เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1751 ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใด

บทที่ 1751 ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1751 ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใด

ฟางหยวนมองวิญญาณอมตะขโมยชีวิตอย่างใกล้ชิด

วิญญาณอมตะดวงนี้คล้ายผึ้งขนาดเท่ากําปั้นมนุษย์ ร่างกายของมันมีแถบสีทองและสีดําสลับกัน นอกจากนั้นมันยังเรืองแสงสีแดงออกมาตลอดเวลา

ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคือเหล็กในของผึ้ง มันบางและแหลมคมมาก ความยากของเหล็กในยังมากกว่าตัวของมันเอง

ตามข่าวลือ วิญญาณอมตะขโมยชีวิตเป็นวิญญาณอมตะดวงแรกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันมีต้นกําเนิดที่ไม่ธรรมดา

ฟางหยวนมองวิญญาณอมตะขโมยชีวิตและคิดเกี่ยวกับมัน แม้เทพปีศาจปล้นสวรรค์จะถูกเรียกว่าเทพปีศาจ แต่ธรรมชาติของเขากลับอ่อนโยนและไม่กระหายเลือด เขาแตกต่างจากเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างสิ้นเชิง

ฟางหยวนมีความรู้มากมายเกี่ยวกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์

เทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นปีศาจต่างโลก เขาต้องการกลับโลกใบเดิมที่เขาจากมา ธรรมชาติของเขาอ่อนโยและไม่ชอบการเข่นฆ่า เขาเพียงต้องการรวบรวมทรัพยากรและบ่มเพาะเพื่อหาวิธีกลับบ้านเท่านั้น

เส้นทางแห่งการโจรกรรมจึงเป็นคําตอบของเขา

ผู้อมตะระดับเก้าทั้งสิบคนล้วนเป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์

หลังจากฟางหยวนกําเนิดใหม่ เขายิ่งให้ความสนใจและความสําคัญกับคนกลุ่มนี้มากขึ้น

นี่เป็นเพราะการจัดเตรียมของเทพอมตะและเทพปีศาจมีบทบาทสําคัญ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ในชีวิตก่อนหน้า

ความแข็งแกร่ง แผนการ และการมองการณ์ไกลของพวกเขาทําให้ฟางหยวนรู้สึกประทับใจ

เป็นเพียงเวลานี้ที่แรงบันดาลใจพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน

“เทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพอมตะกลุ่มดาว เทพอมตะแรกกําเนิด เทพอมตะบัวสวรรค์ เทพอมตะตะวันเดือด เทพปีศาจบัวแดง และเทพอมตะสวรรค์พิภพ พวกเขาใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อเข้าร่วมในสงครามห้าภูมิภาค

“มีเพียงเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เทพปีศาจคลั่ง และเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่เคลื่อนไหว

“ไม่ เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับเป็นเชลยและเหลือเพียงดวงวิญญาณ เขาจะมีพลังพอที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างไร? ข้าเป็นผู้นํานิกายเงา การเข้าร่วมในการต่อสู้ของข้าคือการเคลื่อนไหวของเขา”

“เทพปีศาจจิตวิญญาณกล้าหาญและรักการเข่นฆ่า หลังจากความตาย เขายังสะสมกองกําลังและบรรลุความสําเร็จที่น่าสะพรึงกลัว เขาเป็นปรมาจารย์เอกในทุกเส้นทาง พิจารณาเพียงระดับความสําเร็จ เขาถือเป็นตัวตนที่อันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์และเหนือกว่าผู้อมตะระดับเก้าคนอื่นๆไปแล้ว”

“แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องทําตามกฎพื้นฐานที่สุด โดยปราศจากพลังงานอมตะและวิญญาณอมตะ เขาก็ไม่มีเครื่องมือที่จะทําสิ่งใด

“สําหรับเทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพปีศาจคลั่ง ทั้งสองสามารถทํานายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่?

“พวกเขาควรจะสามารถทํานายได้ หลังจากทั้งหมดกระทั่งเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพปีศาจไร้ขอบเขตยังทิ้งการจัดเตรียมของพวกเอาไว้ เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพปีศาจคลั่งที่มาในภายหลังย่อมสังเกตเห็นและสามารถอนุมานบางสิ่ง

“หากพวกเขาสามารถทําลายการต่อสู้ครั้งนี้ แล้วพวกเขาจะทิ้งบางสิ่งไว้เพื่อแทรกแซงมันหรือไม่?”

“มีความเป็นไปได้ที่เทพปีศาจปล้นวิญญาณจะสนใจเพียงการกลับบ้าน แต่เทพปีศาจคลั่งจะไม่ทําสิ่งใดเลยงั้นหรือ? เขาป็นหนึ่งในเทพปีศาจที่บุกโจมตีวังสวรรค์ เขาย่อมต้องทิ้งบางสิ่งเอาไว้

“พวกเขาไม่เคลื่อนไหวในชีวิตก่อนหน้าของข้า แต่ข้าจะพบการจัดเตรียมของพวกเขาในชีวิตนี้หรือไม่?

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น หากเขาต้องการเอาชนะวังสวรรค์ เขาต้องหยิบยืมพลังอํานาจของผู้อมตะระดับเก้าเหล่านี้

เป็นเพียงเวลานี้ที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขัดจังหวะความคิดของฟางหยวน เขา กล่าว “ฟางหยวน ตอนนี้เจ้าได้รับวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปดไปแล้ว นั่นหมายความว่าเจ้ามีวิญญาณอมตะระดับแปดถึงห้าดวงอยู่ในมือ ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่กลับมีวิญญาณอมตะระดับแปดถึงห้าดวง สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ นอกจากวิญญาณอมตะขโมยชีวิตระดับแปด ฟางหยวนยังมีวิญญาณทัศนคติ วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ วิญญาณดาบแห่งปัญญา และวิญญาณป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ

นี่ยังไม่รวมวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาให้ความสนใจฟางหยวนมาตลอดและค่อนข้างเข้าใจสถานการณ์ของเขา

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก

เขาจะบอกจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้อย่างไรว่าเขาจะได้รับวิญญาณอมตะระดับเพิ่มขึ้นในอนาคตเช่นวิญญาณฤดูใบไม้ผลิ วิญญาณฤดูร้อน วิญญาณปราณใหญ่ และวิญญาณความเสียใจ

หากเขากล่าวออกไป มันจะไม่ทําให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหวาดกลัวงั้นหรือ?

“วิญญาณขโมยชีวิตมีข้อบกพร่อง ย้อนกลับไปเมื่อเทพปีศาจปล้นวิญญาณทิ้งมันไว้เบื้องหลัง เขากังวลว่าวิญญาณดวงนี้จะนําภัยพิบัติมาสู่ผู้คน ดังนั้นเขาจึงดัดแปลงมันและทําให้มันใช้งานได้เพียงสามครั้ง การต่อสู้เพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาในชีวิตก่อนหน้า มันถูกใช้สังหารจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า จากนั้นมันก็ถูกทําลายโดยต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของเฉินอี้

“นี่ไม่ใช่ข้อบกพร่องเดียวของมัน การใช้วิญญาณขโมยชีวิตเพียงลําพังไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรู นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าอึดอัดใจ”

ดังนั้นตอนนี้ข้าต้องคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเพื่อลบข้อบกพร่องนี้

“หากเป็นไปได้ มันจะดีกว่าหากข้าสามารถหาวิธีใช้วิญญาณขโมยชีวิตได้มากกว่าสามครั้ง”

ความคิดต่างๆพุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน

อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขข้อบกพร่องของวิญญาณขโมยชีวิตที่ถูกดัดแปลงโดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและกล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ดูเหมือนวิญญาณขโมยชีวิตจะใช้งานได้เพียงสามครั้งถูกต้องหรือไม่?”

หัวใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางสั่นสะท้านขึ้น ฟางหยวนรู้เรื่องนี้จริงๆ!

นี่เป็นไปได้อย่างไร? หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่รู้มาก่อน เขาจะไม่สามารถค้นพบเบาะแสใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเพียงชําเลืองมองแต่กลับตระหนักถึงเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน!

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอุทานด้วยความตกใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

ขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวถ้อยคําเหล่านี้ออกมา การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเพราะคํากล่าวของเขาก็คือการยืนยันข้อสงสัยของฟางหยวน

เขาปรับอารมณ์และกล่าวด้วยท่าทางเขินอายย “ไม่ใช่ว่าข้าจงใจซ่อนมันจากเจ้า ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าหลังจากนี้”

แม้จิตวิญญาณแผ่นดินจะไม่สามารถโกหก แต่พวกเขาสามารถคิดและวางแผน

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวว่าเขาตั้งใจจะบอกความจริงหลังจากนี้ แต่ความคิดของเขาคือเขาจะบอกความจริงหลังจากฟางหยวนค้นพบข้อบกพร่องนี้ นี่ไม่ถือเป็นการโกหก

ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและเผยรอยยิ้มบาง “ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ข้าต้องการแลกความหมายที่แท้จริงของบรรพชนผมยาวกับวิญญาณอมตะ แต่วิญญาณอมตะขโมยชีวิตอยู่ในสภาพนี้ ดังนั้นท่านควรเพิ่มส่วนต่างให้ข้า”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลอกตาและพึมพํา “ข้ารู้เรื่องนี้ พูดมา เจ้าต้องการสิ่งใดอีก”

ฟางหยวนยิ้ม “ข้ามีข้อเสนอ”

เขากล่าวข้อเสนอออกมา มันเป็นแนวคิดทั่วไป นั่นคือการกระชับความร่วมมือกับอีกสามเผ่าพันธุ์ด้วยการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกประหลาดใจ “เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ? เจ้ากําลังคิดที่จะยกระดับเส้นทางแห่งกาลเวลางั้นหรือ?”

ฟางหยวนพยักหน้า

นี่เป็นสิ่งจําเป็น

ปัจจุบันเขายังไม่ได้สังหารเซี่ยชา เขาไม่มีวิญญาณฤดูใบไม้ผลิ วิญญาณฤดูร้อน วิญญาณฤดูใบไม้ร่วง และวิญญาณฤดูหนาว เขายังไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา

วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนส่วนใหญ่ได้มากจากไห่ฟานและคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโหลาหล

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุด เส้นทางแห่งกาลเวลาก็เช่นกัน

นอกจากนี้มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงก็อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา ฟางหยวนต้องไปที่นั้น

ดังนั้นเขาจึงต้องยกระดับพลัน

ในทางแห่งกาลเวลา

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะพูดคุยกับอีกสามเผ่า ฟางหยวน สิ่งสําคัญในเวลานี้ยังเป็นวังสวรรค์ เราต้องกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เป็นอันตรายต่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างรวดเร็วที่สุด”

ฟางหยวนปลอบจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใดอยู่ อย่ากังวล ข้ากําลังรวบรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อจัดการวงสวรรค์ ข้ามีแผนสําหรับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านั้น ข้าจะปรับเปลี่ยนค่ายกลวิญญาณอมตะของเราเช่นกัน”

“ดีแล้ว” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตบไหล่ฟางหยวนและจากไป

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงไม่นานเขาก็นําวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามามอบให้กับฟางหยวน

ท่ามกลางวิญญาณอมตะเหล่านี้มีวิญญาณอมตะระดับหกจํานวนสามดวงและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดสองดวง

สําหรับฟางหยวน สิ่งที่มีประโยชน์กับเขามากที่สุดคือวิญญาณอมตะซ่อนเวลา มันมีความสามารถในการปกปิดตัวตนของผู้อมตะ

ต่อมาก็เป็นวิญญาณอมตะเข็มกาลเวลา วิญญาณอมตะดวงนี้เป็นวิญญาณสายโจมตี

อีกสามดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับหกสายสนับสนุน

สองวันต่อมา

ทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมากถูกโยนเข้าไปในวังวนแสงหลากสี

วิญญาณสติปัญญาพุ่งเข้าสู่วังวนแสงดังกล่าวราวกับแมวที่ได้กลิ่นปลา

ฟางหยวนเปิดมิติช่องว่างและเก็บวังวนแสงหลากสีไว้ภายใน

ย้อนกลับไปจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้วิธีนี้เพื่อย้ายวิญญาณสติปัญญาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปหูมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

วิธีนี้ฟางหยวนเคยใช้ในชีวิตก่อนหน้ามาแล้วเช่นกัน

คราวนี้แม้เขาจะคุ้นเคยแต่เขาต้องแสร้งทําเป็นไม่เคยรู้จักมันมาก่อนและกล่าวยกย่องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างไม่รู้จบสิ้น

เพื่อซ่อนความลับของการกําเนิดใหม่ เขาต้องเริ่มจากการปกปิดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความสุขกับคําสรรเสริญแต่เขาก็รู้สึกผิดหวังที่ความลับของเขาถูกเปิดเผย

“เห้อ…หัวใจของข้ารู้สึกว่างเปล่าเหลือเกิน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ เขาต้องการครอบครองวิญญาณสติปัญญามาตลอด แต่เขาไม่คาดหวังว่ามันจะยังตกอยู่ในมือของฟางหยวนในที่สุด หลังจากทั้งหมดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้วิญญาณอายุยืนจํานวนมากเพื่อเลี้ยงดูมัน

แต่เขาไม่สามารถทําสิ่งใด ภัยคุกคามจากวังสวรรค์ทําให้เขาต้องยอมรับสิ่งนี้ มิฉะนั้นวิญญาณสติปัญญาอาจจบลงในมือของวังสวรรค์

“ดูเคล็ดลับการหลอมรวมนี้ เราจะหลอมรวมมัน” หลังจากเก็บวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนส่งเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองมันอย่างระมัดระวัง “วิญญาณอมตะหมื่นตัวตน?”

“ถูกต้อง วิญญาณอมตะดวงนี้จะเพิ่มพลังการต่อสู้ของข้าได้มาก มันจะเป็นประโยชน์ในการต่อต้านวังสวรรค์” ฟางหยวนกล่าว “เริ่มเตรียมการได้เลย ข้าจะออกไปรวบรวมทรัพยากรอมตะระดับแปดทั้งหมด”

“โอ้ เดี่ยว เจ้าจะไม่แก้ไขค่ายวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

ฟางหยวนโบกมือโดยไม่หันหลังกลับ “อย่ากังวล ข้ารู้ว่ากําลังทําสิ่งใดอยู่”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “…”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท