เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

บทที่ 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

บทที่ 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

สวรรค์สีขาว

ผู้อมตะตระกูลฉีหกคนบินไปอย่างรวดเร็ว

“ระวังให้ดี ที่นี่คือสวรรค์สีขาว สัตว์อสูรแรกกําเนิดสามารถปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ

“แม้เส้นทางสายนี้จะปลอดภัยแต่เรายังต้องระวังตัว”

“หลังจากเข้าไปในถ้ําสวรรค์ เราจะได้รับกายาสวรรค์ในครั้งนี้ ความรุ่งโรจน์ของตระกูลฉีอยู่เบื้องหน้าแล้ว!”

ผู้อมตะตระกูลฉีพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นและสนุกสนาน

แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจกายาสวรรค์แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินมันต่ําเกินไป

เพราะนี่คือมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้วิสัยทัศน์ของพวกเขากลับเปลี่ยนแปลงไป สวรรค์สีขาวกลายเป็นมืด

มันเหมือนลูกบอลสีดําขนาดใหญ่ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ภาย

“มันคือท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ!”

“ผู้ใดซุ่มโจมตีพวกเรา!”

“ออกมา!”

ผู้อมตะตระกูลฉีตกตะลึงก่อนที่พวกเขาจะตะโกนด้วยความโกรธ

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดก็ปรากฏขึ้น

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของเรือลําเล็ก ผู้อมตะยืนอยู่ที่หัวเรืออย่างเงียบๆและเผยรอยยิ้มให้กับกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉี

ผู้อมตะผู้นี้มีใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมสีดําของเขาทิ้งตัวยาวลงไปถึงเอว เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูบอบบางและโดดเด่นมาก

ผู้อมตะตระกูลฉีทั้งหกต่างตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นคนผู้นี้และคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

ฉีช่ายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฉีที่กล้าหาญที่สุดในกลุ่ม แต่ขณะนี้มีเพียงความตกใจเท่านั้นที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

ฉีจินเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลฉี เขาเหมือนผู้อมตะตระกูลฉีคนอื่นๆที่มีใบหน้าซีดขาว หัวใจเต้นแรง และรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วทั้งร่าง

ฉีฟาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉี แต่ตอนนี้เขาตื่นตระหนกและพึมพําออกมาด้วยเสียงสั่นเทา “ฟางฟางหยวน เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่? เหตุใดเจ้าถึงมาสร้างปัญหาให้กับพวกเรา?”

การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีมีนงง ขวัญกําลังใจของพวกเขาตกลงสู่จุดต่ําสุดในครั้งเดียว

ชื่อเสียงของฟางหยวนเหนือกว่าชีวิตก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

ฟางหยวนประกาศผลการต่อสู้ครั้งที่สองในสายธารแห่งกาลเวลาออกไปทั่วโลก

วังสวรรค์พ่ายแพ้ซ้ําแล้วซ้ําอีกขณะที่ผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่หลี่ฮวงตายอย่างน่าสมเพช สิ่งเหล่านี้ทําให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

ผู้อมตะตระกูลฉีกลัวจนร่างกายอ่อนแรง

ฟางหยวนเป็นจักรพรรดิปีศาจแห่งยุคแต่เหตุใดเขาจึงมาที่นี่และซุ่มโจมตีพวกเขา?

“ท่าน…ฟางหยวน ตระกูลฉีของข้าเป็นตระกูลที่รักความสงบ เราไม่เคยสร้างปัญหาหรือต่อต้านท่าน หากท่านมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเรา เรายินดีแก้ไขและชดเชย” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีกล่าว

ฟางหยวนยิ้ม “อย่ากังวล ตราบเท่าที่พวกเจ้ายอมจํานน ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ส่วนค่าชดเชย เหตุใดพวกเจ้าไม่ยกกายาสวรรค์ให้ข้า?”

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้อมตะตระกูลฮีรู้สึกราวกับตกลงสู่ขุมนรก

โอ้ ไม่”

“ฟางหยวนรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา!”

“เขารู้ได้อย่างไร?

“เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่ใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมากําเนิดใหม่!”

“นี่เป็นเป้าหมายของเรามาหลายพันปี ตอนนี้พวกเรากําลังจะประสบความสําเร็จ แต่เราต้องยอมแพ้งั้นหรือ? ข้ารับไม่ได้!

ผู้อมตะตระกูลฉีแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน พวกเขาทั้งหวาดกลัว โกรธ กังวล เกลียดชัง และหมดสิ้นหนทาง

ผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลนี้เป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเข้าสู่สวรรค์สีขาว แล้วพวกเขาจะต่อสู้กับฟางหยวนได้อย่างไร?

พวกเขาไม่ต่างจากเนื้อที่วางอยู่บนเขียง

“เหตุใดพวกเราไม่ลองเสียงดู?” ฉีช่ายลอบส่งเสียงด้วยฟันที่กัดแน่น

“เสี่ยง? เรายังมีโอกาสชนะงั้นหรือ? เจ้ารู้จักฟางหยวน พวกเราทําได้เพียงสละชีวิต” ฉีจินกล่าวอย่างหมดหนทาง

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาข่มขู่โดยตรง “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าไตร่ตรองสามลมหายใจ หากพวกเจ้าไม่ยอมจํานน พวกเจ้าก็ต้องตาย”

“พวกเราควรทําอย่างไร?” ผู้อมตะตระกูลฉีตื่นตระหนก ทุกคนมองไปที่ฉีฟา

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฉีฟามีอํานาจสูงสุด เขาเป็นชายชราร่างผอมที่ดูกล้าหาญ แผ่นหลังของเขาตั้งตรงเหมือนหอกยาว

แต่หลังจากสามลมหายใจ เขากลับโค้งตัวลงและป้องหมัดกล่าว “ท่านฟางหยวน ตระกูลฉีของเรายอมจํานน!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า คนฉลาดย่อมเข้าใจสถานการณ์!” ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “เจ้าตัดสินใจถูกแล้ว”

ไปหนิงปิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีถอนหายใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

ชื่อเสียงของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องยอมจํานนโดยไม่คิดที่จะต่อสู้

ฉีฟากล่าวเสริม “กายาสวรรค์เป็นของนายท่าน แต่ข้าอยากกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับมัน หากนายท่านอนุญาต”

ฟางหยวนมองผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีและเผยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “ไม่จําเป็น ข้าไม่กลัวที่จะบอกพวกเจ้าว่าข้าได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้านี้ ข้าสังหารพวกเจ้าหลายคนและยึดถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ แน่นอนว่าพวกเจ้าบางคนยอมจํานนต่อข้า”

ฟางหยวนหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าเข้าใจความลับเกี่ยวกับกายาสวรรค์มากว่าพวกเจ้าทุกคนที่อยู่ที่นี่”

คํากล่าวของฟางหยวนเหมือนค้อนที่ทุบหัวใจของผู้อมตะตระกูล

พวกเขาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขา เขาเข้าใจคนกลุ่มนี้และสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างเหมาะสม

ผู้อมตะตระกูลฉีถูกนําขึ้นมาบนเรือรบหมื่นปีด้วยความมึนงง

หลังจากกดขี่ผู้อมตะตระกูลฉีเหล่านี้ ฟางหยวนก็ยกเลิกเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต

สนามรบราชันภูตถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับ ตอนนี้มันหลอมรวมเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปด้วย

เรือรบหมื่นปีบินไปยังจุดหมายของมันทันที

หลังจากไม่นานพวกเขาก็พบประตูเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนตกตะลึง พวกเขาเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก สําหรับผู้อมตะ ตระกูลฉี พวกเขาแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อนแต่ยังมีความหวังแฝงอยู่ในดวงตาของฟาและคนอื่นๆ

แสงสีแดงส่องสว่างขึ้นบนบานประตู

ฟางหยวนยิ้มและมองไปยังไหลั่วหลัน “ไป”

ไหลั่วหลันบินเข้าไปหาประตูเมืองขณะที่ฟางหยวนโบกมือใช้ท่าไม้ตายอมตะ

ร่างของไหลั่วหลันสั่นสะท้านขึ้น แสงสีแดงรอบตัวนางจางหายไปอย่างรวดเร็ว

ไหลั่วหลันได้รับการยอมรับ!

“เป็นไปไม่ได้”

“โอ้ สวรรค์ มันเกิดสิ่งใดขึ้น?”

“สายเลือดของนางได้รับการยอมรับแล้ว! นางเป็นทายาทของเซียเซียงจริงๆงั้นหรือ?”

หกผู้อมตะตระกูลฉีประหลาดใจมาก

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขาแต่หันไปออกคําสั่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิน “ไป”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินหลายคนบินเข้าไปหาประตูเมืองและผ่านการทดสอบของแสงสีเหลือง พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ร่างของหกผู้อมตะตระกูลฉีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

บางคนแทบล้มลงกับพื้น

ก่อนหน้านี้ไหลั่วหลันเป็นมนุษย์ นางอาจมีสายเลือดของเซียเซียง แต่มนุษย์หินเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ พวกเขาไม่สามารถมีลูกกับมนุษย์!

อย่างไรก็ตามประตูเมืองกลับยอมรับพวกเขา!

ความจริงอันโหดร้ายทิ่มแทงหัวใจของหกผู้อมตะตระกูลฉีราวกับดาบอันแหลมคม ในที่สุดพวกเขาก็สูญสิ้นความหวังทั้งหมด พวกเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นวิธีการของฟางหยวน

ฉีฟารู้สึกขมขึ้น ก่อนหน้านี้เขายอมจํานนต่อฟางหยวนเพราะเขาไม่อยากตาย เขาต้องการใช้กายาสวรรค์ล่อลวงฟางหยวนและหาโอกาสหลบหนี

แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การเตรียมพร้อมของเขาแสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้โกหก

“ข้าเกรงว่าฟางหยวนจะได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้าจริงๆ!”

“เขามีวิญญาณกาลเวลา เขาสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เรื่อยๆ นี่มันไร้สาระเกินไป! แล้วผู้ใดจะสามารถหยุดเขา!”

“เดิมพันห้าเชียงผู้ใดจะคิดว่าคนนอกจะได้รับประโยชน์จากมัน…”

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกโกรธแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

ฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป มีความแตกต่างมากเกินไป มันฉับพลันเกินไป และโหดร้ายมากเกินไป!

“คนเหล่านี้ช่างน่าสงสาร…” เทพธิดากระต่ายขาวมองกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีด้วยความเห็นใจ

“ฟางหยวนต้องการสมบัตินั้น แล้วพวกเขาจะสามารถทําสิ่งใด?” ไปหนิงปิงแสดงออกอย่างเย็นชา นางเข้าใจฟางหยวนมากที่สุด

หลังจากนั้นผู้อมตะอีกหลายคนก็ผ่านการทดสอบของประตูเมือง

ฟางหยวนไม่อนุญาตให้ผู้อมตะตระกูลฉีเข้าไป พวกเขาถูกขังไว้บนเรือรบหมื่นปี

เทพธิดากระต่ายขาวและเทพธิดาเมี่ยวหยินได้รับการยอมรับจากฉีเซียง

ฟางหยวนกับไปหนิงปิงเข้าไปพร้อมกันในฐานะทายาทไปเซียง

สําหรับเรือรบหมื่นปีและผู้อมตะตระกูลฉี ฟางหยวนเก็บพวกเขาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท