เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1844 การเปิดเผยในความฝัน

บทที่ 1844 การเปิดเผยในความฝัน

บทที่ 1844 การเปิดเผยในความฝัน

อู่ส่วยขมวดคิ้วแน่น  ข้าสงสัยว่านี่อาจเป็นแผนการร้ายต่อท่านพ่อกับข้า พวกเขาพยายามทำลายเผ่ามนุษย์มังกรของข้า ข้าควรทำอย่างไร? มนุษย์มังกรจะปกครองโลกอาจเป็นเรื่องโกหก คนร้ายอาจทำสิ่งนี้เพื่อหาข้ออ้างกำจัดเผ่ามนุษย์มังกร 

กู้เหลียงครุ่นคิดและปฏิเสธความเป็นไปได้  ความเป็นไปได้มีน้อยมาก ตามที่พ่อของเจ้ากล่าว มีความบังเอิญหลายอย่างที่ทำให้เขาได้พบวิญญาณชะตากรรม นี่ไม่ใช่ความบังเอิญที่มนุษย์สร้างขึ้น สิ่งเหล่านั้นจงใจเลือกพ่อของเจ้า 

 เพราะมันบังเอิญมากเกินไป ข้าจึงสงสัย 

 ย้อนกลับไปมนุษย์ได้รับการเปิดเผยลิขิตสวรรค์จากวิญญาณชะตากรรมได้อย่างไร? ตอนนี้พ่อของเจ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันงั้นหรือ?  คำกล่าวของกู้เหลียงทำให้อู่ส่วยพูดไม่ออก

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงดังขึ้นบนท้องฟ้า ผู้อมตะของวังสวรรค์มาเยี่ยมพ่อของอู่ส่วย

 พวกเขามาเร็วมาก!  การแสดงออกของกู้เหลียงเปลี่ยนไป  อู่ส่วย เจ้าต้องตัดสินใจตอนนี้ หากเจ้ารอ ความพยายามทั้งหมดของเจ้าจะสูญเปล่า เผ่ามนุษย์มังกรของเจ้าจะถูกกำจัด! 

ใบหน้าของอู่ส่วยกลายเป็นซีดเผือด ร่างกายของเขาสั่นเทา

สถานการณ์ทำให้เขาต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

เขารู้ว่าการเลือกครั้งนี้จะทำให้เขาเจ็บปวดไปชั่วนิรันดร์แต่เขาต้องทำ!

แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าการเปิดเผยลิขิตสวรรค์เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เขาก็ไม่สามารถเดิมพันด้วยเผ่ามนุษย์มังกร

หากเขาแพ้พนัน เขาไม่เพียงจะสูญเสียบิดา แต่เขายังต้องสูญเสียเผ่ามนุษย์มังกรทั้งหมด

วันนั้นพ่อของอู่ส่วยเสียชีวิตจากฟันเฟือนของความล้มเหลวในการสร้างประตูสวรรค์กลาง ดวงวิญญาณของเขาถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์

ผู้อมตะของวังสวรรค์ไม่มีหลักฐาน แม้พวกเขาจะสงสัย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดอู่ส่วยที่เป็นผู้อมตะระดับแปดและทำได้เพียงจากไปเท่านั้น

สิบคืนต่อมา อู่ส่วยนอนไม่หลับ

ไฟฉินปลอบโยนเขาขณะที่อู่ส่วยร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของหญิงคนรัก

ไฟฉินกล่าวอย่างอ่อนโยน  ผู้คนไม่สามารถฟื้นคอื่นหลังจากความตาย ท่านพี่ต้องเดินหน้าต่อไป ท่านลุงเสียชีวิตจากการสร้างประตูสวรรค์กลาง วังสวรรค์จะชดใช้ให้ท่านอย่างแน่นอน 

อู่ส่วยไม่กล้าบอกความจริงกับไฟฉิน เขาต้องอดทนกับความเจ็บปวดนี้ด้วยตัวเขาเอง

เขากล่าวเพียงว่า  น้องหญิง เจ้ารู้หรือไม่ย้อนกลับไปหลังจากที่ข้าสังหารซึ่งเจือ ข้ามักฝันแบบเดียวกันในยามค่ำคืน 

 ในความฝัน ข้าเป็นราชาของเผ่ามนุษย์มังกร ข้านำผู้คนของข้าไปสู่ความรุ่งเรือง เราใช้ชีวิตอย่างอิสระและสันติสุข 

 ข้าอยู่ในวังมังกรและปกครองอย่างพิถีพิถัน มนุษย์มังกรอาศัยอยู่อย่างมีความสุขและไม่มีความขัดแย้ง 

 ฮวงเว่ยยังเป็นมือขวาของข้า เขาจัดการเรื่องต่างๆให้ข้า 

 ท่านพ่อของข้าบอกว่าข้าเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของเขา เขามักกล่าวว่า บุตรของข้า ในที่สุดเจ้าก็ทำได้ ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก 

 เจ้ากับข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เรามีลูกหลานหลายคน พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด 

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ส่วยก็หลั่งน้ำตาออกมา  แต่ตอนี้ข้าเหลือเพียงเจ้า ที่รักของข้า 

ไม่ฉันรู้สึกโศกเศร้าเช่นกัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางไม่สามารถคลอดบุตรให้อู่ส่วยได้แม้แต่คนเดียว

มนุษย์มังกรสามารถมีบุตรได้หลายคนมากกว่ามนุษย์ แตมนุษย์กับมนุษย์มังกรมักมีบุตรยากกว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับเผ่ามนุษย์มังกรเท่านั้นแต่ยังรวมถึงมนุษย์กลายพันธุ์เผ่าอื่นๆเช่นกัน

อู่ส่วยจมอยู่กับความเจ็บปวดเป็นเวลาครึ่งปี

กู้เหลียงมากระตุ้นเขา  อู่ส่วย ข้าเข้าใจความเจ็บปวดของเจ้า แต่โปรดนึกถึงวังสวรรค์ อย่าโทษตัวเองมากเกินไป หากความพยายามของเราจบลงอย่างสูญเปล่า พ่อของเจ้าจะไม่ตายไปอย่างเปล่าประโยชน์งั้นหรือ? 

อู่ส่วยรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า เขาป้องหมัดขอบคุณเหลียง  ขอบคุณที่เตือนสติ มิฉะนั้นขาคงทำเรื่องผิดพลาดที่ร้ายแรง

ก็เหลียงยิ้ม  เจ้าโศกเศร้ามามากแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนนี้ถึงเวลาสร้างประตูสวรรค์กลางต่อแล้ว 

 แต่การเปิดเผยของวิญญาณชะตากรรม เราควรเชื่อในความคิดที่ว่าเผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลกหรือไม่?  อู่ส่วยยังคิดถึงเรื่องนี้และไม่สามารถปล่อยมันไป

กู้เหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม  เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการไปพบวิญญาณชะตากรรม แต่มันมีความเสียงที่ยิ่งใหญ่ แท้จริงแล้วไม่จำเป็นต้องกังวล ตราบเท่าที่เจ้ารอคอย เจ้าจะพบหลักฐานในที่สุด 

 เจ้าหมายถึง?  อู่ส่วยตระหนักถึงบางอย่าง

กู้เหลียงพยักหน้า  หากสวรรค์ต้องการให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลก เจตจำนงสวรรค์จะใส่ใจและห่วงใยเผ่ามนุษย์มังกรมากขึ้น จากประวัติศาสตร์ พ่อของเจ้าเหมือนอวีจี้ เมื่ออวีจี้ยังเป็นผู้ใช้วิญญาณ เขาเป็นทาสของมนุษย์หิน เขาสามารถเข้าใกล้วิญญาณชะตากรรม เขาได้รับการเปิดเผยจากวิญญาณชะตากรรมว่ามนุษย์จะปกครองโลก เขาทำตามคำแนะนะของวิญญาณชะตากรรม เขาขโมยมันไปให้เทพอมตะแรกกำเนิด 

 อวเป็นผู้พิทักษ์เต๋าของเทพอมตะแรกก่าเนิด เขาได้รับการเปิดเผยลิขิตสวรรค์ นอกจากเขาจะไม่ตาย แต่เขายังสามารถขโมยวิญญาณชะตากรรม แล้วเหตุใดท่านพ่อของข้าถึง…  อู่ส่วยแสดงออกด้วยความเจ็บปวด

กู้เหลียงอธิบาย  ข้ามีการคาดเดาบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ จ่าสิ่งที่ข้าเคยบอกเจ้าได้หรือไม่ เทพอมตะกลุ่มดาวหลอมรวมตนเองเข้ากับเจตจำนงสวรรค์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานางก็เริ่มขัดขวางเจตจำนงสวรรค์ นี่อาจเป็นเหตุผลที่พ่อของเจ้าพบหายนะ แต่เขายังสามารถบอกความลับเกี่ยวกับการปกครองโลกของเผ่ามนุษย์มังกรได้สำเร็จ เขาเสียชีวิตอย่างมีเหตุผล

กู้เหลียงให้กำลังใจต่อ  พ่อของเจ้าบอกความลับนี้แก่เจ้า อู่ส่วย เจ้าอาจเป็นคนสำคัญที่ได้รับการคัดเลือกจากสวรรค์เช่นเดียวกับเทพอมตะแรกกำเนิด เจ้าไม่สามารถยอมแพ้ เจ้าไม่สามารถท้อแท้ เจ้าต้องทำงานให้หนักขึ้น! 

อู่ส่วยส่ายศีรษะ  ข้าจะเปรียบเทียบกับเทพอมตะแรกกำเนิดได้อย่างไร? มนุษย์กลายพันธุ์ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้า 

กู้เหลียงเงียบก่อนจะแสดงออกอย่างแปลกประหลาด  มนุษย์กลายพันธุ์ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้ ทุกคนรู้เรื่องนี้ แต่ไม่มีผู้ใดรู้สาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง มีทฤษฎีทุกประเภทเกี่ยวกับมัน 

 ความจริงก็คือเราค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุที่มนุษย์กลายพันธุ์ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้ามานานแล้ว 

อู่ส่วยถาม  ไม่ใช่เพราะมนุษย์คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นหรือ? 

กู้เหลียงหัวเราะ  ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นเป็นเพียงฉากหน้า มีความลับมากมายอยู่เบื้องหลัง ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์ที่แข็งแกร่งหลายคนไม่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติและกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าเช่นกัน 

 บรรพชนของเจ้า ราชันมังกร ย่อมเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน เขาเป็นหนึ่งในนั้น แม้เขาจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้า นั่นทำให้เขาเปลี่ยนตนเองให้เป็นมนุษย์มังกร 

 หากเจ้าสามารถเรียนรู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ เผ่าของข้ายินดีจ่ายทุกราคาเพื่อความลับนี้!  กู้เหลียงสัญญาอย่างจริงจัง

 อย่ากังวล หากข้ารู้ความลับนี้ ข้าจะแบ่งปันมันกับเจ้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย!  อู่ส่วยสาบาน

ก่อนกลับ กู้เหลียงแนะนำอู่ส่วยอีกครั้ง  สหาย ดูแลตัวเองด้วย แม่วิญญาณชะตากรรมจะไม่ได้อยู่ในมือของเจ้า แต่หากเจ้าคือผู้ถูกเลือก เจ้าจะได้รับการเปิดเผยบางอย่าง เจ้าเป็นคนสำคัญอย่างแน่นอน การเปิดเผยเหล่านี้อาจมาถึงเจ้าหรือคนรอบข้างของเจ้า โปรดใส่ใจสิ่งเหล่านั้น 

 ข้าเข้าใจแล้ว  อู่ส่วยพยักหน้า  ให้เวลาพิสูจน์ทุกสิ่ง 

แต่อู่ส่วยกลับต้องผิดหวังเมื่อเขาไม่ได้รับการเปิดเผยใดๆ

เขายังสร้างประตูสวรรค์กลางต่อไป

สมาชิกเผ่ามนุษย์มังกรจำนวนมากไม่พอใจเขา พวกเขาเรียกอู่ส่วยว่าสุนัขรับใช้ พ่อของเขาเสียชีวิตจากการสร้างประตูสวรรค์กลาง แต่เขาในฐานะบุตรยังทำงานให้วังสวรรค์ต่อไป

ด้วยเหตุนี้มนุษย์มังกรจำนวนมากจึงย้ายออกจากเกาะดอกไม้แดนใต้

ในวันนี้อู่ส่วยฝันถึงพ่อของเขาอีกครั้ง

พ่อของเขากล่าวว่า  ทำงานหนักต่อไป ขาเข้าใจเจ้า การเสียสละนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่! เผ่ามนุษย์มังกรต้องการผู้นำเช่นเจ้า! 

เขายังฝันว่าเขามีลูกกับไฟฉิน ปรากฏว่าลึกลงไปใต้ทะเลลึกของทะเลตะวันออกมีพืชนิรนามชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้พวกเขามีลูก

อู่ส่วยสะดุ้งตื่นขึ้น เขาคิด นี่คือการเปิดเผยจากสวรรค์หรือไม่?

เขาจำได้ ก่อนที่ฮวงเว่ยจะเสียชีวิต เขาฝันว่าฮวงเว่ยมาบอกลาเขา

ก่อนที่พ่อของเขาจะเสียชีวิต เขายังฝันว่าพ่อของเขากำลังพูดถึงแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา พ่อของอู่ส่วยบอกว่าเขาจะไปอยู่กับนาง

ในความเป็นจริงมันค่อนข้างง่ายที่จะยืนยันเรื่องนี้

อู่ส่วยวางแผนและมุ่งหน้าไปยังทะเลตะวันออกทันที

เขาทำตามวิธีในความฝันและได้รับสาหร่ายไร้นามมาจริงๆ เขาใช้สาหร่ายชนิดนี้ร่วมกับไฟฉิน หลายเดือนต่อมาอู่ส่วยได้รับข่าวดี ไฟฉินตั้งท้องลูกของเขา!

นี่เป็นข่าวดอย่างแท้จริง

ไม่เพียงเขาจะมีลูก แต่มันยังเป็นการยืนยันการคาดเดาของเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเขาได้รับการเปิดเผยจากสวรรค์มานานแล้ว

ความฝันเริ่มเปลี่ยนไป อู่ส่วยได้รับการเปิดเผยมากขึ้น

อู่ส่วยปฏิบัติตามการเปิดเผยเหล่านี้และประสบความสำเร็จอย่างมากโดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย

เขาไม่เพียงประสบความสำเร็จในการสร้างประตูสวรรค์กลางแต่เขายังสามารถสร้างประตูลับไว้ในวังสวรรค์โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากวังสวรรค์ เขาหยุดพัฒนาเผ่ามนุษย์มังกร เขามุ่งเน้นที่การบ่มเพาะของตนเองเป็นหลัก

ด้วยการเปิดเผยในความฝัน การบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ความฝันเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาฝันเกี่ยวกับการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรระดับแปด!

 วิญญาณอมตะระดับแปดที่เป็นแกนกลางของวังมังกรคือวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝันระดับแปดงั้นหรือ? มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน มันเกี่ยวข้องกับยุคที่ยิ่งใหญ่!  อู่ส่วยตื่นเต้นมากและรีบออกเดินทางเพื่อรวบรวมทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันทันที

ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันหายากมาก พวกมันมักถูกซ่อนไว้ในมุมที่ไม่โดดเด่น

แต่อู่ส่วยติดตามการเปิดเผยจากสวรรค์และสามารถรวบรวมพวกมันได้ในที่สุด

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท