เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1826 การทดสอบของวังมังกร

บทที่ 1826 การทดสอบของวังมังกร

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1826 การทดสอบของวังมังกร

คลื่นน้ําสาดซัดอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ นกนางนวลบินอยู่บนท้องฟ้าที่ไร้ขอบเขต

ผู้อมตะผู้หนึ่งดําลงไปใต้น้ํา

หนึ่งร้อยเมตร หนึ่งพันเมตร หนึ่งหมื่นเมตร!

ทะเลแห่งนี้ลึกมากและเต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่ดุร้าย

แน่นอนว่ามีสมบัติล้ําค่าซ่อนอยู่ที่นี่เช่นกัน

 ทะเลตะวันออกเป็นอันดับหนึ่งในแง่ของทรัพยากรอย่างแท้จริง  ผู้อมตะถอนหายใจขณะดําลงไปใต้น้ํา

ท่ามกลางความมืดมิดของทะเลลึก อาณาจักรแห่งความฝันส่องประกายด้วยสีสันที่งดงาม

 วังมังกรอยู่ที่นี่!  ดวงตาของผู้อมตะกลายเป็นเร้าร้อน

เขาเป็นชายที่หล่อเหลาและดูแข็งแกร่ง เขามีเกล็ดมังกรสีทองอยู่บนร่างกาย เขามีดวงตามังกรที่ดูคล้ายบุษราคัม นอกจากนี้เขายังมีเขามังกรสีทองคล้ายปะการังอยู่บนศีรษะ

นี่คือร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวน

ฟางหยวนรู้ว่าวังมังกรถูกซ่อนไว้ในทะเลตะวันออก แต่เขาไม่รู้ตําแหน่งที่แน่ชัดของมัน

ย้อนกลับไปในชีวิตก่อนหน้าเมื่อฟางหยวนมาถึง ราชันมังกรก็ไล่ล่าวังมังกรไปไกลจากตําแหน่งเดิมของมันแล้ว

หลังจากกําเนิดใหม่ฟางหยวนวางแผยที่จะยึดครองวังมังกร เขาทํางานอย่างหนักและรวบรวมข้อมูลที่เป็นไปได้ทั้งหมด เขากระทั่งส่งลูกน้องมาสํารวจทะเลตะวันออกอย่างลับๆ ในที่สุดความพยายามของเขาก็ได้รับผลตอบแทน เขาค้นพบที่ตั้งของวังมังกรเมื่อเร็วๆนี้

ร่างแยกมนุษย์มังกรสํารวจรอบๆและไม่พบสัตว์อสูรอยู่ใกล้ๆ ที่นี่ปลอดภัยมาก

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝัน

เขาเริ่มเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝันทันที

ทางเลือกของเขาเหมือนกับราชันมังกร เขาต้องการแยกอาณาจักรแห่งความฝันออกจากวังมังกรโดยตรง

บนท้องฟ้าเหนือทะเลแห่งนี้ ร่างหลักของฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกลุ่มเมฆ เขากําลังตรวจสอบพื้นที่รอบๆและปกป้องร่างแยกมนุษย์มังกร

ในทางกลับกัน หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ร่างหลักของฟางหยวนจะสามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับวังมังกร มันไม่เหมือนแผนการในสายธารแห่งกาลเวลาหรือมรดกที่แท้จริงของเต๋จูที่เขามีข้อมูลที่เพียงพอ

จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากวังสวรรค์ซุ่มโจมตี?

แม้มันจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่วังมังกรก็ยังอันตรายด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก

กายาแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นทีละร่าง ความคืบหน้าของร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นไปอย่างรวด

แต่อาณาจักรแห่งความฝันนี้ใหญ่โตเกินไป เขาต้องใช้เวลาหลายวันก่อนจะเปลี่ยนพวกมันทั้งหมดให้เป็นกายาแห่งความฝัน

 ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้ก็ถือเป็นโชคลาภมหาศาลแล้วในชีวิตก่อนหน้าวังสวรรค์ได้รับมันไปแต่พวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมัน แต่ในมือของ ข้ามันจะแตกต่างออกไป

ร่างหลักของฟางหยวนมองเห็นสถานการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน

ต่อมาเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคและเห็นหม้อปรุงโชคที่อยู่เหนือศีรษะของเขา

ฟางหยวนไม่สามารถตรวจสอบโชคของตนเองแต่เขาสามารถตรวจสอบโชคของร่าง แยกมนุษย์มังกร

โชคมังกรสีม่วงของร่างแยกมนุษย์มังกรขดตัวอยู่กลางอากาศโดยไม่เคลื่อนไหว มัน มองไปรอบๆและแสดงออกด้วยความกังวล

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มเมฆหมอกสีดําก่อตัวอยู่รอบๆมังกรม่วง

 เมฆสีดําคือเค้ารางแห่งความตาย ดูเหมือนร่างแยกมนุษย์มังกรกําลังเผชิญหน้ากับหายนะ!  ฟางหยวนขมวดคิ้ว

เขาเร่งคิด หลังจากกําเนิดใหม่ พิจารณาจากช่วงเวลา ข้าพบวังมังกรเร็วกว่าวังสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้านี้และดําเนินการล่วงหน้า 

 ข้าควรนําหน้าพวกเขา แต่ดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้

โชคเมฆสีดําพยายามกลืนกินโชคมังกรสีม่วงของร่างแยกมนุษย์มังกร

ดังนั้นฟางหยวนจึงกระตุ้นใช้งานหม้อปรุงโชค

มังกรทองของหม้อปรุงโชคเริ่มทํางาน พวกมันกลืนกินเมฆสีดําและคายเข้าไปในหม้อ

โชคเมฆสีดําถูกปรุงแต่งและกลายเป็นโชคที่มีประโยชน์ต่อฟางหยวน

โชคชนิดใหม่ถูกมังกรทองกลืนกินอีกครั้งก่อนที่พวกมันจะส่งไปยังโชคมังกรม่วง

เมื่อมังกรม่วงได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว มันกลายเป็นกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยพลังงาน แม้เมฆสีดําจะยังอยู่ แต่มังกรม่วงก็ไม่อ่อนแออีกต่อไป

ฟางหยวนอ้าปากค้างและคิด  หม้อปรุงโชคของข้าเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหกแต่มันสมเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดอย่างแท้จริง มันสามารถควบคุมโชคของผู้อมตะระดับหกและส่งอิทธิพลต่อโชคของผู้อมตะระดับเจ็ด 

 ตอนนี้ร่างแยกมนุษย์มังกรของข้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ดังนั้นหม้อปรุงโชคจึงส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อโชคมังกรม่วง แต่เมฆสีดําเหล่านี้

ฟางหยวนขมวดคิ้วไตร่ตรอง  โชคเมฆสีดําได้รับอิทธิพลจากข้า แต่ผลกระทบของมันไม่รุนแรงนักนี่คือวิกฤตเกี่ยวกับผู้อมตะระดับแปด อย่างไรก็ตามโชคมังกรม่วงส่งอิทธิพลต่อโชคเมฆสีดําเช่นกัน 

 ดูเหมือนท่ามกลางโชคร้ายยังมีโชคดีซ่อนอยู่! 

แน่นอนว่านี่เป็นกรณีที่ร่างหลักของฟางหยวนจะไม่ดําเนินการใดๆ

หากร่างหลักของฟางหยวนเคลื่อนไหว โชคจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก

เนื่องจากฟางหยวนไม่ใช่ผู้อมตะระดับแปดทั่วไป ทุกการกระทําของเขาจะส่งอิทธิพลครั้งใหญ่ต่อสถานการณ์

 เห้อ…น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถตรวจสอบโชคของตนเอง มรดกที่แท้จริงโชคของตนเองมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคระดับหนึ่งถึงเก้า แตวิญญาณอมตะตรวจสอบโชคของข้าเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก แม้ข้าจะใช้ท่าไม้ตายอมตะ มันก็สามารถตรวจสอบโชคของผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น

 หม้อปรุงโชคยังอยู่ในระดับต่ําเกินไป

 ในอนาคตข้าต้องยกระดับวิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางทั้งหมดของมัน ข้าต้องเพิ่มโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าไปด้วยเพื่อให้มันสามารถส่งอิทธิพลต่อคนอื่นๆ 

ฟางหยวนวางแผน

ฟางหยวนสามารถใช้หม้อปรุงโชคช่วยร่างแยกของเขา นั่นเป็นเพราะร่างแยกของเขาถือเป็นหนึ่งเดียวกันกับเขา มันเหมือนกับการช่วยตัวเขาเอง นี่คือโชคของตนเอง มันไม่ใช่โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ฟางหยวนตระหนักถึงวิกฤตที่ร่างแยกมนุษย์มังกรกําลังเผชิญ แต่เขาเลือกที่จะไม่เคลื่อนไหวเขาจะดูแลภาพรวมและใช้หม้อปรุงโชคสนับสนุนเท่านั้น

แม้มันจะมีประโยชน์ต่อโชคมังกรม่วงไม่มาก แต่โชคเมฆสีดําก็ลดน้อยลงอย่างมีนัยสําคัญ

ท้ายที่สุดมันก็ดีกว่าไม่ทําสิ่งใดเลย

ร่างแยกมนุษย์มังกรติดต่อร่างหลักตลอดเวลาขณะเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันให้เป็นกายาแห่งความฝัน

หลังจากผ่านไปหนึ่งวันกับอีกครั้งคืน ผู้อมตะของทะเลตะวันออกสี่คนก็พุ่งเข้ามาจากทิศทางที่แตกต่างกัน

ทิศตะวันออกเป็นชายหนุ่มชุดขาวที่หล่อเหลา เขาคือหยางจื่ออี้

ทิศตะวันตกเป็นหญิงชราหลังค่อม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเหมือนอสรพิษสีม่วง นางคือยายหรง

ทิศเหนือเป็นผู้อมตะมัดกล้ามที่มีดวงตาสามเหลี่ยม เขาคือชื่อเดี่ยว

ทิศใต้เป็นผู้อมตะในชุดคลุมดําที่มองไม่เห็นใบหน้า เขาปลดปล่อยพลังงานแห่งความมืดออกมารอบๆเขาคือจางหยิน

ผู้อมตะระดับแปดสี่คน? มันคือพวกเขา!  ร่างหลักของฟางหยวนไม่ขยับเพราะเขารู้สึกบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากโชคมังกรม่วง

ตอนนี้โชคมังกรมวงถูกปิดล้อมด้วยชั้นเมฆสีดําขนาดใหญ่ มันไม่สามารถทะลวงออกมา

แต่โชคเมฆสีดํานี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย

มีเสียงน้ําดังขึ้นจากโชคเมฆสีดําทางทิศตะวันออก มีเงาอสรพิษสีม่วงอยู่ในเมฆสีดําทางทิศตะวันตก มีเงาภูเขาอยู่ในเมฆสีดําทางทิศเหนือ และมีหลุมดําก่อตัวขึ้นในเมฆสีดําทางทิศใต้

 ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไม่ปกติ! 

โชคของพวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเมฆสีดํา พวกเขาเป็นพันธมิตรกันงั้นหรือ? 

ฟางหยวนไม่รู้เรื่องสี่นักรบมังกรของวังมังกร เขาไม่ได้รับข้อมูลนี้ในชีวิตก่อนหน้า

แต่ไม่นานเขาก็ค้นพบบางสิ่ง

เมื่อผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่มาถึงและเห็นร่างแยกมนุษย์มังกร การแสดงออกที่เย็นชาของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 เขาเป็นมนุษย์มังกรจริงๆ! 

 เจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเข้ารับการทดสอบ! 

 อาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้เป็นบททดสอบของเจ้า หากเจ้าผ่านการทดสอบ เจ้าจะได้รับการยอมรับจากจิตวิญญาณมังกรและกลายเป็นเจ้าของวังมังกร! 

 รีบเปลี่ยนมันกลับเป็นอาณาจักรแห่งความฝันและทําการทดสอบ มิฉะนั้นพวกเราสี่แม่ทัพมังกรจะทําให้แน่ใจว่าเจ้าจะเสียใจที่มาที่นี่! 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่เปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมาทันที

ไม่ว่าจะเป็นร่างหลักหรือร่างแยกของฟางหยวน ทั้งสองต่างตกตะลึง

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท