เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1797 ทรัพยากรอมตะระดับเก้า

บทที่ 1797 ทรัพยากรอมตะระดับเก้า

บทที่ 1797 ทรัพยากรอมตะระดับเก้า

“ครื…นครืน…”

เสียงคลื่นทะเลดังเข้าหูฟางหยวน

แสงแดดของทะเลตะวันออกส่องสะท้อนใบหน้าของเขาขณะที่ลมทะเลพัดผ่านมาอย่างอ่อนโยนทําให้เขารู้สึกสดชื่น

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย “ดังคาด มันยังไม่ถึงเวลา…”

เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกเดินทางมายังทะเลตะวันออก เป้าหมายของเขาคือการตามหาวาฬมังกรฟ้า

สําหรับฟางหยวน การได้รับวิญญาณความเสียใจจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม

เพราะเขาต้องการยกระดับวิญญาณอมตะระดับหกจํานวนมากเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวม ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณความเสียใจ เขาจะสามารถลดความสูญเสียและลดความเสี่ยงของความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณให้อยู่ในจุดต่ําสุด

ในความเป็นจริงตั้งแต่กําเนิดใหม่เขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง

ทะเลบริเวณนี้เป็นสถานที่ที่เขาติดตามกลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินมาและพบกับวาฬมังกรฟ้าในชีวิตก่อนหน้า

น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ประสบความสําเร็จในการตามหาวาฬมังกรฟ้า

“ข้าควรโจมตีเมี่ยวหมิงเฉินและยึดวิธีการของเขาหรือไม่?”

“ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถค้นหาตําแหน่งที่แน่นอนของวาฬมังกรฟ้าด้วยตัวข้าเอง”

ความคิดนี้พุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน

ฟางหยวนสามารถใช้ตัวตนของชูอิงเพื่อวางแผนต่อต้านเมี่ยวหมิงเฉิน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน ก็คือฟางหยวนไม่รู้ว่าวิธีการของเมี่ยวหมิงเฉินเป็นอย่างไร

มันไม่ใช่ปัญหาหากนั่นเป็นท่าไม้ตายอมตะทั่วไป แต่หากมันเป็นวิธีการที่แปลกประหลาด มันอาจส่งผลกระทบในทางตรงข้าม

ตามการประเมินของฟางหยวน อย่างหลังมีความเป็นไปได้ไม่น้อย เนื่องจากห้าร้อยปีในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาไม่เคยได้ยินว่าผู้อื่นมีวิธีการเช่นเดียวกับเมี่ยวหมิงเฉิน

ทะเลตะวันออกมีผู้อมตะระดับแปด ขณะที่เมี่ยวหมิงเฉิงเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด วิธีการของเขาเกี่ยวข้องกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ไม่มีทางที่ผู้อมตะระดับแปดเหล่านั้นจะไม่เคลื่อนไหว

แต่ผู้อมตะเหล่านั้นกลับไม่เคลื่อนไหว นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย

‘จากประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ข้าต้องรออย่างอดทนและติดตามเมี่ยวหมิงเฉิงเข้าสู่ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าเท่านั้น’

‘แต่สิ่งนี้ไม่แน่นอน มันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบหยดหมึก ในชีวิตก่อนหน้าเมี่ยวหมิงเฉินเลือกชูอิง แต่ชีวิตนี้เขาจะเลือกชูอิงอีกครั้งหรือไม่?’

ตอนนี้ฟางหยวนทําได้เพียงใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกเดินทางกลับภาคใต้เท่านั้น

ปัจจุบันภาคใต้ถือเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด แม้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะต่อต้านเขา แต่เขามีเชลยจํานวนมากที่สามารถใช้ต่อรอง สิ่งสําคัญที่สุดคือเขาเข้าใจสถานการณ์ของภาคใต้เป็นอย่างดี

ฟางหยวนไม่รีบร้อนที่จะจัดการเมี่ยวหมิงเฉิน แผนการของเขาดําเนินไปอย่างราบรื่น กระทั่งเขาจะต้องการโจมตีเมี่ยวหมิงเฉิง มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะทําเช่นนั้น

ทุกอย่างต้องดําเนินการในเวลาที่เหมาะสม

บางครั้งต้องเร่ง บางครั้งต้องชะลอ

การกระทําการอย่างรวดเร็วและรีบร้อนไม่เป็นผลดี แต่หากช้าเกินไป พวกเขาอาจเสียโอกาส

ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้

งานหลักของเขาในช่วงเวลานี้ยังเป็นร่างแยก

เขาต้องการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกร!

ฟางหยวนได้รับวิธีเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรมาจากไป่หนิงปิงและเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับมัน

วิธีนี้เหมือนการหลอมรวมวิญญาณ มันใช้ร่างกายของตนเองเป็นวัสดุในการหลอมรวมเพื่อเปลี่ยนร่างมนุษย์เป็นมนุษย์มังกรโดยพึ่งพาเพลิงมังกรล่องคลื่น

มันมีโอกาสประสบความสําเร็จน้อยมาก

เมื่อฟางหยวนอ่านวิธีนี้เป็นครั้งแรก เขาต้องอุทานด้วยความชื่นชมต่อแนวคิดที่น่าเหลือเชื่อของมัน

จากนั้นเขาก็ค้นพบข้อบกพร่องของวิธีนี้

วิธีนี้ถูกสร้างขึ้นโดยราชันมังกรที่เชี่ยวชาญเส้นทางแห่งพลังปราณและการเปลี่ยนแปลง เขาไม่มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

แต่ฟางหยวนเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาสามารถดัดแปลงวิธีนี้ได้อย่างง่ายดาย หลังจากดัดแปลง มันมีโอกาสประสบความสําเร็จเกือบถึงสิบในร้อยส่วน

นี่คือขีดจํากัดของฟางยวนแต่มันก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

การเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นมนุษย์มังกรถือเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

ฟางหยวนไม่สามารถแข่งขันกับราชันมังกรในด้านของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางมนุษย์

มีเพียงความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเท่านั้นที่ช่วยให้ฟางหยวนเข้าใจท่าไม้ตายนี้

“อุปสรรคที่แท้จริงของมันคือเพลิงมังกรล่องคลื่น!”

เพลิงมังกรล่องคลื่นเป็นทรัพยากรอมตะระดับเก้าที่หายาก

ถ้ําสวรรค์ไป่เซี่ยงมีเพลิงมังกรล่องคลื่นเพียงหนึ่งเดียวซึ่งถูกใช้ไปแล้วโดยไป่หนิงปิง สวรรค์สีเหลืองไม่มีสิ่งนี้วางขาย

ประกาศความต้องการซื้อในสวรรค์สีเหลือง?

ไม่ ฟางหยวนมีตัวเลือกที่ดีกว่า!

ฐานทัพใหญ่ของตระกูลเซีย

จดหมายเรียกค่าไถ่ของฟางหยวนถูกส่งมายังตระกูลเซี่ยเป็นกองกําลังแรก

“วายร้ายฟางหยวนเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย เขาควรถูกสาปแช่งให้ตาย! เราต้องฆ่าเขา!” เซี่ยเฟยกุ้ยตะโกนด้วยความโกรธ

การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลเซี่ยคนอื่นๆดูไม่น่ามอง

นอกจากความโกรธและความเกลียดชัง ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้เหล่านี้รู้สึกราวกับพวกเขากําลังอยู่ในความฝัน

ตระกูลเซี่ยที่เป็นกองกําลังใหญ่ถูกเรียกค่าไถโดยปีศาจอมตะผู้หนึ่ง!

และบุคคลที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ยังเป็นรากฐานและผู้มีอํานาจสูงสุดของตระกูลเซี่ย ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เซี่ยชา!

หากบางคนบอกเรื่องนี้กับผู้อมตะตระกูลเชี่ยก่อนที่การซุ่มโจมตีจะเกิดขึ้น ผู้อมตะตระกูลเซี่ยจะตบศีรษะคนผู้นั้นให้ตื่นจากความฝัน

แต่ตอนนี้ผู้อมตะตระกูลเซียกลับต้องการตบศีรษะของตนเอง

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลเซี่ย เซี่ยเจารู้สึกกดดันมาก เขาถอนหายใจกล่าว “พวกเจ้าเห็นจดหมายของฟางหยวนแล้ว เขาต้องการเพลิงมังกรล่องคลื่น พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?”

ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเซี่ยมองหน้ากันอย่างเงียบๆ

เซี่ยเจามองไปที่เซี่ยเฟยคุ้ย “เมื่อครู่เจ้ายังตะโกนเสียงดัง ตอนนี้ลองพูดความคิดของเจ้าออกมา”

เซี่ยเฟยกุ้ยโกรธฟางหยวนมากแต่เขายังนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถกําจัดฟางหยวน เขาอาจเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาเป็นปีศาจที่แท้จริง หากเขาต้องการชีวิตของท่านหญิงเซี่ยชา เขาสามารถทําได้โดยปราศจากความลังเล บางทีเราอาจสร้างความร่วมมือกับกองกําลังอื่น ฟางหยวนรีดไถพวกเรา แต่เขาย่อมรีดไถกองกําลังอื่นเช่นกัน”

เซี่ยหลิวเพ่ยตอบโต้ทันที “เราจะพึ่งพาคนนอกได้อย่างไร? พวกเขาอยากเห็นพวกเราสูญเสียผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ตั้งแต่เจ้าตระหนักว่าปีศาจฟางหยวนไม่ได้กรรโชกทรัพย์เพียงพวกเรา แล้วเจ้าได้ยินกองกําลังอื่นร้องขอความร่วมมือจากพวกเราหรือไม่? เหตุใดพวกเขาไม่ติดต่อพวกเรา?”

“เจ้า!” เซี่ยเฟยกุ้ยโกรธมากแต่เขาไม่สามารถโต้แย้ง หลังจากชั่วครู่เขาจึงเปิดปากกล่าวอีกครั้ง “แม้เราจะต้องการประนีประนอมแต่เราไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่น”

“เราไม่มีไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นไม่มี”

“ปีศาจฟางหยวนอาจตั้งราคาสูงไว้ก่อนและรอให้เราเจรจา?”

ผู้อมตะตระกูลเซี่ยแสดงออกความคิดเห็น

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า พวกเขาไม่มีทางเลือก

คําตอบของฟางหยวนตรงไปตรงมา “ข้าต้องการเพลิงมังกรล่องคลื่นเท่านั้น ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะหามันมาอย่างไร แต่เราจะสามารถพูดคุยเมื่อพวกเจ้าน้ํามันมาให้ข้า มิฉะนั้นชีวิตของเซี่ยชา…ฮ่าฮ่า”

ฟางหยวนสงบกว่าชีวิตก่อนหน้า

ครั้งก่อนเขาต้องตรวจสอบหลายครั้งก่อนจะรีดไถกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่ครั้งนี้เขาคุ้นเคยกับข้อจํากัดของทุกกองกําลังเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงรีดไถตระกูลเซี่ยอย่างหนัก

แม้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ยและตระกูลปาจะถูกจับตัวในฐานะเชลยเช่นเดียวกัน แต่สถานการณ์ของตระกูลเซี่ยเลวร้ายที่สุด เหตุผลเป็นเพราะตระกูลปายังมีผู้อมตะระดับแปดอีกหนึ่งคน นั่นคือ ปาเต๋อ!

ดังนั้นเป้าหมายแรกในการรีดไถของฟางหยวนจึงยังเป็นตระกูลเซี่ยเช่นเดิม

ตระกูลเซี่ยไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่นซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวนเพราะเขาค้นวิญญาณของเซี่ยชามาแล้ว

ผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เซี่ยชาต้องรู้อย่างแน่นอน

ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่รู้ว่ากองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะมีเพลิงมังกรล่องคลื่นหรือไม่

มีความเป็นไปได้ที่บางกองกําลังจะเก็บไว้ แต่ทรัพยากรอมตะระดับเก้าที่ซ่อนอยู่ใน คลังสมบัติของตระกูลมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเท่านั้นที่ล่วงรู้

แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่กองกําลังฝายธรรมะของภาคใต้จะไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่นเช่นกัน

แต่ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องนี้ เขาผลักเรื่องปวดหัวนี้ให้กับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้

ในแผนการของฟางหยวน ร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นหนึ่งในแผนการส่วนสําคัญ

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวังมังกร

ฟางหยวนไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวังมังกรแต่เขาสามารถอนุมานได้ว่ามนุษย์มังกร เป็นกุญแจสําคัญในการรับสืบทอดวังมังกร

ในชีวิตก่อนหน้า ไป่หนิงปิงสามารถเป็นเจ้าของวังมังกร นี่คือหลักฐานสําคัญ

ฟางหยวนรีดไถฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ขณะเดียวกันเขายังฝึกฝนและดูดซับผลประโยชน์ของเขาต่อไป

ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ประสบความสําเร็จในการดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา มันกระทั่งทรงพลังกว่าชีวิตก่อนหน้าถึงสามสิบส่วน

นี่เป็นเพราะฟางหยวนมีวิญญาณอมตะในการครอบครองมากกว่าชีวิตก่อนหน้า

ฟางหยวนรีดไถตระกูลเซี่ยเป็นอันดับแรก ต่อมาก็เป็นตระกูลปาและตระกูล

อี้หยางของตระกูลอี้เป็นทายาทในสายเลือดของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลอี้และเป็นผู้สืบทอดตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เขามีความสําคัญมากต่อตระกูลอี้

ตระกูลถัดมาที่ฟางหยวนเรียกค่าไถคือตระกูลจื่อ

แต่ทัศนคติของฟางหยวนที่มีต่อตระกูลจื่อค่อนข้างเป็นมิตร “พี่จื่อ เราเป็นสหายที่ดี ข้าสามารถจับผู้อมตะภาคใต้ได้เพราะท่าน ข้าจะคืนผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลจื่อให้ท่านโดยตรง”

ใบหน้าของจื่อชิวหยูกลายเป็นขี้เถ้า

“อย่ามาตีสนิทข้า!” จื่อชิวหยูกรีดร้องอยู่ในใจ

เขาถูกฟางหยวนลากเข้ามุมและไม่สามารถออกไป

ไม่กี่วันที่ผ่านมา อารมณ์ของจื่อชิวหยูเลวร้ายมาก

เพราะเขารู้ว่าฟางหยวนสามารถจับผู้อมตะภาคใต้ได้เนื่องจากอาณาจักรแห่งความฝันที่เขาลอบส่งมอบให้ฟางหยวน

หากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้เรื่องนี้ กระทั่งจื่อชิวหยูก็จะตกอยู่ในอันตราย

ธุรกรรมอาณาจักรแห่งความฝันกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อจื่อชิวหยู เขาต้องการหยุดธุรกรรมที่อันตรายนี้ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

หลังจากทั้งหมดคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่คือฟางหยวน ความจริงข้อนี้ทําให้หัวใจของจื่อชิวหยูจมดิ่งลง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท