เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1765 รับมนุษย์กลายพันธุ์
มิติช่องว่างจักรพรรดิ
สวรรค์สีขาวน้อย ทวีปเมฆา
“เป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนตัดสินใจหรือยัง?” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนกําลังเผชิญหน้าอยู่กับกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์
คนเหล่านี้ประกอบด้วยผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะปิงหยวน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินซื่อจง ซื่อ เฉิง และผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึกโม่ฉีอี้
ด้วยการวางแผนของฟางหยวน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จึงเหลือเพียงคนทั้งสี่
สามวันก่อนหลังจากฟางหยวนสามารถหลบหนีจากองค์ชายฟงเซี่ยน เขาปล่อยให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่ตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการเข้าร่วมนิกายหลางหยาหรือไม่ พวกเขามีเวลาสามวันในการพิจารณา
ตอนนี้ถึงเวลาที่กําหนดแล้ว
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนและจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามารวมตัวกัน
ปิงหยวนและคนอื่นๆแสดงออกด้วยความลําบากใจ
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากันเสียงเย็นอยู่ภายในแต่ภายนอกยังยิ้มแย้มแจ่มใสและกล่าวอย่างอบอุ่น “ทุกคน พวกเจ้าสามารถบอกข้าได้ว่าพวกเจ้ามีปัญหาใด เราเป็นพันธมิตร เราคือครอบครัว! แม้ตอนนี้ข้าจะเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่ข้าก็ไม่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพวกเจ้า”
ฟางหยวนใช้ทั้งไม้และแครอท เขาชี้ให้เห็นถึงการบ่มเพาะระดับแปดของเขาด้วยรอยยิ้ม มีความหมายลึกซึ้งอยู่เบื้องหลังคํากล่าวและการกระทําของเขา
ได้ยินคํากล่าวของฟางหยวน ใบหน้าของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่กลายเป็นยิ่งน่าเกลียด
ฟางหยวนขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าก่อนหน้านี้ ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก มนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ต้องให้ความสําคัญกับเขา
ตอนนี้เขาสามารถเอาชนะวังสวรรค์ เขาสังหารสองผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ต่อหน้าทุกคน
ชื่อเสียงของฟางหยวนเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยเท่า เขาเหมือนภูเขาสูงที่ยืนอยู่ต่อหน้าคนเหล่านี้
คํากล่าวของเขามีความหมายแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหลังการต่อสู้ครั้งนี้
ทุกถ้อยคําของฟางหยวนเหมือนภูเขาที่กดทับหัวใจของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์
เมื่อเห็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เงียบ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอีกครั้ง “ข้ากําลังพยายามช่วยพวกเจ้า พวกเจ้ามีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่ผ่านมา ฟงจิวเก้อสามารถหลบหนี เขาจะเปิดเผยข้อมูลนี้ออกไป ด้วยความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญาของวังสวรรค์ พวกเขาจะอนุมานข้อมูลของพวกเจ้าได้อย่างง่ายดาย การพักอยู่ที่นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่มองหน้ากันด้วยความขมขื่น
ฟางหยวนกล่าวถูกต้อง
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาเข้าร่วมนิกายหลางหยา พวกเขาจะสูญเสียอิสรภาพ
สิ่งนี้แตกต่างจากข้อตกลงพันธมิตรก่อนหน้านี้
ผู้ใดจะต้องการสูญเสียอิสรภาพ?
ฟางหยวนกล่าวถ้อยคําที่น่าฟังและขอให้พวกเขาเข้าร่วมนิกายหลางหยา แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสีรู้ว่านิกายหลางหยาถูกกลืนกินโดยฟางหยวนไปแล้ว การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมันก็คือการยอมจํานนต่อฟางหยวนและกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
มันไม่เป็นไรหากฟางหยวนเป็นมนุษย์ขน แต่ความจริงก็คือเขาเป็นมนุษย์!
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่ไม่ต้องการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้อมตะเผ่ามนุษย์
แต่สถานการณ์ค่อนข้างแปลก พวกเขาไม่มีทางเลือกและไม่สามารถกล่าวออกมาโดยตรง
การปฏิเสธคําขอของฟางหยวนจะส่งผลกระทบที่น่ากลัว
รอยยิ้มของฟางหยวนค่อนๆจางลง เขากระตุ้นฝ่ายตรงข้ามเสียงเรียบ “ทุกคน พวกเจ้าคิดมากเกินไป หากข้าต้องการทําร้ายพวกเจ้า ข้าสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ทันที พวกเจ้าจะต่อต้านข้าได้อย่างไร?”
ฟางหยวนข่มขู่อย่างเปิดเผย การแสดงออกของสี่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เปลี่ยนไปทันที
พวกเขาไม่สามารถตําหนิฟางหยวน
ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด เขายังมียักษ์สวรรค์ ขณะที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินมีเพียงมังกรหินแรกกําเนิด แล้วพวกเขาจะต่อต้านฟางหยวนได้อย่างไร?
ฟางหยวนมองพวกเขาและกล่าวต่อ “แม้ข้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางสายปีศาจ แต่นั่นเป็นเพราะข้าไม่มีทางเลือก วังสวรรค์ต้องการฆ่าข้า แล้วข้าจะทําสิ่งใดได้? พวกเจ้าเป็นสหายและครอบครัวของข้า ข้าจะไม่ทําร้ายพวกเจ้า หลังจากพวกเจ้าเข้าร่วมนิกายหลางหยา เราจะยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น หากพวกเราแยกย้ายกันไป วังสวรรค์หรือถ้ําสวรรค์นิรันดรอาจสร้างปัญหากับพวกเจ้า นั่นจะทําให้พวกเราทุกคนอ่อนแอลง!”
ฟางหยวนกล่าวอย่างจริงจังและทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่สงบลงเล็กน้อย
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคิด การแสดงของนายท่านฟางหยวนไร้ที่ติจริงๆ แผนการต่อต้านผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ของนายท่านบังคับให้พวกเขามาถึงจุดนี้
“หากพวกเขารู้ความจริง ข้าสงสัยนักว่าพวกเขาจะแสดงออกอย่างไร?
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่ไม่ได้โง่เขลา พวกเขาค่อนข้างฉลาด ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นผู้นําของเผ่าพันธุ์และสามารถรอดชีวิตมานานหลายปี
พวกเขาสงสัยฟางหยนวแต่พวกเขาไม่สามารถแสดงออก
ฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป
เขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด เขาสามารถท่องเที่ยวไปทั่วโลกโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง
กระทั่งวังสวรรค์ยังไม่สามารถหยุดเขา
ลืมราชันมังกรไปก่อน เขาเป็นกรณีพิเศษ
แม้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่จะหวาดกลัวแต่พวกเขาก็รู้สึกว่าฟางหยวนเป็นคนที่พวกเขาสามารถพึ่งพา
“หากเราเข้าร่วมนิกายหลางหยา ชีวิตของเราจะมีเสถียรภาพมากกว่านี้หรือไม่?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสี่กําลังคิดถึงคําถามนี้
หากพวกเขาสามารถพึ่งพาร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มันจะเป็นผลดีต่อพวกเขา
การยอมจํานนต่อผู้อมตะเผ่ามนุษย์อาจมีอันตราย แต่พวกเขารู้สึกว่าฟางหยวนเป็นตัวเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตามหากพวกเขารู้ว่าฟางหยวนจะบุกวังสวรรค์ ผู้ใดจะรู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
“เนื่องจากท่านฟางหยวนเชิญพวกเราด้วยความจริงใจ พวกเราเผ่ามนุษย์หิมะก็จะเชื่อในตัวท่าน พวกเราจะเข้าร่วมนิกายหลางหยา!” หลังจากนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ คนแรกที่เปิดปากกล่าวก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะปิงหยวน
นี่คือผู้อมตะระดับเจ็ดซึ่งเป็นย่าของเซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวน
ด้วยสายสัมพันธ์ดังกล่าว นางจึงสนิทกับฟางหยวนมากที่สุด
หลังจากนั้นผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์อีกสามคนก็ตกลงเข้าร่วมนิกายหลางหยาเช่นกัน
นี่ค่อนข้างคล้ายกับชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เข้าร่วมนิกายหลางหยาในท้ายที่สุด
แต่คราวก่อนพวกเขาถูกบีบบังคับโดยถ้ําสวรรค์นิรันดร พวกเขาไม่ลังเลที่จะเข้าร่วม แต่ครั้งนี้พวกเขาถูกบีบบังคับโดยฟางหยวน พวกเขาต้องใช้เวลาสามวันในการไตร่ตรอง
หลังจากการเจรจาสิ้นสุดลง ร่างหลักของฟางหยวนก็เดินทางไปยังแดนน้ําแข็งของภาคเหนือและเมืองหมึกเพื่อจับมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมด เดี๋ยว! ไม่ เขากําลังช่วยเหลือเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์โดยการนําพวกเขาไปอยู่อาศัยในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
มิติช่องว่างจักรพรรดิในวันรุ่งขึ้น
ภาคเหนือน้อย
หนึ่งผู้อมตะชายและหนึ่งผู้อมตะหญิงลอยอยู่บนท้องฟ้าและมองลงไปบนพื้น
ใบหน้าของผู้อมตะชายเรียบเฉย ดวงตาของเขาดําสนิทราวกับขุมนรก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา เขาก็คือร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวน
ผู้อมตะหญิงเป็นเด็กสาวที่งดงาม นางดูมีชีวิตชีวา ดวงตาและเส้นผมของนางเป็นสีฟ้า นางคือผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะเซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวน
“เซี่ยเอ๋อ ร่างหลักของข้าไม่สามารถมาที่นี่ มีเพียงร่างแยกเช่นข้าที่สามารถอยู่กับเจ้า เจ้าจะโทษข้าหรือไม่?” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากล่าวด้วยน้ําเสียงอบอุ่น
เซี่ยเอ๋อกระพริบตาหลายครั้งก่อนจะกล่าวอย่างรวดเร็ว “ฟางฟางหยวน อย่ากังวล ท่านเห็นข้าเป็นเด็กเล็กๆงั้นหรือ? มีร่างแยกของท่านอยู่เคียงข้าง ข้าก็มีความสุขมากแล้ว”
เซี่ยเอ๋อต้องกดตนเองให้ต่ํา
แม้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจะมีการบ่มเพาะระดับหก แต่ร่างหลักของเขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด!
ตอนนี้เผ่ามนุษย์หิมะต้องพึ่งพาฟางหยวน กระทั่งย่าของนางก็ยังกลายเป็นลูกน้องของเขา
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเห็นทัศนคติของเซี่ยเอ่อและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เชี่ยเอ๋อถาม “ข้ามีคําถาม เหตุใดท่านถึงพาข้ามาที่นี่?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ามีของขวัญจะมอบให้ เซี่ยเอ่อ ดูข้างล่าง” ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลากล่าวและโบกมือ
พลังงานความเย็นแผ่กระจายออกมาขณะที่ภูเขาน้ําแข็งปรากฏขึ้น
เซี่ยเอ๋ออ้าปากค้างด้วยความตกใจ “อา…นี่คือ…”
“นี่คือค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็ง ข้าใช้ผลึกแก่นแท้น้ําแข็งรวมถึงวิญญาณบนเส้นทาง แห่งหิมะและน้ําแข็งจํานวนมากเพื่อสร้างมันขึ้นมา จากนี้ไปเผ่ามนุษย์หิมะของเจ้าจะอาศัยอยู่ที่นี่” ฟางหยวนอธิบาย
ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็งปกคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ มันเหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หิมะ
“เซี่ยเอ๋อ เราหมั้นกันแล้ว เผ่ามนุษย์หิมะมีความใกล้ชิดกับข้ามากกว่าเผ่าอื่นๆ หลายวันที่ผ่านมาข้าครุ่นคิดว่าจะดูแลพวกเจ้าอย่างไร”
“หลังจากไตร่ตรอง ในที่สุดข้าก็สร้างค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็งนี้ขึ้นมา มันมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมที่สุดสําหรับการอยู่อาศัยของพวกเจ้า”
ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามองเซี่ยเอ๋อด้วยสายตาอ่อนโยน
เซี่ยเอ๋อมีความสุขมาก ดวงตาของนางสองประกายสว่างไสว “ฟางหยวน ท่านเอาใส่ใจพวกเราจริงๆ ท่านเติมเต็มความคาดหวังของข้า กล่าวตามตรง เมื่อวานท่านย่ายังกังวลว่าพวกเราจะดูแลเผ่ามนุษย์หิมะอย่างไร”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางและจับไหล่ของเซี่ยเอ๋อ
ร่างของเซี่ยเอ๋อสั่นสะท้านขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกของนาง!
ฟางหยวนกล่าว “เซี่ยเอ๋อ หลังจากนี้เจ้าจะเป็นเจ้าของค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็ง เจ้าสามารถดูแลเผ่ามนุษย์หิมะ เจ้าต้องพัฒนามันให้ดี ทําให้แน่ใจว่าเผ่ามนุษย์หิมะจะขยายเผ่าพันธุ์ได้มากกว่าเผ่ามนุษย์ขน!”
ใบหน้าและดวงตาของเซี่ยเอ๋อกลายเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น “ฟางหยวน ขอบคุณมาก ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเผ่ามนุษย์หิมะจะสามารถพัมนาได้อย่างเปิดเผย ข้าจะไม่ทําให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน! ท่านย่าและท่านปิงเจาจะมีความสุขมากหากพวกเขารู้ว่าท่านจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้”
ฟางหยวนใช้โอกาสนี้กอดนาง
คราวนี้ร่างกายของเซี่ยเอ๋อกลายเป็นแข็งทื่อ นางจับหน้าอกของฟางหยวนด้วยใบหน้าแดงก่ํา
ฟางหยวนกล่าวด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ในความเป็นจริงโลกทั้งใบกําลังเข้าใจข้าผิด พวกเขา เรียกข้าว่าไร้ยางอาย เย็นชา และไร้หัวใจ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต้องการวิญญาณอมตะและความทรงจําอันล้ําค่าของข้า พวกเขาตําหนิข้าเพราะความโลภและเห็นแก่ตัวของพวกเขา มันคือข้ออ้างของฝ่ายธรรมะ!”
“ประสบการณ์ของข้าก็ไม่ต่างจากเผ่ามนุษย์หิมะ ดังนั้นข้าจึงเข้าใจพวกเจ้า”
“เห้อ…แท้จริงแล้วข้าทําได้มากกว่านี้ ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ําแข็งนี้ยังไม่ดีพอ ข้ามผลึกแก่นแท้น้ําแข็งเพียงชิ้นเดียวและมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ําแข็งน้อยเกินไป หากข้าสามารถหาได้มากกว่านี้ ข้าจะวางพวกมันทั้งหมดไว้ที่นี่”
คํากล่าวของฟางหยวนทําให้เซี่ยเอ๋อมีความสุขมาก
นางคิดก่อนกล่าว “อย่ากังวล ฟางหยวน เผ่ามนุษย์หิมะของเรามีผลึกแก่นแท้น้ําแข็งสองชิ้น และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ําแข็งอยู่ในคลังสมบัติ เมื่อท่านย่าได้ยินเรื่องนี้ นางจะมอบมันให้ท่านเพื่อพัฒนาบ้านของพวกเราอย่างแน่นอน”
“โอ้ หากเป็นเช่นนั้นมันจะยอดเยี่ยมมาก” ฟางหยวนแสดงออกด้วยความประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน
เซี่ยเอ๋อปิดเปลือกตา เผยรอยยิ้ม กอดฟางหยวน และจมอยู่ในความสุข