เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1862 วิญญาณอมตะรังมดระดับแปด

บทที่ 1862 วิญญาณอมตะรังมดระดับแปด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1862 วิญญาณอมตะรังมดระดับแปด

ในส่วนลึกของทะเลตะวันออก ฐานทัพใหญ่เผ่า

ครึ่งเดือนภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ผ่านไปแล้ว ผลึกหินถูกปลดผนึกอย่างสมบูรณ์

มีผู้อมตะหลายคนร่วมเป็นพยานในเหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะเป็นอู่ส่วย สองแม่ทัพมังกร ผู้นําเผ่ากู้คนปัจจุบัน และผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรอีกหลายคน

เมื่อเห็นผนึกถูกปลด ผู้นําเผ่ากู้ยิ่งมั่นใจในตัวตนของอู่ส่วยมากขึ้น

ผนึกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยส่วยตัวจริงและได้รับการเสริมความแข็งแกร่งโดยผู้นําเผ่ากู้มาหลายชั่วอายุคน

ย้อนกลับไปอู่ส่วยตัวจริงเก็บมรดกส่วนหนึ่งของเขาไว้กับเผ่า

ผู้นําเผ่ากู้เผยรอยยิ้มให้กับอู่ส่วย  เชิญ 

อู่ส่วยโบกมือ หินสีเทาขนาดใหญ่ลอยขึ้นสู่อากาศและถูกเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขา

เขาได้รับวิญญาณอมตะรังมดระดับแปดที่เคยเป็นวิญญาณหลักของนักพรตมดเขียว วิญญาณดวงนี้สามารถสร้างมดทุกชนิด

โดยธรรมชาติแล้วราชินีมดสามารถผลิตกองทัพมดได้เช่นกัน แต่พวกมันจะผลิตมดสายพันธุ์เดียวกับราชินีเท่านั้น

หลังจากทําลายล้างเผ่ามนุษย์มังกร ราชันมังกรสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาลบบันทึกและทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเผ่ามนุษย์มังกรออกไป

ในยุคนั้นนักพรตมดเขียวตกเป็นทาสของวังมังกรเรียบร้อยแล้ว กองทัพมดของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของเผ่ามนุษย์มังกร

ด้วยเหตุนี้ความรุ่งโรจน์ของกองทัพมดจึงร่วงหล่นลงราวกับดวงดาวที่ตกลงจากท้องฟ้าและหายไปจากประวัติศาสตร์

นอกจากวิญญาณอมตะรังมดยังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลอีกหนึ่งดวง มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดที่ชื่อจดหมายปิดผนึก

วิญญาณอมตะดวงนี้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพมดเอาไว้ นอกจากนั้นมันยังถูกใช้เพื่อปิดผนึกวิญญาณอมตะรังมดอีกด้วย

วิญญาณอมตะรังมดเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเก็บรักษามรดกชิ้นนี้ หลังจากทั้งหมดวิญญาณต้องการอาหาร มิฉะนั้นมันจะตายเพราะความหิวโหย

อู่ส่วยตัวจริงใช้วิญญาณอมตะจดหมายปิดผนึกสร้างชั้นหินผนึกวิญญาณอมตะรังมดเอาไว้ขณะที่วิญญาณ อมตะจดหมายปิดผนึกก็ผนึกตัวมันเองเช่นกัน

วิธีการของอู่ส่วยคล้ายกับการสร้างผลึกหินโชคลาภเทียม แต่วิธีนี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพเนื่องจากวิญญาณ อมตะรังมดยังมีชีวิตอยู่หลังจากเวลาผ่านไปนับล้านปี

เมื่อร่างแยกมนุษย์มังกรคู่ส่วยของฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะทั้งสองดวง พวกมันอยู่ในสภาพที่หิวโหย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ฟางหยวนเตรียมอาหารไว้ให้พวกมันแล้ว

อู่ส่วยให้อาหารพวกมันระหว่างเดินทางกลับที่พักของเผ่า

ระหว่างทาง อู่ส่วยกล่าวขอบคุณผู้นําเผ่า  ขอบคุณผู้นําเผ่าที่รักษาสัญญา! พวกเจ้าดูแลมรดกของข้าไว้ จนถึงตอนนี้ พวกเจ้าเป็นสหายที่น่าเชื่อถือที่สุดของเผ่ามนุษย์มังกรของข้า! 

ผู้นําเผ่ากู้คนปัจจุบันหัวเราะ  ท่านอู่ส่วย ข้าจะไม่ซ่อนมันจากท่าน ไม่ใช่ว่าเผ่าไม่ต้องการมรดกของท่าน แต่ผู้นําเผ่าในเวลานั้นตั้งกฏว่าผู้นําเผ่ากู้ทุกคนต้องผนึกมรดกนี้ก่อนที่พวกเขาจะเข้ารับตําแหน่ง

 เราคํานึงถึงการเปิดเผยของวิญญาณชะตากรรมเสมอ ดังนั้นมรดกนี้จึงถูกเก็บรักษามาถึงปัจจุบัน 

ผู้นําเผ่ากู้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา นั่นทําให้ส่วยหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่

อู่ส่วยรับประกัน  สหาย เผ่าของเจ้ากับข้ามมิตรภาพที่ดีมานับล้านปีและมันจะดําเนินต่อไปในอนาคต! ตอนนี้ข้าร่วมมือกับฟางหยวนและประสบความสําเร็จในการต่อต้านท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปท่าไม้ตายนี้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเผ่ามนุษย์มังกรของข้าอีกต่อไป 

ดวงตาของผู้นําเผ่าก์ส่องประกายขึ้น  นี่เป็นข่าวดียิ่ง! เผ่ามนุษย์มังกรจะปกครองโลก นี่คือลิขิตสวรรค์ ผู้อาวุโส กล่าวตามตรง ข้ามีเรื่องต้องการขอร้องท่าน 

ร่างแยกมนุษย์มังกรคู่ส่วยของฟางหยวนได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากเผ่ากู้

เผ่ากู้เป็นพันธมิตรที่ดีและมอบผลประโยชน์ให้กับอู่ส่วย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้นําเผ่ากูจะร้องขอบางสิ่งในเวลานี้

อู่ส่วยตอบกลับโดยไม่ลังเล  เพียงกล่าวออกมา ตราบเท่าที่มันอยู่ในขอบเขตความสามารถของข้า ข้าจะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน 

 ข้าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเผ่ามนุษย์มังกร ผู้อาวุโส ท่านคิดอย่างไร?  ผู้นําเผ่ากู้ถาม

อู่ส่วยพยักหน้า  สหายของข้า กู้เหลียง เขาเป็นผู้นําเผ่าของพวกเจ้าในเวลานั้น เขามีความตั้งใจนี้เช่นกัน ตอนนี้ข้าสร้างวิธีเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ข้าสามารถช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน 

ผู้นําเผ่ากู้ดีใจมาก  ขอบคุณผู้อาวุโส! เผ่าของข้าเตรียมเพลิงมังกรล่องคลื่นไว้แล้ว โปรดบอกเรา หากท่านต้องการทรัพยากรอมตะชนิดอื่น! 

เผ่ากู้ซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของทะเลตะวันออกมาเป็นเวลานาน พวกเขาค้นหาและรวบรวมเพลิงมังกรล่องคลื่นมานับล้านปี ขณะที่ทะเลตะวันออกเป็นแหล่งทรัพยากรอันดับหนึ่งของโลก ดังนั้นเผ่ากู้จึงสามารถรวบรวมเพลงมังกรล่องคลื่นได้จํานวนหนึ่ง

อู่ส่วยให้คําแนะนําเล็กน้อย ผู้นําเผ่ากู้ปฏิบัติตามทันที

หลายวันต่อมาทรัพยากรทั้งหมดก็ถูกจัดเตรียมมาให้อู่ส่วย

อู่ส่วยนวังมังกรออกมาและใช้วิธียืดอายุเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรภายในวังมังกร

สมาชิกเผ่ากู้มากกว่าสิบคนเข้าร่วมในเหตุการณ์นี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า มีผู้อมตะสองคน ท่ามกลางพวกเขา ครึ่งหนึ่งเป็นผู้อาวุโสที่ใกล้สิ้นอายุขัยและไม่มีวิธียืดอายุวิธีอื่นใช้ได้ผลอีกต่อไป วิธียืดอายุเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรเป็นความหวังเดียวของพวกเขา อีกครึ่งหนึ่งเป็นคนหนุ่มสาว พวกเขาเป็นชนชั้นสูงของเผ่าในปัจจุบัน

ผ่านไปหลายวัน ด้วยความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณมังกรและอู่ส่วย สมาชิกเผ่ากู้ที่เข้าร่วมส่วนใหญ่กลายเป็นมนุษย์มังกร มีคนโชคร้ายที่เสียชีวิตระหว่างกระบวนการเล็กน้อย หลังจากทั้งหมดวิธียืดอายุเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรยังมีความเสี่ยง

แต่ถึงกระนั้นผู้นําเผ่าก็มีความสุขมากกับผลลัพธ์นี้  ผู้อาวุโส วิธีการของท่านมีโอกาสประสบความสําเร็จสูงกว่าวิธีการดั่งเดิมมาก! 

 การทําลายล้างเผ่าพันธุ์ของข้าคือราคาที่ต้องจ่ายสําหรับความสําเร็จนี้  อู่ส่วยถอนหายใจ

ผู้นําเผ่าเร่งกล่าว  ผู้อาวุโส ข้าเสียใจด้วยกับการสูญเสียของท่าน 

ขณะกล่าวถ้อยค่าเหล่านี้ ผู้นําเผ่ากู้ก็นําทรัพยากรอมตะจานวนหนึ่งออกมา

เพื่อสร้างกองทัพมดโดยใช้วิญญาณอมตะรังมด เงื่อนไขหนึ่งของมันคือทรัพยากรอมตะที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง ผู้นําเผ่ากู้ในอดีตรู้ความลับนี้ ดังนั้นเขาจึงรวบรวมทรัพยากรอมตะดังกล่าวเอาไว้ ขณะที่ผู้นําเผ่ากู้คนปัจจุบันน้ํามันออกมามอบให้อู่ส่วยเพื่อแสดงความจริงใจของพวกเขา

แต่ส่วยปฏิเสธ  ข้าเปลี่ยนสมาชิกเผ่ากู้เป็นมนุษย์มังกรเพื่อขอบคุณทําใจของพวกเจ้า เราไม่ได้กล่าวถึงค่าตอบแทนใดๆ 

 ผู้อาวุโส โปรดรับมันไว้ นี่เป็นเพียงของขวัญเล็กๆน้อยๆจากพวกเรา  ผู้นําเผ่ากู้ยิ้ม

แต่อู่ส่วยยังยืนกราน  มันไม่ง่ายสําหรับพวกเจ้าที่จะอยู่รอด พวกเจ้าเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่สุดของเผ่ามนุษย์มังกร ข้า อู่ส่วย จะปฏิบัติกับพันธมิตรของข้าเช่นนี้ได้อย่างไร? แม้ข้าจะไม่มีทรัพยากรอมตะเหล่านี้ แต่ข้าร่วมมือกับฟางหยวนแล้ว ข้าสามารถขอให้เขาจัดหาพวกมันให้ข้า 

 ผู้อาวุโส ฟางหยวนเป็นจักรพรรดิปีศาจของยุคสมัย เขาอาจเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่วังสวรรค์ยังไม่สามารถจัดการเขา เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และดุร้าย เขาสามารถทําทุกสิ่งเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ข้าหวังว่าท่านจะระวังตัว 

ส่วยลอบหัวเราะอยู่ในใจ

ผู้นําเผ่ากําลังว่าร้ายฟางหยวนต่อหน้าฟางหยวนเอง หากเขารู้ว่าอู่ส่วยผู้นี้เป็นร่างแยกของฟางหยวน ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะแสดงออกอย่างไร

อู่ส่วยพยักหน้า  คํากล่าวของเจ้าสมเหตุสมผล วังสวรรค์แข็งแกร่งมาก ขณะที่ฟางหยวนเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่ข้าไม่สามารถละเลย แม้ข้าจะได้รับความช่วยเหลือจากพยัคฆ์ที่ดุร้าย แต่ตราบเท่าที่มันสามารถเพิ่มโอกาสให้ข้าเอาชนะวังสวรรค์และราชันมังกร แม้มันจะเล็กน้อย ข้าก็เต็มใจที่จะเสี่ยง 

ผู้นําเผ่ากู้พยักหน้าและถอนหายใจด้วยความเข้าใจ  ผู้อาวุโส ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว กล่าวตามตรงแม้เผ่ากู้ของข้าจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่มานานแต่เราก็มีพันธมิตรที่เชื่อถือได้มากมาย วังเงือกศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลตะวันออกเป็นหนึ่งในนั้น เผ่าของข้าได้รับความช่วยเหลือมากมายจากพวกเขา 

 วังเงือกศักดิ์สิทธิ์…นี่เป็นข่าวดีจริงๆ!  ดวงตาของอู่ส่วยส่องประกายขึ้น

วังเงือกศักดิ์สิทธิ์เป็นมหาอํานาจที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการสนับสนุนจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ เผ่ามนุษย์ เงือกเจริญรุ่งเรืองกว่า ขณะที่เผ่ามนุษย์อสูรซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเล ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเผ่ามนุษย์เงือก

ผู้นําเผ่ากู้กล่าวต่อ  นอกจากนี้เผ่าของข้ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอีกภูมิภาคเช่นเรามีการค้าขายกับเผ่ามู่หลานของภาคเหนือ หลายปีก่อนเมื่อวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลง ข้ายังไปที่ภาคเหนือเพื่อเข้าร่วมงานประมูลครั้งใหญ่ของที่นั่น ข้าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเผ่ามู่หลาน 

อู่ส่วนคิด  เป็นเจ้า! 

ร่างหลักของฟางหยวนเข้าร่วมงานประมูลครั้งนั้นเช่นกัน

มันเป็นงานประมูลของฉันไปเฉิง

ย้อนกลับไปผู้นําเผ่ากู้สวมหมวกทรงสูงและเสื้อคลุมขนาดใหญ่ เขามีใบหน้าที่ดูธรรมดา แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการปลอมตัว ตอนนี้ฟางหยวนตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของคนผู้นั้นในที่สุด

อู่ส่วยเปลี่ยนสมาชิกเผ่ากู้เป็นมนุษยมังกร ที่ทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผู้นําเผ่ากู้จึงเริ่มเปิดเผยความลับมากมาย

แม้เผ่ากู้จะซ่อนตัวมาเป็นเวลานานแต่พวกเขายังติดต่อกับโลกภายนอกและมีรากฐานที่มั่นคง

 นี่เป็นข่าวดี!! ร่างหลักของฟางหยวนมีความสุขมากเมื่อได้รับข้อมูลนี้

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในทะเลทรายตะวันตกแต่อยู่ที่ภาคเหนือ

เขาอยู่ในถ้ําแห่งหนึ่งที่มีเสียงโหยหวนดังออกมาเป็นครั้งคราว

มันเป็นหนึ่งในสิบสถานที่อันตรายของภาคเหนือ ปีศาจคลั่ง!

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท