เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1766 ถอยหนึ่งก้าวเพื่อขยายทะเลและท้องฟ้า
ท้องฟ้าสดใส เมฆสีขาวราวหิมะ
สายลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดมาภายใต้แสงแดด ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเหลือง มีเมืองสีดําขนาดใหญ่ตั้งอยู่
เมืองแห่งนี้เป็นรูปหกเหลี่ยม กําแพงเมืองยาวกว่าสองร้อยเมตร สูงสามสิบเมตร และหนาสิบเมตร มันเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่
เมืองแห่งนี้มีผู้คนมากกว่าแปดแสนคนอาศัยอยู่ ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีผู้ใช้วิญญาณจํานวนมาก
มันเต็มไปด้วยร้านค้าและบ้านเรือน ผู้คนและรถม้าสัญจรอยู่รอบๆ มีกิจกรรมมากมายและมีเสียงดังตลอดเวลา มันเป็นภาพที่มีชีวิตชีวา
สิ่งที่ทําให้มันดูพิเศษที่สุดคือประชากรของเมืองนี้เป็นมนุษย์หมึก
นี่คือเมืองหมึก
“ครืน…”
เป็นเพียงเวลานี้เมื่องหมักเกิดแผ่นดินไหว ความสงบสุขถูกรวบกวน
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“แผ่นดินไหวงั้นหรือ? ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีข่าวลือว่าแผนดินแยกตัวและทําให้เกิดร่องลึกใต้พิภพจํานวนมากบนโลกใบนี้!”
“ช่วยข้าด้วย!”
“ท่านแม่!”
ความโกลาหลปะทุขึ้นทันที
หลังจากชั่วครู่เมืองหมึกก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
“โอ้ สวรรค์ เมืองหมึกกําลังบิน มันกําลังบินอยู่งั้นหรือ?”
“ข่าวมลือเป็นจริง! เมืองหมึกเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์!”
“สวรรค์ มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณที่ใหญ่โตที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา!”
ผู้คนในเมืองหมึกตกใจมาก
ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็แผ่พุ่งเข้าปกคลุมเมืองหมึกทั้งหมด
“พักผ่อนเถอะ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางขณะลอยอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆ
ด้านข้างเขาคือผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึก
เขาเป็นราชาของเมืองหมึก ผู้อมตะระดับหกเผ่ามนุษย์หมึก โม่ตันซาง
เขาเป็นหนึ่งในสองผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึกที่เหลืออยู่
ด้วยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน เขาทําให้มนุษย์หมึกในเมืองหมึกนอนหลับ
เมืองหมึกหดเล็กลงและบินเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวน
“เมืองหมึกมีประชากรประมาณแปดแสนคน ภาคกลางมีเมืองจักรพรรดิเป็นเมืองอันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์ การครอบครองเมืองหมีกไม่ต่างจากการครอบครองครึ่งหนึ่งของเมืองจักรพรรดิ”
ฟางหยวนจะไม่ละทิ้งสมบัติชิ้นใหญ่ชิ้นนี้
“หลังจากนี้เจ้าจะเป็นเจ้าเมืองต่อไป พัฒนาและเลี้ยงดูผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึกให้มากขึ้น มิติช่องว่างของข้ามีพื้นที่เพียงพอให้เจ้าแสดงความสามารถ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและกล่าวกับโม่ตันซาง
โม่ตันซางคุกเข่าลงแสดงความเคารพด้วยความตื่นเต้น “ข้าโม่ตันซางยินดีช่าวยเหลือท่านฟางหยวน ข้าจะพยายามพัฒนาเมืองหมีกอย่างเต็มที่!”
“อืม เจ้าก็เข้าไปด้วย” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มกว้าง
โม่ตันซางเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิอย่างเชื่อฟัง
เขาติดตามเมืองหมึกเข้าไปและลงจอดที่ทะเลทรายตะวันตกน้อย
ฟางหยวนเลือกสถานที่แห่งนี้ให้พวกเขา
เมื่อเมืองหมึกมาถึง มนุษย์หมึกที่หลับใหลก็เริ่มตื่นขึ้น โม่ตันซางออกคําสั่งอย่างพิถีพิถัน เขาสามารถควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบของเมืองหมึก
ตอนนี้โม่ต้นซางรู้สึกซับซ้อนมาก
เขารู้จักฟางหยวนมานานแล้ว ก่อนหน้านี้โม่ตันซางยังเคยขายท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งเมฆาให้กับไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่ตอนนี้ไท่เป่ยหยุนเฉิงตายแล้ว ขณะที่ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด
ฟางหยวนมาเพื่อนําเมืองหมึกกลับไป เรื่องนี้โม่ตันซางรู้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเขาจึงให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ฟางหยวนยิ้ม “โม่ตันซางเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง”
“ในชีวิตแรกของข้า คนผู้นี้สามารถบ่มเพาะผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึกได้เป็นจํานวนมาก เขาร่วมมือกับหม่าหงหยุนด้วยสถานะเท่าเทียม ในสงครามห้าภูมิภาค เขาสามารถยกระดับการบ่มเพาะของตนและขยายเมืองหมึกไปทั่วทั้งภาคเหนือ”
“มีเขาปกครองเมืองหมึกอยู่ในทะเลทรายตะวันตกน้อยที่ไร้คู่แข่ง อนาคตของพวกเขาจะสดใสมาก”
โม่ตันซางเป็นผู้นําที่มีความสามารถ นอกจากเขาจะมองการณ์ไกลและกล้าหาญ เขายังสามารถก้มศีรษะยอมจํานนในเวลาที่จําเป็น เขาไม่ใช่ตัวตนที่สามารถดูแคลน
ตราบเท่าที่เขามีโอกาส เขาจะสามารถพลิกสถานการณ์และสร้างปาฏิหาริย์ให้กับตนเอง
ในแง่มุมนี้เขาเหมือนวหยงที่อ่อนแอกว่า
ฟางหยวนไม่กังวลเกี่ยวกับการเติบโตของโม่ตันซาง เขามีความสุขที่จะได้เห็นมันเกิดขึ้น
นี่คือความเอื้อเฟื้อของผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือความมั่นใจของฟางหยวน
ไม่ว่าโม่ตันซางจะเติบโตขึ้นมากเพียงใด ฟางหยวนก็มั่นใจว่าเขาสามารถควบคุมและจัดการคนผู้นี้
แท้จริงแล้วมีความเสี่ยงในการย้ายเมืองหมึก
วังสวรรค์อาจซุ่มโจมตีพวกเขาระหว่างกระบวนการนี้ หากเทพธิดาจอเว่ยอนุมานต้นกําเนิดของผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึก นางอาจรู้ว่าฟางหยวนจะไปยึดครองเมืองหมึก
แม้วังสวรรค์จะไม่เคลื่อนไหวด้วยตนเอง แต่เทธิดาจื่อเว่ยอาจแจ้งข่าวกับถ้ําสวรรค์นิรันดรและยืมมือพวกเขาเพื่อสร้างปัญหาให้กับฟางหยวน
แต่โชคดีที่ฟางหยวนสามารถนําเมืองหมึกมาได้อย่างราบรื่นโดยปราศจากปัญหา
ร่างหลักของฟางหยวนหายตัวไปขณะที่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมกําลังทํางานอยู่ในเวลานี้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาควบคุมมันด้วยตนเองและรายงานร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา “อีกหนึ่งเดือนผนึกแกนกลางต้นกําเนิดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะถูกปลดออกอย่างสมบูรณ์”
ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆ
ไม่ว่าจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ําสวรรค์ พวกมันจะมีแกนกลางที่เป็นต้นกําเนิดของทุกสิ่ง
แกนกลางต้นกําเนิดของมิติช่องว่างเป็นรากฐานของมัน
การพัฒนามิติช่องว่างหรือการกลืนกินมิติช่องว่างอื่นๆจะช่วยส่งเสริมแกนกลางต้นกําเนิดของมิติช่องว่างนั้นๆ
หากแกนกลางต้นกําเนิดถูกดึงออกมา มิติช่องว่างจะได้รับความเสียหายร้ายแรงหรืออาจพังทลายลง
แกนกลางต้นกําเนิดของมันเหมือนน้ําพุจิตวิญญาณธรรมชาติที่ผู้อมตะสามารถดึงพลังงานของมันออกมาใช้งาน
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเคยเป็นถ้ําสวรรค์ระดับแปดมาก่อน
หลังจากบรรพชนผมยาวเสียชีวิต จิตวิญญาณสวรรค์หลางหยาแทบไม่สามารถต่อต้านภัยพิบัติระดับแปด ดังนั้นจิตวิญญาณสวรรค์หลางหยาจึงใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอลางต้นกําเนิดระดับเจ็ด
จิตวิญญาณสวรรค์หลางหยากลายเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ด้วยวิธีนี้ภัยพิบัติจึงลดความรุนแรงลง
หลังจากกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนถือเป็นผู้อมตะระดับแปดเทียม เนื่องจากแกนกลางต้นกําเนิดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังเป็นแกนกลางต้นกําเนิดระดับเจ็ด
หากแกนกลางต้นกําเนิดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากลับสู่ระดับแปด มันจะทําให้ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง
วิธีผนึกแกนกลางต้นกําเนิดเป็นสมบัติล้ําค่าและสําคัญมาก
โดยทั่วไปผู้อมตะส่วนใหญ่มักจะตกตายเพราะภัยพิบัติ ผู้อมตะไป่หูเป็นหนึ่งในกรณีดังกล่าว นางเสียชีวิตจากภัยพิบัติมนุษย์เงาสายฟ้าและทิงแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูไว้เบื้องหลัง
หากผู้อมตะคนใดสามารถครอบครองวิธีการดังกล่าว พวกเขาจะสามารถสะสมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ได้โดยไม่ต้องหวาดกลัวต่อภัยพิบัต
ฟางหยวนมีความสุขมากที่ได้รับวิธีนี้ เขาต้องยกย่องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเกี่ยวกับเรื่องนี้ซ้ําแล้วซ้ําอีก
แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาบอกเขาว่า “ในความเป็นจริงร่างหลักของข้าได้รับวิธีนี้มาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ขณะที่เทพปีศาจปล้นสวรรค์ได้รับวิธีนี้มาจากเทพปีศาจไร้ขอบเขต เดิมทีมันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อว่า ถอยหนึ่งก้าว หลังจากนั้นเทพปีศาจปล้นวิญญาณก็ปรับเปลี่ยนมันจนกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่เรียกว่า ขยายทะเลและท้องฟ้า ข้าเพียงปรับมันให้เป็นท่าไม้ตายเดิมเท่านั้น นี่ไม่สามารถถือว่าเป็นการพัฒนาหรือดัดแปลง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถตั้งชื่อมันด้วยตนเอง ข้าทําได้เพียงนําชื่อเดิมทั้งสองของมันมารวมกันและเรียกมันว่า ถอยหนึ่งก้าวเพื่อขยายทะเลและท้องฟ้า”
ฟางหยวนถอนหายใจ นี่เป็นท่าไม้ตายที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าประทับใจ
ท่าไม้ตายอมตะถอยหนึ่งก้าวเพื่อขยายทะเลและท้องฟ้า!
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายสนับสนุน มันมีไว้เพื่อจัดการมิติช่องว่างโดยเฉพาะและไม่มีพลังโจมตีใดๆ
แต่คุณค่าของมันกลับไม่สามารถคิดคํานวณ หากวิธีนี้รั่วไหลออกไป ผู้อมตะทั้งโลกจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากมัน จํานวนผู้อมตะของโลกใบนี้จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
จากแง่มุมนี้ ฟางหยวนสามารถมองเห็นความสามารถอันยิ่งใหญ่ของเทพปีศาจไร้ขอบเขตและเทพปีศาจปล้นสวรรค์
“นี่หมายความว่าเทพปีศาจไร้ขอบเขตและเทพปีศาจปล้นสวรรค์สามารถสะสมร่อง รอยของพลังงานแห่งเต๋าได้เท่ากับผู้อมตะระดับเก้าก่อนจะกลายเป็นเทพปีศาจ” ฟางหยวนกล่าว
แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับบอกเขาว่า “นายท่าน ท่านประเมินผู้อมตะระดับเก้าต่ําเกินไป ตามคําบอกเล่าของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ในช่วงเวลาที่เทพปีศาจไร้ขอบเขตยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ เขาก็สามารถสะสมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋แล้ว เมื่อเขากลายเป็นผู้อมตะระดับหก เขาก็มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเท่ากับผู้อมตะระดับแปดแล้ว”