เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1815 ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว

บทที่ 1815 ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว

บทที่ 1815 ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว

เมื่อเห็นวิสัยทัศน์เปลี่ยนแปลงไป ไปหนิงปิงคิด “นี่คือถ้ําสวรรค์ห้าเซียงงั้นหรือ?”

ขณะที่นางคิดเรื่องนี้ ข้อมูลก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของนาง

นี่คือถ้ําสวรรค์ห้าเซียง นักสํารวจห้าเซียงบริจาคถ้ําสวรรค์ส่วนหนึ่งของพวกเขาเพื่อสร้างสถานที่แห่งนี้ ที่นี่แบ่งออกเป็นห้าส่วน พวกมันเชื่อมต่อกันโดยภูเขาที่อยู่ตรงกลาง สมบัติของการเดิมพันอยู่ที่นั่น ตราบเท่าที่ผู้อมตะได้รับการยอมรับจากประตูเมืองและถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ พวกเขาสามารถตามหาสมบัติ ระหว่างทางนักสํารวจห้าเชียงทิ้งทรัพยากรเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งสามารถนําพวกมันออกไป แต่มีคําแนะนําว่าพวกเขาไม่ควรนําทุกสิ่งออกไปเพื่อให้ทรัพยากรสามารถเติบโตขึ้นอีกครั้งในอนาคต”

ไปหนิงปิงมองฟางหยวนด้วยความลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจแจ้งเขา

แต่ฟางหยวนมองไปข้างหน้าและโบกมือ “ข้าได้รับข้อมูลแล้ว ไม่ต้องบอกข้า”

ไปหนิงปิงพยักหน้าและหยุดพูด

ฟางหยวนคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีจากชีวิตก่อนหน้า

“ไปที่จุดศูนย์กลางกันเถอะ” ฟางหยวนและไปหนิงปิงเดินทางไปด้วยกัน

ครั้งก่อนฟางหยวนต้องแข่งกับเวลาแต่ครั้งนี้เขากําจัดผู้อมตะตระกูลฉีออกไปตั้งแต่แรก เขาไม่มีคู่แข่งอีกครั้งไป ถ้ําสวรรค์ห้าเซียงจะเป็นของเขาอย่างแน่นอน

ระหว่างทางไปหนิงบิงรู้สึกตกใจและอิจฉาเมื่อพบเห็นทรัพยากรมากมายที่อยู่ในถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

โดยไม่จําเป็นต้องถาม ทรัพยากรทั้งหมดจะจบลงในมิติช่องว่างของฟางหยวน

หากไปหนิงบิงได้รับมัน นางจะสามารถขยายรากฐานของนางได้อย่างรวดเร็ว นางจะร่ํารวยภายในชั่วข้ามคืน แต่สําหรับฟางหยวน พวกมันเป็นเพียงน้ําตาลบนหน้าเค้กเท่านั้น

การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ฟางหยวนและไปหนิงปิงมาถึงภูเขากลางอย่างปลอดภัย

ชีวิตก่อนหน้าผู้อมตะตระกูลฉีวางแผนสร้างคลื่นสัตว์อสูรเพื่อขัดขวางฟางหยวนกับไปหนิงปิง แต่ตอนนี้พวกเขาถูกกําจัดออกไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะตัดสินชีวิตและความตายของตนเอง

ไม่มีสิ่งใดพิเศษเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่บนภูเขา ฟางหยวนไม่สนใจมัน

ด้านหน้าวัง กลุ่มผู้อมตะมารวมตัวกันแล้ว ทั้งหมดเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนที่เข้ามาก่อนเขา

หลังจากทักทายฟางหยวน พวกเขาก็รายงานสิ่งที่ตนเองพบเห็นระหว่างทาง

ฟางหยวนมองไปรอบๆและไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาพยักหน้าก่อนจะนําผู้อมตะกลุ่มนี้เข้าไปในห้องโถง

กายาสวรรค์อยู่ที่นี่เช่นเดิม

มันอยู่ในรูปลักษณ์ของนกกระเรียนขาวขาเดียว

“กลิ่นอายระดับเก้า” ปิงหยวนและคนอื่นๆสูดหายใจลึกด้วยความประหลาดใจและปิติยินดี

ฟางหยวนนําผู้อมตะเหล่านี้ไปนั่งอยู่รอบๆกายาสวรรค์และส่งเจตจํานงเข้าไป

ธีตรวจสอบสายเลือดของนักสํารวจห้าเซียงแต่มันไม่ส่งผลกระทบต่อกายาสวรรค์ ทุกคนสามารถส่งเจตจํานงเข้าไป

ทุกคนได้รับข้อมูลของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ทันที

เทพปีศาจปล้นสวรรค์บอกว่าเขาพบกายาสวรรค์โดยบังเอิญ หลังจากทุ่มเทความพยายาม เขาสามารถจับมันแต่เขาไม่สามารถปรับแต่งมัน ดังนั้นเขาจึงคิดค้นท่าไม้ตายอมตะและทิ้งมรดกไว้ให้กับผู้โชคดีในอนาคต

หลังจากนักสํารวจห้าเชียงพบมรดกนี้ พวกเขาจึงสร้างการเดิมพันห้าเชียงขึ้นมา

กลุ่มผู้อมตะเข้าใจที่มาของท่าไม้ตายนี้และต้องถอนหายใจด้วยความชื่นชม

ฟางหยวนเคยได้ยินสิ่งนี้มาแล้วในชีวิตก่อนหน้า เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ

“เทพปีศาจปล้นสวรรค์สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะเช่นผนึกภูตผี ผนึกศักดิ์สิทธิ์ กายาสวรรค์ และอื่นๆ พวกมันสามารถดํารงอยู่ได้อย่างไม่มีขีดจํากัดและจะไม่แตกสลาย”

“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าคิดว่านี่เป็นวิธีการเฉพาะตัวของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่หลังจากสงครามแห่งชะตากรรม ข้าสังเกตเห็นว่าเทพอมตะและเทพปีศาจทั้งหมดล้วนมีวิธีการที่คล้ายคลึงกันนี้

“ท่าไม้ตายเหล่านี้ล้วนมีพลังมหาศาล โดยปกติพวกมันจะซ่อนอยู่โดยไม่ทําให้เกิดความปั่นป่วน แต่เมื่อพวกมันถูกใช้งาน ผลกระทบของพวกมันจะน่าตกใจมาก

นี้เป็นเรื่องของระดับความสําเร็จ

ผู้อมตะระดับเก้าทุกคนล้วนเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางของพวกเขา นี้เป็นความจริงที่สาธารณชนรับรู้

“ความสําเร็จระดับผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้สัญชาตญาณ

“ความสําเร็จระดับปรมาจารย์สามารถเลียนแบบเส้นทางสายอื่น

“ความสําเร็จระดับปรมาจารย์เอกสามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่ตามธรรมชาติ

“ความสําเร็จระดับปรมาจารย์สูงสุดสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่ไร้ขีดจํากัดและสามารถดําเนินการด้วยตัวมันเอง?”

ฟางหยวนคาดเดา

หนึ่งชั่วโมงต่อมาฟางหยวนประสบความสําเร็จในการกําจัดเจตจํานงสวรรค์ที่อยู่ในกายาสวรรค์

ครั้งก่อนเจตจํานงสวรรค์ใช้กลยุทธ์แสดงความอ่อนแอออกมาเพื่อหลอกผู้อมตะตระกูลฉี และทําให้พวกเขาประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์

ครั้งนี้ฟางหยวนจัดการเจตจํานงสวรรค์ได้ดีขึ้น เขาสามารถทําลายมันได้อย่างไม่มีปัญหา

ไม่มีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการนี้

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนกลัวว่าไปหนิงปิงจะทรยศ แต่ครั้งนี้เขามีลูกน้องจํานวนมากอยู่ที่นี่ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ล้วนภักดีต่อฟางหยวนเป็นอย่างมาก

นี่คือพรสวรรค์ทางการเมืองของเขา หลังจากเอาชนะวังสวรรค์มาหลายครั้ง เขาก็ไม่จําเป็นต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งทาสใดๆเพื่อบรรลุสิ่งนี้

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เชื่อฟังเขามากขณะที่ผู้อมตะของนิกายหลางหยาไม่กล้าท้าทายฟางหยวน

แม้พวกเขาจะกําจัดเจตจํานงสวรรค์ออกไปแล้วแต่ยังเหลือเจตจํานงของผู้อมตะมากมายทิ้งไว้เบื้องหลัง

หากไม่กําจัดเจตจํานงเหล่านี้ ฟางหยวนจะไม่สามารถใช้งานกายาสวรรค์

โชคดีที่ฟางหยวนเตรียมตัวสําหรับเรื่องนี้มาแล้ว เขาดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะหลายท่าโดยใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเป็นแกนกลางเพื่อภารกิจนี้

“ในชีวิตก่อนหน้าข้าใช้วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาเพียงลําพัง ผลลัพธ์ของมันไม่ดีนัก ตอนนี้ข้ามีท่าไม้ตายอมตะ ดังนั้นข้าจะได้รับกายาสวรรค์อย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนเก็บกายาสวรรค์เอาไว้แต่เขาไม่ได้เก็บคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เขาออกคําสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาบางคนให้ใช้มันเพื่อขนย้ายทรัพยากรทั้งหมด

ถ้ําสวรรค์ห้าเชียงเคยกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ทั้งเก้าเข้าไป มันไม่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ แต่นั่นก็ทําให้ฟางหยวนไม่สามารถกลืนกินมันในตอนนี้

หลังจากจัดการเรื่องนี้ ฟางหยวนนํากลุ่มผู้อมตะที่เหลือออกจากถ้ําสวรรค์ห้าเซียงและเดินทางไปยังถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ

ภายในถ้ําสวรรค์ทะเลปราณมีผู้อมตะระดับหกของตระกูลฉีดูแลอยู่

แต่กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สอง และผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลฉีก็ยังต้องยอมจํานนต่อฟางหยวน แล้วผู้อมตะระดับหกเพียงผู้เดียวจะทําสิ่งใดได้ เขาปล่อยให้ฟางหยวนเข้าไปข้างในอย่างง่ายดาย

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนให้ไปหนิงปิงโจมตีถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ แต่นางกลับถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต

แต่ครั้งนี้จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณยังไม่ตื่น

“ท่านฟางหยวน ท่านต้องการให้เราย้ายทรัพยากรเหล่านี้หรือไม่?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ถาม

ผู้อมตะตระกูลฉีมองหน้ากันและกล่าวด้วยความกังวล “เรายินดีปกป้องสถานที่แห่งนี้เพื่อนายท่านฟางหยวน”

ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “ไม่จําเป็น ข้าจะกลืนกินมัน!”

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขาก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์มานานแล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดการงานต่างๆ ขณะที่เขาสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันอย่างต่อเนื่อง

เขาจะลงมือเมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้เท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงสามารถประหยัดเวลาและได้รับความสําเร็จมากมายจากอาณาจักรแห่งความฝัน

ความสําเร็จในหลายเส้นทางของฟางหยวนยกระดับขึ้นแล้ว โดยเฉพาะเส้นทางแห่งพลังปราณที่ก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์เอกเรียบร้อยแล้ว

ความสําเร็จระดับปรมาจารย์เอกสามารถกลืนกินถ้ําสวรรค์!

ระหว่างกระบวนการกลืนกิน จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณถูกปลุกให้ตื่นขึ้น แต่ฟางหยวนเตรียมตัวมาแล้วและสามารถกําหราบมันได้อย่างรวดเร็ว

จิตวิญญาณสวรรค์ดุด่าลูกหลานตระกูลฉีว่าไม่กตัญญูขณะที่กลุ่มผู้อมตะตระกูลนี้ไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากแสดงออกด้วยความขมขื่น

พวกเขาทําได้เพียงมองบ้านเกิดของตนถูกฟางหยวนกลืนกินเท่านั้น

ฟางหยวนได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณจํานวนมาก กําไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือทะลปราณไร้ขอบเขต นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะของถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ มันคือกุญแจที่ทําให้พวกเขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน

ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตใช้วิญญาณอมตะปราณใหญ่ระดับแปดเป็นแกนกลาง และใช้วิญญาณอมตะดวงอื่นๆรวมถึงทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่หลากหลายเป็นส่วนสนับสนุน

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนต้องรื้อถอนท่าไม้ตายนี้แต่ครั้งนี้ในฐานะปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เขาสามารถทําความเข้าใจและตัดสินใจที่จะไม่ทําลายมัน

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือถ้ําสวรรค์ทะเลปราณทําให้ฟางหยวนได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเบนเส้นทางแห่งพลังปราณนับล้านร่องรอย!

รากฐานบนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับการทะยานขึ้นสู่สวรรค์ในขั้นตอนเดียว!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท