เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1785 การร่วงหล่นของปาชื่อปา

บทที่ 1785 การร่วงหล่นของปาชื่อปา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1785 การร่วงหล่นของปาชื่อปา

อิงอู๋เซียและคนอื่นๆแสดงออกอย่างจริงจัง

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์บางคนลังเล พวกเขาคิด เหตุใดเราจึงใช้วิธีที่ทรงพลังที่สุดตอนนี้? มันไม่เร็วเกินไปงั้นหรือ?”

ฟางหยวนมีความทรงจําในชีวิตก่อนหน้า เขารู้ว่าเซี่ยชาพบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับค่ายกลนี้แล้ว นางเพียงเก็บไว้ เมื่อนางโจมตีอย่างกะทันหัน เทพธิดากระต่ายขาวจะเสียชีวิต ขณะที่ฟางหยวนและคนอื่นๆจะถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว

ครั้งนี้ฟางหยวนจะไม่ทําพลาดเช่นเดิม

“เราจะโจมตีผู้ใด? ลัวเว่ยหยินหรือเซียชา?” ไปหนึ่งชิงถาม

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายสามารถยิงลําแสงที่ทรงพลังออกไป เวลาของเป้าหมายจะเดินช้าลง พวกเขาจะไม่สามารถป้องกันตัว

ถั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขามีวิธีการและไพ่ตายที่น่าอัศจรรย์

เชี่ยชาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นางสามารถทําลายค่ายกล นางเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อค่ายกลนี้

การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

คําตอบของฟางหยวนสั้นมาก “ไม่ใช่ทั้งถั่วเว่ยหยินและเชี่ยชา เราจะโจมตีผู้อมตะระดับเจ็ด”

ปาเซียปายังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้

เมื่ออสูรปีแรกกําเนิดอีกตัวเข้าสู่สนามรบ เขาต้องอดทนต่อความปรารถนาที่จะลงมืออย่างจริงจัง

“ค่ายกลนี้ยังมั่นคง ข้าต้องรอต่อไป!”

“ช่วงเวลาที่ข้าลงมือต้องเป็นช่วงเวลาที่สําคัญที่สุด ข้าต้องจับฟางหยวนให้ได้ในครั้งเดียว!”

ขณะที่เขากําลังคิดเรื่องนี้ อสูรบีบรรพกาลที่อยู่ใกล้เขากลับหยุดนิ่ง หลังจากนั้นกายาแห่งความฝันที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างของมันก็ระเบิดตัวเองและทําให้อาณาจักรแห่งความฝันกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ปาชื่อปาตกใจ “หือ?”

เป็นเพียงเวลานี้ที่ลําแสงสีขาวพุ่งเข้าไปหาเขาโดยไม่คาดคิด

“อันใด?” ดวงตาของปาชื่อปาเบิกกว้างขึ้น เวลาของเขาเดินช้าลงหลายเท่า

ในสายตาของเขา อาณาจักรแห่งความฝันพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง

“ข้า

ปาชื่อปาต้องการกรีดร้องแต่เขาไม่มีเวลาทําสิ่งใด

เขาถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันทันที

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“อา…นี่คืออาณาจักรแห่งความฝัน!”

“ท่านปาชื่อปา!”

“บัดซบ! ฟางหยวนค้นพบตัวตนของท่านปาชื่อปาแล้ว!”

ผู้อมตะภาคใต้หลายคนกรีดร้อง การโจมตีนี้กะทันหันเกินไป มันทําให้หัวใจของพวกเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง

“มีผู้อมตะระดับแปดคนที่สามงั้นหรือ?” ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนตกใจมาก

ในวินาทีที่ปาชื่อปาปลดปล่อยกลิ่นอายระดับแปดออกมา เขาก็ถูกจับตัวทันที ทุกอย่างสายเกินไป เขากลายเป็นตัวตลกที่ไร้ประโยชน์

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ เซี่ยชาแทบกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ

พวกเขาเก็บไพ่ตายใบนี้เอาไว้มานาน แต่ฟางหยวนกลับค้นพบมัน ปาชื่อปายังไม่เคยใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนออกมา แต่ฟางหวนกลับกําจัดเขาไปแล้ว

เชี่ยชาโกรธมาก

นางกรีดร้องและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของนางทันที

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน

ในชีวิตก่อนหน้าเซียชาใช้ท่าไม้ตายนี้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับฟางหยวนนางทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตาย เทพธิดากระต่ายขาวเสียชีวิตขณะที่คนอื่นๆได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ตอนนี้?

“รับพัดฤดูร้อนของข้า!” เซี่ยชาโบกพัดในมืออย่างไร้ปรานี

เสียงลมกรรโชกแรงดังขึ้น

“ดี ข้ากําลังรออยู่!” ฟางหยวนตะโกนด้วยดวงตาส่องประกาย

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายระเบิดแสงสีเงินออกไปรอบๆและดูดซับพลังอํานาจของพัดฤดูร้อนเอาไว้

“อันใด!?” เซี่ยชาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ท่าไม้ตายอมตะที่นางฝากความหวังไว้ไร้ประโยชน์!?

“อีกครั้ง!” นางสะบัดพัด

สายลมกรรโชกแรงสังหารอสูรปีหลายตัว กระทั่งอสูรปีแรกกําเนิดยังแทบไม่สามารถต่อต้าน กองทัพอสูรปีถูกปัดเปาออกไป

แต่ในวินาทีต่อมา แสงสีเงินก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สายลมกรรโชกแรงถูกดูดซับเข้าไปอย่างสมบูรณ์

เซียชา “…”

นางโกรธมาก หัวใจของนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง นางสะบัดพัดออกไปอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามภายใต้แสงสีเงิน พลังทําลายล้างของพัดฤดูร้อนดูราวกับภาพลวงตา

เซี่ยซาอ้าปากค้างด้วยความงุนงง หลังจากชั่วครู่นางจึงเปิดปากกรีดร้อง “เป็นไปไม่ได้!”

ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้

เห็นได้ชัดว่านางตกเป็นเหยื่อ ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนของนางถูกตอบโต้อย่างสมบูรณ์

เซี่ยชากรีดร้องอยู่ในใจ “ข้าไม่ค่อยได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน เหตุใดฟางหยวนจึงรู้เรื่องนี้และสามารถคิดวิธีตอบโต้?”

“นี่เป็นความฝันใช่หรือไม่?

“มันไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง!”

แต่แน่นอนว่ามีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

เพราะในชีวิตก่อนหน้าไม่เพียงฟางหยวนจะได้รับท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนแต่เขายังดัดแปลงมันให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้นไพ่ตายที่เชี่ยชาภาคภูมิใจจึงถือเป็นท่าไม้ตายตกรุ่นในสายตาของฟางหยวน

ในชีวิตนี้ฟางหยวนพิจารณาถึงท่าไม้ตายอมตะของเซี่ยชาเอาไว้แล้ว เขาแก้ไขค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อรับมือนางโดยเฉพาะ

เหตุผลที่เขาอนุญาตให้นางเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระจนถึงตอนนี้เป็นเพราะเขาต้องการลดความแข็งแกร่งของอสูรปีแรกกําเนิดและจับพวกมันเป็นทาส นอกจากนั้นเขายังต้องการตรวจสอบรากฐานของผู้อมตะภาคใต้เหล่านี้

ความจริงก็คือสําหรับฟางหยวน เซี่ยชาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่เป็นภัยคุกคามน้อยที่สุด

อารมณ์ที่ปั่นปวนของเชียชาทําให้นางเผยช่องว่างอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนฉวยโอกาสนี้ใช้อาณาจักรแห่งความฝันจับนาง

ถั่วเว่ยหยินเผยรอยยิ้มขมขื่น เขาทําได้เพียงใช้ท่าไม้ตายบางอย่างบังคับให้ตนเองหลับไปขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันเคลื่อนที่เข้ามากลืนกินเขา

สามผู้อมตะระดับแปดถูกจับกุม ผู้อมตะระดับเจ็ดกลายเป็นตื่นตระหนก

พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดสถานการณ์จึงกลายเป็นเช่นนี้

แสงสีเงินพุ่งเข้าโจมตีไปชิวจงและหลิวห่าวตามด้วยคนอื่นๆ

ลําดับนี้ได้รับการอนุมานมาอย่างพิถีพิถันโดยฟางหยวน

ไม่นานหลังจากนั้นแสงสีขาวก็พุ่งมาจากขอบฟ้า

แสงสีขาวกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด

เขาก็คือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งแสงของวังสวรรค์ จวินเฉินกวง

“หลิวห่าวและคนอื่นๆหายตัวไปที่นี่คือ?” จวินเฉินกวงเริ่มตรวจสอบพื้นที่และพบร่องรอยที่น่าสงสัย

“มันดูไม่ดีสําหรับหลิวห่าว มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน น่าเสียดายที่หลิวห่าวไม่ได้ขอกําลังเสริม มันเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ?”

ครู่ต่อมาหน้าผากของจวินเฉินกวงก็ปกปคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ

ความตกใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

เบาะแสทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเชี่ยชาและคนอื่นๆตกลงสู่หลุมพรางของฟางหยวน “ฟางหยวนน่าจะใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน” ในไม่ช้าเขาก็พบอาณาจักรแห่งความฝันขนาดเล็กถูกทิ้งไว้ในสนามรบ “นอกเหนือจากอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนไม่มีวิธีอื่นที่สามารถสร้างผลลัพธ์เช่นนี้ คือ?”

จวินเฉินกวงรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ เขาเร่งจากไปทันที

หลังจากนั้นบ้านไม้ไผ่สายลมก็นําวหยง จ่อซิวหยู และคนอื่นๆมาถึงที่เกิดเหตุ

“พวกเขาหายไปที่นี่!” ผู้อมตะภาคใต้แสดงออกอย่างจริงจัง

“ตรวจสอบว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ตระกูลของข้าไม่สามารถติดต่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเรา!” ผู้อมตะตระกูลเซียกังวลมาก

“เราไม่สามารถติดต่อท่านปาชื่อปาเช่นกัน!” ผู้อมตะตระกูลปาก็กังวลมากเช่นกัน

ในชีวิตนี้นอกจากเซี่ยชา ปาชื่อปาก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสงสารไม่ต่างกัน

“ดูเหมือนจะมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่”

“ยังมีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ดูเหมือนจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด”

“มีอาณาจักรแห่งความฝันอยู่ที่นี่” บางคนค้นพบอาณาจักรแห่งความฝันขนาดเล็กที่เหลืออยู่

“ระวัง” ผู้อมตะภาคใต้ปิดล้อมอาณาจักรแห่งความฝันเอาไว้

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังหดตัวลง” บางคนอุทาน

หลังจากไม่นานวิญญาณหลายดวงก็หลุดออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝัน

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนห้า พวกมันคือจดหมายเรียกค่าไถของฟางหยวน

ผู้อมตะภาคใต้ตกสู่ความโกลาหล

“นี่นี่”

“โกหก! สิ่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? กลุ่มที่พวกเราจัดตั้งขึ้นถูกฟางหยวนจับจริงๆงั้นหรือ?”

“นี่เป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่!”

“แต่เหตุใดพวกเราไม่สามารถติดต่อผู้อมตะของเรา?”

ผู้อมตะภาคใต้ไม่แน่ใจ พวกเขาเริ่มพูดคุย หลังจากนั้นถั่วเว่ยหยินก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ถั่วเว่ยหยินตื่นขึ้นและเห็นกลุ่มของวูหยง เขาอุทาน “ไม่!”

การปรากฏตัวและคํากล่าวของเขาทําให้ความหวังสุดท้ายของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พังทลายลง

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จัดตั้งกลุ่มไล่ล่าและสังหารฟางหยวน แต่นอกจากพวกเขาจะไม่สามารถฆ่าฟางหยวน พวกเขายังถูกฟางหยวนจับเป็นเชลย!

นี่ทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้กลายเป็นตื่นตระหนก

พวกเขาสูญเสียใบหน้าและบุคคลสําคัญของตระกูล

ตอนนี้ฟางหยวนยังกรรโชกทรัพย์ แล้วพวกเขาจะทําอย่างไร?

ผู้อมตะภาคใต้เหล่านี้ไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าบดขยี้ศพของฟางหยวน แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าปีศาจตนนี้อยู่ที่ใด

ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก!

ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่เทือกเขาห้าภูมิภาค

เขาไม่สนใจปฏิกิริยาของผู้อมตะภาคใต้ สายตาของเขาสั่นไหวเมื่อเขามองเทือกเขาแห่งนี้ เขาต้องการรับมรดกห้าภูมิภาคของเต๋จูขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท