เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1770 เสียงกรีดร้องของจื่อชิวหยู

บทที่ 1770 เสียงกรีดร้องของจื่อชิวหยู

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1770 เสียงกรีดร้องของจื่อชิวหยู

ทะเลสาบสัมผัสใจ

นี่คือแหล่งทรัพยากรขนาดกลางของตระกูลจื่อ

ฟางหยวนเก็บวิญญาณทั้งหมดไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

มีวิญญาณสัมผัสใจระดับห้ามากกว่าสามพันดวงวิญญาณสัมผัสใจระดับสี่มากกว่าห้า หมื่นดวงวิญญาณสัมผัสใจระดับสามและต่ํากว่ามากกว่าหนึ่งล้านดวง

จากนั้นเขาใช้วิญญาณอมตะดึงแม่น้ํานําทะเลสาบสัมผัสใจเข้าไปในมิติช่องว่างเช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า

น้ํามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งปัญญาค่อนข้างหนาแน่นแต่ส่วนใหญ่ถูกทิ้งไว้ในพื้นดินที่อยู่รอบๆ

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกเกี่ยวกับเรื่องนี้

เขาขาดวิธีดึงพื้นดิน นี่ไม่ใช่ดินระดับมนุษย์ อย่างน้อยเขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพีระดับเจ็ดและต้องเป็นวิธีที่สามารถจัดการกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งปัญญาอีกด้วย

หากไม่ใช่วิธีที่เฉพาะเจาะจง ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนพื้นดินอาจถูกทําลาย

มันเหมือนกับความพยายามของวังสวรรค์ที่ดึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากโดยหยิบยืมวิธีบนเส้นทาง มนุษย์และการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

ข่าวการปล้นสะดมทะเลสาบสัมผัสใจของฟางหยวนมาถึงจื่อชิวหยูอย่างรวดเร็ว

จื่อชิวหยูยังมีความหวังเล็กน้อย “ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?”

แต่ในไม่ช้าความหวังของเขาก็พังทลายลง

เนื่องจากท่าไม้ตายอมตะที่คล้ายคลึงกับวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นหลักฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธ

“เหตุใดฟางหยวนจึงปรากฏตัวที่ทะเลสาบสัมผัสใจ?” เปลือกตาของจื่อชิวหยูกระตุก “เขาต้องการวิญญาณสัมผัสใจจํานวนมากงั้นหรือ?”

จื่อชิวหยูคิดถึงภาพการต่อสู้ที่อยู่ในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดและมีวิธีขโมยวิญญาณอมตะ หากเขาเล็งเป้ามาที่ตระกูลจื่อของข้า เราจะพบปัญหา

จื่อชิวหยูถอนหายใจ

เขาต้องยอมรับว่าฟางหยวนเป็นปัญหาใหญ่

วิญญาณท่องแดนอมตะทําให้ฟางหยวนเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย มีไม่กี่วิธีที่สามารถหยุดเขา

ฟางหยวนยังมีพลังการต่อสู้ระดับแปด ผู้อมตะของตระกูลจือส่วนใหญ่ไม่สามารถต่อสู้กับ เขามีเพียงจื่อชิวหยูหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดเท่านั้นที่สามารถรับมือ

“สําหรับวิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม มันไม่ควรเป็นความสามารถของฟางหยวนเอง”

“เขาสามารถต่อต้านวังสวรรค์เพราะเขาใช้รากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

“ฟางหยวนพึ่งกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะสามารถดูดซับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ที่อยู่ในการครอบครองของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

จื่อชิวหยูประเมิน

เขารู้สึกว่าตนเองโชคร้ายมาก ก่อนหน้านี้ฟางหยวนทําให้ตระกูลจื่อสูญเสียชื่อเสียง

ผลประโยชน์ของตระกูลจื่อ สถานะของพวกเขา และความภาคภูมิใจของผู้อมตะระดับแปด ทําให้จื่อชิวหยุต้องเอาชนะฟางหยวนอย่างรวดเร็วที่สุด

ทั้งหมดทําให้จื่อชิวหยุตัดสินใจนําวิหารห้วงมิติออกเดินทางไปยังทะเลสาบสัมผัสใจด้วยตนเอง

ทะเลสาบสัมผัสใจกลายเป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่า ทุกสิ่งถูกปล้นสะดม กระทั่งก้อนหินรอบๆทะเลสายยังหายไป

ใบหน้าของจื่อชิวหยูกลายเป็นมืดครึม ผู้อมตะของตระกูลจื่อเริ่มดุด่าและสาปแช่งไปถึงบรรพบุรุษสิบแปดชั่วอายุคนของฟางหยวน

“ปีศาจตนนี้กล้าหาญเกินไป!”

“นี่คือแหล่งทรัพยากรขนาดกลางของเรา ตอนนี้มันถูกปล้นไปแล้ว มันอาจไม่สามารถฟื้นตัว แม้หลังจากผ่านไปสองหรือสามปี”

“เห้อ… ไม่มีประโยชน์ที่จะสาปแช่งบรรพบุรุษสิบแปดชั่วคนของเขา ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลก เขาฆ่าสมาชิกตระกูลบนโลกใบนี้ของเขาด้วยตัวเขาเอง”

ผู้อมตะตระกูลจื่อหยุดสาปแช่งแต่ยังขมวดคิ้วกับสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้

ทะเลสาบสัมผัสใจถูกทําลาย แต่รากฐาของมันยังอยู่ ฟางหยวนไม่สามารถนําดินออกไป

แต่ปัญหาคือตัวฟางหยวน

เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะกลับมาอีกหรือไม่? เขาจะปล้นสะดมแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่ออีกหรือไม่?

“เดี๋ยว! ผู้อมตะลึกลับที่โจมตีรอยแยกปล้นเงาและทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะคือฟางหยวนหรือไม่?” บางคนกล่าว

“อืม เป็นไปได้ ทั้งสองเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีพลังการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลสูงมาก เขาสามารถทําลายทั้งสองค่ายกล นอกจากนี้เขายังกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและมีวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ไม่ใช่ว่าผู้อมตะลึกลับใช้วิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมงั้นหรือ?”

“หากผู้อมตะลึกลับคือฟางหยวน เหตุใดเขาต้องปกปิดตัวตน? ครั้งนี้เขาโจมตีทะเลสาบสัมผัสใจของเรา แต่เขายังเลือกที่จะเปิดเผยตัวตน”

ผู้อมตะของตระกูลจื่อหลายคนรู้สึกสงสัย

พวกเขาไม่เข้าใจเหตุผล

ประการแรก ไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงผู้อมตะลึกลับกับฟางหยวนโดยตรง

ประการที่สอง พวกเขาไม่รู้แรงจูงใจในการโจมตีทะเลสาปสัมผัสใจของฟางหยวน

“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เราจะทําอย่างไรต่อไป” ผู้อมตะของตระกูลจื่อถามจื่อชิวหยู

จื่อชิวหยุรู้สึกอึดอัดใจแต่ภายนอกเขายังต้องรักษาศักดิ์ศรีของผู้นําตระกูล “อย่าตื่นตระหนก ตรวจสอบที่เกิดเหตุและค้นหาหลักฐาน แม้ฟางหยวนจะสามารถหลบหนีในครั้งนี้ แต่ตระกูลจื่อของเราจะจดจําไว้ เราจะตอบแทนเขาเป็นร้อยเท่าในอนาคต”

“ทราบแล้ว” ผู้อมตะของตระกูลจื่อตอบรับ

วิหารห้วงมิติลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ปิดบังกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ของมัน

หลังจากไม่นานผู้อมตะทั้งหมดของตระกูลจือก็กลับมาด้วยท่าทางลําบากใจ

ฟางหยวนเก็บกวาดร่องรอยอย่างหมดจด ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่

หากตระกูลจื่อต้องการกู้คืนชื่อเสียง เราต้องมีเบาะแสสําคัญก่อนจะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาให้อนุมานเขา หลังจากนั้นเราต้องวางแผนซุ่มโจมตี ไล่ล่า และต่อสู้กับเขา….”

“เห้อ…” จื่อซิวหยูลอบถอนหายใจ

เมื่อคิดถึงกระบวนการนี้ เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย

ราคาและความเสี่ยงของมันสูงเกินไปขณะที่กําไรน้อยมาก

มีเพียงผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญาเท่านั้นที่สามารถอนุมานเกี่ยวกับฟางหยวน ตัวตนเช่นนี้ต้องใช้เงินจํานวนมหาศาลเพื่อว่าจ้าง

หลังจากพบฟางหยวน ตระกูลจื่อยังต้องต่อสู้กับเขา แต่พวกเขาจะสามารถสังหารศัตรูได้หรือ

เมื่อจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าไล่ล่าฟางหยวน กระดูกซี่โครงของนางถูกวางขายในสวรรค์สีเหลือง เมื่อวังสวรรค์บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟงจิวเก้อถูกขโมยวิญญาณอมตะแดนศักดิ์สิทธิ์ หลางหยาถูกกลืนกิน เทพธิดาจื่อเว่ยต้องประกาศความพ่ายแพ้ของพวกนางอย่างเปิดเผย

แล้วตระกูลจื่อจะสามารถทําสิ่งใด?

แม้พวกเขาจะเป็นกองกําลังใหญ่ แต่พวกเขาสามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์หรือไม่?

กระทั่งวังสวรรค์ยังไม่สามารถจัดการฟางหยวน แล้วตระกูลจื่อจะสามารถทําสิ่งใด?

“ฟางหยวนบ่มเพาะหลายเส้นทาง เขาไม่มีจุดอ่อนที่ชัดเจน เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม กระทั่งวูหยงยังถูกล้อเล่น ก่อนหน้านี้กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไล่ล่าเขา เขายังสามารถหลบหนี แต่ตระกูลจื่อจะตามหาเขาเพียงลําพังงั้นหรือ? ฮ่าฮ่า”

จื่อชิวหยูรู้สึกโกรธและขมขื่น

ฟางหยวนเติบโตเร็วเกินไป กระทั่งจื่อซิวหยูยังต้องระวังตัว

“แม้ฟางหยวนจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่ ผู้อมตะระดับแปดทั่วไปบ่มเพาะบนเส้นทางสายเดียว พวกเขาไม่มีวิธีรับมือวิญญาณทองแด อมตะ

หากฟางหยวนหยุดตอนนี้และไม่ปล้นสะดมทรัพยากรของตระกูลจื่ออีก ข้าควรปล่อยเขาไป

จื่อชิวหยูลอบถอนหายใจ

เขาตัดสินใจยอมแพ้

แม้ทะเลสาบสัมผัสใจจะถูกทําลาย แต่รากฐานของมันยังอยู่และสามารถฟื้นตัวในอนาคต

กล่าวอีกอย่าง มันเป็นเพียงแหล่งทรัพยากรขนาดกลาง ตระกูลจื่อสามารถละทิ้ง

“แน่นอนว่าเราต้องโกรธและสร้างความโกลาหล เราไม่สามารถทําลายชื่อเสียงของตน”

“แต่ข้าต้องหยุดผู้อมตะของตระกูลอย่างลับๆ เราจะให้ความสําคัญกับการรักษาแหล่งทรัพยากรเป็นหลัก

ระหว่างนี้หากฟางหยวนโจมตีแหล่งทรัพยากรของตระกูลอื่น นั่นจะดีมาก!”

จื่อชิวหยูมั่นใจกับแผนการนี้

การทําให้ผู้อมตะระดับแปดและกองกําลังใหญ่ก้มศีรษะลงไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่จื่อชิวหยู่เป็นผู้นําที่ฉลาด เขาสามารถมองเห็นภาพรวม มันไม่มีประโยชน์ที่จะท้าทายปีศาจตนนี้ หากตระกูลจื่อต้องการสร้างปัญหาให้กับฟางหยวน พวกเขาอาจเป็นฝ่ายถูกคุกคาม

หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือ เผ่าของภาคเหนือจะโจมตีฟางหยวนโดยไม่ต้องคิด

แต่สําหรับคนใต้ พวกเขาต้องการอยู่อย่างสงบสุขมากกว่า

แม้พวกเขาจะสูญเสียแหล่งทรัพยากรขนาดกาง พวกเขาก็ยังสามารถมีชีวิตที่ดี

พวกเขาอาจสูญเสียชื่อเสียงไปบ้าง แต่รากฐานของพวกเขายังไม่ได้รับผลกระทบ

หากตระกูลจื่อไล่ล่าฟางหยวนอย่างเต็มกําลังและวิ่งเข้าสู่กองเพลิงพร้อมกัน กองกําลังอื่นจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้

จื่อชิวหยูสุดหายใจอย่างรุนแรง เขาต้องการระบายความโกรธและความผิดหวังทั้งหมดของเขา

ไม่นานเขาก็สงบลง

อย่างไรก็ตาม

“รายงาน! ฟางหยวนปรากฏตัวที่เทือกเขาไผ่เมฆาของเรา เขาทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ ผู้อมตะสองคนของเราไม่สามารถต่อต้านเขา ตอนนี้ฟางหยวนกําลังปล้นสะดมทรัพยากรทุกชนิด บนภูเขายังมีวิญญาณอมตะที่กําลังก่อตัวขึ้น!”

ร่างกายของจื่อชิวหยูที่ได้ยินเรื่องนี้กลายเป็นแข็งค้าง

หัวใจของเขาจมดิ่งลงก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความโกรธ

“ฟางหยวน! บรรพบบุรุษทั้งหมดของเจ้าจงไปลงนรกซะ!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท