เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1733 เฉินอี้ลบค่ายกล

บทที่ 1733 เฉินอี้ลบค่ายกล

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1733 เฉินอี้ลบค่ายกล

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ

“ค่ายกลของพวกเรา…”

“ พวกเรากําลังพบปัญหา”

“กลุ่มแรกกลับมาพัก กลุ่มที่สองออกไป กลุ่มที่สามเตรียมพร้อม!”

เฉินอี้และเพ่ยกังซุ้ยควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะและออกคําสั่งผู้อมตะภาคกลาง

“ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขามีค่ายกลวิญญาณอมตะที่แปลกประหลาดเช่นนี้” ฟงจิวเก้อขมวดคิ้วขณะมองค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค “นี่ค่อนข้างลําบาก หากเราไม่สามารถจัดการมันอย่างถูกต้อง ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบอาจจะ…”

ฟงจิวเก้อรู้สึกสังหรณ์ร้าย

ค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคปล่อยควันห้าสีออกมารอบๆ

ควันห้าสีกระจายออกไปและค่อยๆทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบอย่างต่อเนื่อง

“ดี!”

“ทุกคนมุ่งเป้าไปที่ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ ยิ่งผู้อมตะภาคกลางเคลื่อนไหวมากเท่าใด พวกเขาก็จะพบฟันเฟือนมากขึ้นเท่านั้น”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยิ่งค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบแข็งแกร่งเท่าใด ผู้อมตะภาคกลางก็ยิ่งได้รับบาดเจ็บมากเท่านั้น วิเศษนัก!”

ขวัญกําลังใจของกองกําลังพันธมิตรภาคใต้และภาคเหนือพุ่งสูงขึ้น

หลังจากเปลี่ยนกลยุทธ์การต่อสู้ พวกเขากลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบกลายเป็นอาวุธที่ทิ่มแทงตัวเอง

“เราควรจัดการปัญหานี้อย่างไร? เราควรส่งคนออกไปทําลายค่ายกลของพวกเขาหรือไม่?” เพ่ยกังซุ้ยมองเฉินอี้

ผู้นํากลุ่มของสมรภูมินี้คือเฉินอี้

เฉินอี้กล่าวด้วยใบหน้าที่ไม่น่ามอง “ค่ายกลนี้น่าจะมาจากมรดกที่แท้จริงของเต๋าจู”

วังสวรรค์มีสายลับแทรกซึมอยู่ในการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจู

“เต๋าจูสามารถสร้างเทือกเขาห้าภูมิภาค ควันห้าสีของค่ายกลนี้เป็นการเลียนแบบกําแพงภูมิภาคและทําให้พวกเราได้รับผลกระทบจากฟันเฟือน”

เฉินอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด กระทั่งเทพปีศาจไร้ขอบเขตก็ยังพบกับความยากลําบาก อย่างไรก็ตามวิธีของเต๋าจูเป็นการโจมตีผู้อมตะของเราโดยตรง!”

“ยิ่งค่ายกลของเราแข็งแกร่งเท่าใด ผู้อมตะของเราก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากเท่านั้น”

“หากเรากระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะ เราจะตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู เราไม่สามารถทําเช่นนั้น”

“หากเราส่งคนออกไป พวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย หยงและฟางหยวนไม่ใช่ตัวตนที่สามารถจัดการได้โดยง่าย

เฉินอี้ถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะอําลาสหายของวูหยง เขายังรู้สึกหวาดกลัว

สิ่งสําคัญที่สุดคือพวกเขามีผู้อมตะระดับแปดเพียงสามคนได้แก่เฉินอี้ เฟยกังซุ้ย และฟงจิ๋วเก้อ นอกจากนั้นคนอื่นก็ได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน

เฉินอี้ถอนหายใจ “ผู้ใดจะคิดว่าค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบจะถูกกําหราบ!”

เต๋าจูเป็นผู้อมตะระดับแปดทั่วไป เขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับรูหยงหรือฟางหยวน ขณะเดียวกันค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบของเทพอมตะกลุ่มดาวมีชื่อเสียงมาก แต่มรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูกลับสามารถกําหราบค่ายกลวิญญาณอมตะของเทพอมตะกลุ่มดาว นี่คือความรุ่งโรจน์ของเขา

เต๋าจูไม่ใช่ผู้อมตะที่โดดเด่น เขามีเพียงเทือกเขาห้าภูมิภาคเท่านั้น

ไม่มีผู้ใดคิดว่างานวิจัยของเขาจะประสบความสําเร็จ

แต่การต่อสู้ครั้งนี้ชื่อเสียงของเต๋าจูจะโด่งดังไปทั่วโลกแม้เขาจะตายไปนานแล้วก็ตาม

อัจฉริยะรุ่นใหม่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่าไม้ตายในอดีตจะถูกตอบโต้ในอนาคต ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะร่างแยกสมบูรณ์ของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ถูกตอบโต้ในการต่อสู้ที่วังสวรรค์ ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบของเทพอมตะกลุ่มดาวถูกตอบโต้โดยอัจฉริยะรุ่นหลังที่นี่

“ลบค่ายกลย่อยออกไป” เฉินอื้ออกคําสั่ง

กลุ่มผู้อมตะที่อยู่ด้านข้างตกใจและรู้สึกสับสน

แต่ฟงจิวเก้อสรรเสริญ “เป็นความคิดที่ดี”

“พวกเขาลบค่ายกลออกไปจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้อมตะภาคเหนือบางคนหัวเราะ

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของจูหยงและฟางหยวนกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ไม่ดีแล้ว เฉินอี้เจ้าเล่ห์จริงๆ”

“พวกเขาลบค่ายกลย่อยออกไป นี่จะทําให้ประสิทธิภาพของควันห้าสีลดลงอย่างมาก”

“เฉินอี้กําลังใช้กลยุทธ์ยื้อเวลา”

ฟางหยวนจะมีความสุขมากกว่าหากเฉินอี้ใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบและส่งผู้อมตะออกมา

แต่ตอนนี้เฉินอี้กลับเลือกป้องกันตัว

การบุกรุกของควันห้าสีช้าลงอย่างมาก ผู้อมตะภาคกลางไม่เคลื่อนไหว นั่นทําให้พวกเขาได้รับผลกระทบจากฟันเฟือนน้อยลง

เฉินอี้อดทนต่อต้านผู้บุกรุก ขณะที่กลุ่มผู้บุกรุกต้องการเวลาในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ

ฝ่ายของฟางหยวนต้องต่อสู้ทุกวินาที พวกเขาไม่สามารถปล่อยเวลาไปโดยสูญเปล่า เมื่อวังสวรรค์สามารถกําจัดกองกําลังของถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเขาจะรีบมาที่นี่

เฉินอี้สงบมาก เขาสามารถใช้กลยุทธ์ที่ดีที่สุดและบังคับให้กลุ่มของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ขอบเหว

“เห้อ….หากข้ารู้เรื่องนี้ ข้าคงใช้วิญญาณอมตะธงค่ายกลจัดเก็บค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคเอาไว้ ด้วยวิธีนี้มันจะสามารถเคลื่อนที่” ฟางหยวนถอนหายใจ

นี่ไม่ใช่ความผิดของเขาและไม่ใช่ว่าเขาไม่เต็มใจนํามันออกมา

หากฟางหยวนต้องการใช้วิญญาณอมตะธงค่ายกล เขาต้องเสียเวลาอนุมานมากขึ้น

ในความเป็นจริงแม้ค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคจะสามารถเคลื่อนย้าย แต่มันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์

“ไม่ดีแล้ว วายุไร้ขอบเขตของข้ากําลังจะหลุดจากการควบคุม” การแสดงออกของวูหยงเปลี่ยนไป

หลังจากเฉินอี้ลบค่ายกลย่อย วูหยงจึงสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้

โดยไม่รีรอ วูหยงบินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะและพุ่งเข้าไปหาหอคอยวายุ

เหยากวงและคนอื่นๆเคลื่อนไหวเช่นกัน

ด้วยการสนับสนุนของพวกเขา หลี่ฮวง ชิงเย่ และผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆรู้สึกถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาต้องล่าถอยซ้ำแล้วซ้ำอีก กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ยังถูกปราบปราม

ฟางหยวนเดินออกมาอย่างเงียบๆ

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะของภาคกลางพบภัยพิบัติทันที

ฟางหยวนขโมยวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าเขาก็ได้รับวิญญาณอมตะสามดวง หากรวมกับผลประโยชย์ที่ได้รับจากการต่อสู้ในสมรภูมิเมืองจักรพรรดิ เขาได้รับวิญญาณอมตะจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้มาแล้วมากกว่าสิบดวง

ฟางหยวนรู้จักวิญญาณอมตะบางส่วน ขณะที่บางส่วนเขาไม่รู้จัก

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขายังอาบแสงแห่งปัญญาและอนุมานวิธีใช้งานวิญญาณอมตะเหล่านี้อย่งต่อเนื่อง

หลี่ฮวงหลบหนีจากองค์ชายฟงเซี่ยนและรีบเข้าไปหาฟางหยวน

ฉากการต่อสู้ที่เมืองจักรพรรดิเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง

ฟางหยวนถูกหลี่ฮวงพัวพันและไม่สามารถขโมยวิญญาณจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้อย่างง่ายดาย

“องค์ชายฟงเซี่ยนแสดงละครได้ดีนัก เขาจงใจปล่อยหลี่ฮวงออกมาโดยไม่มีข้อบกพร่อง” ฟางหยวนกันเสียงเย็น

องค์ชายฟงเซี่ยนเป็นตัวปัญหา

แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าบนเส้นทางมนุษย์ของวังสวรรค์ วีรบุรุษท่ามกลางผู้คน

ด้วยการสนับสนุนจากท่าไม้ตายนี้ หลี่ฮวง ชิงเย่ และคนอื่นๆจะแข็งแกร่งขึ้น

“เราไม่มีเวลาต่อสู้ กลับเข้าไปในค่ายกลวิญญาณกันเถอะ” ฟางหยวนเรียก

วูหยงและคนอื่นๆค่อยๆล่าถอยเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค ผู้อมตะภาคกลางจะถูกปราบปราม

ท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนทําให้พวกเขาได้รับผลกระทบจากฟันเฟือนมากขึ้น

“ข้าไม่เคยคิดว่าวิธีการของเต๋าจูจะลึกซึ้งถึงเพียงนี้!” ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค ปาซื่อปาถอนหายใจ

วูหยงเงียบ

สถานการณ์นี้อยู่ในการคาดหมายของเขา

“น่าเสียดายที่ควันห้าสีไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู ภาคกลางได้รับผลกระทบจากมัน แต่พวกเราก็เช่นกัน”

“มีเพียงฟางหยวนที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ” เหยากวงกล่าว

หลายคนมองฟางหยวนและรู้สึกอิจฉา

“น่าเสียดาย” ฟางหยวนลอบถอนหายใจ หากเขาได้รับมรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูและด้วยความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา พลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

ตัวอย่างเช่นเขาไม่มีวิธีจัดการท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน แต่หากเขาได้รับมรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจู ผู้ใดจะรู้ว่าเขาอาจได้รับชัยชนะในการต่อสู้ที่เมืองจักรพรรดิด้วยตัวเขาเพียงผู้เดียว

ย้อนกลับไปบนเทือกเขาห้าภูมิภาค ฟางหยวนพลาดมรดกของเต๋าจู นั่นทําให้เขารู้สึกถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ลางสังหรณ์ของเขาในเวลานั้นไม่ผิดจริงๆ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท