เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1780 ฉากอาชญากรรม

บทที่ 1780 ฉากอาชญากรรม

บทที่ 1780 ฉากอาชญากรรม

การโจมตีของตระกูลฟางทําให้ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกสั่นสะเทือน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าน่าเกรงขามมาก กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกทั้งหมดถูกข่มขู่ทันที

ในไม่ช้าฟางหยวนก็ได้รับข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ มันมีทั้งรายละเอียดและภาพการต่อสู้

สิ่งนี้ถูกปล่อยออกมาโดยตระกูลฟาง

“ตระกูลฟางมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!” ฟางหยวนค่อนข้างตกใจกับการค้นพบนี้

ฟางหยวนต้องนึกถึงไปถึงวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่

เขาได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้มาจากตระกูลฟาง

ตามข่าวลือ ตระกูลฟางได้รับวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่มาโดยบังเอิญจากผู้บ่มเพาะสันโดษที่เข้าร่วมกับพวกเขา

“นอกจากวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขายังมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!”

“สมกับเป็นรากฐานของกองกําลังใหญ่จริงๆ”

ฟางหยวนสายศีรษะ

เช่นเดียวกับบ้านไม้ไผ่สายลมของวุหยง คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของตระกูลฟางมีท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์

“นี่เป็นการหยุดภัยคุกคามจากกองกําลังอื่น สถานการณ์ของตระกูลฟางจะเปลี่ยนไปเพราะสิ่งนี้ดูเหมือนในชีวิตก่อนหน้าของข้า นี่จะเป็นเหตุผลที่กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกหยุดเคลื่อนไหว

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าสามารถขโมยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันสามารถทําลายแหล่งทรัพยากรตามธรรมชาติ

รากฐานของกองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะคือแหล่งทรัพยากรเหล่านี้ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ถูกขโมยไม่สามารถกู้คืน นี่คือการโจมตีรากฐานของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง

ด้วยการโจมตีของตระกูลฟาง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลตง ตงลู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่โอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์ถูกลบออกไปอย่างสมบูรณ์

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าทําให้กองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกไม่กล้ายั่วยุตระกูลฟางอีก

กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเช่นตงลู่เฉินก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

ฟางหยวนลอบยกย่องการตัดสินใจของฟางตี้เฉิงอย่างลับๆ

เขาเลือกศัตรูที่แข็งแกร่งและโจมตีสถานที่ที่ตงลู่เฉินปกป้องโดยตรง

นี่เป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง

ในเวลาเดียวกันตระกูลฟางก็ไม่ได้ทํามากเกินไป

โอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์เป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลาง มันไม่ใช่แหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ ตงลู่เฉินฝังภรรยาที่เสียชีวิตไว้ที่นี่ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ของทุกปีเขาจะมาเยี่ยมนาง

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงขณะที่ตงลู่เฉินก็ไม่ได้โกรธเป็นพิเศษ หลังจากทั้งหมดมีเพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเท่านั้นที่สูญหายไป หลุมศพภรรยาของเขาไม่ถูกแตะต้อง

“พวกเขาเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ประโยชน์จากการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่เพียงพวกเขาจะสามารถหยุดฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกแต่พวกเขายังต้องการข่มขู่ข้า”

ฟางหยวนถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลไว้ในมือและหัวเราะเสียงเย็น

ในวิญญาณดวงนี้ ฟางตี้เฉิงยังกล่าวถึงน้ําค้างสวรรค์ว่า ควรมีน้ําค้างสวรรค์เพียงเล็กน้อยที่หายไปจากการต่อสู้ มันอาจหายไปเพียงสิบหยดเท่านั้น เขาขอให้ฟางหยวนตรวจสอบรอบๆ เขาอาจพบอีกยี่สิบหยดอยู่ที่ใดสักแห่ง

ฟางหยวนนําน้ําค้างสวรรค์สามสิบหยดออกมาก่อนหน้านี้ เขารายงานตระกูลฟางว่ามันเป็นการสูญเสียจากการต่อสู้กับศัตรู

นี่เป็นเพียงข้อแก้ตัว ทั้งเขาและตระกูลฟางต่างเข้าใจอย่างชัดเจน

แต่ตระกูลฟางไม่อนุมัติเรื่องนี้ พวกเขาเตือนฟางหยวนอย่างอ่อนโยนแต่มีความหมายว่า เจ้าสามารถนําน้ําค้างสวรรค์ไปสิบหยด ส่งมอบอีกยี่สิบหยดคืนมา!

น้ําค้างสวรรค์เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด ตระกูลฟางไม่ต้องการละทิ้งสิ่งนี้

นี่ยังเป็นการปราบปรามฟางหยวน พวกเขาต้องการบอกว่า เจ้าพึ่งเข้าร่วมกับพวกเราเร็วๆ นี้ แต่เจ้ากลับต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพื่อตนเองงั้นหรือ? ควบคุมตัวเอง! ดูการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลฟางของเรายังแข็งแกร่งมาก เจ้าควรพิจารณาผลประโยชน์ส่วนตนอย่างระมัดระวัง!

นี่คือความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในจดหมายของฟางตี้เฉิงถึงสวนงูจิน

การสนทนาระหว่างสมาชิกฝายธรรมะมักอยู่ภายใต้ถ้วยคําที่สวยงาม มันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนฝ่ายปีศาจ

“แต่ความจริงก็คือตอนนี้พวกเจ้าอ่อนแอมาก!” ฟางหยวนเข้าใจอย่างชัดเจน

การต่อสู้ครั้งนี้ตระกูลฟางไม่ได้ใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่น นี่แสดงให้เห็นว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขายังไม่ได้รับการซ่อมแซมหลังจากการต่อสู้เพื่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

ตระกูลฟางใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม ท่าไม้ตายอมตะที่พวกเขาใช้มีพลังโจมตีระดับแปด แต่ฟางหยวนสามารถมองเห็นจุดบกพร่อง

มันไม่เสถียร!

หากท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าสามารถใช้งานได้ตามความปรารถนา ตระกูลฟางคงใช้มันไปนานแล้ว พวกเขาจะไม่รอจนถึงตอนนี้

ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าเป็นไพ่ตายของตระกูลฟาง พวกเขาไม่ต้องการใช้มันแต่พวกเขาไม่มีทางเลือก

บางทีตระกูลฟางอาจไม่มีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นวิญญาณหรือบางที่พวกเขาอาจยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้

ผู้อมตะส่วนใหญ่ของตระกูลฟางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งค่ายกล พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเส้นทางแห่งการโจรกรรม

ฟางหยวนตอบจดหมายฟางตี้เฉิง

ในจดหมาย เขากล่าวว่าเขาพบน้ําค้างสวรรค์ยี่สิบหยดแล้ว ก่อนหน้านี้เขาประมาทเกินไป

หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น ถึงเวลาแล้ว!

ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก!

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะของโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์ เขายังจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะใหม่ขึ้นมาภายในเพื่อสร้งภาพลวงตาว่าเขายังอยู่ที่นี่

ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกได้รับการพัฒนาเช่นกัน มันใช้งานได้เร็วขึ้น กลิ่นอายที่รั่วไหลออกมาที่ปลายทางก็มีน้อยลง มันไม่สะดุดตาเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป

ฟางหยวนเดินทางมายังทะเลทรายนิ่งห้อย สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของหิงห้อยเพลิง

พวกมันจะให้กําเนิดวิญญาณหิงห้อยเพลิงระดับสามถึงระดับห้า

นี่เป็นแหล่งทรัพยากรของตระกูลฟาง

พวกเขาจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ที่นี่เช่นกัน ค่ายกลวิญญาณอมตะของที่นี่จะสร้างสภาพแวดล้อมบนเส้นทางแห่งไฟเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟ

สถานที่แห่งนี้ได้รับการปกป้องโดยผู้อมตะระดับหกของตระกูลฟาง

ฟางหยวนใช้ใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวและโจมตีโดยตรง

เขาสังหารผู้อมตะของตระกูลฟางและทําลายทะเลทรายนิ่งห้อยทั้งหมด

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพี

ในคลังสมบัติของนิกายหลางหยามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีอยู่หลายดวง มันยังมีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีจํานวนมาก

หลังจากกระทําการเรียบร้อย ฟางหยวนก็กลับไปยังโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์

จากได้รับจดหมายตอบกลับของฟางหยวน แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้รับข่าวร้ายว่า ทะเลทรายหิงห้อยถูกทําลาย

ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาของตระกูลฟางตกตะลึง

อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

สมาชิกของตระกูลฟางเสียชีวิต!

ทะเลทรายตะวันตกไม่สําคัญ สิ่งสําคัญคือชีวิตของผู้อมตะตระกูลฟาง!

ตระกูลฟางขาดแคลนผู้อมตะมาตลอด เปรียบเทียบกับกองกําลังฝ่ายธรรมะอื่นๆของทะเลทรายตะวันตก พวกเขาค่อนข้างเสียเปรียบ หลังจากพวกเขานําผีเฒ่าไปจุน นางสนมอินทรีย์ และชวนปู่จินเข้ามา สถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไป

แต่คนทั้งสามเป็นคนนอก พวกเขาไม่มีสายเลือดตระกูลฟาง มันไม่สามารถทดแทน

ผู้อมตะของตระกูลฟางเสียชีวิต แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก แต่มันยังถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของตระกูลฟาง

ฟางกงให้ความสําคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขารีบหารือกับฟางตี้เฉิง

หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ ฟางกงเฝ้าอยู่ที่ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาขณะที่ฟางตี้เฉิงออกไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

“คนร้ายสังหารผู้อมตะของเรา!”

“พวกเขาทําลายแหล่งทรัพยากรของเรา!”

“เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ได้เกิดจากความโลภแต่เป็นการแก้แค้น!”

ฟางตี้เฉิงตรวจสอบพื้นที่และพบสัญญาณของความโกรธและความเกลียดชังถูกทิ้งไว้

“มันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปฐพี….นี่เป็นการแก้แค้นของตระกูลตงงั้นหรือ?”

ฟางตี้เฉิงคิดถึงตระกูลตงเพราะพวกเขาเชี่ยวชาญเส้นทางแห่งปฐพี แต่ในไม่ช้าเขาก็ส่ายศีรษะ

“ร่องรอยที่ทิ้งไว้ชัดเจนเกินไป มันต้องเป็นกองกําลังอื่นที่พยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้”

“สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย…”

การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นมืดครื้ม

กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกอาจต้องการยั่วยุตระกูลฟางแต่ไม่กล้าเปิดเผยต่อสาธารณะ พวกเขาจึงซ่อนอยู่เบื้องหลังและใช้แผนการบางอย่าง

สิ่งสําคัญคือตระกูลฟางขาดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล ฟางตี้เฉิงเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล

หากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาที่นี่ พวกเขาอาจพบร่องรอยหรือหลักฐานที่นําไปสู่ฟางหยวน

แต่ตระกูลฟางไม่มีความสามารถนั้น

ตระกูลฟางไม่สามารถเชิญผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาจากกองกําลังอื่น หากพวกเขาต้องการเชิญผู้บ่มเพาะสันโดษหรือปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล คนผู้นั้นต้องเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

แต่ในฐานะกองกําลังฝายธรรมะ ตระกูลฟางไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บ่มเพาะสันโดษหรือปีศาจอมตะ

ฟางตี้เฉิงไม่พบเบาะแสสําคัญใดๆ เขากลับฐานทัพตระกูลฟางด้วยการแสดงออกที่มืดมน

กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันออกได้รับข่าวนี้ในไม่ช้า

ผู้อมตะระดับแปดผู้หนึ่งถามตงลู่เฉินทันที

ตงลู่เฉินได้ยินและกลายเป็นมีนงง

เขาต้องสูดหายใจลึกเพื่อยับยั้งความโกรธ สารเลวตัวใดที่พยายามใส่ร้ายตระกูลตงของข้า! ตระกูลฟางขโมยเต๋า แต่พวกเขาไม่ได้ทําลายแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ของเรา!”

“คนผู้นี้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพีขณะที่ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปฐพีของตระกูลตง พวกเขาพยายามหว่านความเกลียดชัง ร้ายกายและชั่วร้ายนัก! แต่ข้าไม่สามารถทําสิ่งใด”

ตงลู่เฉินแทบไม่สามารถสะกดข่มความโกรธ

เขาไม่สามารถเดินไปรอบๆและตะโกนว่าเขาไม่ใช่คนร้าย

หาเขาในที่สาธารณะขณะที่เขาก็ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอด้วยการประกาศ ว่าตนเองบริสุทธิ์

นั่นไม่เพียงจะเป็นการทําลายชื่อเสียงของเขาแต่มันยังจะส่งผลกระทบต่อตระกูลตงอีกด้วย

แม้ตงลู่เฉินจะต้องการประกาศความบริสุทธิ์ของตน แต่ต่อหน้าผู้อมตะระดับแปดที่ถามเขา เขาก็ทําได้เพียงกันเสียงเย็น “ฮีม ผู้ใดทําเรื่องนี้? ข้าจะให้รางวัลใหญ่กับพวกเขา!”

“ฮ่าฮ่า” ผู้อมตะระดับแปดตอบอย่างมีความหมาย

หัวใจของตงลู่เฉินยิ่งจมดิ่งลง

“ฮ่าฮ่า มารดาเจ้าสิ!”

“เจ้าคิดว่าข้ามีช่วงเวลาที่ง่ายดายงั้นหรือ!?”

“ตระกูลตงอยู่ติดกับตระกูลฟาง ตระกูลฟางถูกกดดัน ดังนั้นพวกเขาจึงโจมตีตระกูลของข้าเพื่อข่มขู่ทุกคน คราวนี้ผู้อมตะตระกูลฟางเสียชีวิต หากพวกเขาตอบโต้ ตระกูลตงของข้าต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท