เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1764 คํานวณกําไร

บทที่ 1764 คํานวณกําไร

บทที่ 1764 คํานวณกําไร

องค์ชายฟงเซี่ยนไม่ต้องการต่อสู้กับมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิด เขายังไล่ล่าฟางหยวนต่อไป

อย่างไรก็ตามมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดตัวที่สองกลับปรากฏตัวขึ้นในส่วนลึกของทะเลสาบเยือก แข็งและปิดกั้นองค์ชายฟงเซี่ยน

“มีมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดสองตัวอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” องค์ชายฟงเซี่ยนตกใจมาก

เขาโกรธจัดเพราะถูกกีดขวาง

ฟางหยวนมีความสุขมาก เขาสามารถหลบหนีจากการไล่ล่าขององค์ชายฟงเซี่ยน

ในไม่ช้าเขาก็พบอุโมงค์ลับใต้ทะเลสาบ

ฟางหยวนว่ายเข้าไปในอุโมงค์และไปถึงทะเลสาบอีกแห่งหนึ่ง

มันเป็นทะเลสาบเยือกแข็งขนาดใหญ่ที่สงบเงียบ มีมังกรน้ําแข็งฝูงใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่

“แท้จริงแล้วพวกมันเป็นฝูงใหญ่มาก ไม่แปลกใจเลยที่มีมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดสองตัว เดี๋ยว! สามตัว!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

เขาพบมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดอีกตัวอยู่ที่นี่

มังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดตัวที่สามเริ่มวิตกเมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้

มันคํารามเสียงดังก่อนจะไม่สามารถอดทนและรีบไปช่วยมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดอีกสองตัว

“มังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดสามตัว ฮ่าฮ่า” ฟางหยวนรู้สึกสงสารองค์ชายฟงเซี่ยนเล็กน้อย

องค์ชายฟงเซี่ยนกําลังมีปัญหา

มังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดมีสติปัญญาต่ํากว่ามนุษย์ พวกมันไม่สามารถสังหารองค์ชายฟงเซี่ยน ในความเป็นจริงมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดหนึ่งหรือสองตัวอาจตาย

“แต่ในเวลาที่องค์ชายฟงเซี่ยนสามารถกําจัดมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิด ข้าก็จากไปแล้ว”

ฟางหยวนกําลังจะจากไปแต่ทันใดนั้นเขากลับหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

เขาเห็นไข่มังกรน้ําแข็งจํานวนมาก

ไข่แต่ละใบมีขนาดเท่ากับโม่หิน มันมีอยู่สองหรือสามร้อยใบ

ดังนั้นมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดก็กําลังปกป้องไข่เหล่านี้ มันคือเหตุผลที่พวกมันปฏิเสธที่จะหลบหนี คือ นี่คือสิ่งใด?”

ใจกลางไข่จํานวนมาก เขาเห็นหินสีขาวที่ปลดปล่อยพลังงานความเย็นออกมา

“มันคือทรัพยากรอมตะระดับแปดศิลาเยือกแข็ง? ชิ้นใหญ่มาก มันเป็นสมบัติล้ําค่า

กระทั่งฟางหยวนที่มีความมั่งคั่งในปัจจุบันก็ยังรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นมัน

ถึงจุดนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเหตุใดที่นี่จึงมีมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดถึงสามตัว

เขานําศิลาเยือกแข็งและไข่มังกรน้ําแข็งจากไปทันที

โชคของข้าทําให้องค์ชายฟงเซี่ยนและมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดต่อสู้กันขณะที่ข้าสามารถหลบหนีและได้รับกําไรมหาศาล!” ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

องค์ชายฟงเซี่ยนไม่ใช่ฟงจิวเก้อ

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์เตฟงจิวเก้อ โชคที่เหนือกว่าของฟางหยวนสามารถแสดงพลังอํานาจของมันออกมาอย่างชัดเจน

องค์ชายฟงเซี่ยนไม่สามารถหยุดฟางหยวนขณะที่เขากลับได้รับผลประโยชน์ หากปราศจากองค์ชายองค์เชี่ยนที่ช่วยต่อสู้กับมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิด ฟางหยวนจะไม่มีโอกาสขโมยสมบัติล้ําค่าเหล่านี้

นี่คือพลังอํานาจบนเส้นทางแห่งโชค!

“ข้าต้องขอบคุณองค์ชายฟงเซี่ยนสําหรับความร่วมมือของเขา” ฟางหยวนมีความสุขมาก ตอนนี้เขาสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อหลบหนี

องค์ชายฟงเซี่ยนยังต่อสู้กับมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดสามตัวอยู่ในขณะนี้

ทันใดนั้นมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดทั้งสามก็ได้รับข้อมูลจากมังกรน้ําแข็งตัวอื่นๆและตระหนักว่า ไข่ของพวกมันถูกขโมยไป พวกมันกลายเป็นโกรธจัด ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง พวกมันพ่นลมหายใจเยือกแข็งออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แม้องค์ชายฟงเซี่ยนจะทรงพลัง แต่เขาก็ยังมีนงงกับการกระทําของฝ่ายตรงข้ามและทําได้ เพียงป้องกันตัวเองอย่างสิ้นหวังเท่านั้น

งูโง่เหล่านี้กําลังทําสิ่งใด? เหตุใดพวกมันถึงดุร้ายนัก?” องค์ชายฟงเซี่ยนไม่เข้าใจ

“เห้อ… เดรัจฉานเหล่านี้ทําให้ข้าเสียเวลาไปมาก ฟางหยวนคงหนีไปแล้ว ภารกิจของข้าล้มเหลว!” องค์ชายฟงเซี่ยนถอนหายใจ

ฟางหยวนเชี่ยวชาญในการหลบหนี เขาสามารถเปลี่ยนร่าง ขณะที่องค์ชายฟงเซี่ยนเสียเปรียบด้านสถานที่

ฟางหยวนใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบนี้เพื่อหลบหนี

สําหรับตัวตนชั้นสูง นอกจากท่าไม้ตายอมตะ พวกเขายังต้องเรียนรู้การชิงความได้เปรียบและพิจารณาสถานการณ์ในภาพรวม

“เช่นนั้นก็กลับมาเถอะ ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ เจ้าปรากฏตัวในเวลานี้ เขาคงสามารถอนุมานตัวตนที่แท้จริงของเจ้าได้แล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยถ่ายทอดเสียง

องค์ชายฟงเซี่ยนเงียบ เขารู้สึกไม่พอใจ แต่เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวได้ถูกต้อง เขาไม่สามารถดูแคลนฟางหยวน

เมื่อองค์ชายฟงเซี่ยนปรากฏตัวขึ้นและต่อต้านฟางหยวน ตัวตนของเขาก็ถูกเปิดเผยแล้ว

“ข้าจะถอย!” องค์ชายฟงเซี่ยนกัดฟันและบินออกจากทะเลสาบเยือกแข็ง

แต่มังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดทั้งสามไม่ยอมปล่อยเขาไป

“เกิดสิ่งใดขึ้น? งูสามตัวนี้บ้าไปแล้วงั้นหรือ? พวกมันไม่ยอมปล่อยข้า!” องค์ชายฟงเซี่ยนรู้สึกว่าตนเองโชคไม่ดี สัตว์ร้ายเหล่านี้รบกวนเขาโดยไม่มีเหตุผล

“พวกเจ้าคิดว่าข้าจะไม่สามารถทําสิ่งใดพวกเจ้างั้นหรือ?” องค์ชายฟงเซี่ยนโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเขากําลังจะโจมตี เสียงคํารามของสัตว์อสูรลึกลับพลันดังขึ้นจากหุบเขา จากนั้นร่างของสัตว์อสูรแรกกําเนิดหลายตัวก็ปรากฏขึ้น และมององค์ชายฟงเซี่ยนด้วยความเกลียดชัง

พวกมันเป็นเพื่อนบ้านของมังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดและอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปี

แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มาจากที่ใด?

เขากล้าบุกอาณาเขตของพวกมัน!

ใบหน้าขององค์ชายฟงเซี่ยนกลายเป็นซีดเผือด ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ต้องห้ามของภาคเหนือ กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังต้องระวังตัว

ข้าอาจพบคลื่นสัตว์อสูร ข้าต้องรีบออกไป!” หัวใจขององค์ชายฟงเซี่ยนจมดิ่งลง

“ฮัดชิ้ว!” ก่อนที่เขาจะสามารถทําสิ่งใด เขาถูกโจมตีโดยปราณน้ําแข็งของมังกรน้ําแข็ง แรกกําเนิด ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ําแข็ง มวลความเย็นทําให้เขาจามออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ปัง!”

เขาถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกบอลน้ําแข็งและตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช

มังกรน้ําแข็งแรกกําเนิดสามตัวไล่ล่าองค์ชายฟงเซี่ยนอย่างไม่ลดละ แต่เขาไม่กล้าตอบโต้ เขา อดทนต่อการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามด้วยใบหน้ามืดมนราวกับขี้เถ้า และพยายามหลบหนีออกจากหุบเขาด้วยเลือดที่อาบย้อมไปทั้งร่าง

สามวันต่อมา

ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมหยุดทํางาน ร่องรอยของพลังงานแห่ งเต๋ที่เป็นอันตรายส่วนสุดท้ายถูกลบออก

“เราทําสําเร็จในที่สุด!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ

ฟางหยวนสูดหายใจลึก เขาปลอดภัยแล้ว

สามวันที่ผ่านมาเทพธิดาจื่อเว่ยพยายามอนุมานอย่างต่อเนื่อง ฟางหยวนรู้สึกกดดันมาก แม้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตจะทําหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์ แต่ฟางหยวนก็สูญเสียรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไปไม่น้อย

เปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าลดลงมากกว่าเดิม

“เพื่อปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เป็นอันตรายเหล่านี้อย่างรวดเร็วที่สุด ข้าต้องใช้ทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมาก

“แต่เปรียบเทียบกับกําไรที่ข้าได้รับ การสูญเสียเหล่านี้ไม่ถือเป็นสิ่งใด

ฟางหยวนคํานวณกําไรจากการต่อสู้ครั้งนี้

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่เป็นอันตรายถูกกําจัดออกไปแล้ว เทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถค้นหาตําแหน่งของเขา การต่อสู้เพื่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจบลงในที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟางหยวนชนะการต่อสู้ครั้งนี้และได้รับกําไรมหาศาล

เขาค่อนข้างพอใจกับมัน

ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา ไม่มีสิ่งใดเกินความคาดหมาย

นี่คือข้อดีของการกําเนิดใหม่!

พลังอํานาจของวิญญาณกาลเวลาเห็นได้อย่างชัดเจน

แน่นอนว่าหากไม่ใช่ฟางหยวนที่มีทั้งกําลังและสติปัญญา ไม่ว่าคนผู้หนึ่งจะกําเนิดใหม่กี่ครั้ง พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใด

โดยพื้นฐานแล้ววิญญาณกาลเวลาเป็นเพียงวิญญาณสายสนับสนุน หลังจากกําเนิดใหม่ ผู้อมตะต้องใช้ความสามารถของตนเอง

“แต่ยังมีสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น

“ฟงจิวเก้อสามารถหลบหนีด้วยท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม

“เทพธิดาจื่อเว่ยยอมแพ้ต่อเกลียวแสงสีดํา และพยายามอนุมานตําแหน่งที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนไม่รู้ในชีวิตก่อนหน้า

การเกิดใหม่ไม่ได้หมายความว่าฟางหยวนจะรู้ไพ่ตายทั้งหมดของศัตรู

โดยเฉพาะวังสวรรค์ที่มีรากฐานลึกล้ําเกินไป

การกําเนิดใหม่มีข้อได้เปรียบแต่มันก็ไม่แน่นอน

ศัตรูไม่ได้โง่เขลา หากเขาทําตัวต่างไปจากชีวิตก่อนหน้า ฝ่ายตรงข้าก็จะตอบสนองและกระทําการที่แตกต่างออกไป

การตัดสินใจส่งองค์ชายฟงเซี่ยนออกไล่ล่าฟางหยวนของเทพธิดาจื่อเว่ยเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดของเรื่องนี้

สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน

ก่อนการต่อสู้ ฟางหยวนพิจารณาเรื่องนี้ไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะต่อต้านวังสวรรค์โดยไม่อนุญาตให้ถ้ําสวรรค์นิรันดรเข้ามาเกี่ยวข้อง

หลังจากกําหราบจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนจึงได้รับทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

ในความเป็นจริงเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากถ้ําสวรรค์นิรันดร และบังคับให้ถ้ําสวรรค์นิรันดรต่อสู้กับวังสวรรค์ ก่อนจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในเวลาที่เหมาะสม

แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ฟางหยวนล้มเลิกความคิดนี้

มันเสี่ยงเกินไป!

แม้เขาอาจได้รับผลประโยชน์มหาศาลหากทําสําเร็จ แต่ความเสี่ยงสูงเกินไป ฟางหยวนไม่เต็มใจทําสิ่งนี้

วิญญาณกาลเวลาต้องการเวลาฟื้นตัว มันไม่สามารถใช้งาน

ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่สามารถดูแคลนศัตรู

ไม่ว่าจะเป็นถ้ําสวรรค์นิรันดรหรือวังสวรรค์ พวกเขาล้วนมีอัจฉริยะระดับแปดจํานวนมาก

หากเขาประมาท สถานการณ์จะยิ่งบิดเบี้ยว ฟางหยวนไม่มีกําลังพอที่จะระงับสถานการณ์ที่เกิดจากกองกําลังทั้งสอง

ดังนั้นเขาจึงเลือกต่อต้านเพียงวังสวรรค์

ด้วยวิธีนี้ตัวแปรจะลดน้อยลง เขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ แม้เหตุร้ายที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น แต่เขาก็จะไม่รู้สึกลําบากใจมากนักและจะได้รับชัยชนะในที่สุด

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาตกเป็นของฟางหยวนแล้ว

เขาวางสามทวีปของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไว้ในทะเลตะวันออกน้อยติดกับภาคกลางน้อย สําหรับทวีปเมฆา เขาวางมันไว้ในสวรรค์สีขาวน้อย

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์ถูกรื้อถอน เขาวางแผนที่จะดัดแปลงมันในภายหลัง

ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ไม่บุบสลายถูกเก็บไว้ในทวีปเมฆา

สําหรับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด เทพปีศาจปล้นสวรรค์ และบรรพชนผมยาว ฟางหยวนจะค้นคว้าพวกมันในอนาคต

“สามวันผ่านไปแล้ว ข้าสงสัยว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นจะตัดสินใจอย่าง ไร?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว

ฟางหยวนกันเสียงเย็น “ข้าคือผู้อมตะระดับแปด! ปราชญ์ย่อมยอมจํานนต่อสถานการณ์ หากพวกเขาตาบอดและไม่ต้องการเข้าร่วมนิกายหลางหยา เราจะกําจัดคนเหล่านี้!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท