เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1847 ป้ายคําสั่งแห่งความฝัน

บทที่ 1847 ป้ายคําสั่งแห่งความฝัน

บทที่ 1847 ป้ายคําสั่งแห่งความฝัน

 นี่คือป้ายคําสั่งแห่งความฝัน  ฟางหยวนตรวจสอบวังมังกรอย่างมีความสุข

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคาดหวังอย่างมากต่อวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน เขามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันมากมายแต่เขาไม่เคยมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน

ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาซึ่งเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาร่วมกับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจํานวนมากเพื่อทดแทนวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน

หากเขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน ปัญหาเรื่องการปรับแต่งวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจํานวนมากจะลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็ได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันมาแล้วและมันยังเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด!

 เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน มันอันตรายจริงๆ ข้าเกือบหลงทางอยู่ที่นั่น  ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนถอนหายใจ เขายังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ  หากข้าไม่พบสิ่งผิดปกติและลอบใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ข้าคงทรยศร่างหลักไปแล้ว 

ฟางหยวนเคยใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันมาตลอด แต่ครั้งนี้ร่างแยกมนุษย์มังกรต้องใช้มันกับตัวเขาเองเพื่อแก้ปัญหา

ร่างหลักของฟางหยวนพยักหน้า  นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่ยากที่สุดที่ข้าเคยสารวจมา ก่อนหน้านี้การตรวจสอบโชคของข้าก็ไม่ผิดพลาด ปราณสีฟ้าม่วงบ่งบอกว่าเจ้ามีโอกาสเป็นเจ้าของวังมังกรโดยไม่สูญเสียตัวตน 

เนื่องจากฟางหยวนมองเห็นโอกาสประสบความสําเร็จ เขาจึงปล่อยให้ร่างแยกมนุษย์มังกรเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

ตอนนี้ฟางหยวนกับร่างแยกมนุษย์มังกรแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาได้เรียนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นของแต่ละฝ่าย

ร่างหลักของฟางหยวนกล่าว  อาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกรซับซ้อนและน่ากลัวมากเพราะทั้งร่างกาย และดวงวิญญาณของผู้สํารวจติดอยู่ภายใน มันเป็นเรื่องปกติที่อารมณ์ของผู้สํารวจจะได้รับอิทธิพลจากมันและจมอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน 

 โลกภายนอกยังมีวังสวรรค์ หากขาไม่ระวัง มันจะกลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ สถานการณ์จะกลายเป็นยากลำบากมากขึ้น 

การเดินทางในครั้งนี้ของฟางหยวนเต็มไปด้วยอันตราย มันเหมือนกับการเดินอยู่บนเชือก หากประมาทเพียงเล็กน้อย เขาอาจสูญเสียการควบคุมทั้งหมด

อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดมันกลับไม่มีอันตรายเกิดขึ้น เขายังสามารถควบคุมสถานการณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของฟางหยวน

ประการแรก เขามีประสบการณ์มากมายในการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน แม้ร่างแยกของเขาจะเป็นคนลงมือ แต่ฟางหยวนมอบวิธีการต่างๆให้เขาไว้แล้ว

ประการที่สอง ฟางหยวนมีหม้อปรุงโชค เขาสามารถตรวจสอบโชคและตระหนักว่ามีโอกาสประสบความสําเร็จ นั้นคือเหตุลผที่เขาปล่อยให้มันเกิดขึ้น

ประการที่สาม ฟางหยวนส่งไปหนิงปิงและคนอื่นๆไปยังสายธารแห่งกาลเวลาและใช้เรือรบหมื่นปีต่อสู้กับคฤหาสน์วิญญาณอมตะห้าหลังเพื่อดึงดูดความสนใจของวังสวรรค์ ต่อมาเขาหลอกล่อราชันมังกรโดยใช้สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกให้เป็นประโยชน์

สุดท้ายแม้ฟางหยวนจะล้มเหลว เขาก็จะสูญเสียเพียงร่างแยกมนุษย์มังกร ร่างหลักของเขาจะปลอดภัย รากฐานของเขาจะยังอยู่ แม้ร่างแยกมนุษย์มังกรจะหักหลังเขา แต่ฟางฟยวนก็สามารถใช้การเชื่อมโยงระหว่างร่างหลักกับร่างแยกเพื่อไล่ล่าและสังหารร่างแยกมนุษย์มังกร ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงวิธีบนเส้นทางแห่งโชค วังมังกรก็ไม่สามารถต่อต้าน

เนื่องจากวังมังกรถูกสร้างขึ้นในยุคของเทพปีศาจบัวแดง ในช่วงเวลานั้นเส้นทางแห่งโชคยังไม่ปรากฏขึ้น

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ฟางหยวนจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด

แน่นอนว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยงสูง

หากเขาสูญเสียร่างแยกมนุษย์มังกร เขาจะสูญเสียวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันทั้งหมด

แต่เขาต้องเสี่ยง

หลังจากทั้งหมดนี้คือคฤหาสน์วิญญาณอมระวังมังกรระดับแปด!

ส่าหรับเจตจํานงของอู๋ส่วย มันไม่มีอยู่จริง

ไม่มีเจตจํานงใดสามารถอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันได้นานนับล้านปี

ร่างแยกมนุษย์มังกรคิดว่าเขาคือส่วยมาระยะหนึ่ง มันเป็นผลกระทบที่เกิดจากวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันที่ทําให้ร่างแยกมนุษย์มังกรคิดว่าเขาคืออู๋ส่วยหลังจากที่เขาตื่นขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปเขาจะค่อยๆฟื้นคืนสติ เว้นเพียงร่างแยกมนุษย์มังกรจะอยู่ในวังมังกรตลอดเวลาโดยไม่ออกมา นั่นจะทําให้เขาได้รับผลกระทบจากวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันต่อไป

การเตรียมการของอู่ส่วยถือว่าไม่ธรรมดา ฟางหยวนต้องเอ่ยปากยกย่องเขาจากใจจริง  คนผู้นี้ช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง 

แต่น่าเสียดายที่อู๋ส่วยล้มเหลว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถ มิฉะนั้นเขาจะต่อต้านแรงกดดันจากสิบนิกายโบราณของภาคกลางและพัฒนาเกาะดอกไม้แดนใต้ได้อย่างไร

เขามีทั้งความสามารถและความเฉลียวฉลาด นั้นคือเหตุผลที่พ่อของเขาเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ศัตรูของเขาแข็งแกร่งเกินไป ลืมเรื่องวังสวรรค์ไปได้เลย เพียงราชันมังกรผู้เดียวก็สามารถทําลายล้างเผ่ามนุษย์มังกรทั้งหมดและเบื้องหลังราชันมังกรยังมีเทพอมตะกลุ่มดาว

การเปิดเผยความลับสวรรค์เรื่องมนุษย์มังกรจะปกครองโลกคือความตั้งใจของเตสวรรค์ แต่เทพอมตะกลุ่มดาวน่ากลัวเกินไป หลังจากนางหลอมรวมกับเจตจํานงสวรรค์ นางสามารถแทรกแซงเต๋าสวรรค์

นั่นเป็นเหตุผลที่สามเทพปีศาจไม่สามารถทําลายวังสวรรค์ มีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณชะตากรรม ความสําเร็จนี้เกินความคาดหมายของทุกคน ท้ายที่สุดเทพปีศาจบัวแดงก็ไม่ใช่ปีศาจต่างโลก

ดังนั้นความพ่ายแพ้ของอู๋ส่วยจึงถูกกําหนดไว้ตั้งแต่ต้น

กระทั่งเทพปีศาจยังล้มเหลว แล้วอู๋ส่วยจะสามารถทําสิ่งใด?

อู๋ส่วยสามารถเสียสละ แต่สมาชิกวงสวรรค์จํานวนนับไม่ถ้วนก็เต็มใจที่จะเสียสละเช่นกัน ราชันมังกรทําลายล้างเผ่ามนุษย์มังกรทั้งหมด นี่คือการสังเวยเทพอมตะกลุ่มดาวกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเจตจํานงสวรรค์ นี่คือการเสียสละตนเอง

ด้วยการมองผ่านชีวิตของอู๋ส่วย ฟางหยวนสามารถเรียนรู้ความแข็งแกร่งของวังสวรรค์

รากฐานขององค์กรนี้ลึกลเกินไป

สุสานอมตะมีผู้อมตะระดับแปดจําศีลอยู่นับไม่ถ้วน

ผ่านไปหนึ่งล้านปีแต่ราชันมังกรอยู่ยังมีชีวิตอยู่

เทพอมตะแรกกําเนิด เทพอมตะกลุ่มดาว เทพอมตะบัวสวรรค์ ราชันมังกร เทพธิดาจื่อเว่ย เฉินอี้ และจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า คนเหล่านี้ต่างเป็นตัวตนที่มีอิทธิพลและทรงพลัง

พลังอานาจของวังสวรรค์ กระทั่งเทพปีศาจก็ไม่สามารถต่อต้าน

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เฉินกงเจิ้งและซ่งฉีหยวนจะรู้สึกกังวลโดยเฉพาะเมื่อห้าภูมิภาคกําลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

ฟางหยวนจําเป็นต้องพลิกสถานการณ์ทั้งหมด

 มีเพียงการทําลายวิญญาณชะตากรรมเท่านั้นที่จะทําให้ข้ามีความหวังในชีวิตนิรันดร์ 

 หากข้าล้มเหลว ผู้ใดจะซาบซึ้งเมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องราวของข้าในอนาคต 

 ฮ่าฮ่า บางที่พวกเขาอาจได้รับอิทธิพลจากมัน 

หลังจากตรวจสอบวังมังกร ฟางหยวนเก็บร่างแยกมนุษย์มังกรและวังมังกรไว้ในมิดช่องว่างของเขาก่อนจะเรียกเซี่ยเอ๋อ ซื่อเฉิง และโม่ตันซานออกมา

ฟางหยวนใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเพื่อเดินทางออกจากทะเลตะวันออก

ตั้งแต่ฟางหยวนกลืนกินถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศในการเดินทางไปรอบๆ

แน่นอนว่าฟางหยวนสามารถใช้เรือรบหมื่นปีในการเดินทางเช่นกัน คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้รวดเร็วมาก แต่ตอนนี้มันกําลังต่อสู้อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา

อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะมีมัน แต่การใช้สิ่งนี้ในการเดินทาง มันยังสะดุดตามากเกินไป

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท