เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1758 วังสวรรค์บุก

บทที่ 1758 วังสวรรค์บุก

บทที่ 1758 วังสวรรค์บุก

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว

แสงสีเลือดค่อยๆจางลง ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดเปิดออกฟางหยวนเดินออกมาโดยมีจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาติดตามมาด้านหลัง

แผนการประสบความสําเร็จ!

ในชีวิตก่อนหน้า จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมดําถูกเทพธิดาจื่อเว่ยสังหารจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวจึงปรากฏตัวขึ้น

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมดํามีความทะเยอทะยาน แม้เขาจะรู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีข้อตกลงกับถ้ําสวรรค์นิรันดรแต่เขาก็ไม่ต้องการใช้มัน

อย่างไรก็ตามเมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวปรากฏตัวขึ้นเขาขอความช่วยเหลือจากถ้ําสวรรค์นิรันดรทันที

การกระทําของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวทําให้ฟางหยวนต้องหลบหนีขณะที่วังสวรรค์ต้องล่าถอยด้วยความความพ่ายแพ้ ถ้ําสวรรค์นิรันดรได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ครั้งนี้ข้าสามารถปราบปรามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถ้ําสวรรค์นิรันดรจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

ตอนนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับไปเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมดําและอยู่ภายใต้การควบคุมของฟางหยวนแล้ว

เพื่อป้องกันความสงสัยของกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแสร้งทําตัวเหมือนเดิม

ฟางหยวนตั้งใจกล่าว “ทั้งหมดต้องขอบคุณผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งที่ช่วยเรากอบกู้สถานการณ์”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายิ้ม “นายฟางหยวน นี่เป็นเพราะเรามีค่ายกลวิญญาณ อมตะตอนนี้เราควรกลับไปหลอมรวมวิญญาณอมตะกันเถอะ”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยรอยยิ้มถ่อมตนเล็กน้อยยนอกเหนือจากผมที่หกผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ

ผู้ใดจะสามารถจินตนาการว่าการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจนี้จะเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา!

ฟางหยวนเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมและหลอมรวมวิญญาณอมตะต่อไป

หลายชั่วโมงต่อมา วิญญาณอมตะดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้น

วิญญาณอมตะหมื่นตัวตนระดับเจ็ด!

แม้เป้าหมายหลักของฟางหยวนจะเป็นการกดขี่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ต่อการหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน

ในชีวิตก่อนหน้า วิญญาณอมตะหมื่นตัวตนมีอัตราความสําเร็จเกินห้าสิบสวนแต่ตอนนี้เพื่อจัดการจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเขาต้องปรับเปลี่ยนเคล็ดลับการหลอมรวมและทําให้โอกาสประสบความสําเร็จลดลงเหลือสี่สิบสวน

แต่เขาไม่ยอมแพ้ หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนมีความสําคัญมาก

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนคือการรวมตัวกันของเส้นทางแห่งทาสและเส้นทางความแข็งแกร่งแต่มันซับซ้อนเกินไปและใช้เวลานานเกินไปในการกระตุ้นใช้งาน มันต้องใช้ความคิดมากมาย

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน ฟางหยวนจะประหยัดเวลาและสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสู่ระดับใหม่

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป เกราะหวนคืน หมื่นภูตมังกร ดาบภูตมังกรหมื่นตัว ตนและท่าไม้ตายอื่นๆต่างได้รับประโยชน์จากวิญญาณอมตะดวงนี้

แม้วิญญาณอมตะหลายดวงจะไม่สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ของฟางหยวนโดยตรง แต่พวกมันก็ทําให้รากฐานของเขาแข็งแกร่งขึ้น

การหลอมรวมวิญญาณอมตะสิ้นสุดลง หลังจากนั้นฟางหยวนก็เดินไปรอบๆแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีต้นกําเนิดที่ยิ่งใหญ่ มันถูกทิ้งไว้โดยหนึ่งในสามปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม บรรพชนผมยาว

บรรพชนผมยาวเป็นตัวตนในตํานาน เขาหลอมรวมวิญญาณอมตะจํานวนนับไม่ถ้วนในชีวิตของเขากระทั่งเทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดยังต้องขอให้เขาช่วยหลอมรวมวิญญาณ

บรรพชนผมยาวเป็นมนุษย์ขน แม้มนุษย์ขนจะมีชีวิตยืนยาวแต่พวกเขาก็ต้องตายในที่สุด

ถ้ําสวรรค์ระดับแปดถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตัดสินใจลดระดับมันลงมาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด

แดนศักดิ์สิทธิ์จะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่มีความรุนแรงน้อยกว่าถ้ําสวรรค์ ด้วยวิธีนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจึงสามารถเติบโตมาถึงวันนี้

มันมีพื้นที่ใหญ่โตกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป ในความเป็นจริงมันยังใหญ่กว่าถ้ําสวรรค์หลายแห่ง

ในแง่ของเวลา หนึ่งวันของโลกภายนอกเท่ากับสามสิบหกวันของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วของเวลา

ในแง่ของพลังงานแห่งเต๋ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมมากกว่าสามแสนร่องรอย นอกจากนั้นมันยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งวารีและปฐพีอีกไม่น้อย

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีสี่ทวีปได้แก่ทวีปผมดําทวีปผมเหลืองทวีปผมขาวและทวีปเมฆาแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีทรัพยากรและประชากรอาศัยอยู่มากมาย ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีผู้อมตะจํานวนมาก มันเป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่

ผู้คนจํานวนมากจะให้กําเนิดวิญญาณอายุยืนจํานวนมาก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของโลกใบนี้

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกเป็นทาสของฟางหยวน ทุกสิ่งที่อยู่ที่นี่จึงกลายเป็นสมบัติของเขา

นอกจากทรัพยากรและกําลังคน เขายังได้รับเคล็ดลับการหลอมรวม ท่าไม้ตาย และวิญญาณอีกมากมาย

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีวิญญาณอมตะล้ําค่าหลายดวง ตัวอย่างเช่นวิญญาณอมตะบัวสมบัติสวรรค์ระดับเจ็ด วิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร วิญญาณอมตะยันต์ค่ายกล และอื่นๆ

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีค่ายกลวิญญาณอมตะสามค่าย ค่ายกลแรกคือค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว ค่ายกลที่สองคือค่ายกลวิญญาณอมตะขนส่งค่ายกลที่สามคือค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณยักษ์สวรรค์

นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมระดับแปดที่ไม่สมบูรณ์

แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเทียมที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยายามสร้างยังไม่เสร็จมันคือทะเลหลอมรวม ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน เมื่อวังสวรรค์บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ห ลางหยา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้ประโยชน์จากทะเลหลอมรวมเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะหลอมรวมสี่มหาสมุทรและใช้มันควบคุมสถานการณ์

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีสมบัติจํานวนมากอยู่ในคลังแต่มีหินวิญญาณอมตะค่อนข้างน้อย

สุดท้าย แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังมีมรดกที่แท้จริงสามมรดก พวกมันเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด และมรดกที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว

วิญญาณอมตะขโมยชีวิตเป็นส่วนหนึ่งในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

เดิมที่หม่าหงหยุนได้รับเบาะแสเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์และเดินทางมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเพื่อขอให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาช่วยหลอมรวมวิญญาณสามดวง

นี่เป็นส่วนหนึ่งในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

ฟางหยวนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงทั้งสาม หลายปีก่อน เขาทําธุรกรรมกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและสามารถเรียนรู้เรื่องนี้

ในเวลานั้นเพื่อจัด

งแกร่ง เขาต้องขายแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

“ข้าเหลือเวลาอีกครึ่งเดือน” ฟางหยวนประเมิน

ในชีวิตก่อนหน้า เขาใช้ช่วงเวลานี้คิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปแต่เขาประสบความสําเร็นในปีต่อมา

คราวนี้เขามีท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องอนุมานก็คือการเพิ่มผลกระทบบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปในท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต

แม้เขาจะกําหราบจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่เพียงพอ แต่เขายังไม่รีบกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

เขาตัดสินใจใช้กลยุทธ์เดียวกับการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค เขาจะใช้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นกับดักเพื่อล่อให้สมาชิกของวังสวรรค์เข้ามา

ประการแรก ฟาหงยวนต้องการให้ฟงจิวเก้อมาที่นี่และส่งมอบวิญญาณท่องแดนอมตะให้เขา

ประการที่สอง เขาต้องการให้วังสวรรค์เปิดเผยท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดารา ท่าไม้ตายนี้จะเปลี่ยนสถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาค กองกําลังใหญ่ทั้งหมดจะรู้สึกถึงภัยคุกคามจากมัน

ประการที่สาม เขาต้องการสังหารผู้อมตะของวังสวรรค์ล่วงหน้า ฟางหยวนไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะทําให้วังสวรรค์อ่อนแอลง

ประการสุดท้าย ฟางหยวนต้องการหยิบยืมพลังอํานาจของวังสวรรค์เพื่อจัดการผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์

สิบกว่าวันผ่านไป

ภาคกลาง วังสวรรค์

กระดานหมากรุกกลุ่มดาวยิงลําแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าและส่งแสงดาวจํานวนนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่ววังสวรรค์

ผู้อมตะของวังสวรรค์เกือบสิบคนพร้อมออกเดินทางโดยมีเทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้นํา

“ผู้ใดจะคิดว่าวิญญาณสติปัญญาจะอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา หากวังสวรรค์ได้รับมัน กระดานหมากรุกกลุ่มดาวจะกลายเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะกลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ วังสวรรค์จะสามารถฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมได้อย่างแน่นอน!” เทพธิดาคือเว่ยเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ฟางหยวน ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยตนเอง!” จักรพรรดินีอสูรสายฟ้ากัดฟันแน่

ฟงจิวเก้อเงียบ

เฉินอี้กําลังรออยู่อย่างอดทน

“ข้าไม่สามารถล้มเหลวอีกครั้ง”

“ข้าพึ่งเข้าสู่วังสวรรค์ ข้าต้องแสดงผลงานบางอย่าง”

“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี ไม่ว่าฟางหยวนจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ยังเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีชื่อเสียงมาก แต่มันยังอ่อนแอเกินไป กระทั่งฟงจิวเก้อก็ยังสามารถเข้าไปและกลับออกมาได้ตามความปรารถนา ตอนนี้เรามีผู้อมตะระดับแปดจํานวนมาก เราต้องชนะอย่างแน่นอน เห้อ…ท่านหญิงจื่อเว่ยระวังตัวเกินไป”

เฉินอี้พึมพํา

เทพธิดาจอเว่ยระดมกองกําลังขนาดใหญ่ในครั้งนี้ มันเหมือนเสือที่ออกล่ากระต่าย

ในความคิดเห็นของเฉินอี้ ผู้อมตะระดับแปดเพียงสองหรือสามคนก็เพียงพอที่จะทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้อย่างง่ายดาย

หลังจากทั้งหมดสมาชิกของวังสวรรค์ล้วนเป็นคนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับแปด

ภายใต้ความคาดหวังของสมาชิกวงสวรรค์ แสงดาวบนท้องฟ้าควบรวมเป็นเสาแสงสีฟ้าอ่อน

ท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดารา!

“ไปกันเถอะ ไปทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและจับปีศาจฟางหยวน!” เทพธิดาจื่อเว่ยออกคําสั่ง

จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเป็นคนใจร้อนที่สุด นางรีบพุ่งเข้าไปในเสาแสงทันที

“ฟางหยวนข้ามาแล้ว!” จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเผยรอยยิ้มเยาะ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท