เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1771 วิญญาณไผ่เขียว

บทที่ 1771 วิญญาณไผ่เขียว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1771 วิญญาณไผ่เขียว

เทือกเขาไผ่เมฆา

ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศ ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งทาสถูกยิงออกไป

จิ้งจอกเมฆาดิ้นรนต่อสู้แต่ไม่นานพวกมันก็หยุดเคลื่อนไหวและก้มศีรษะลง

ฟางหยวนยิ้มและเปิดทางเข้ามิติช่องว่างจักรพรรดิให้จิ้งจอกเมฆาบินเข้าไป

นอกจากจิ้งจอกเมฆา สิ่งมีชีวิตอื่นๆก็ไม่สามารถหลบหนีจากกรงเล็บปีศาจของฟางหยวน

เทือกเขาไผ่เมฆาเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ มันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าและสามารถเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรหรือพืชอสูรจํานวนมาก

ฟางหยวนปล้นสะดมทรัพยากรอย่างรวดเร็ว

“ข้ายังเหลือเวลาอีกมาก!” ฟางหยวนคํานวณเวลา

ในชีวิตก่อนหน้า เขาใช้เวลามากมายกับการรวบรวมทรัพยากรเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขามีประสบการณ์แล้ว เขาสามารถปล้นสะดมได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถประหยัดเวลาได้มาก

ฟางหยวนค้นพบจิ้งจอกเมฆาเดียวดายตัวหนึ่งและกําลังจะกําหราบมันแต่ในจังหวะนี้เสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับดังขึ้น “นายท่าน ข้ารู้ชื่อของวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ดวงนี้แล้ว มันเป็นวิญญาณอมตะระดับหกที่มีชื่อว่าวิญญาณไผ่เขียว”

วิญญาณอมตะไผ่เขียวเป็นสมบัติล้ําค่าที่สุดของเทือกเขาไผ่เมฆา

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนถูกกีดกันโดยค่ายกลวิญญาณอมตะและไม่สามารถปล้นชิงวิญญาณอมตะได้ทันเวลาก่อนที่ผู้อมตะของตระกูลจือจะทําลายมันและหลบหนีไป

แต่ครั้งนี้ฟางหยวนสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะได้อย่างรวดเร็ว ผู้อมตะตระกูลจื่อไม่สามารถตอบสนองได้ทันท่วงที

นี่ทําให้เขาได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้มาในที่สุด

“ไม่เลว วิญญาณอมตะดวงนี้มีประโยชน์กับข้า” ฟางหยวนแสดงออกอย่างสนุกสนาน

ฟางหยวนสังหารเฉินอี้ เขาจับและค้นวิญญาณของคนผู้นี้

เฉินอี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม ระหว่างการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขายังได้รับมรดกที่แท้จริงเพิ่มเติมจากเทพอมตะบัวสวรรค์ นั่นก็คือท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม

ดังนั้นมรดกที่แท้จริงทั้งสองของเทพอมตะบัวสวรรค์จึงตกอยู่ในมือของฟางหยวนในที่สุด

แต่รากฐานของท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรมคือท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม

วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะทั้งสองคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฏวิญญาณเหตุ และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ วิญญาณผล นอกจากนี้มันยังใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งไม้อื่นๆเป็นส่วนสนับสนุน

เฉินอี้เสียชีวิต มิติช่องว่างเทียมของเขาสลายไป เขาทําลายวิญญาณทั้งหมดของตนไปแล้ว ฟางหยวนต้องรวบรวมวิญญาณเหล่านั้นหากเขาต้องการใช้วิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์

วิญญาณระดับมนุษย์หาง่ายแต่วิญญาณอมตะแตกต่างออกไป

วิญญาณอมตะไผ่เขียวเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ มันเหมาะสมสําหรับวิธีการของเทพอมตะบัวสวรรค์

เมื่อจื่อชิวหยูมาถึงเทือกเขาไผ่เมฆา ฟางหยวนก็จากไปแล้ว

ผู้อมตะของตระกูลจือมองเทือกเขาไผ่เมฆาด้วยความงุนงง

หลายคนเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่คือเทือกเขาไผ่เมฆางั้นหรือ? เกิดสิ่งใดขี้นกับมัน!”

บางคนแทบกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ “ข้าเคยมาที่นี่เพื่อพัฒนาเทือกเขาไผ่เมฆา ข้าใช้ความพยายามอย่างมาก แต่หัวขโมยฟางหยวนกลับปล้นสะดมมันไปทั้งหมด! ฟางหยวน ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้า!”

บางคนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เราปลูกไผ่เมฆาจํานวนมากที่นี้ มีเพียงวิธีบนเส้นทางแห่งไม้เท่านั้นที่สามารถดึงพวกมันออกไปได้อย่างรวดเร็ว ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี!”

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนขาดวิธีบนเส้นทางแห่งไม้ ไผ่เมฆาจํานวนมากถูกทิ้งไว้บนเทือกเขา แต่ครั้งนี้เขาเตรียมตัวมาแล้ว

ฟางหยวนคิดค้นท่าไม้ตายอมตะมาเป็นพิเศษเพื่อเก็บเกี่ยวไผ่เมฆาเหล่านี้โดยเฉพาะ

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของเขาไม่สูง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา เขายังสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับหก

เขากลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้หลายดวง พวกมันล้วนมีประโยชน์สําหรับเรื่องนี้

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาคงอยู่มานานหลายแสนปี จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารวบรวมและหลอมรวมวิญญาณอมตะจํานวนมากและหลากหลายเส้นทางเอาไว้

ครั้งหนึ่งฟางหยวนยังเคยยืมวิญญาณอมตะหน่อไม้เพื่อใช้ปรับแต่งราเรืองแสง

การแสดงออกของจื่อชิวหยูกลายเป็นมืดครึ้ม เขากําหมัดแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อ

“ฟางหยวน…” เขากัดฟันแน่น แผนการของเขาพังทลาย

ฟางหยวนเล็งเป้ามาที่ตระกูลจื่อ!

แต่จื่อชิวหยุไม่เข้าใจว่าเหตุใดฟางหยวนจึงทําเช่นนี้

ผู้อมตะภาคใต้เคยไล่ล่าฟางหยวน วูหยงเป็นศัตรูคนสําคัญของฟางหยวน แต่เหตุใดฟางหยวนจึงเลือกโจมตีตระกูลจือ? หากเขาไม่ต้องการยั่วยุกองกําลังที่แข็งแกร่งเช่นตระกูล เหตุใดเขาไม่รังแกกองกําลังที่อ่อนแอกว่าเช่นตระกูลเฉียว?

ตระกูลจื่อไม่อ่อนแอ พวกเขาเป็นกองกําลังระดับแนวหน้าของภาคใต้

ไม่เพียงจื่อชิวหยูแต่ผู้อมตะของตระกูลจือทั้งหมดต่างรู้สึกงุนงงและไม่พอใจ

“ฟางหยวนเล็งเป้ามาที่พวกเราอย่างชัดเจน เขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอ คําถามคือเขากําลังตามหาสิ่งใด?”

“เราต้องรู้เป้าหมายของเขา นี่เป็นอุปสรรคแรกสําหรับพวกเราในการจัดการฟางหยวน” จื่อชิวหยูคิดและกล่าว

เขายอมแพ้ต่อความคิดก่อนหน้านี้และตัดสินใจจัดการฟางหยวน

หากพวกเขาไม่เคลื่อนไหว จื่อชิวหยูจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับตระกูลของเขา

ฝ่ายปีศาจมักเคลื่อนไหวเพียงลําพัง แต่ฝ่ายธรรมะต้องให้ความสําคัญกับกองกําลังของพวกเขา กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเช่นจือชิวหยูยังต้องให้ความสําคัญกับบุตรหลานในสายเลือด

เทือกเขาไผ่เมฆาเป็นเพียงแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ของตระกูลจื่อ แต่มันมีประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงของพวกเขา

ฟางหยวนปล้นสะดมเทือกเขาไผ่เมฆา เขากําลังเหยียบย่ําความภาคภูมิใจและ ประวัติศาสตร์ของตระกูลจื่อ

อย่างไรก็ตาม

“รายงาน! ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาวายุเพลิง ตอนนี้เขากําลังใช้กองทัพมังกรดาบบรรพกาลโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะ”

“รายงาน! ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ถ้ํายุ่งเหยิง เขาถูกขัดขวางโดยค่ายกลวิญญาณอมตะและหายตัวไปอย่างลึกลับ”

แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นสองแห่งพร้อมกัน

ผู้อมตะตระกูลจื่อตกตะลึง

“เหตุใดจึงมีฟางหยวนสองคน? หนึ่งเป็นตัวปลอม อีกหนึ่งเป็นตัวจริงงั้นหรือ?”

“อาจเป็นร่างแยกของฟางหยวน”

“ไม่ ฟางหยวนอาจปรากฏตัวที่ถ้ํายุ่งเหยิงก่อน จากนั้นเขาก็ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะไปยังภูเขาวายุเพลิง” จ่อชิวหยวิเคราะห์

“นั่นหมายความว่าตอนนี้ฟางหยวนยังอยู่ที่ภูเขาวายุเพลิง? เราต้องไปที่นั่นทันที!”

“แต่เหตุใดเขาจึงไปที่ถ้ํายุ่งเหยิง? มันจําเป็นงั้นหรือ?”

“บางทีเขาอาจรู้สึกว่าการป้องกันของถ้ํายุ่งเหยิงแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นเขาจึงเลือกภูเขาวายุเพลิงที่ง่ายกว่า?”

“ไม่ ทั้งสองแห่งต่างเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ การป้องกันของมันแข็งแกร่งพอๆกัน” จื่อชิวหยูคิด

เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แยกย้ายไปช่วยพวกเขา”

“นั่นเป็นวิธีเดียว! หากแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ถูกฟางหยวนปล้นสะดม ตระกูลจือของเราจะสูญเสียมากเกินไป”

“แต่นี่อาจเป็นแผนการของฟางหยวน เขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเรา”

“ฟางหยวนแข็งแกร่งขึ้นมาก กระทั่งฟงจิวเก้อยังพ่ายแพ้”

ผู้อมตะตระกูลจื่อลังเล

“เราควรขอกําลังเสริมหรือไม่?” บางคนถาม

ทุกคนที่อยู่ภายในวิหารห้วงมิติเงียบ

นี่คือสิ่งที่ผู้อมตะตระกูลจื่อส่วนใหญ่คิดแต่ไม่กล้ากล่าวออกมา

ท่ามกลางความเงียบ ทุกคนมองไปที่จื่อชิวหยู

จื่อชิวหยูตะโกน “เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด! เราเสียแหล่งทรัพยากรไปเพียงสองแห่ง แต่พวกเจ้าก็โวยวายกันแล้ว พวกเจ้าต้องการขอกําลังเสริมจากภายนอกงั้นหรือ? เราไม่สามารถละทิ้งชื่อเสียง! ตอนนี้มีผู้ใดตายหรือยัง? เราเหลือเพียงคนแก่และเด็กทารกงั้นหรือ? เราจะขอกําลังเสริมโดยไม่ต่อสู้กับฟางหยวนแม้แต่ครั้งเดียวได้อย่างไร? ความกล้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน? ความภาคภูมิใจและความรุ่งโรจน์ของพวกเจ้าในฐานะสมาชิกตระกูลจําอยู่ที่ใด?”

กลุ่มผู้อมตะตระกูลจื่อก้มศีรษะลงเมื่อถูกดุด่าอย่างรุนแรง

หลังจากดุด่า จื่อชิวหยูออกคําสั่ง “ทําตามที่ข้าพูด! ข้าจะไปภูเขาวายุเพลิง พวกเจ้านําวิหารห้วงมิติไปช่วยถ้ํายุ่งเหยิง ดําเนินการอย่างรวดเร็วและอย่าตื่นตระหนก การป้อ งกันของแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ไม่อ่อนแอ ติดต่อกันตลอดเวลา!”

“รับทราบ!”

ไม่มีผู้ใดกล้าขัดคําสั่งของจือชิวหยู

ในตําแหน่งปัจจุบัน ภูเขาวายุเพลิงอยู่ใกล้กับเทือกเขาไผ่เมฆามากกว่ายุ่งเหยิง ดังนั้นวิหารห้วงมิติจึงถูกส่งไปยังถ้ํายุ่งเหยิงขณะที่จื่อชิวหยูที่ช้ากว่าจะไปสนับสนุนภูเขาวายุแพลิง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท