เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1787 ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกฎ

บทที่ 1787 ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกฎ

ทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1787 ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกฎ

หลังจากได้รับมรดกที่แท้จริงของเต๋าจู ฟางหยวนก็บินออกจากภูเขาห้าภูมิภาค

“มรดกที่แท้จริงของเต๋าจู!” ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

มรดกนี้มีประโยชน์มากสําหรับเขา มันถือเป็นตัวช่วยชั้นยอด

แม้เต๋าจูจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่มรดกที่แท้จริงของเขากลับเหนือกว่ามรดกที่แท้จริงบางส่วนของผู้อมตะระดับเก้า

ชีวิตก่อนหน้าเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

ฟางหยวนสามารถใช้วิธีการของเต๋าจูเพื่อทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ และสร้างปัญหาให้กับผู้อมตะของวังสวรรค์

วิธีของเต๋าจูยังสามารถต่อต้านท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์วีรบุรุษท่ามกลางผู้คน

ท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนสามารถขยายพลังอํานาจของผู้อมตะภาคกลาง แต่ตราบเท่าที่พวกเขาอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค พวกเขาจะพบกับฟันเฟืองที่รุนแรง

ฟางหยวนต้องยกนิ้วชื่นชมเด็จอยู่ในใจ

ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบหรือท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน พวกมันล้วนเป็นวิธีการของผู้อมตะระดับเก้า แต่มรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูกลับสามารถตอบโต้สิ่งเหล่านี้

“คราวนี้แม้ข้าจะไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน แต่ข้าสามารถใช้ควันห้าสีตอบโต้มัน คนภาคกลางจะพบกับความยากลําบาก!”

“แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะไม่สามารถเคลื่อนย้าย ข้าต้องแก้ไขมัน”

ฟางหยวนคิดและตรวจสอบมรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจู

มรดกนี้มีค่ายกลวิญญาณอมตะที่ชื่อว่าเขตแดนห้าภูมิภาค

ข่าวดีก็คือนอกจากค่ายกลนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะที่คล้ายกัน

ท่าไม้ตายนี้สามารถยิงปราณแสงห้าสีออกไป

ผลกระทบของปราณแสงห้าสีคล้ายกับกําแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะเผชิญหน้ากับฟันเฟือง ยิ่งท่าไม้ตายของพวกเขาทรงพลังเท่าใด พวกเขาก็จะพบกับฟันเฟืองที่รุนแรงเท่านั้น

แน่นอนว่าฟางหยวนเป็นการดํารงอยู่ที่พิเศษ ปราณแสงห้าสีไม่ส่งผลกระทบต่อเขา

นอกจากนี้ยังมีวิญญาณอมตะสองดวง

พวกมันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ หนึ่งคือวิญญาณอมตะภูมิภาคระดับแปด อีกหนึ่งคือวิญญาณอมตะเขตแดนระดับเจ็ด

วิญญาณอมตะภูมิภาคระดับแปดเป็นวิญญาณหลักของเต๋าจู มันก้าวเข้าสู่ระดับแปดพร้อมกันกับเขา

เต๋าจูยากจนมาก ทรัพยากรส่วนใหญ่ของเขาถูกใช้ในการวิจัย มิติช่องว่างของเขาแทบไม่มีสิ่ง

สิ่งสําคัญที่สุดคือก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาทิ้งมิติช่องว่างเอาไว้ให้กับผู้อมตะภาคใต้เพื่อปกปิดมรดกที่แท้จริงของเขา

เต๋าจูเป็นคนประหลาด เขาทุ่มเทเวลาและความพยายามทั้งชีวิตเพื่องานวิจัย มรดกที่แท้จริงของเขาบันทึกผลการทดลองมากมายของเขาเอาไว้ เขาต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมา

แม้เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาก็ยังเข้าไปในกําแพงภูมิภาคเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าพิศวงด้วยตัวของเขาเอง

นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทําได้

ดังนั้นมิติช่องว่างของเขาจึงเลวร้ายมาก เขาแทบไม่สามารถให้อาหารวิญญาณอมตะของตน

“ต่อไปข้าต้องพัฒนาแห่งอาหารให้กับวิญญาณอมตะสองดวงนี้

“แล้ว”

ฟางหยวนกําลังเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่าง เขาควรเลือกค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้า ภูมิภาคหรือท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาค

ทั้งคู่ใช้วิญญาณอมตะภูมิภาคและวิญญาณอมตะเขตแดนเป็นแกนกลาง หากเขาสร้างค่ายกล เขาจะไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย ในทํานองเดียวกัน หากเขาเลือกใช้ท่าไม้ตาย เขาจะไม่มีเวลาพอที่จะจัดตั้งค่ายกลระหว่างการต่อสู้

ค่ายกลวิญญาณมีข้อเสียที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย นอกจากนั้นมันยังต้องหยิบยืมพลังอํานาจของเส้นโลหิตปฐพี

มรดกห้าภูมิภาคของเต๋าจูระบุไว้อย่างชัดเจน ไม่เพียงค่ายกลต้องสร้างขึ้นบนพื้นดิน แต่มันยังต้องเชื่อมต่อกับเส้นโลหิตปฐพี

ดังนั้นในชีวิตก่อนหน้าจ่อซิวหยูจึงต้องซื้อวิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพี

แต่ตอนนี้วิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพียังไม่ปรากฏ

ท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาคสะดวกกว่าแต่มันอยู่ไม่นานเท่ากับค่ายกล

นอกจากนี้มันยังมีจุดอ่อนอีกประการ

ผู้อมตะต้องใช้ปราณพิภพจํานวนมหาศาลจากมิติช่องว่างของพวกเขาเพื่อกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้

“อย่างไรก็ตามข้ามีวิธีแก้ปัญหานี้ คือข้ามาถึงแล้วงั้นหรือ?”

ฟางหยวนหยุดคิดเมื่อเขามาถึงถ้ําที่ดูธรรมดาแห่งหนึ่ง

“มันถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดี กระทั่งข้าก็ไม่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ” ฟางหยวนพยักหน้ากับตนเอง

เขาปล่อยเจตจํานงของเต่จูออกมา

เจตจํานงของเต๋าจูก้าวไปข้างหน้าและทําให้ถ้ําเกิดการเปลี่ยนแปลง ความหมายที่แท้จริงค่อยๆปรากฏขึ้น

เจตจํานงของเต๋าจูมอบมันให้กับฟางหยวน

หลังจากตรวจสอบและไม่พบปัญหา เขาเริ่มดูดซับมันโดยไม่ลังเล

ครูต่อมาเขากลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกฎ!

ความหมายที่แท้จริงของเต่ําจทําให้คนที่ไม่มีพื้นฐานบนเส้นทางแห่งกฎกลายเป็นปรมาจารย์เอกในครั้งเดียว

ฟางหยวนมีรากฐานเป็นของตนเอง เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งกฏ แม้เขาจะกลายเป็นปรมาจารย์เอกหลังจากดูดซับความหมายที่แท้จริงของเต๋าจู แต่มันก็ไม่สูญเปล่า มันทําให้เขามีรากฐานเพียงพอที่จะก้าวเข้าระดับปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งกฏในอนาคต

“ดูเหมือนเต่จูจะเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกฎ” ฟางหยวนพยักหน้าเล็กน้อย

เมื่อคนผู้หนึ่งบรรลุระดับปรมาจารย์เอก มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ผู้อมตะระดับแปดที่บรรลุระดับปรมาจารย์เอกถือเป็นตัวตนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับเดียวกัน

จ่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาสามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ

นางมารผลาญสวรรค์เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งไฟ เมื่อนางสร้างกับดัก ฟางหยวนไม่สามารถสัมผัสถึงความผิดปกติของทรัพยากรอมตะ

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นปรมาจารย์เอกทุกเส้นทาง นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา ความสําเร็จตลอดชีวิตของผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากกลายเป็นความสําเร็จส่วนเล็กๆของเทพอมตะจิตวิญญาณ หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนพลิกสถานการณ์ เทพปีศาจจิตวิญญาณจะแทรกซึมเข้าสู่วังสวรรค์และควบคุมโลกทั้งใบ

เหตุใดเต๋kจูที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งขีดจํากัดจึงทิ้งความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งกฎเอาไว้เบื้องหลัง?

เหตุผลก็คือเส้นทางแห่งขีดจํากัดเป็นสาขาย่อยของเส้นทางแห่งกฏ

มันเหมือนเส้นทางแห่งเสน่ห์ที่เป็นสาขาย่อยของเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งเสน่ห์เชี่ยวชาญในการส่งอิทธิพลต่อจิตใจของผู้อื่น

ความจริงก็คือเส้นทางแห่งกฏมีสาขาย่อยมากมาย มันถือเป็นเส้นทางสายหลักอันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค

เส้นทางที่มีชื่อเสียงเส้นทางหนึ่งที่แตกออกมาจากเส้นทางแห่งกฏคือเส้นทางแห่งภูตผี

เส้นทางแห่งภูตผีมีจุดเริ่มต้นมาจากเส้นทางแห่งกฎ มันมุ่งเน้นไปที่การสร้างภาพมายา ร่างจริงและร่างมายา ในความเป็นจริงมันยังไม่ถูกแยกออกจากเส้นทางแห่งกฏอย่างชัดเจน

ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎหลายดวงเช่นวิญญาณอมตะความพยายาม วิญญาณอมตะจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และอื่นๆ

ลักษณะของเส้นทางแห่งกฎสามารถมองเห็นได้ง่ายเช่น ใหญ่ เล็ก สูง ต่ํา อ้วน ผอม ใกล้ ไกล ดี ไม่ดี ทรงกลม สี่เหลี่ยม ความจริง มายา เข้มแข็ง อ่อนแอ หนึ่ง สอง สาม สี่ และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่บนเส้นทางแห่งกฎทั้งสิ้น

เส้นทางแห่งกฏมีแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นมันจึงมีเส้นทางสาขาย่อยมากมาย

ท่ามกลางเส้นทางทั้งหมด วิญญาณบนเส้นทางแห่งกฏใช้ประโยชน์ได้หลากหลายที่สุด”

“ตัวอย่างเช่นวิญญาณความเข้มแข็งที่สามารถใช้ในหลายเส้นทางเพื่อทําให้ท่าไม้ตายทรงพลังยิ่งขึ้น

เส้นทางแห่งกฏยังมีข้อได้เปรียบอีกประการ นั่นคือผู้อมตะสามารถสร้างความหมายที่แท้จริงด้วยการใช้วิญญาณ

นี่เป็นข้อได้เปรียบของเส้นทางแห่งปัญญาเช่นกัน

ความหมายที่แท้จริงสามารถสร้างขึ้นด้วยวิญญาณความจริงบนเส้นทางแห่งกฎ เช่นเดียวกับวิญญาณเจตจํานงบนเส้นทางแห่งปัญญา

นอกเหนือจากทั้งสองเส้นทาง ผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่นจะใช้วิธีการต่างๆของพวกเขาเพื่อทิ้งความหมายที่แท้จริงเอาไว้เบื้องหลัง

ความหมายที่แท้จริงของเต๋าจูทําให้ฟางหยวนค่อนข้างประหลาดใจ เพราะเขารู้ว่าวหยงและจื่อชิวหยุไม่ได้รับมันในชีวิตก่อนหน้า

แต่นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก

เต๋าจูถูกปราบปรายโดยฝ่ายธรรมะของภาตใต้เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ ก่อนตายเขาต้องสละมิติ ช่องว่างเพื่อซ่อนมรดกและความหมายที่แท้จริงของตน

แม้มรดกที่แท้จริงของเต๋าจูจะถูกยึดครองโดยฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่ความหมายที่แท้จริงยังถูกซ่อนไว้จากพวกเขา

ความหมายที่แท้จริงของเต๋าจูมีประโยชน์มากสําหรับฟางหยวน กล่าวได้ว่ามันมาในเวลาที่เหมาะสม

เพราะเขาพึ่งจับปาซื่อปา

ปาซื่อปาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกฎ ฟางหยวนไม่สามารถกลืนกินมิติช่องว่างของปาซื่อปาหากความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกฎของเขายังไม่ยกระดับขึ้น

“ข้าทําธุรกรรมกับจือชิวหยูเพราะข้าต้องการความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกฎจากการสํารวจ อาณาจักรแห่งความฝัน

“แต่ผู้ใดจะคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับข้า ข้าไม่จําเป็นต้องรออีกต่อไป มันช่วยประหยัดเวลาและความพยายามของข้าได้มาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท