา!”

หลี่ฮวงและชิงเยโจมตีฟางหยวนอย่างรุนแรง เสื้อคลุมฤดูหนาวต่อต้านพวกเขาอย่างยากลําบาก

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์พยายามปกป้องเมืองจักรพรรดิอย่างเต็มที่

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของทะเลทรายตะวันตกฉวยโอกาสโจมตีเช่นกัน

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อทุกสิ่งและให้ความสําคัญกับการโจมตีเมืองจักรพรรดิเท่านั้น

ในที่สุดเสื้อคลุมฤดูหนาวของฟางหยวนก็ไม่สามารถอดทนและระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เขาต้องกระตุ้นใช้เสื้อคลุมฤดูหนาวอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายหรืออาการบาดเจ็บ

แต่วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมฤดูหนาวได้รับความเสียหายแล้ว ตอนนี้พลังป้องกันของมันอ่อนแอลงและอาจถูกทําลายเร็วๆนี้

ฟางหยวนไม่สามารถใช้เสื้อคลุมฤดูหนาวอีกต่อไป เขาสูญเสียวิธีป้องกันหลัก โชคดีที่อสูรปีวอกแรกกําเนิดมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ขณะที่ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอื่นๆเพื่อปกป้องตนเอง แม้พวกมันจะมีประสิทธิภาพไม่มากแต่ยังดีกว่าไม่ทําสิ่งใดเลย

เมืองจักรพรรดิเกิดการสั่นสะเทือนทําให้การหลอมรวมวิญญาณของผู้เข้าแข่งขันหลายคนล้มเหลว

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ทั้งเมืองเกิดการสั่นสะเทือน!”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณตกใจมาก

ผู้อมตะของภาคกลางที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิเริ่มเคลื่อนไหว

“ปกป้องผู้ใช้วิญญาณ!”

“อย่าให้พวกเขาตาย!”

“คนเหล่านี้ได้รับโชคจากวิธีบนเส้นทางมนุษย์ หากพวกเขาตาย โชคของพวกเราจะไม่สามารถต่อต้านฟางหยวน”

นี่คือการจัดเตรียมเกี่ยวกับโชคของวังสวรรค์

แม้วังสวรรค์จะไม่เชี่ยวชาญเส้นทางแห่งโชคมากนัก แต่พวกเขาก็มีวิธีการบางอย่างที่สามารถลดความได้เปรียบเกี่ยวกับโชคของฟางหยวน

“โอกาสมาแล้ว!” ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะกรงสัตว์อสูร ผู้อมตะของตระกูลฟางตะโกน

“ฆ่า!”

กรงสัตว์อสูรพุ่งไปยังเมืองจักรพรรดิ

วังสวรรค์ให้ความสนใจฟางหยวนและเปิดช่องโหว่ แม้พวกเขาจะค้นพบการเคลื่อนไหวของกรงสัตว์อสูร แต่พวกเขาก็ไม่สามารถกลับไปปกป้องที่มั่น

“โอ้ ไม่!” ใบหน้าของหลี่ยวงและชิงเกลายเป็นซีดเผือด

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากรงสัตว์อสูรเลือกจังหวะได้ดี ผู้อมตะของวังสวรรค์ทําได้เพียงมองดูมันโจมตีเมืองจักรพรรดิเท่านั้น

แม้พวกเขาจะมีท่าไม้ตายอมตะมากมายแต่พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะหยุดกรงสัตว์อสูร

ผู้ใช้วิญญาณในเมืองจักรพรรดิยังไม่รู้ตัวขณะที่หลี่ฮวงและผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกสิ้นหวัง

การโจมตีที่รุนแรงกําลังจะเกิดขึ้น

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1723 การโจมตีที่รุนแรง

ดาบวงแหวนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก มันได้รับการยอมรับว่าเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดในโลกผู้อมตะภาคเหนือ มันสามารถแยกลมมรณะออกจากกันได้เป็นการชั่วคราว ทุกคนรู้จักความน่าสะพรึงกลัวของมันเป็นอย่างดี

“ข้าจะหลบได้หรือไม่?” ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชันมังกร

ดาบวงแหวนพุ่งตรงเข้ามาที่หน้าผากของเขา

ในช่วงเวลาสําคัญราชันมังกรสามารถหลบดาบวงแหวนแต่เขามังกรของเขาถูกตัดออกไป

ราชันมังกรตกตะลึง

ยักษ์ทองคําขยับนิ้วของมัน

ท่าไม้ตายอมตะเชื่อกอมตะ!

นี่เป็นวิธีจับตัวผู้อมตะอันดับหนึ่งของภาคเหนือ

เชือกสีทองปรากฏขึ้นบนร่างของราชันมังกร มันรัดพันรอบเอวของเขาสามรอบ ขณะเดียวกันมันก็ถูกดึงเข้าไปหายักษ์ทองคํา

ท่าไม้ตายอมตะดาบวงแหวน!

ยักษ์ทองคําส่งดาบวงแหวนออกมาอีกครั้ง

ราชันมังกรกัดฟันแน่น เขาคํารามเสียงดัง มัดกล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้นและทําให้เขาหลุดออกจากการพันธนาการของเชือกอมตะ

ยักษ์ทองคําต้องการจับราชันมังกรอีกครั้ง

เขี้ยวของราชันมังกรพุ่งออกมาจากปากและบินไปรอบๆเหมือนดาบที่ปกป้องร่างกายของเขา

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะเขี้ยวมังกรบิน!

แม้ยักษ์ทองคําจะมีท่าไม้ตายอมตะเชื่อกอมตะที่ทรงพลัง แต่มันยังถูกตัดขาดโดยเขี้ยวมังกร

บิงชายฉวนรู้สึกสงสัยและเสียใจ “เขี้ยวมังกรดั้งเดิมมีขนาดเท่าท่อนแขน แต่ตอนนี้มันเหมือนเสายักษ์สองต้น ราชันมังกรใช้วิธีใดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง น่าเสียดายที่ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอ่อนแอลงมากเพราะการฟื้นตัวขึ้นของวิญญาณชะตากรรม หากมันมีพลังดั้งเดิม ราชันมังกรจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีก่อนหน้านี้!”

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณที่สร้างขึ้นจากผู้อมตะระดับแปดจํานวนสามคนและผู้อมตะระดับเจ็ดอีกสี่คน

พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงของตระกูลฮวงจิน พวกเขามีชื่อเสียงมากในอดีต ท่าไม้ตายอมตะดาบวงแหวนเป็นไพ่ตายของเผ่าชานอวี่ ขณะที่ท่าไม้ตายเชือกอมตะเป็นไพ่ตายของเผ่าเย่หลิว

ด้วยการคงอยู่ของความสิ้นหวังทั้งเจ็ด สถานการณ์กลายเป็นชะงักงันอีกครั้ง

แท่นบูชาแห่งโชคปลอดภัยชั่วคราว แต่ฝ่ายของถ้ำสวรรค์นิรันดรยังไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

ผู้อมตะของวังสวรรค์สร้างแนวป้องกันสามชั้น ผู้อมตะภาคเหนือไม่สามารถเข้าไปใกล้โดยไม่ต้องกล่าวถึงการเข้าไปภายใน

“สถานกาณ์อาจดูเหมือนชะงักงันแต่วังสวรรค์มีความได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ” ชิงช่ายฉวนแสดงออกอย่างเย็นชา

ผู้อมตะภาคเหนือรักการต่อสู้ พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าผู้อมตะของภูมิภาคอื่น

บิงชายฉวนเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ เขาเต็มไปด้วยประสบการณ์ แม้สถานการณ์จะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่สามารถสั่นคลอนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา

เขาพยามยามหาทางออก

“ถ้ำสวรรค์นิรันดรวางแผนมาเป็นอย่างดี เรามีวิธีตอบโต้ของเรา”

“ตอนนี้เราต้องติดต่อฟางหยวนและคนอื่นๆเพื่อมุ่งเป้าไปที่โลกภายนอก”

ชิงช่ายฉวนเร่งติดต่อฟางหยวนและคนอื่นๆ เพื่อออกคําสั่ง

“พวกเขากําลังใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อติดต่อกับโลกภายนอก!” สมาชิกวงสวรรค์บางคนสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของปิงช่ายฉวน

เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น วังสวรรค์ไม่มีวิธีต่อต้านวิธีบนเส้นทางแห่งโชค

เมืองจักรพรรดิ

ฟางหยวนในร่างราชันภูตบินอยู่บนท้องฟ้า

ในสายตาของเขา หลี่ฮวงและชิงเย่เหมือนคบเพลิงสองดวงที่พุ่งเข้ามาหาเขาท่ามกลางความ

ฟางหยวนชี้นิ้วและส่งบุตรแห่งภูตจํานวนนับไม่ถ้วนออกไปกีดขวางหลี่ฮวงกับชิงเย่

จากนั้นเขาก็โจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่ใกล้ที่สุด

ผู้อมตะที่อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะตกใจมากและเร่งล่าถอย

“ฟางเลิ้ง ใช้ท่านั้นเร็ว!” ผู้อมตะบางคนตะโกน

ฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เช่นกัน เขายิงลําแสงสีแดงเลือดออกไปแต่ฟางหยวนสามารถหลบเลี่ยง

หลี่ฮวงและชิงเย่ฉวยโอกานี้พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกเย้ยหยัน “นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งเลือดอย่างชัดเจน กองกําลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งเช่นวังสวรรค์กลับกล้าใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดในที่สาธารณะ!”

“อืม คนโง่จะเข้าใจสิ่งที่พวกเรากําลังทําอยู่ได้อย่างไร?”

“คนชั่วจากทะเลทรายตะวันตก พวกเจ้าอิจฉาความมั่งคั่งของภาคกลาง นี่เป็นการดูหมิ่นกองกําลังฝ่ายธรรมะของมนุษยชาติ!”

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางตอบโต้

“ไม่ดีแล้ว” ฟางหยวนกัดฟันแน่น หลี่ฮวงและชิงเย่น่ารําคาญเกินไป เขารู้สึกราวกับติดอยู่ในหนองน้ำ

ในสถานการณ์ปัจจุบันวิธีที่ดีที่สุดของฟางหยวนคือมือปีศาจปล้นวิญญาณ ด้วยท่าไม้ตายนี้ เขาจะสามารถทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์

แต่หลี่ฮวงและชิงเย่กําลังก่อกวนเขาและทําให้เขาไม่มีโอกาส

ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกระวังตัวมาก พวกเขาไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับฟางหยวน

ตระกูลฟางสร้างความร่วมมือกับฟางหยวนอย่างลับๆ แต่พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ในที่สาธารณะ

หลายปีก่อนตระกูลฟางได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นั่นทําให้กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกพยายามกดดันพวกเขา ตอนนี้ตระกูลฟางต้องกดตัวเองให้ต่ำ หากพวกเขาให้ความร่วมมือกับฟางหยวนในการต่อสู้ครั้งนี้ กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกจะมีข้ออ้างเพิ่มเติมในการปราบปรามพวกเขา

“การแข่งขันกําลังจะจบ!” ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์

สิ่งสําคัญที่สุดคือเหตุใดถ้ำสวรรค์นิรันดรถึงไม่ทําสิ่งใดเลย? หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนได้รับการติดต่อจากปิงช่ายฉวน

ชิงชายฉวนบอกทุกสิ่งเกี่ยวกับการบุกวังสวรรค์ของถ้ำสวรรค์นิรันดร

มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ปิงช่ายฉวนไม่ปิดบังหรือสร้างเรื่องเท็จเพราะเขารู้ว่าฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา

“พวกงูพิษ!” ฟางหยวนกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

ถ้ำสวรรค์นิรันดรมีเป้าหมายของตนเอง แต่ตอนนี้พวกเขากําลังพบปัญหาและอาจล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายและต้องการให้ฟางหยวนก่อความวุ่นวายเพื่อป้องกันไม่ให้วังสวรรค์สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

ในสมรภูมิวังสวรรค์ ถ้ำสวรรค์ยืนยาวทําได้เพียงรักษาเสถียรภาพ พวกเขาไม่มีโอกาสชนะ

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนสามารถทําลายเมืองจักรพรรดิและการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์จะหยุดลง พวกเขาจะไม่ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งความสําเร็จจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

หากปราศจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ หยวนเชียงตูจะไม่สามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

นี่เป็นโอกาสชนะเพียงหนึ่งเดียว

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

แม้เขาจะรู้ว่าถ้ำสวรรค์นิรันดรกําลังใช้ประโยชน์จากเขา แต่แผนการนี้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงต้องทํามัน

ฟางหยวนเคลื่อนที่ราวกับภูตผีไปรอบๆด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

ทุกที่ที่เขาไป แนวป้องกันของวังสวรรค์จะเกิดความปั่นป่วน

น่าเสียดายที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะของทะเลทรายตะวันตกไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของวังสวรรค์

หลี่ฮวงและชิงเยกีดขวางเส้นทางของฟางหยวนอีกครั้ง

หากเป็นก่อนหน้านี้แนวป้องกันของวังสวรรค์จะฉวยโอกาสฟื้นฟูตัวเอง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป

ฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

ไม่ว่าจะเป็นกรรไกรฤดูใบไม้ผลิหรือพัดฤดูร้อน พวกมันต่างมุ่งไปที่เมืองจักรพรรดิ

สิ่งนี้ทําให้การแสดงออกของหลี่ฮวงและชิงเย่เปลี่ยนไป

“ระวัง ปีศาจกําลังจะเข้าไป!”

“หยุดเขา!”

หลี่ฮวงและชิงเยโจมตีฟางหยวนอย่างรุนแรง เสื้อคลุมฤดูหนาวต่อต้านพวกเขาอย่างยากลําบาก

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์พยายามปกป้องเมืองจักรพรรดิอย่างเต็มที่

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของทะเลทรายตะวันตกฉวยโอกาสโจมตีเช่นกัน

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อทุกสิ่งและให้ความสําคัญกับการโจมตีเมืองจักรพรรดิเท่านั้น

ในที่สุดเสื้อคลุมฤดูหนาวของฟางหยวนก็ไม่สามารถอดทนและระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เขาต้องกระตุ้นใช้เสื้อคลุมฤดูหนาวอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายหรืออาการบาดเจ็บ

แต่วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมฤดูหนาวได้รับความเสียหายแล้ว ตอนนี้พลังป้องกันของมันอ่อนแอลงและอาจถูกทําลายเร็วๆนี้

ฟางหยวนไม่สามารถใช้เสื้อคลุมฤดูหนาวอีกต่อไป เขาสูญเสียวิธีป้องกันหลัก โชคดีที่อสูรปีวอกแรกกําเนิดมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ขณะที่ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอื่นๆเพื่อปกป้องตนเอง แม้พวกมันจะมีประสิทธิภาพไม่มากแต่ยังดีกว่าไม่ทําสิ่งใดเลย

เมืองจักรพรรดิเกิดการสั่นสะเทือนทําให้การหลอมรวมวิญญาณของผู้เข้าแข่งขันหลายคนล้มเหลว

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ทั้งเมืองเกิดการสั่นสะเทือน!”

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณตกใจมาก

ผู้อมตะของภาคกลางที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิเริ่มเคลื่อนไหว

“ปกป้องผู้ใช้วิญญาณ!”

“อย่าให้พวกเขาตาย!”

“คนเหล่านี้ได้รับโชคจากวิธีบนเส้นทางมนุษย์ หากพวกเขาตาย โชคของพวกเราจะไม่สามารถต่อต้านฟางหยวน”

นี่คือการจัดเตรียมเกี่ยวกับโชคของวังสวรรค์

แม้วังสวรรค์จะไม่เชี่ยวชาญเส้นทางแห่งโชคมากนัก แต่พวกเขาก็มีวิธีการบางอย่างที่สามารถลดความได้เปรียบเกี่ยวกับโชคของฟางหยวน

“โอกาสมาแล้ว!” ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะกรงสัตว์อสูร ผู้อมตะของตระกูลฟางตะโกน

“ฆ่า!”

กรงสัตว์อสูรพุ่งไปยังเมืองจักรพรรดิ

วังสวรรค์ให้ความสนใจฟางหยวนและเปิดช่องโหว่ แม้พวกเขาจะค้นพบการเคลื่อนไหวของกรงสัตว์อสูร แต่พวกเขาก็ไม่สามารถกลับไปปกป้องที่มั่น

“โอ้ ไม่!” ใบหน้าของหลี่ยวงและชิงเกลายเป็นซีดเผือด

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากรงสัตว์อสูรเลือกจังหวะได้ดี ผู้อมตะของวังสวรรค์ทําได้เพียงมองดูมันโจมตีเมืองจักรพรรดิเท่านั้น

แม้พวกเขาจะมีท่าไม้ตายอมตะมากมายแต่พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะหยุดกรงสัตว์อสูร

ผู้ใช้วิญญาณในเมืองจักรพรรดิยังไม่รู้ตัวขณะที่หลี่ฮวงและผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกสิ้นหวัง

การโจมตีที่รุนแรงกําลังจะเกิดขึ้น

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท