เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1750 ได้รับวิญญาณขโมยชีวิต
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มใหญ่กําลังรออยู่ด้านหน้าค่ายกลวิญญาณอมตะขนส่งด้วยความคาดหวัง
ทันใดนั้นค่ายกลวิญญาณอมตะขนส่งก็ปลดปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกนด้วยความสุข “เขากลับมาแล้ว เขากลับมาแล้ว!”
กลุ่มมนุษย์หิมะ มนุษย์หิน และมนุษย์หมึกที่ยืนอยู่ด้านหลังมีการแสดงออกที่ซับซ้อน
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกรุนรานโดยวังสวรรค์ ด้วยข้อตกลงพันธมิตร เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามต้องช่วยเหลือแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
แม้พวกเขาจะไม่เต็มใจแต่พวกเขาก็ต้องมาด้วยความขมขื่น
พวกเขาไม่สามารถฝ่าฝืนข้อตกลงพันธมิตร
ในปัจจุบันเผ่ามนุษย์ปกครองโลก เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ต้องซ่อนตัวและร่วมมือกันเท่านั้น
กลยุทธ์นี้ไม่ผิด แต่เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามเผ่าไม่คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะดึงดูดภัยคุกคามเช่นวังสวรรค์
วังสวรรค์คือสิ่งใด?
พวกเขาคือกองกําลังอันดับหนึ่งของมนุษยชาติมาตลอดหลายล้านปี
เปรียบเทียบกับพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์ พวกเขายังเล็กเกินไปและไม่สามารถต่อต้านฝ่ายตรงข้าม
ดังนั้นเมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอความช่วยเหลือ พวกเขาจึงไม่เต็มใจนัก
อย่างไรก็ตามผู้ใดจะคิดว่าตอนนี้ฟางหยวนจะนํากระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าไปวางขายในสวรรค์สีเหลือง สิ่งนี้ทําให้หัวใจของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์สั่นไหวอย่างรุนแรง
พวกเขาเห็นความหวังในการต่อต้านวังสวรรค์
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาครอบครองพลังการต่อสู้ระดับแปด!
หากพวกเขาปฏิเสธคําขอของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา นอกจากพวกเขาจะเผชิญหน้ากับฟันเฟืองของข้อตกลงพันธมิตร พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับฟางหยวนที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด
ความคิดของกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์หิมะเป็นเผ่าแรกที่เปลี่ยนจุดยืนและแสดงการสนับสนุนแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างเต็มที่ ตามมาด้วยเผ่ามนุษย์หมึกและเผ่ามนุษย์หิน
“มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆที่ข้ารับฟางหยวนเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอก!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกมีความสุขมาก
หลังจากได้รับข้อความจากฟางหยวนและรู้ว่าเขากําลังจะกลับมา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงนํากลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ออกมารอต้อนรับเขา
แสงสว่างจางหายไปขณะที่ฟางหยวนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มีการแสดงออกที่แตกต่างกันขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเริ่มทักทายฟางหยวน
ฟางหยวนกวาดตามองและลอบหัวเราะอยู่ในใจ “มันเป็นฉากเดียวกับชีวิตก่อนหน้า จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีทักษะทางการเมืองบางอย่างจริงๆ เขาใช้ข้ากําหราบมนุษย์กลายพันธุ์เผ่าอื่นๆ
แต่ฟางหยวนไม่ต้องการพูดคุยไร้สาระและเสียเวลาไปโดยไร้ประโยชน์ เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้าเขาพยักหน้าให้เชี่ยเอ๋อและจากไป
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวเล็กๆนี้ทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะตื่นเต้นมากขณะที่เผ่ามนุษย์หินและเผ่ามนุษย์หมึกรู้สึกอิจฉา
การต่อสู้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าทําให้สถานะของฟางหยวนในใจของทุกคนพุ่งสูงขึ้นแต่จิตใจของฟางหยวนยังสงบนิ่ง
หลังจากกําเนิดใหม่พลังการต่อสู้ของเขาตกลงมาอยู่ที่ระดับเจ็ดอีกครั้ง เขาไม่สามารถต่อสู้กับวังสวรรค์
ฟางหยวนพูดคุยกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นการส่วนตัว จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาส่งคืนวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋ให้กับฟาหงยวนและอธิบายเกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่วังสวรรค์ทิ้งไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากังวลมาก
เขาพยายามทําลายร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านั้นแต่ไม่สามารถทําสิ่งใด
ฟางหยวนรู้ว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราของวังสวรรค์ที่ฟงจิวเก้อตั้งใจทิ้งไว้
ในชีวิตก่อนหน้าเมื่อวังสวรรค์บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นครั้งที่สอง ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้กลายเป็นอุโมงค์แสงที่สามารถขนส่งผู้อมตะระดับแปดเข้ามาโดยตรง
ในการต่อสู้ครั้งนั้นฟางหยวนได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดแต่เขาก็เปิดเผยท่าไม้ตายอมตะราชันภูตและอัตลักษณ์ของซวนจินรวมถึงสูญเสียพันธมิตรที่ชื่อว่านิกายหลางหยา
ฟางหยวนล่าถอย วังสวรรค์ก็เช่นกัน ถ้ําสวรรค์นิรันดรกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด
ฟางหยวนตอบจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ไม่จําเป็นต้องกังวลเกินไปให้ข้าอนุมานและวางแผนจัดการกับสถานการณ์ก่อนดีหรือไม่?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ “ตกลง”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกประหลาดใจที่ฟาหงยวนไม่รีบร้อนร้องขอความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว แต่เขาก็ไม่กล่าวถึงเพราะเขาไม่เต็มใจมอบมันให้ฟางหยวนอยู่แล้ว
ตอนนี้วิญญาณสติปัญญายังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนไปหาวิญญาณสติปัญญาและนั่งอนุมานอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามวันสามคืน
การเกิดใหม่ครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษเมื่อเปรียบเทียบกับครั้งก่อนหน้า
ระยะเวลาในการย้อนอดีตค่อนข้างนาน มันย้อนมาไกลหลายปีจากอนาคต
แต่นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
เนื่องจากร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนมีการบ่มเพาะระดับเจ็ดขณะที่วิญญาณกาลเวลาก็เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด นอกจากนั้นเขายังใช้ท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จเพื่อกําเนิดใหม่
ร่างหลักของฟางหยวนถูกสังหารโดยราชันมังกรแต่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิสามารถใช้วิญญาณกาลเวลาและท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่
สําหรับการกําเนิดใหม่ครั้งแรกที่ฟางหยวนย้อนเวลากลับไปห้าร้อยปีด้วยการบ่มเพาะระดับหกมันเป็นผลงานของเจตจํานงสวรรค์ มันเป็นกรณีพิเศษ
“แท้จริงแล้วยังมีท่าไม้ตายอมตะจุดหมายหวนคืนอยู่ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมันสามารถระบุช่วงเวลาที่ต้องการย้อนกลับมากําเนิดใหม่ แต่ท่าไม้ตายนี้ไม่รับประกันความสําเร็จของการกําเนิดใหม่ ดังนั้นข้าจึงเลือกใช้ท่าไม้ตายอมตะหวนคืนสําเร็จเพื่อขจัดความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลว
ฟางหยวนชําเลืองมองวิญญาณกาลเวลา
วิญญาณกาลเวลาในปัจจุบันไม่ใช่วิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันยังเป็นวิญญาณกาลเวลาระดับหก
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากกําเนิดใหม่มันยังอ่อนแรงและดูเหมือนใกล้ตาย มันต้องการเวลาพักฟื้น
“มรดกของเทพปีศาจบัวแดงมีท่าไม้ตายอมตะมากมายที่สามารถเร่งการฟื้นตัวของวิญญาณ กาลเวลา กล่าวไปแล้ววิญญาณกาลเวลาสมกับเป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัว แดง มันทรงพลังเกินไปจริงๆ”
ฟางหยวนถอนหายใจอยู่ภายใน
เขาไม่ใช่ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์อีกต่อไป ดังนั้นวิญญาณกาลเวลาจึงไม่สามารถระเบิดมิติช่องว่างของเขา
ด้วยสถานะปัจจุบันของฟางหยวน แม้เขาจะไม่ใช้วิธีเร่งการฟื้นตัวของวิญญาณกาลเวลามันก็จะฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ก่อนจะถึงการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม
“แต่วังสวรรค์แข็งแกร่งมาก แม้ข้าจะสามารถกําเนิดใหม่ซ้ําแล้วซ้ําอีก แต่มันจะไร้ประโยชน์หากข้าไม่หาวิธีเอาชนะพวกเขา”
เมื่อคิดถึงชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนรู้สึกราวกับถูกภูเขาทั้งลูกกดทับ
รากฐานของวังสวรรค์ยิ่งใหญ่เกินไป
ฟางหยวนไม่สามารถบอกได้ว่ามีผู้อมตะจําศีลอยู่ในสุสานอมตะมากเพียงใด
ราชันมังกรมีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้า อาจมีเพียงโป้ชิงเท่านั้นที่สามารถแข่งขันกับเขาฟางหยวนถูกราชันมังกรสังหาร ราชันมังกรเพียงผู้เดียวที่ทําให้แผนการของฟางหยวนพังทลายลงอย่างสมบูรณ์
โดยธรรมชาติแล้วผู้อมตะระดับเก้าคือตัวตนบนจุดสูงสุด แม้แต่ราชันมังกรก็ไม่สามารถต่อต้านท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าของพวกเขา
แต่ด้วยสิ่งนี้ มันยิ่งทําให้สถานการณ์วุ่นวายและซับซ้อนมากขึ้น
การจัดเตรียมของผู้อมตะระดับเก้าส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั้งหมดซ้ําแล้วซ้ําอีก นี่ทําให้ฟางหยวนรู้สึกปวดหัว
นอกจากราชันมังกรยังมีเทพธิดาอเว่ย เฉินอี้ หลี่ฮวง ชิงเย่ หยวนเชียงตู้ และคนอื่นๆ
ผู้อมตะเหล่านี้ล้วนเป็นชนชั้นสูงที่ไม่สามารถดูแคลน
ความคิดที่จะเสียสละตนเองเพื่อวังสวรรค์ยิ่งน่ากลัวกว่า พวกเขาเต็มใจเสียสละทุกสิ่งโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
ความบ้าคลั่งของวังสวรรค์ทําให้ฟางหยวนรู้สึกกังวล
“หากข้าไม่สามารถหาวิธีเอาชนะวังสวรรค์ มันก็ไร้ประโยชน์แม้ข้าจะเกิดใหม่อีกกี่ครั้งก็ตามเพื่อเอาชนะวังสวรรค์ ข้าต้องพยายามอย่างสุดความสามารถและไม่ปล่อยโอกาสใดๆที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
“ข้าต้องวางแผนอย่างรัดกุม
ฟางหยวนเริ่มวางแผน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องใช้ทักษะและการมองการณ์ไกลเพื่อใช้ประโยชน์จากการกําเนิดใหม่
แม้ฟางหยวนจะได้รับประโยชน์จากการกําเนิดใหม่ แต่มันก็เป็นเพียงความรู้ในอนาคต เท่านั้นเขาไม่สามารถทําสิ่งเดิม นอกจากนั้นทุกการกระทําของเขาก็ยังจะส่งอิทธิพลในวงกว้าง
หากเขาเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไปเพียงเพื่อผลกําไรเพียงเล็กน้อย อิทธิพลที่เกิดขึ้นอาจทําให้อนาคตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความได้เปรียบในการกําเนิดใหม่ของเขาจะลดลงอย่างมาก
ในทางตรงข้ามหากเขาลังเลมากเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เขาจะไม่มีความก้าวหน้ามากพอที่จะต่อต้านวังสวรรค์
เขาจําเป็นต้องสร้างสมดุล
สิ่งสําคัญอีกประการก็คือเขาต้องป้องกันไม่ให้คนอื่นๆรู้ว่าเขาเกิดใหม่แล้ว
ยิ่งเขาสามารถรักษาความลับนี้ได้นานเท่าใด มันก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อเขามากเท่านั้น
ฟางหยวนใช้เวลาสิบหกชั่วโมงในการวางแผนการอย่างพิถีพิถัน
หลังจากนั้นเขาก็เรียกจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามาพบ “ท่านมีวิญญาณอมตะที่ดวง? ให้ข้าดูรายการทั้งหมด ข้ารู้สึกว่าความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวไม่เป็นประโยชน์ต่อข้ามากนักหากมีวิญญาณอมตะที่เหมาะสมกับข้า ข้าอาจยอมแพ้ต่อความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวและเลือกวิญญาณอมตะเหล่านั้น”
“อา…” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกใจและดีใจมาก “ตกลง ข้าจะให้เจ้าดูรายการ วิญญาณอมตะทั้งหมดเดี๋ยวนี้!”
ความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวมีค่ามากสําหรับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางห ยามันเหมือนวิญญาณชะตากรรมของวังสวรรค์ มันมีคุณค่าทางจิตใจ
ภูเขาตงฮันถูกปล้นชิง ตามข้อตกลง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องชดเชยให้ฟางหยวนด้วยความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวแต่เขาไม่เต็มใจมากนัก
ฟางหยวนมองรายการวิญญาณอมตะทั้งหมดและพบวิญญาณอมตะขโมยชีวิตรวมอยู่ในนั้น
เขาพยักหน้าพึงพอใจ เขาสามารถเห็นความจริงใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจากจุดนี้
ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนได้รับความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว นั่นทําให้ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาพุ่งขึ้นสู่ระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด
ทางเลือกนี้ไม่ผิดเนื่องจากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมช่วยเหลือเขาได้มาก
แต่ตอนนี้ฟางหยวนเกิดใหม่แล้ว ระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาเท่ากับชีวิตก่อนหน้า มันยังอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด ดังนั้นความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวจึงไม่มีประโยชน์สําหรับฟางหยวนอีกต่อไป
เกี่ยวกับระดับความสําเร็จบนเส้นทางสายต่างๆ ร่างหลักและร่างแยกของฟางหยวนจะ แบ่งปันกันเสมอทั้งสองมีความสําเร็จในทุกแง่มุมเท่ากัน
เรื่องนี้แตกต่างจากร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เหตุผลหลักของฟางหยวนในการสร้างร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพราะเขาต้องการให้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอาบแสงแห่งปัญญาและช่วยเขาอนุมานสิ่งต่าง หากปราศจากความสําเร็จในแง่มุมต่างๆเขาจะอนุมานได้อย่างไร?
เมื่อร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากําเนิดใหม่ ระดับความสําเร็จของร่างแยกยังเท่าเดิมดังนั้นระดับความสําเร็จของร่างหลักจึงเพิ่มขึ้นด้วยการแบ่งปันความสําเร็จจากร่างแยก
ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงเลือกทางอื่นในชีวิตนี้ “ข้าเลือกวิญญาณอมตะขโมยชีวิตและสิ่งเหล่านี้อืม…ข้าต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเช่นกัน”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามึนงงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบรับอย่างรวดเร็ว “ตกลง!”