เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1833 บรรพชนทะเลปราณ

บทที่ 1833 บรรพชนทะเลปราณ

บทที่ 1833 บรรพชนทะเลปราณ

อาณาจักรแห่งความฝัน

 ศิษย์พี่ อาหารเย็นที่ข้าทําเมื่อวานรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?  ไท่ฉินมาหาอู๋ส่วยและถามด้วยความคาดหวัง

ฟางหยวนยิ้ม  มันไม่เลวเลยจริงๆ ผู้ใดจะคิดว่าศิษย์น้องจะมีพรสวรรค์ด้านนี้เช่นกัน เจ้าจะเป็นภรรยาที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน แต่ข้าสงสัยว่าผู้ใดจะโชคดีที่ได้เป็นสามีของเจ้า? 

 ศิษย์พี่ ท่านล้อเลียนข้าอีกแล้ว!  ใบหน้าของไท่ฉินกลายเป็นแดงระเรื่อ  หากศิษย์พี่ชอบข้าจะทําให้ท่านมากกว่านี้ 

 ดี ข้าจะได้กินมันอย่างมีความสุข  ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรปรากฏตัวขึ้น  บุตรของข้า 

 ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่?  ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย

 คารวะท่านลุง  ไท่ฉินเร่งทักทายด้วยความประหม่า

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรพยักหน้าและเผยรอยยิ้มให้เด็กสาว  เจ้าคือไม่ฉันใช่หรือไม่? บุตรของข้าพูดถึงเจ้าหลายครั้งในจดหมาย นี่เป็นของขวัญเล็กน้อยจากข้า รับไว้ 

 อา..ข้าไม่..  ไท่ฉินต้องการปฏิเสธแต่ฟางหยวนรับของขวัญเอาไว้และวางมันลงบนฝ่ามือของนาง

 รับไว้ ท่านพ่อของข้ามาทําธุระสําคัญ การเรียนของเราในวันนี้ต้องจบลงตรงนี้  ฟางหยวนขอโทษ

 ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ  ไท่ฉินโบกมือและขอบคุณผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรก่อนจะจากไป

 เป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา บุตรของข้า เจ้าสนใจนางหรือไม่?  หลังจากไท่ฉินจากไป ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรเริ่มหยอกล้อบุตรชาย

ฟางหยวนยิ้มและคิดกับตนเอง อาณาจักรแห่งความฝันเปลี่ยนไปอีกครั้ง

จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างระมัดระวัง  ท่านพ่อยังไม่เข้าใจข้าอีกงั้นหรือ? 

 ฮ่าฮ่าฮ่า  ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรหัวเราะเสียงดัง เขาตบไหล่ฟางหยวน  ข้ามาที่นี่เพราะมีธุระสําคัญจริงๆ บุตรสาวของท่านหญิงวังอักษรศิลป์ ชูจิ่วหลิง อายุครบสิบหกปีแล้วและกําลังจะจัดพิธีเลือกคู่ครอง ชายหนุ่มที่โดดเด่นทุกคนสามารถเข้าร่วม ข้าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมงานนี้ 

 โอ้?  ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขารู้เรื่องเกี่ยวกับชูจิ่วหลิง

ในฉากก่อนหน้า ไม่ฉันเคยกล่าวถึงมัน

ชูจิ่วหลิงเคยรักกับผู้อมตะฟานจอมาก่อน นางตั้งครรภ์กับเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะแต่งงานกับนาง

ในที่สุดชูจิ่วหลิงก็เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของฟานจื่อ นางรู้สึกเจ็บปวดมาก นางขังตัวเองอยู่ในวังอักษรศิลป์ของมารดาโดยไม่ออกไปที่ใด

มารดาของนางเป็นผู้อมตะระดับแปด นางเป็นเจ้าของคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังอักษรศิลป์ นางเป็นผู้นํากลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคกลาง ในฐานะมารดา เมื่อนางเห็นบุตรสาวตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่นางจะรู้สึกโกรธนาง ต้องการตามหาชายไร้หัวใจและตกลงกับเขา

แต่ฟานจื่อเป็นศิษย์คนสุดท้ายของคงอี้เพิ่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายวิหารสวรรค์สีดํา คนผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับแปดที่ไม่มีบุตรแต่มีศิษย์มากมาย เขารักและปฏิบัติต่อศิษย์คนสุดท้ายซึ่งก็คือฟานจื่อเหมือนบุตรของเขาเอง

ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ไม่สามารถแสดงท่าที่ไม่สุภาพต่อคงอี้เหิงแต่นางยังต้องการคําตอบจากฟานจื่อ

ดังนั้นคงอี้เหิงจึงต้องนําฟานจื่อไปยังวังอักษรศิลป์เพื่อเจรจา

แต่มีบางสิ่งเกิดขึ้น ไม่เพียงพวกเขาจะไม่สามารถตกลง พวกเขายังต่อสู้ หลังจากคงอี้เหิงและท่านหญิงอักษร ศิลป์ต่อสู้กันสองสามรอบ พวกเขาก็หยุดฟานจื่อและชูจิ่วหลิงกลายเป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์ ชูจิ่วหลิงกล่าวด้วยความโกรธ  แม้เจ้าจะไม่ต้องการข้า แต่มีผู้คนอีกมากมายบนโลกนี้ที่ต้องการข้า! 

ฟานจื่อเผยรอยยิ้มเย็นชา  ข้ามาที่นี่เพื่อเจรจากับเจ้า แต่เจ้ากลับทํามากเกินไป ข้าจะรอดูว่าผู้ใดกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าอยากเห็นว่าผู้ใดกล้าอยู่กับเจ้าขณะที่มีเด็กคนนี้อยู่ในครรภ์ของเจ้า! 

ชูจิ่วหลิงหมดสติไปด้วยความโกรธ

ในฐานะมารดา ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ต้องสนับสนุนบุตรสาวของนาง

หลังจากชูจิ่วหลิงตื่นขึ้น นางต้องการจัดงานเลือกคู่ครอง ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ไม่สามารถขัดบุตรสาวนางยังคิดว่าอาจมีบางคนที่สามารถทําให้บุตรสาวของนางมีความสุขอีกครั้ง แม้บุตรสาวของนางจะไม่ชอบเขา แต่เหตุการณ์นี้อาจช่วยให้นางหลุดพ้นจากสภาวะซึมเศร้าและความคิดที่จะฆ่าตัวตาย

ไท่ฉินกล่าวเรื่องนี้กับอู๋ส่วยราวกับมันเป็นเรื่องตลก

แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับไม่สามารถหัวเราะออกมา

เขาคิด ‘เผ่ามนุษย์มังกรต้องการอิสระและพลังอํานาจ พวกเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ นี่เป็นโอกาสที่ดี ท่านหญิงวังอักษรศิลป์เป็นผู้อมตะระดับแปดที่สามารถต่อสู้กับนิกายวิหารสวรรค์สีดํา หากข้ากลายเป็นบุตรเขยของนาง ด้วยสายสัมพันธ์นี้ ข้าจะสามารถเป็นผู้นําเผ่ามนุษย์มังกรและมีนางยืนอยู่เคียงข้าง’

ส่าหรับบุคลิก หน้าตา และทารกในครรภ์ของชูจิ่วหลิง มันไม่สําคัญ

ฟางหยวนไม่สนใจ

‘แต่ความรักที่ศิษย์น้องไท่ฉินมีต่อข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากข้าทําเช่นนั้น ข้าจะทําให้นางผิดหวัง นางจะเสียใจมาก’ ฟางหยวนรู้สึกผิดอยู่ในใจ

แต่ทันใดนั้นเขากลับสะดุ้งอยู่ในหัวใจ เขาตระหนักว่า ‘ช้าก่อน! เกิดสิ่งใดขึ้นกับข้า? นี่คืออาณาจักรแห่งความฝัน ข้าคือฟางหยวน ไม่ใช่อู๋ส่วย เหตุใดข้าต้องรู้สึกผิด?’

‘อาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ช่างทรงพลังนัก มันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของข้าจริงๆ!’

‘สองสามฉากสุดท้ายของอาณาจักรแห่งความฝันนี้มั่นคงและปลอดภัยมาก แต่มันพยายามส่งอิทธิพลต่อจิตใจของข้าอย่างลับๆและขาก็ได้รับผลกระทบจากมันจริงๆ’

‘เกือบไปแล้ว!’

ฟางหยวนรู้สึกหนาวเย็นอยู่ในหัวใจ

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันทั้งร่างกายและดวงวิญญาณ เขาสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันอย่างต่อเนื่องมากหลายวัน แม้เขาจะสามารถแยกแยะความจริงและความฝันในเวลานี้ แต่อารมณ์ของเขาก็ได้รับผลกระทบจากมันแล้ว

นี่เป็นการแจ้งเตือนถึงอันตราย

การสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันมีความเสี่ยง ในกรณีเลวร้ายที่สุด พวกเขาจะติดอยู่ในความฝันและไม่สามารถแยกแยะความจริงกับความฝัน พวกเขาจะได้รับผลกระทบทางจิตใจ สุดท้ายพวกเขาจะถูกอาณาจักรแห่งความฝันกลืนกินอย่างสมบูรณ์

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรสังเกตการแสดงออกของฟางหยวนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ  บุตรของข้า มันเป็นเรื่องดีที่เจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากความรักและความเสน่หา ข้าจะไปพบนักพรตมดเขียวเพื่อบอกเรื่องนี้กับเขาและขอลาหยุดให้เจ้า 

 ข้าจะทําตามค่าสั่งของท่านพ่อ  ฟางหยวนตอบ

สายธารแห่งกาลเวลา

 บึม บึม บึม! 

การระเบิดที่รุนแรงทําให้คลื่นน้ําปะทุขึ้น

เรือเหาะสีเงินบินผ่านคลื่นน้ําขนาดใหญ่ไปด้วยความเร็วสูง

มันคือเรือรบหมื่นปี!

ด้านหลังเรือรบหมื่นปีมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะห้าหลังไล่ล่ามาอย่างไม่ลดละ

ภายในเรือรบหมื่นปี ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆอยู่ในอารมณ์ที่ตึงเครียด

 วังสวรรค์ช่างร่ํารวยนัก พวกเขาสร้างวิหารอดีตปัจจุบันรวมถึงนาวานิรันดร์ขึ้นมาอีกครั้ง 

 ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังมีรังกระเรียนใบไม้ร่วง ฉลามร่องคลื่น และคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับหลังนั้น! 

 วังสวรรค์เป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของโลกใบนี้อย่างแท้จริง รากฐานของพวกเขาน่าตกตะลึงเกินไป 

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าเทพธิดาจื่อเว่ยต้องนําวิญญาณอมตะออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอศิลป์หมื่นราชันเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะโรงละครแห่งความทรงจําระดับแปดหลังนี้

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลากู้หลิวรู่เป็นผู้ควบคุมโรงละครแห่งความทรงจํา

ด้วยการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะห้าหลัง เรือรบหมื่นปีจึงถูกบังคับให้ล่าถอย

 อย่ากังวล เรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ เราสามารถใช้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนของสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับศัตรู 

 ถูกต้อง เมื่อพวกเขาอ่อนแอลง เราจะสามารถตอบโต้ 

ไม่กี่วันต่อมา

วังสวรรค์

ราชันมังกรพร้อมที่จะเคลื่อนไหว

หลังจากเปลี่ยนโชคให้ราชันมังกร อาการของฉันตั้งหลังแย่ลง นางไม่สามารถติดตามเขาไปหรือเข้าร่วมการต่อสู้ ในสายธารแห่งกาลเวลา นางทําได้เพียงพักฟื้นอยู่ในวังสวรรค์เท่านั้น

เทพธิดาจื่อเว่ยอยู่ในวังสวรรค์เพื่อดูแลภาพรวมและป้องกันการลอบโจมตีของถ้ําสวรรค์นิรันดร

 การต่อสู้ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะในสายธารแห่งกาลเวลาผ่านมาสองสามวันแล้วแต่ฟางหยวนยังไม่ปรากฏตัว ด้วยโชคของฟงจิวเก้อ เราสามารถชดเชยความเสียเปรียบด้านโชค ตอนนี้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบ 

 อย่าประมาทฟางหยวน จื่อเว่ยให้ความสําคัญกับเขามากกว่านี้  ราชันมังกรกล่าว

 ทราบแล้ว  เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกอย่างเคร่งขรึม  ฟางเจิ้งพร้อมแล้ว ตอนนี้เขารออยู่ที่นิกายกระเรียนอมตะ และสามารถออกเดินทางทันที 

 ดี  ราชันมังกรพยักหน้าก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนตรวจสอบโชคของร่างแยกมนุษย์มังกรอีกครั้ง

โชคมังกรม่วงขยายตัวขึ้นหลายเท่า มันเต็มไปด้วยพลังชีวิตและเคลื่อนไหวอย่างสะดวกสบายอยู่ในกลุ่มเมฆสีดํา

มากกว่าครึ่งหนึ่งของเมฆสีดําเปลี่ยนเป็นปราณสีฟ้าม่วงแล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าฟางหยวนมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับวังมังกร

อย่างไรก็ตาม

โชคแสงสีเลือดที่อยู่ด้านบนโชคเมฆสีดํากลับเคลื่อนที่ลงมาอย่างรวดเร็ว

ภายในโชคแสงสีเลือด วิหคทองคําหายไปแต่มังกรเพลิงกลับขยายใหญ่ขึ้น

 ดูเหมือนมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถหยุดตัวแปรนี้  ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้

 โอ้ เขามาแล้ว  ในเวลาต่อมา ดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น

ฟางหยวนเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบินอยู่ในสวรรค์สีขาว มันคือศาลานกกระเรียนของนิกายกระเรียนอมตะ

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะทันที

เขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณถูกเตรียมไว้นานแล้ว มันกําลังรอคอยช่วงเวลานี้อยู่

 เกิดสิ่งใดขึ้น?  ภายในศาลานกกระเรียน ฟางเจิ้งตกตะลึงกับทัศนียภาพที่เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว

 ศัตรูซุ่มโจมตี แต่ข้ามศาลานกกระเรียน ต้องขอบคุณ…อา…  การแสดงออกของฟางเจิ้งเปลี่ยนเป็นตกใจและ หวาดกลัวอย่างกะทันหัน

เป็นเพียงเวลานี้ที่พลังปราณปริมาณมหาศาลพุ่งเข้ามาหาศาลานกกระเรียนจากทุกทิศทาง

 ท่าไม้ตายอมตะระดับแปด!  ฟางเจิ้งหน้าซีด ศาลานกกระเรียนเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก มันจะสามารถป้องกันการโจมตีระดับแปดได้อย่างไร?

ในช่วงเวลาสําคัญ ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น

มันไม่ใช่ผู้ใดนอกจากราชันมังกร

ปรากฏว่าราชันมังกรไม่ได้พบฟางเจิ้ง เขาเพียงลอบออกคําสั่งและเดินทางมาพร้อมกันอย่างลับๆเท่านั้น

นี่เป็นคําแนะนําของฉินติงหลิง การมอบอิสระให้แก่ฟางเจิ้งเป็นครั้งคราวจะสร้างปัญหาให้กับฟางหยวน

อย่างไรก็ตามหากปราศจากราชันมังกร เขาต้องตายอยู่ที่นี้อย่างแน่นอน

ราชันมังกรผลักฝ่ามือออกไปทําลายพลังปราณที่อยู่รอบๆ

 ผู้ใด? ออกมา!  ราชันมังกรตะโกน

 ข้าคือบรรพชนทะเลปราณ  ฟางหยวนเผยตัวออกมาแต่เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปแล้ว

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท