เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1848 ประมวลผลกําไร

บทที่ 1848 ประมวลผลกําไร

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1848 ประมวลผลกําไร

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

วังสีทองม่วงลอยอยู่กลางอากาศ

ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝัน!

ร่างแยกมนุษย์มังกรควบคุมวังมังกรปลดปล่อยหมอกหนาทึบออกมา

หมอกหนาทึบกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ฟางหยวนทดสอบมันโดยใช้อสูรปีแรก กําเนิดแต่พวกมันกลับจมหายไปในกลุ่มเมฆหมอกอย่างไม่สามารถต่อต้าน

 กลับมา  ร่างแยกมนุษย์มังกรตะโกน หลังจากนั้นกลุ่มหมอกหนาทึบก็ถูกดึงกลับเข้าไปในวังมังกร

ทุกสิ่งที่มันกลืนกินเข้าไปถูกนําเข้าสู่วังมังกรเช่นกัน

นี่คือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน ฟางหยวนเคยเห็นมันมาแล้วในชีวิตก่อนหน้าย้อนกลับไปในเวลานั้นวังมังกรสามารถกัดกร่อนหอคอยดวงตาสวรรค์แม้มันจะเปลี่ยนตัวเองเป็นภูตผีก็ตาม

ในยุคปัจจุบันแม้แต่วังสวรรค์ก็ยังขาดวิธีรับมือเส้นทางแห่งความฝัน

นั่นทําให้วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันมีประสิทธิภาพสูงมาก

ฟางหยวนตระหนักว่าท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝันไม่ใช่ท่าไม้ตายสายโจมดีแต่มันมีประสิทธิภาพในการจับศัตรู

วังมังกรสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้จับสัตว์อสูรแรกกําเนิดและปราบปรามพวกมันในวังมังกร

วังมังกรเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งทาส แม้มันจะมีวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งความฝันเป็นแกนกลาง แต่รากฐานของมันยังไม่เปลี่ยน

ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝันมีไว้เพื่อช่วยวังมังกรกดขี่ทาส

นอกจากหมอกชวนฝัน วังมังกรยังมีอีกสองท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน

หนึ่งเรียกว่าเปิดเผยในความฝัน มันจะทําให้ผู้อมตะหลับลึกและได้รับการเปิดเผยข้อมูลในความฝัน

อีกหนึ่งเรียกว่าความฝันซ้อนความฝัน มันอนุญาตให้คนผู้หนึ่งสามารถสร้างอาณาจักรแห่งความฝันภายในอาณาจักรแห่งความฝัน เช่นเดียวกับร่างแยกมนุษย์มังกที่สํารวจอาณาจักรแห่งความฝันของอู๋ส่วยแต่สามารถเข้าสู่ความฝันของอู่ส่วยเพื่อรับการเปิดเผยในความฝัน นี่คือพลังอานาจของท่าไม้ตายอมตะความฝันซ้อนความฝัน

สําหรับอาณาจักรแห่งความฝันที่ปกคลุมวังมังกรก่อนหน้านี้ มันคือพลังของวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝัน

ฟางหยวนคิดและตระหนักว่าตอนนี้ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝันมีประโยชน์กับเขามากที่สุด

แม้ท่าไม้ตายอมตะเปิดเผยในความฝันจะมีประโยชน์ แต่มันต้องใช้พลังงานอมตะจํานวนมาก นอกจากนั้นมันยังพึ่งพาเจตจํานงสวรรค์

ในกรณีของอู๋ส่วย เนื่องจากสวรรค์ลิขิตให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลก ดังนั้นเจตจํานงสวรรค์จึงช่วยเหลือเขามันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้และได้รับคําแนะนําจากเต๋าสวรรค์

แต่ฟางหยวนทําไม่ได้

เขาเป็นปีศาจต่างโลก เขาถูกกดขี่และตกเป็นเป้าหมายของเจตจํานงสวรรค์มาตลอด เขาเป็นศัตรูของเจตจํานงสวรรค์ เขากระทั่งคิดค้นท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจํานงสวรรค์เพื่อกําจัดเจตจํานงสวรรค์

แล้วเขาจะขอความช่วยเหลือจากเจตจํานงสวรรค์ได้อย่างไร?

สําหรับท่าไม้ตายอมตะความฝันซ้อนความฝัน มันมีเป้าหมายที่อาณาจักรแห่งความฝัน หลังจากกระตุ้นใช้งาน มันจะสร้างอาณาจักรแห่งความฝันขึ้นในอาณาจักรแห่งความฝัน

แล้วมันมีไว้เพื่อสิ่งใด?

มันมีไว้เพื่อดัดแปลงอาณาจักรแห่งความฝัน

อู๋ส่วยใช้สิ่งนี้ดัดแปลงอาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกร มันทําให้อาณาจักรแห่งความฝันซับซ้อนมากขึ้น ผู้สำรวจจะสูญเสียตัวเองและยอมจํานวนต่ออาณาจักรแห่งความฝันง่ายขึ้น

แล้วมันมีประโยชน์ต่อฟางหยวนอย่างไร?

ฟางหยวนคิดและตระหนักว่าเขาสามารถสร้างอาณาจักรแห่งความฝันในอาณาจักรแห่งความฝันเพื่อใช้มันเป็นสถานที่หลบภัยหรือใช้มันเป็นสถานที่พักฟื้นหรือคืนชีพในอาณาจักรแห่งความฝัน

แต่สิ่งสําคัญที่สุดยังเป็นวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝัน

วิญญาณอมตะดวงนี้คล้ายคลึงกับวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ พวกมันส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งทาสเช่นเดียวกัน

ฟางหยวนเรียนรู้เกี่ยวกับวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันระดับแปดดวงนี้มาแล้วจากจิตวิญญาณมังกร

ย้อนกลับไปอู๋ส่วยรู้สึกถึงภัยคุกคามจากท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรของราชันมังกร เขาทํางานอย่างหนักและได้รับกําไรบางอย่าง เขาสามารถชะลอความตายของตน

ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต อู๋ส่วยกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันด้วยพลังงานอมตะระดับแปดรวมถึงอารมณ์ ความทรงจํา และเจตจํานงทั้งหมดของเขา

หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมการ เขาเสียชีวิตอยู่บนบังลังก์มังกร

เขาใช้ทุกสิ่งที่เขามี

อู๋ส่วยไม่ได้ถูกสังหารโดยท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรแต่เสียชีวิตจากการใช้วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝัน

ฟางหยวนประเมิน  เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งทาส เขาเสียสละตนเองเพื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะป้ายคําสังแห่งความฝันและสร้างอาณาจักรแห่งความฝัน 

 การกดขี่แม่ทัพมังกรทั้งสี่ทําให้รากฐานของอาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกรลดลงอย่างมาก ดังนั้นเมื่อร่างแยกมนุษย์มังกรของข้าสํารวจมัน อาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกรจึงปรากฏร่องรอยของความอ่อนแอในบางพื้นที่ 

หากอาณาจักรแห่งความฝันของวังมังกรยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แม้ร่างแยกมนุษย์มังกรจะสามารถคลี่คลายความฝัน แต่เขาก็ยังจะได้รับอิทธิพลจากมัน ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องขอบคุณผู้อมตะของทะเลตะวันออกที่ใช้พลังของอาณาจักรแห่งความฝันไปเป็นจํานวนมาก

หากผู้อมตะใช้วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันโดยตรง พวกเขาจะตายเพราะการสร้างอาณาจักรแห่งความฝันต้องใช้รากฐานทั้งหมดของพวกเขา

ขนาดและพลังของอาณาจักรแห่งความฝันจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์และตัวผู้อมตะ

แน่นอนว่าผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดไม่มีพลังงานอมตะระดับแปดที่สามารถกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันระดับแปด

 หมายความว่าการใช้วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันต้องเสียสละผู้อมตะระดับแปดงั้นหรือ?  ราคานี้สูงเกินไป ฟางหยวนไม่เต็มใจที่จะทดลอง

 แต่ในอนาคต เมื่อความสําเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันของข้ายกระดับขึ้น ข้าจะสามารถใช้วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งแห่งความฝันเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะและลบข้อบกพร่องของมัน 

 แต่มันยังมีประโยชน์ไม่มากนัก 

แม้ฟางหยวนจะมีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถสร้างอาณาจักรแห่งความฝันในอนาคต แต่เขายังต้องใช้รากฐานของตนเอง เขาต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ และความหมายที่แท้จริง นี่หมายความว่าระดับความสําเร็จของเขาจะลดลง

หากปราศจากความหมายที่แท้จริง อาณาจักรแห่งความฝันจะเป็นเพียงภาพลวงตาที่อ่อนแอ หลังจากทั้งหมดอาณาจักรแห่งความฝันก็คือความหมายที่แท้จริง หากผู้ส่ารวจประสบความสําเร็จในการคลี่คลายความฝัน พวกเขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงเหล่านั้น

 ในอนาคตเมื่ออาณาจักรแห่งความฝันกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง ข้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อวางกับดักศัตรู ข้าจะสามารถเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาศัตรูของข้าจะถูกจับโดยไม่สามารถต่อต้าน 

วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งแห่งความฝัน ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝัน ท่าไม้ตายอมตะความฝันซ้อนความฝัน และท่าไม้ตายอมตะเปิดเผยในความฝัน นี่คือรากฐานบนเส้นทางแห่งความฝันของเขา

แม้เขาจะไม่สามารถใช้งานพวกมัน แต่พวกมันก็ทําให้รากฐานบนเส้นทางแห่งความฝันของเขาเติบโตขึ้น นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวังมังกรและทําให้ฟางหยวนไม่ต้องฝึกฝนพวกมันมากนัก

นอกเหนือจากเส้นทางแห่งความฝัน เขายังได้รับประโยชน์ในด้านอื่น

สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือแม่ทัพมังกรทั้งสี่ ฟางหยวนได้รับผู้ใต้บังคับบัญชาระดับแปดที่แข็งแกร่งสี่คน

มรดกของอู่ส่วยและเผ่ามนุษย์มังกรถูกเก็บไว้ในวังมังกร สิ่งเหล่านี้ตกเป็นของฟางหยวนทั้งหมด

มรดกส่วนใหญ่เป็นมรดกบนเส้นทางแห่งทาส สิ่งที่มีค่าที่สุดเกี่ยวข้องกับกําแพงเฉียนคุน ยอดเขาวิจารณ์ศิลป์ และกองทัพมด

อู๋ส่วยปราบปรามและกดขี่ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ เขาได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมระวังอักษรศิลป์ของนาง อู๋ส่วยพบว่าเหตุผลที่วังอักษรศิลป์แข็งแกร่งมากเพราะมันมีเศษชิ้นส่วนของกําแพงเฉียนคนจํานวนมากเก็บไว้ภายใน

กําแพงเฉียนคุนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ มันถูกบันทึกไว้ในตํานานมนุษย์คนแรก แต่กําแพงเฉียน คนที่อยู่ในวังอักษรศิลป์เป็นเพียงเศษชิ้นส่วนของมันเท่านั้น

มูลค่าของยอดเขาวิจารณ์ศิลป์สามารถเปรียบเทียบได้กับทะเลหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวต้องการสร้างแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเทียมทะเลหลอมรวมในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาจ่ายด้วยราคามหาศาลแต่ยังไม่ประสบความสําเร็จ ยอดเขาวิจารณ์ศิลป์เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเทียมที่สร้างเสร็จแล้ว แต่มันมีค่าเท่ากับทะเลหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น

กองทัพมดเป็นมรดกที่แท้จริงของนักพรตมดเขียว หลังจากอู๋ส่วยได้รับมันมา เขาใช้มันเป็นวิธีการต่อสู้หลักของเขา ตราบเท่าที่พวกมันเติบโตถึงระดับหนึ่ง พวกมันจะมีพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวและสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดได้เพียงลำพัง

สุดท้ายคือวังมังกร จิตวิญญาณมังกร และความสําเร็จบนเส้นทางแห่งทาส

หลังจากร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนประสบความสําเร็จในการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของเขาบรรลุระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งทาสทันที

ย้อนกลับไปความสําเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของอู่ส่วยอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด นี่คือพรสวรรค์และความสําเร็จที่น่าตกตะลึงของเขา

ในประวัติศาสตร์นอกจากผู้อมตะระดับเก้า มีผู้อมตะระดับแปดที่มีความสําเร็จบนเส้นทางบางสายบรรลุระดับปรมาจารย์สูงสุดเพียงไม่กี่คน พวกเขาล้วนเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ ตัวอย่างเช่นบรรพชนผมยาว

กําไรของฟางหยวนในครั้งนี้มหาศาลมาก อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนได้รับมรดกทั้งหมดของเผ่ามนุษย์มังกรมาแล้ว

เพื่อดูดซับกําไรทั้งหมด เขาต้องใช้เวลาอีกมาก

แต่ฟางหยวนมีเวลาจํากัด เขาต้องเลือกสิ่งที่มีประโยชน์กับเขามากที่สุด

กองทัพมดเป็นเพียงนําตาลบนหน้าเค้ก ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปดและสามารถต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะระดับแปดได้ด้วยตัวเขาเองเพียงลําพัง นอกจากนี้การสร้างกองทัพมดยังต้องพึ่งพาทรัพยากรจํานวนมหาศาล

กําแพงเฉียนคุนและยอดเขาวิจารณ์ศิลป์เป็นรากฐานบนเส้นทางแห่งข้อมูล ฟางหยวนขาดวิธีการบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาตลอด ก่อนหน้านี้เขาต้องส่งหลี่เสี่ยวไปแฝงตัวเข้าไปในถ้ําสวรรค์วรรณกรรมเพื่อเติมเต็มเรื่อง

สิ่งที่ทําให้ฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อยคือวังมังกรขาดวิธีการป้องกันบนเส้นทางแห่งความฝัน หากมันมีวิธีการดังกล่าว มันจะมีประโยชน์มากกว่าเสื้อคลุมฤดูหนาวและกระทั่งเกราะหวนคืน!

แต่เมื่อคิดถึงชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนสามารถยอมรับความจริงเรื่องนี้ หากวังมังกรมีวิธีป้องกันบนเส้นทางแห่งความฝัน มันจะไม่ถูกกําหราบโดยราชันมังกร

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท