เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1762 การโจมตีของจื่อเว่ย

บทที่ 1762 การโจมตีของจื่อเว่ย

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1762 การโจมตีของจื่อเว่ย

“ฟางหยวน เจ้าควรดูร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้มันกําลังเกิดการเปลี่ยนแปลง!” ทันทีที่การต่อสู้จบลงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

“อันใด!?” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

เขารีบออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะและไปยังแหล่งที่มาของการเปลี่ยนแปลง

ฟงจิวเก้อทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เอาไว้หลายแห่งตอนนี้มีบางแห่งเกิดการเปลี่ยนแปลงมันส่องแสงสีฟ้าอ่อนราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าออกมา

“มันสามารถเปลี่ยนแปลง!”

ด้วยความสําเร็นบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวฟางหยวนตระหนักว่ามันกําลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น

“ดูเหมือนฟงจิวเก้อจะถูกส่งกลับวังสวรรค์โดยตรง ดังนั้นเทพธิดาอเว่ยจึงได้รับข้อมูลบางอ ย่าง

“พวกเขาตอบสนองเร็วมาก!”

ฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ในการต่อสู้ก่อนหน้า เขาไม่ควรถ่วงเวลาเพื่อสร้างสถานการณ์ที่จะทําให้ทั้งสองฝ่ายประสบความสูญเสีย

เขาควรโจมตีและฆ่าเฉินอี้ทันที

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึม “การเปลี่ยนแปลงนี้ควรเกิดจากความพยายามในการค้นหาตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเราต้องกําจัดมัน!”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากังวลมาก “เกลียวแสงสีดําทําลายได้ง่าย แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งดวงดาวเหล่านี้ไม่สามารถกําจัด ข้าพยายามแล้ว!”

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เป็นเพียงเวลานี้ที่กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มาถึง

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อพวกเขา ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจขณะที่เขาไตร่ตรองมันอย่างรวดเร็ว

“เทพธิดาจื่อเว่ยกําลังดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย

“วังสวรรค์พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ ตอนนี้นางกําลังโกรธจัด

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกย้ายที่ตั้งมาแล้ว แต่ดูเหมือนองค์ชายฟงเซี่ยนยังอยู่ใกล้ๆและพยายามค้นหามันอย่างลับๆ

“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เทพธิดาจื่อเว่ยประสบความสําเร็จ นั่นจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย”

เมื่อตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์ลางหยาถูกเปิดเผย ไม่เพียงองค์ชายฟังเซียนจะบุกโจมตีแต่วังสวรรค์จะส่งกําลังเสริมมาอย่างไม่รู้จบสิ้น แม้วังสวรรค์จะล้มเหลวในที่สุดแต่ฟางหยวนก็ยังจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

วังสวรรค์อาจบ้าคลั่งและบอกตําแหน่งที่ตั้งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากับสาธารณชน

หากเป็นเช่นนั้น แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะดึงดูดความโลภของผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วน

ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะเป็นกองกําลังแรกที่บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

“ข้าควรทําอย่างไร?” ฟางหยวนคิดอย่างรวดเร็ว

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เริ่มวิตก

พวกเขาได้รับคําอธิบายจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและเรียนรู้เกี่ยวกับความรุนแรงของสถานการณ์

“วังสวรรค์น่ากลัวเกินไป เราสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดสองคนหลังจากทุ่มเทความพยายามทั้งหมด

“เรายังไม่พ้นอันตราย หากเราไม่กําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะถูกเปิดเผย เราจะไม่สามารถปกป้องสถานที่แห่งนี้”

“ถูกต้อง ตอนนี้เราสามารถพึ่งพาท่านฟางหยวนเท่านั้น!”

แม้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะสามารถย้ายที่ตั้ง แต่พวกเขาไม่สามารถทําได้ในช่วงเวลาที่เกิดความโกลาหล

ทุกคนมองฟางหยวนด้วยความคาดหวัง

“ข้ารู้แล้ว!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

“เจ้าพบวิธีรับมือแล้วงั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม

“เราต้องใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ข้าจะปรับแต่งร่องรอยข องพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้!” ฟางหยวนตอบ

วิธีการของฟางหยวนคือการใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเพื่อปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เป็นอันตรายเหล่านี้

ในชีวิตก่อนหน้า เขาไม่ได้คิดถึงวิธีนี้เพราะเขาไม่รู้จักค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

เมื่อถึงเวลาที่เขารู้ การต่อสู้ก็สิ้นสุดลงแล้ว เขาขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะ ถ้ําสวรรค์นิรันดรมาถึงฟางหยวนต้องหลบหนี

ครั้งนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกเป็นทาสของฟางหยวนตั้งแต่แรก หลังจากได้ยินคํากล่าวของฟางหยวน เขาไม่ลังเลที่จะทําตามคําสั่ง

ทรัพยากรอมตะระดับแปดถูกโยนเข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทีละชิ้น ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกประหลาดใจขณะที่ใบหน้าของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนกระตุก

“ทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมาก!”

“นี่คือความมั่งคั่งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา!”

“มันเหมือนกะหล่ําปลีที่วางขายในตลาด หากข้าไม่เห็นกับตาของตนเอง ข้าจะไม่เชื่อ…”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน “ผู้อาวุโสฟางหยวน แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อรวบรวมสิ่งเหล่านี้ วิธีการปรับแต่งของเจ้าเข้มงวดเกินไปบางที่เราอาจรอสักครู่และพัฒนาวิธีนี้เพื่อประหยัดทรัพยากรอมตะ”

“ไม่! เชื่อข้า ตอนนี้เราอยู่ในอันตรายร้ายแรงจริงๆแม้ศัตรูจะยังไม่บุกเข้ามาในเวลานี้ แต่เรา ยังไม่ปลอดภัยเราต้องแข่งขันกับเวลา!” ฟางหยวนไม่ได้กล่าวถึงองค์ชายฟงเซี่ยนนี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา เขาไม่มีหลักฐาน

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถูกควบคุมโดยฟางหยวนคํากล่าวของฟางหยวนอาจฟังดูเห มือนคําแนะนําแต่โดยพื้นฐานมันคือคําสั่ง

“ตกลง ข้าจะฟังเจ้า!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบสั้นๆ

ฟางหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ช่วยข้าปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้ ข้าจะเข้าไปในห้องลับและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาต่อสู้กับวังสวรรค์ ผู้ใดที่รบกวนข้าจะถือเป็นสายลับของวังสวรรค์ ข้าจะฆ่าคนผู้นั้นทันที!”

ฟางหยวนมองไปรอบๆด้วยเจตนาสังหารและทําให้หัวใจของกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกหนาวเย็น

หลังจากแจ้งเตือน เขาเข้าสู่ห้องลับในเมืองเมฆา

วังสวรรค์

เทพธิดาจอเวียนั่งบิดเปลือกตาและปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมาจากร่างกาย

แสงสีม่วงปกคลุมห้องโถงขณะที่การป้องกันของฟางหยวนถูกค้นพบโดยเทพธิดาจื่อเว่ยในไม่

นางขมวดคิ้วและหัวเราะเสียงเย็น “ต้องการหยุดข้างั้นหรือ? กระดานหมากรุกกลุ่มดาว!”

นางเรียกกระดานหมากรุกกลุ่มดาวออกมา

ก่อนหน้านี้ฟงจิวเก้อกลับมายังวังสวรรค์ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส แต่เขายังมอบข้อมูลสําคัญให้กับเทพธิดาจื่อเว่ย

หลังจากเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เทพธิดาจอเว่ยเข้าใจทันทีว่าเกลียวแสงสีดําถูกเปิดเผย แทบจะไม่มีความหวังที่จะใช้งานพวกมันอีกต่อไป ดังนั้นนางจึงตัดสินใจใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพื่อค้นหาตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

“ข้ายังไม่แพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้เ” เทพธิดาจื่อเว่ยยังมั่นใจ

เฉินอี้และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้ามีแนวโน้มที่จะไม่กลับมา ฟงจิวเก้อได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป เทพธิดาจื่อเว่ยเป็นผู้รับผิดชอบการต่อสู้ครั้งนี้ นางต้องการชดเชยความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

ในชีวิตก่อนหน้า ถ้ําสวรรค์นิรันดรเคลื่อนไหว พวกเขาแข็งแกร่งมาก ดังนั้นปฏิกิริยาตอบสนองของเทพธิดาจื่อเว่ยจึงไม่รุนแรงนัก

แต่ตอนนี้นางแพ้ฟางหยวนและผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายเช่นนี้

เป็นดังที่ฟางหยวนคาดเดา เทพธิดาจื่อเว่ยโกรธมาก

นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพลิกสถานการณ์

กระดานหมากรุกกลุ่มดาวเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด มันมีประโยชน์มาก

เทพธิดาจอเว่ยกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็วในการต่อสู้บนเส้นทางแห่งปัญญา

ในชีวิตก่อหน้า แม้เทพธิดาอเว่ยจะใช้วิธีนี้ แต่ถ้ําสวรรค์นิรันดรไม่อนุญาตให้นางทําได้ การเคลื่อนไหวของนางกลายเป็นไร้ประโยชน์

แต่ตอนนี้เทพธิดาอเว่ยยังมีความหวังและมั่นใจว่านางสามารถเอาชนะฟางหยวน

“ไม่ดีแล้ว” ฟางหยวนรู้สึกราวกับถูกภูเขากดทับ

การทํางานของวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยมีข้อได้เปรียบในการอนุมานตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ฟางหยวนไม่เห็นความหวังที่จะหยุดนาง

“แม้ข้าจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญามากมาย แต่ข้ายังขาดวิธีที่ทรงพลัง

แม้ฟางหยวนจะครอบครองวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า แต่เขาก็ใช้ได้เพียงแสง แห่งปัญญาสําหรับวิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาระดับแปด ฟางหยวนยังไม่มีพลังงานอมตะระ ดับแปดเขามีเพียงวิญญาณทัศนคติ แต่เขาจะคิดค้นท่าไม้ตายที่ใช้วิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลางเพื่อป้องกันการอนุมานของเทพธิดาจื่อเว่ยในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างไร?

เหลือเพียงวิธีสุดท้าย!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท