บทที่ 1812 การต่อสู้ครั้งที่สองในสายธารแห่งกาลเวลา
แปลโดย iPAT
ภายในเรือรบหมื่นปี หัวใจของไหลั่วหลันและคนอื่นๆเต้นแรง
กองทัพอสูรปีพุ่งเข้ามาหาพวกเขาจากทุกทิศทางและสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่
“ท่าไม้ตายนี้ช่างน่าทึ่งนัก!”
“ไม่แปลกใจเลยที่ท่าไม้ตายนี้ไม่เคยถูกใช้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“อสูรปีถูกล่อมามากเกินไป หากมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่”
ฝ่ายของวังสวรรค์ก็หวั่นไหวเช่นกัน
“เรือรบหมื่นปี” กู้หลิวรู่พึมพำชื่อนี้ออกมาด้วยการแสดงออกที่จริงจัง
หลี่ฮวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “คลื่นสัตว์อสูร ยอดเยี่ยม!”
แม้แต่ตัวละครในตำนานยังรู้สึกประทับใจกับภาพอันตระการตานี้
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง
เขาได้รับท่าไม้ตายนี้มาจากการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะตกอสูรปี ด้วยการใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระดับแปดเป็นแกนกลาง มันจึงส่งผลกระทบที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
อสูรปีจำนวนนับไม่ถ้วนคำรามเสียงดัง
“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม!”
ฝ่ายของวังสวรรค์เริ่มเปิดฉากโจมตี
คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสามารถต่อสู้กับอสูรปีแรกกำเนิด
แต่ปัญหาคือการฆ่าอสูรเหล่านี้มีประโยชน์ใด? ตราบเท่าที่เรือรบหมื่นปียังอยู่ อสูรปีก็จะหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่รู้จบสิ้น
นี่เป็นกลยุทธ์บนเส้นทางแห่งทาสเพื่อกลืนกินความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม
ผู้อมตะของวังสวรรค์สูญเสียพลังงานอมตะจำนวนมากกับสิ่งนี้
“หากเราต่อสู้กับอสูรปีเหล่านี้ เราจะตกลงสู่กับดักของฟางหยวน เราต้องทำลายเรือรบหมื่นปีเท่านั้น!” ผู้อมตะระดับเจ็ดที่อยู่ภายในรังกระเรียนใบไม้ร่วงแนะนำ
ผู้อมตะอีกคนเร่งกล่าว “แต่เรือรบหมื่นปีแข็งแกร่งมาก เราจะใช้วิธีใดโจมตีมัน?”
ผู้อมตะระดับเจ็ดคนแรกพูดไม่ออก “นี่”
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากรอบๆ “ระวัง! ฟางหยวนมาแล้ว!”
ความเร็วของเรือรบหมื่นปีเพิ่มสูงขึ้น แต่แทนที่มันจะล่าถอย มันกลับพุ่งเข้าไปหาฉลามล่องคลื่น
“ช่างกล้าหาญนัก!” หลี่ฮวงที่อยู่ในฉลามล่องคลื่นเย้ยหยัน
หลังจากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังของวังสวรรค์รวมถึงกู้หลิวรู่ก็พุ่งเข้าเผชิญหน้ากับเรือรบหมื่นปี
เรือรบหมื่นปีส่งดาบรุ่งอรุณจำนวนนับไม่ถ้วนออกไปราวกับพายุฝน
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันและทำให้ความรุนแรงของการต่อสู้พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดทันที
“ไม่ดีแล้ว! ฟางหยวนพยายามหยุดพวกเราเพื่อเปิดโอกาสให้กองทัพอสูรปีมีเวลาปิดล้อมพวกเรา!” กู้หลิวรุ่มองเห็นแผนการของฟางหยวน
หลี่ฮวงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ตราบเท่าที่เราต้องการทะลวงออกไป อสูรปีเหล่านี้จะสามารถทำสิ่งใด?”
กู้หลิวรูถอนหายใจ “อย่าลืมว่าเรายังมีค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินอยู่ข้างหลัง”
หลี่ฮวงเงียบ ในช่วงเวลาเร่งด่วน เราลืมมันไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากได้รับการแจ้งเตือน เขาเริ่มสาปแช่ง “ปีศาจตนนี้ช่างน่ารังเกียจนัก!”
วังสวรรค์สร้างค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินขึ้นมาอย่างระมัดระวัง มันสามารถลอยไปตามสายธารแห่งกาลเวลาและมีผู้อมตะจำนวนมากควบคุมอยู่ภายใน
หากค่ายกลนี้ถูกทำลาย ไม่เพียงวังสวรรค์จะสูญเสียผู้อมตะจำนวนมากแต่มันยังรวมถึงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดหลายดวง
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะไม่สามารถค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินขึ้นมาอีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆ
สถานการณ์ของฝายวังสวรรค์ค่อนข้างน่าอึดอัดใจ
พวกเขาต้องการใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินซุ่มโจมตีฟางหยวนแต่ฝ่ายหลังกลับมองเห็นแผนการของพวกเขาและกระทั่งใช้ประโยชน์จากมัน
ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินสามารถเคลื่อนที่ในสายธารแห่งกาลเวลาแต่ความเร็วของมันช้ามาก มันไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีออกจากสนามรบ
“เราควรนำผู้อมตะที่อยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินกลับออกมาเป็นอันดับแรก” กู้หลิวรู่กล่าวหลังจากไตร่ตรอง
หลี่ฮวงกล่าวแทบจะในเวลาเดียวกัน “ฆ่าฟางหยวน ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไข!”
ผู้อมตะทั้งสองมองหน้ากัน ในช่วงเวลาสำคัญพวกเขากลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
“โฮก…”
กองทัพอสูรปีมาถึงสนามรบในที่สุดโดยมีอสูรปีแรกกำเนิดสามตัวเป็นผู้นำ
“รนหาที่ตาย!” หลี่ฮวงตะโกนด้วยความโกรธ เขาควบคุมฉลามล่องคลื่นเข้าต่อสู้กับพวกมัน
“ตัวตลกที่โง่เขลา!” เจตนาสังหารของหลี่ฮวงปะทุขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของกู้หลิวรู่ “ช่วยข้าเร็วเข้า!”
หลี่ฮวงต่อสู้กับกองทัพอสูรบีขณะที่กู้หลิวรู่กับรังกระเรียนใบไม้ร่วงโจมตีเรือรบหมื่นปีและนำไปสู่สภาวะชะงักงัน
แต่หลังจากไม่นานฟางหยวนก็กระตุ้นใช้ดาบรุ่งอรุณโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน
ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินเริ่มส่งสัญญาณของการแตกสลาย
ผู้อมตะที่อยู่ภายในเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
ด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่งของเรือรบหมื่นปี กู้หลิวรู่กับรังกระเรียนใบไม้ร่วงไม่สามารถทำอันตรายใดๆต่อมัน พวกเขาถูกบังคับให้ปิดกั้นการโจมตีของเรือรบหมื่นปีเพื่อปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน
กู้หลิวรู่กับรังกระเรียนใบไม้ร่วงตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช
เห็นสถานการณ์ไม่ดี หลี่ฮวงรีบบังคับฉลามล่องคลื่นหันกลับไปโจมตีเรือรบหมื่นปีจากด้านหลัง
แต่ฟางหยวนต้องกลัวงั้นหรือ?
หากเขาอยู่เพียงลำพัง เขาอาจไม่สามารถให้ความสนใจทุกด้าน แต่ตอนนี้เขามีผู้ใต้บังคับบัญชามากมายที่คอยให้ความช่วยเหลือและเพื่อให้ได้รับชื่อเสียงจากการสังหารผู้อมตะระดับแปดดวงตาของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นจึงกลายเป็นแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
ฟางหยวนยืนอยู่บนหัวเรือตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าสนามรบจะวุ่นวายเพียงใด เขาก็ยังมองเห็นช่องว่างและสามารถใช้ประโยชน์จากมัน
ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ
กรรไกรฤดูใบไม้ผลิพุ่งออกไปแต่เป้าหมายของมันไม่ใช่กู้หลิวรู้
ด้วยเสียงฉับ ศีรษะของผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งถูกตัดออกจากร่าง
หัวใจองกู้หลิวรู่เต้นแรงด้วยความตกใจ “นี่ไม่ใช่ไพ่ตายของเซี่ยชางั้นหรือ? ฟางหยวนได้รับมันและปรับเปลี่ยนมันให้เหมาะสมกับการบ่มเพาะระดับเจ็ดของเขา!”
ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่ขณะที่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนซึ่งอยู่ในระดับเจ็ดเช่นเดียวกัน
หลี่ฮวงไม่สามารถให้ความสนใจสองด้านพร้อมกัน เขาทำได้เพียงมองดูค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกทำลายเท่านั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า หากข้าจะฆ่าพวกเขา เจ้าจะหยุดข้าได้งั้นหรือ?” ฟางหยวนเย้ยหยัน
ดวงตาของหลี่ฮวงลุกไหม้ด้วยความโกรธ “ปีศาจ ข้าจะบดกระดูกของเจ้า!”
“บึม!”
โดยไม่คาดคิดอสูรปีแรกกำเนิดตัวหนึ่งพุ่งชนเรือรบหมื่นปีและทำให้มันสั่นไหวเล็กน้อย
ผู้อมตะของวังสวรรค์ตกตะลึง
ผู้อมตะระดับแปดทั้งสองเข้าใจแทบจะในทันที
“ปรากฏว่าฟางหยวนสามารถล่ออสูรปีเข้ามาแต่ไม่สามารถควบคุมพวกมัน!”
“ดูเหมือนเป้าหมายของอสูรเหล่านี้จะเป็นเรือรบหมื่นปี!”
หลังจากค้นพบความลับนี้ หลี่ฮวงและกู้หลิวรู่แทบกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ
พวกเขาต่อสู้อย่างเต็มที่มาเป็นเวลานานแต่มันกลับเป็นการช่วยเหลือศัตรู
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฟางหยวนจะไม่เฝ้ามองอยู่ข้างสนามรบแต่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
ฟางหยวนไม่สามารถทำสิ่งใดกับเรื่องนี้
นี่คือทั้งหมดที่เขาทำได้ในปัจจุบัน
การใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำดึงดูดอสูรปีเข้ามาเป็นวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลา หากเขาสามารถควบคุมพวกมัน นั่นจะเป็นวิธีการบนเส้นทางแห่งทาส
กองทัพอสูรที่ทำให้สนามรบกลายเป็นคับแคบ
“ฟางหยวน ตายไปซะ!”
“รับความพ่ายแพ้!”
หลี่ฮวงตะโกนเสียงดังขณะที่ฟางหยวนพยายามควบคุมเรือรบหมื่นปีพัวพันอยู่รอบๆฉลามล่องคลื่นและรังกระเรียนใบไม้ร่วงตลอดเวลา
เป้าหมายของอสูรปีคือเรือรบหมื่นปี แต่กลยุทธ์ของฟางหยวนทำให้ฉลามล่องคลื่นกับรังกระเรียนใบไม้ร่วงเผชิญหน้ากับหายนะ
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าต้องการกำจัดข้างั้นหรือ? ข้าอยู่ตรงหน้าพวกเจ้าแล้ว เข้ามาโจมตีข้า” ฟางหยวนหัวเราะ
ดวงตาของหลี่ฮวงกลายเป็นแดงก่ำด้วยความโกรธ แม้แต่การหายใจของกู้หลิวรุ่ยังไม่สม่ำเสมอ พวกเขาต่างจ้องมองฟางหยวนด้วยเจตนาสังหาร
หลังจากไม่นานคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังก็ไม่มีที่ว่างให้ขยับเขยื้อน
กองทัพอสูรปีปิดล้อมพวกเขาเอาไว้ทุกด้าน
หลี่ฮวงและกู้หลิวจู่โจมตีด้วยความโกรธจัด
ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกทำลายไปแล้ว ความพยายามของวังสวรรค์กลายเป็นสูญเปล่า
หลี่ฮวงและกู้หลิวรูพยายามช่วยผู้อมตะที่อยู่ภายในแต่ส่วนใหญ่เสียชีวิตอย่างน่าเวทนา
“ไปกันเถอะ มิฉะนั้นจะไม่มีผู้ใดรอดชีวิต!” กู้หลิวรู่ตะโกน
วังสวรรค์พ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้
“ฟางหยวน เพียงรอก่อน เจ้าจะยโสได้ไม่นาน เจ้าจะต้องตายในมือของข้า!” หลี่ฮวงกัดฟันกล่าว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต่อสู้กับฟางหยวนแต่เขากลับรู้สึกเกลียดชังฝ่ายหลังเป็นอย่างมาก
ปีศาจตนนี้ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์เกินไป!
“ฮีม หลี่ฮวง ช่างยโสนัก!”
เป็นเพียงเวลานี้ที่ดาบรุ่งอรุณจำนวนนับไม่ถ้วนหลอมรวมกับเรือรบหมื่นปีและพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
“ท่าไม้ตายสองท่าสามารถรวมกันงั้นหรือ?” หลี่ฮวงกรีดร้องด้วยความตกใจ
ดาบแสงขนาดใหญ่พุ่งชนฉลามล่องคลื่นโดยตรง
“บีม!”
ฉลามล่องคลื่นถูกทำลายล้างทันที
ในช่วงเวลาสำคัญหลี่ฮวงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมเพลิงสุริยันหลบหนีออกมา
เรือรบหมื่นปีพุ่งชนหลี่ฮวงอีกครั้ง
เสื้อคลุมเพลิงสุริยันของหลี่ฮวงอ่อนกำลังลงและกลายเป็นกองไฟดวงเล็กๆ
“หลี่ฮวง ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนกับกรรไกรฤดูใบไม้ผลิโจมตีหลี่ฮวง
“ระดับแปด!?” หล่อวงจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจขณะที่เขาพยายามป้องกันตัวด้วยทุกสิ่ง
แต่เมื่อการโจมตีของฟางหยวนปะทะเขา หลี่ฮวงกลับตระหนักว่าพวกมันเป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด
“ฟางหยวน เจ้ากล้าหลอกข้า!” หลี่ฮวงคำรามด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นเรือรบหมื่นปีก็พุ่งตามเข้ามา
ดวงตาของหลี่ฮวงแทบหลุดออกมาจากเบ้า
“ปัง!”
เสื้อคลุมเพลิงสุริยันดับลงอย่างสมบูรณ์ หน้าอกของหลี่ฮวงยุบเข้าไป เลือดและอวัยวะภายในพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ
ดาบแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตามมาราวกับฝูงผึ้งที่เจาะทะลวงเข้าไปในร่างของหลี่ฮวงจากทุกทิศทาง
แสงที่แหลมคมในรูม่านตาของเขาเลือนหายไป
ก่อนตาย เขายังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “ข้าจะตายอยู่ที่นี่จริงๆงั้นหรือ??
“ถอย!” กู้หลิวรู่ตะโกนเสียงดัง
เส้นเลือดที่ปูนโปนขึ้นบนหน้าผากทำให้ใบหน้าของชายชราดูชั่วร้ายมาก
หลี่ฮวงอาจแข็งแกร่งกว่างกู้หลิวรู่ แต่ในสายธารแห่งกาลเวลา โดยปราศจากการคุ้มครองจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ หลี่ฮวงก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ไม่ใช่ว่ากู้หลิวรูไม่ต้องการช่วยเขา แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาทำเช่นนั้น
กองทัพอสูรปีเป็นอุปสรรคสำคัญ
กู้หลิวควบคุมรังกระเรียนใบไม้ร่วงออกจากสนามรบได้ในที่สุด
ฟางหยวนไล่ล่าด้วยเจตนาสังหาร “ผู้อมตะของวังสวรรค์ ที่นี่จะเป็นที่พำนักแห่งสุดท้ายของพวกเจ้า”
กู้หลิวรู่ก่นเสียงเย็นและพยายามหลบหนีอย่างสุดความสามารถ
เขาจดจำความอัปยศครั้งนี้เอาไว้ในใจ “ฝ่ายธรรมะล้มลงขณะที่ปีศาจทะยานขึ้น เห้อ…ตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดในเวลานี้คือการรักษาความแข็งแกร่งของเราเอาไว้และต่อสู้อีกครั้งในอนาคต ฟางหยวน เจ้าจะสามารถยโสได้เพียงเวลานี้!”