เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1823 หม้อปรุงโชค

บทที่ 1823 หม้อปรุงโชค

บทที่ 1823 หม้อปรุงโชค

สวรรค์สีขาว

ฟางหยวนขี่เมฆมงคลบินไปบนท้องฟ้า

กายาสวรรค์บินไปพร้อมกับเขาอย่างใกล้ชิด

ฟางหยวนดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะเมฆมงคลให้เป็นท่าไม้ตายสายเคลื่อนไหวเฉพาะตัวของเขา

อย่างไรก็ตามเมฆมงคลไม่ได้เคลื่อนไหวตามความต้องการของฟางหยวนแต่มันเคลื่อนที่ไปตามความลึกลับบนเส้นทางแห่งโชค

เส้นทางที่เมฆมงคลนําไปคือเส้นทางที่โชคดีที่สุด

ฟางหยวนเคยใช้สิ่งนี้ในชีวิตก่อนหน้าเพื่อค้นหาถ้ําสวรรค์นักรบอสูรและถ้ําสวรรค์วรรณกรรม

เมื่อไม่นานมานี้ฟางหยวนสร้างร่างแยกและแฝงตัวเข้าไปในถ้ําสวรรค์ทั้งสอง

ต่อไปฟางหยวนจะรอให้ร่างแยกทั้งสองเติบโตขึ้น

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณอยู่ในขั้นตอนการทําความคุ้นเคย หลังจากฝึกฝนมันอย่างเข้มข้น เขาสามารถใช้มันต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด

นอกเหนือจากการฝึกฝนท่าไม้ตาย ร่างหลักของฟางหยวนยังลาดตระเวนอยู่ในสวรรค์สีขาวโดยใช้เมฆมงคลเพื่อค้นหาถ้ําสวรรค์เพิ่มเติม

แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่พบถ้ําสวรรค์ใหม่ๆ

แต่เปรียบเทียบกับสวรรค์สีขาว พวกมันยังเล็กเกินไป”

“แต่ระหว่างทางข้าได้รับทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนมาก

“นี่เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดสําหรับข้าอย่างแท้จริง”

โอ้ร่างแยกกาลเวลาอนุมานเรียบร้อยแล้วงั้นหรือ?”

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

“การอนุมานคฤหาสน์วิญญาณอมตะเสร็จสิ้นแล้ว ดีมาก!”

ฟางหยวนมีความสุขมาก เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิทันที

สวรรค์สีขาวอันตรายมาก มันเต็มไปด้วยสัตว์อสูรแรกกําเนิด ผู้อมตะระดับแปดทั่วไปยังต้องระวังตัวหากพวกเขาต้องการสํารวจสถานที่แห่งนี้

อย่างไรก็ตามฟางหยวนมีเมฆมงคล เขาจะโชคดีตลอดทาง นอกจากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากกายาสวรรค์ เขาสามารถตรวจจับอันตรายล่วงหน้าและสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่พึงประสงค์

ฟางหยวนเริ่มสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากถูกจัดวางตามตําแหน่งที่เหมาะสม

ครึ่งเดือนต่อมาฟางหยวนประสบความสําเร็จในการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในที่สุด

บอลแสงสีทองระเบิดออกและเผยให้เห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังใหม่

แตกต่างจากเรือรบหมื่นปี คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้มีขนาดเล็กมาก มันมีขนาดเท่ากับหม้อปรุงอาหารใบเล็กๆ

มันเป็นหม้อสีทองที่มีมังกรแปดตัวหดตัวอยู่รอบๆ กรงเล็บของพวกมันเป็นขาตั้งหม้อ หางของมังกรทั้งแปดชี้ไปในแปดทิศทางที่แตกต่างกัน ศีรษะของพวกมันวางอยู่ที่ขอบหม้อในลักษณะขอ งการมองเข้าไปภายในหม้อ ดวงตาของพวกมันปิดสนิทราวกับพวกมันกําลังนอนหลับ

นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก หม้อปรุงโชค!

มันใช้วิญญาณอมตะปรุงอาหารระดับเจ็ดบนเส้นทางอาหารเป็นแกนกลางร่วมกับวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งโชค ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้จึงอยู่ในระดับหก

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชค

มันไม่สามารถนําผู้อมตะเข้าสู่สนามรบแต่มันมีประโยชน์ในแง่มุมอื่น

ในความเป็นจริงมันคล้ายกับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว

ฟางหยวนส่งพลังงานอมตะให้กับหม้อปรุงโชคและทําให้มันเริ่มสั่นไหวก่อนจะกลายเป็นแสงสีทองลอยขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะของฟางหยวน

แม้ฟางหยวนจะมองไม่เห็นมันแต่เขาสามารถใช้วิธีการบางอย่างเพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายแรกของหม้อปรุงโชคทันที

ตรวจสอบโชค!

วิสัยทัศน์ของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขาเห็นโชคขอเขาไหลเข้าสู่หม้อปรุงโชคอย่างต่อเนื่อง

หลังจากไม่นานหม้อปรุงโชคก็เต็มไปด้วยโชคของเขา

“วิญญาณอมตะตรวจสอบโชคเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้นขณะที่ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดวิญญาณอมตะดวงนี้เพียงลําพังไม่สามารถตรวจสอบโชคของข้า

“ด้วยหม้อปรุงโชค ข้าสามารถมองเห็นโชคของข้าที่อยู่ในหม้อเท่านั้น ข้ายังไม่สามารถมองเห็นโชคทั้งหมดของข้า”

ถึงกระนั้นฟางหยวนก็ยังเห็นโชคส่วนหนึ่งที่อยู่ด้านนอกหม้อปรุงโชค

มีโชคเหมือนแม่น้ําที่ดูเหมือนสายธารแห่งกาลเวลาขนาดเล็ก ปลายด้านหนึ่งขอ งมันยื่นลงไปในหม้อปรุงโชค อีกด้านหนึ่งหายไปในความว่างเปล่า

นี่คือโชคของร่างแยกกาลเวลา

ร่างแยกกาลเวลาของฟางหยวนมีโชคที่มั่นคั่งแต่มีร่องรอยของปราณสีดําก่อตัวขึ้น นี่คือข้อเสียของวิญญาณกาลเวลา มันทําให้ผู้ใช้งานโชคร้าย ฟางหยวนต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคจัดการมันเป็นครั้งคราว

อีกด้านหนึ่งของหม้อปรุงโชคมีโชคที่เหมือนหมอกสีชมพูลอยอยู่

นี่คือโชคของร่างแยกกายาแห่งความฝัน

หมอกสีชมพูเบาบางและแปรเปลี่ยนตลอดเวลา

หากร่างแยกกายาแห่งความฝันก้าวเข้าสู่ระดับหก โชคของเขาอาจเทียบเท่ากับร่างแยกกาลเวลา

นอกจากนี้ยังมีโชคของร่างแยกมนุษย์มังกร มันเป็นมังกรสีม่วงตัวเล็กๆที่บินอยู่ด้านข้างหม้อปรุงโชคร่างแยกเฉินตู้ที่อยู่ในถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีโชคเป็นนกกระจอกสีเทาที่ดูสกปรกขณะที่ ร่างแยกหลี่เสี่ยวไปที่อยู่ในถ้ําสวรรค์วรรณกรรมมีโชคที่ดูเหมือนดอกไม้ตูมที่เที่ยวแห้ง

“ร่างแยกทั้งสองนี้โชคไม่ดี ดูเหมือนโชคของพวกเขาจะถูกใช้ไปมากระหว่างกระบวนการเข้ายึดครองร่าง นอกจากนั้นพวกเขายังอยู่ในโลกใบเล็กที่แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์และยังอยู่ห่างไกลจากร่างหลักเช่นข้า ดังนั้นพวกเขาจึงมีปัญหาอยู่บ้าง”

“ในกรณีนี้” ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานหม้อปรุงโชคอีกครั้ง

หม้อปรุงโชคเริ่มเดือดพล่าน

มังกรทองสองตัวที่นอนอยู่บนขอบหม้อเปิดเปลือกตาขึ้นและดูดโชคที่อยู่ในหม้อเข้าไปในปาก

โชคสองส่วนถูกดูดเข้าไปในท้องของมังกรทองทั้งสองทันที

มังกรทองทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหว พวกมันหันหน้าไปทางโซคนกกระจอกสีเทาและโชคดอกไม้ตูมก่อนพ่นโชคออกมาจากปาก

โชคทั้งสองสายพุ่งเข้าหลอมรวมกับโชคนกกระจอกสีเทาและโชคดอกไม้ตูม

ทันใดนั้นนกกระจอกสีเทาก็กรีดร้องและกลายร่างเป็นนกอินทรีย์ที่มีจงอยปากแหลมคมมันกางปีกและโบยบินอย่างสง่างาม ในเวลาเดียวกันโชคดอกไม้ตูมก็เริ่มผลิบานและกลายเป็นดอกไม้สีสันสดใสที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท