เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1777 ผลกระทบหยดหมึก

บทที่ 1777 ผลกระทบหยดหมึก

บทที่ 1777 ผลกระทบหยดหมึก

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคใต้น้อย

ภูเขาคริสตัลสีชมพูส่องประกายราวกับภาพฝัน

นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพในตํานานมนุษย์คนแรก ภูเขาตงฮัน

ฟางหยวนกําลังตรวจสอบมัน “ภูเขาตงฮันฟื้นตัวขึ้นแปดสิบส่วนแล้ว นี่เร็วกว่าชีวิตก่อนหน้าของข้าเป็นอย่างมาก”

เปรียบเทียบกับตอนนี้ ชีวิตก่อนหน้าของเขาน่าสมเพชมาก

อันดับแรกเขาไม่ได้กลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาใช้พลังงานอมตะจํานวนมากในการต่อสู้ ต่อมาเขาต้องปล้นสะดมทรัพยากรและทําธุรกรรมกับจือชิวหยูเพื่อให้ได้รับหินวิญญาณอมตะ

ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าเพื่อซ่อมแซมภูเขาตงฮัน เขาต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมหาศาล

วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าเป็นวิญญาณอมตะระดับหกขณะที่ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดนอกจากนั้นเขายังเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากภายนอก

ฟางหยวนไม่สามารถสะสมพลังงานอมตะเพราะเขามีค่าใช้จ่ายมหาศาล

แต่หลังจากกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป

เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาสามารถผลิตลิ้นจี่ขาวอมตะระดับแปด ลิ้นจี่ขาวอมตะระดับแปดหนึ่งผลเทียบเท่ากับลูกพลัมแดงอมตะระดับเจ็ดหนึ่งร้อยผล เขาสามารถสะสมพลังงานอมตะได้เร็วกว่าก่อนหน้าร้อยเท่า!

ในเวลาเดียวกันเขายังมีวิญญาณอมตะบัวสมบัติสวรรค์ระดับเจ็ดขณะที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็มีหินวิญญาณอมตะจํานวนมากอยู่ในคลังสมบัติ

รากฐานอันยิ่งใหญ่นี้ช่วยค้ําจุนฟางหยวนและทําให้เขาไม่พบปัญหาในแง่ของพลังงานอมตะ

ด้วยการใช้พลังงานอมตะจํานวนมาก ภูเขาตงฮันจึงได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว มันเร็วกว่าในชีวิตก่อนหน้าของเขาเป็นอย่างมาก

ในเวลาเดียวกันนี้ของชีวิตก่อนหน้า ตงฮันฟื้นตัวขึ้นเพียงสามสิบส่วน แต่ในชีวิตนี้มันฟื้นตัวขึ้นแล้วแปดสิบส่วน

หากวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้ายกระดับขึ้น ความเร็วของการกู้คืนจะยิ่งเร็วกว่านี้

ปัจจุบันวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้ายังเป็นวิญญาณอมตะระดับหก การซ่อมแซมภูเขาตงฮันของมันไม่ต่างจากการตัดต้นไม้ด้วยมีด

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาญอมตะหลอมรวมขั้นสูงระดับแปดและค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเสียงหลอมรวมวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า

เว้นเพียงเขาจะได้รับวิญญาณความเสียใจและสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะสระแห่งความโศกเศร้า

ฟางหยวนคิดถึงวิญญาณหลัก

วิญญาณหลักจะไม่ตายแม้การหลอมรวมจะล้มเหลว แต่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามีวิญญาณกาลเวลาเป็นวิญญาณหลักขณะที่ร่างทารกอมตะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณหลัก

“หากข้าได้รับร่างของผู้อมตะและแยกดวงวิญญาณเพื่อเปลี่ยนมันให้เป็นร่างแยกของข้า ข้าจะสามารถเปลี่ยนวิญญาณหลักของร่างแยกใหม่และหลอมรวมวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าได้อย่างปลอดภัย

แต่แผนการนี้ไม่สามารถทําได้ในเวลานี้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถจับผู้อมตะ เขามีเชลยอมตะอยู่มากมาย

ปัญหาคือวิธีนี้ต้องใช้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ด้วยรากฐานในปัจจุบันของเขา เขาไม่สามารถแยกดวงวิญญาณ

สาเหตุสําคัญคือเขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตเพื่อต่อต้านการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาขณะที่ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตพึ่งพารากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

กายาแห่งความฝันก็ใช้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เช่นเดียวกันกับท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนรวมถึงการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

ด้วยเหตุผลทั้งหมด รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนจึงถูกใช้จ่ายออกไปอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร็วๆนี้เทพธิดาจอเว่ยอนุมานเกี่ยวกับฟางหยวนเป็นระยะ ฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่เกิดใหม่ เขาได้รับประโยชน์มากมายแต่ผลกระทบหยดหมึกก็สร้างปัญหาให้เขาเช่นกัน

ในชีวิตก่อนหน้า รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาอยู่ได้ค่อนข้างนาน แต่ตอนนี้มันแย่มากหากวิญญาณความเด็ดเดี่ยวถูกใช้จนหมด เขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณวิธีอื่นทดแทน

วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณล้วนมีข้อเสีย ไม่มีวิธีใดมีประสิทธิภาพท่ากับวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

“ยังมีอีกประเด็น วังสวรรค์เริ่มปราบปรามธุรกิจปลามังกรของข้าแล้ว”

“วังสวรรค์ขายปลามังกรเหล็กไหลและปลามังกรเงินจํานวนมาก ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถผลิตปลามังกรทองได้เช่นกัน นี่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจปลามังกรของข้าเป็นอย่างมาก

“แม้สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้าของข้าเช่นกัน แต่ครั้งนี้มันเกิดขึ้นเร็วกว่ามาก

ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับเรื่องนี้

เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับ เทพธิดาจื่อเว่ยถูกกระตุ้นโดยความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา นั่นทําให้นางพยายามค้นวิญญาณเทพปีศาจจิตวิญญาณและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับปลามังกร

“ดูเหมือนเทพปีศาจจิตวิญญาณจะไม่สามารถอดทนได้อีกนานนัก”

ในชีวิตก่อนหน้าแม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะบุกโจมตีวังสวรรค์ เทพปีศาจจิตวิญญาณก็ไม่ปรากฏตัวเขาถูกคุมขังจนถึงที่สุด”

ฟางหยวนถอนหายใจและปรับอารมณ์ของตนเอง

เขาไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระ

เขาต้องใช้ทุกวินาทีให้มีประโยชน์

ตอนนี้แผนการของเขาดําเนินไปอย่างราบรื่น

เขาสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด หลังการเข้าร่วมของพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์เขาได้รับรากฐานอันยิ่งใหญ่

ความสําเร็จบนเส้นทางมนุษย์ของเขาก้าวเข้าสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญ

จ่อชิวหยูทําธุรกรรมกับเขาผลประโยชน์ที่เขาได้รับเหนือกว่าชีวิตก่อนหน้า

นอกจากนี้ยังมีตระกูลฟางที่พยายามดึงเขาร่วมเข้า พวกเขาจะช่วยแผนการเกี่ยวกับทะเลทรายผีเขียวของเขาได้มาก

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เหนือกว่าชีวิตก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์

แต่ฟาหงยวนยังไม่สามารถผ่อนคลาย

เขารู้ว่าผู้อมตะภาคใต้กําลังสร้างกลุ่มเพื่อไล่ล่าเขา

ด้านหนึ่ง การโจมตีของฟางหยวนเป็นการยั่วยุฝ่ายธรรมะของภาคใต้ พวกเขาต้องการตอบโต้อย่างรุนแรง

อีกด้านหนึ่ง ตระกูล ตระกูลไท่ ตระกูลปา และตระกูลอื่นๆต้องการผลประโยชน์และชื่อเสียง

“ยังมีเวลาเหลืออยู่บ้าง”

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะคิดแผนการและหาข้อสรุป

“พวกเขาต่อต้านกันเอง ด้วยการเกิดขึ้นของร่องลึกใต้พิภพ กองกําลังต่างๆจะต่อสู้เพื่อทรัพยากร พวกเขามีความขัดแย้งมากมาย

ปัจจุบันแผนการสร้างหอคอยดวงประทีปของตระกูลไท่ยังไม่เกิดขึ้น แม้ตระกูลไท่จะต้องการสร้างแต่กองกําลังอื่นไม่อนุญาต

ในความเป็นจริงกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ยังไม่เกิดขึ้น

วูหยงมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่แต่หากเขากล่าวมันออกมาในเวลานี้ มันจะเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น

ฟางหยวนมีหลายสิ่งที่ต้องทํา

อันดับแรก เขาต้องดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเป็นส่วนสนับสนุน

เขาเคยใช้ท่าไม้ตายนี้หลายครั้ง มันถูกเปิดเผยแล้ว

แม้จื้อชิวหยูจะทําธุรกรรมกับเขาอย่างลับๆ แต่เขาจะค้นหาวิธีตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกอย่างแน่นอน

เพื่อป้องกันเรื่องนี้ ฟางหยวนต้องดัดแปลงและพัฒนาท่าไม้ตายของเขา

ตอนนี้ไปหนิงปิง อิงอู่เซีย และคนอื่นๆยังฝึกฝนอยู่บนเกาะบัวหิน

ฟางหยวนไม่สามารถใช้ค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศ แม้เซี่ยเอ๋อ โม่ตันซาง และชื่อเฉิงจะสามารถเข้าแทนที่ แต่ฟางหยวนไม่ได้ฝึกฝนพวกเขามากนัก พวกเขายังห่างไกลจากความชํานาญ

ในแง่ของการเคลื่อนไหว ฟางหยวนพึ่งพาท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกและค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศ หากทั้งสองวิธีไม่สามารถใช้งาน ฟางหยวนจะถูกปิดล้อมและพบปัญหา

อันดับที่สอง เขาต้องรักษาวิญญาณกาลเวลา

ปัจจุบันเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อช่วยให้วิญญาณกาลเวลาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

อันดับที่สาม เขาต้องพัฒนาธุรกิจของเขาอย่างจริงจัง ธุรกิจปลามังกรได้รับผลกระทบอย่างหนัก ฟางหยวนไม่สามารถแข่งขันกับวังสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความสําคัญกับธุรกิจของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

นอกจากนี้เขายังต้องปลอมตัวเข้าไปในสวรรค์สีเหลืองเพื่อซื้ออสูรวิญญาณ

สําหรับคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์และการยกระดับวิญญาณอมตะ เขากําลังดําเนินการอยู่

ฟางหยวนต้องการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเขาเอง

ในชีวิตก่อนหน้า คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของเขาถูกทําลาย ประสบการณ์ที่เลวร้ายมีประโยชน์สําหรับเขา

กําไรที่เขาได้รับหลังจากกําเนิดใหญ่ถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนใช้เวลาทุกนาที เพื่อเติบโตหลายวันผ่านไป

ทะเลทรายตะวันตก ฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟาง

“นับเป็นพรของตระกูลฟางที่สหายซวนปู่จินเข้าร่วมกับพวกเรา! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะโด่งดังไปทั่วทะเลทรายตะวันตกหรือกระทั่งอีกสี่ภูมิภาค!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ฟางกงจับมือฟางหยวนอย่างอบอุ่น

ฟางหยวนยิ้มและดึงมือกลับเบาๆ

ฟางกงดูเป็นคนกล้าหาญและตรงไปตรงมา แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และร้า ยกาจฟางหยวนเคยเห็นเขาลอบโจมตีเฉินอี้มาด้วยตาของตนเอง

“เมื่อข้าเข้าร่วมกับตระกูลฟาง ฟางกงออกมาต้อนรับข้าเป็นการส่วนตัว ขณะที่ฟางตี้เฉิงและคนอื่นๆแทบรอไม่ไหวที่จะแพร่กระจายข่าวนี้ออกไป ดูเหมือนตอนนี้ตระกูลฟางจะอยู่ในสภาพที่ย่ําแย่จริงๆ” ฟางหยวนคิดและมองไปทางฟางที่เฉิงด้วยรอยยิ้ม

ฟางตี้เฉิงรู้สึกกังวลบางอย่างโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาคิดกับตนเอง เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดข้าจึงรู้สึกไม่ดี”

ในเวลาต่อมาการแสดงออกของฟางตี้เฉิงและฟางกงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

ฟางกงตะโกนเสียงดัง “ช่างกล้าหาญนัก! ปีศาจอมตะกล้าโจมตีโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์อันล้ําค่าของพวกเราเขาคิดว่าตระกูลฟางของเราสามารถรังแกได้โดยง่ายงั้นหรือ?”

ฟางตี้เฉิงกล่าวอย่างจริงจัง “นี่ค่อนข้างซับซ้อน มันอาจไม่ใช่ปีศาจอมตะแต่เป็นกอ งกําลังอื่นของฝ่ายธรรมะ โดยเฉพาะเวลานี้เมื่อผู้อาวุโสชวนรู้จินเข้าร่วมกับตระกูลฟางพวกเราพึ่งเปิดเผยข้อมูลนี้ในสวรรค์สีเหลือง สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป…”

ฟางหยวนกล่าวเสียงเย็น “ให้ข้าจัดการเรื่องนี้”

ฟางตี้เฉิงและฟางกงมองหน้ากันก่อนที่ฟางกงจะป้องหมัดขึ้น “ยอดเยี่ยม เราจะรอข่าวดีจากเจ้า”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท