เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1864 คนที่ตายไปแล้ว

บทที่ 1864 คนที่ตายไปแล้ว

บทที่ 1864 คนที่ตายไปแล้ว

ชั้นที่เจ็ดของถ้ําปีศาจคลั่งค่อนข้างกว้างใหญ่โดยเฉพาะในความคิดของผู้อมตะปู้และนักวางแผน

พวกเขาต้องคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าว ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องอดทนต่อความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋า

ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าใด มันก็ยิ่งยากล่าบากมากขึ้นเท่านั้น

ฟางหยวนรู้สึกเห็นใจผู้อมตะปู้และนักวางแผนเล็กน้อย

หากข้าไม่มีร่างทารกอมตะ ข้าต้องเลือกเส้นทางที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่สอดคล้องกับข้าเช่นกัน แต่เส้นทางสายนี้จะแคบลงเรื่อยๆ ยิ่งลึกเข้าไป ตัวเลือกก็ยิ่งน้อย

ฟางหยวนเดินไปสักพักก่อนจะหยุดเท้า

เส้นทางที่เขาเลือกถูกตัดขาด แต่โชคดีที่หลังจากผ่านส่วนนี้ไป เส้นทางที่เขาเลือกยังปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ฟางหยวนชำเลืองมองผู้อมตะและนักวางแผนอย่างระมัดระวัง

คนทั้งสองถูกทิ้งไว้ข้างหลังและกําลังเผชิญหน้ากับความยากล่าบาก

พวกเขาลอบมองฟางหยวนเช่นกัน

ฟางหยวนแสร้งกัดฟันและเดินต่อไปข้างหน้า

ในที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะส่วนที่ยากลําบากและพบเส้นทางที่เหมาะสมอีกครั้ง นั่นทําให้ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลง

 ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาสําหรับข้า แต่การแสดงละครใช้พลังงานมากกว่า  ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขึ้นอยู่ภายใน

ผู้อมตะปู้กับนักวางแผนชําเลืองมองกันและกันจากระยะไกล

ความแข็งแกร่งของฟางหยวนเหนือกว่าความคาดหมายของพวกเขาไปแล้ว

แม้ฟางหยวนจะดูเหมือนกําลังพบกับช่วงเวลาที่ยากลําบากแต่เขายังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นผู้อมตะที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาอาจกระอักเลือดออกมาแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปผู้อมตะกับนักวางแผนก็ถูกบังคับให้หยุดเดิน พวกเขามาถึงขีดจํากัดในที่สุด

ฟางหยวนยังเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้า เขาดูเหมือนเหน็ดเหนื่อยแต่เห็นได้ชัดว่าเขายังมีแรงเหลืออยู่อีกมาก

 ฟางหยวนเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ 

 เห้อ…เขามีมรดกของผู้อมตะระดับเก้ามากมาย เขาเป็นคนที่เอาชนะวังสวรรค์ซ้ําแล้วซ้ําอีก ไม่แปลกที่เขาจะประสบความสําเร็จ 

ผู้อมตะปู้กับนักวางแผนลอบพูดคุยและถอนหายใจด้วยความรู้สึกหมดหนทาง

 เช่นนั้นเราจะรอดูเขาอยู่ที่นี่ ข้าอยากเห็นว่าเขาจะเดินไปได้ไกลเพียงใด  นักวางแผนสูดหายใจลึก

ผู้อมตะปู้ลังเลก่อนถาม  เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถเดินออกจากชั้นเจ็ดและเข้าสู่ชั้นแปดได้หรือไม่? 

 มันจะเป็นไปได้อย่างไร?  นักวางแผนปฏิเสธทันที แต่หลังจากไม่นาน เขาก็เปลี่ยนคําพูด  ความเป็นไปได้นี้มีไม่สูงนัก อย่างน้อยคนผู้หนึ่งต้องเดินไปหลายหมื่นก้าวเพื่อออกจากชั้นเจ็ด ระยะทางที่เราเดินได้ตอนนี้ยังไม่ถึงสิบในร้อยส่วน ฟางหยวนแข็งแกร่งมาก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด ข้ารู้สึกว่าอาจมีเพียง ผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่ชั้นแปด 

 ผู้อมตะระดับเก้า…  ผู้อมตะปู้คิดก่อนกล่าว  เราควรบอกฟางหยวนเกี่ยวกับเบาะแสที่ผู้อมตะระดับเก้าหลายคนมาที่นี่หรือไม่? 

 อืม  นักวางแผนพยักหน้า  รอจนกว่าฟางหยวนจะถึงขีดจํากัด เราจะบอกข้อมูลนี้กับเขาเมื่อเขากลับมา 

นักวางแผนยอมรับความแข็งแกร่งของฟางหยวน การบอกข้อมูลนี้กับฟางหยวนจะกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาและทําให้เขาอยู่ในถ้ําปีศาจคลั่งต่อไป

ฟางหยวนเดินไปสักพักก่อนจะหยุดเล็กน้อย

 นี่เป็นตําแหน่งที่ข้าเห็นนักวางแผนครั้งก่อน  ฟางหยวนตรวจสอบพื้นที่

เขาพบว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งโลหะและเส้นทางแห่งปฐพีที่เคยอยู่ที่นี่หายไป มันแตกต่างจากเดิมอย่างสมบูรณ์

ฟางหยวนไม่แปลกใจเพราะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าในชั้นที่เจ็ดสามารถเปลี่ยนแปลง

ทุกครั้งที่เสียงปีศาจดังขึ้น ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จะเกิดความปั่นป่วน มันจะส่งผลกระทบต่อถปีศาจคลั่งทั้งหมด

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไป

ผู้อมตะปู้และนักวางแผนมองเขาจากระยะไกล

เมื่อฟางหยวนก้าวข้ามตําแหน่งที่ไกลที่สุดที่นักวางแผนเคยไปถึง ช่วยไม่ได้ที่เปลือกตาของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาผู้นี้จะกระตุก

แม้เขาจะคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง เขาก็ยังรู้สึกถึงความสูญเสีย

 ข้าเป็นผู้นํากลุ่มที่เคยเดินไปได้ไกลที่สุด ข้าอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายร้อยปีและทุ่มเทกับสถานที่แห่งนี้มาตลอด แต่ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกฟางหยวนเอาชนะได้อย่างง่ายดายเช่นนี้  นักวางแผนลอบถอนหายใจ

ความอิจฉา ความเกลียดชัง ความโกรธ ความขมขึ้น ความโศกเศร้า และอารมณ์ต่างๆปะทุขึ้นในใจของเขา

ความรู้สึกของผู้อมตะปู้ดีกว่านักวางแผนมากเพราะผลงานของเขาแย่ที่สุดท่ามกลางปีศาจอมตะทั้งสาม

เมื่อเห็นการแสดงออกของนักวางแผน ผู้อมตะปู่ถอนหายใจ เขากําลังจะปลอบโยนอีกฝ่ายแต่ในเวลานี้การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เสียงปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง!

 เกิดสิ่งใดขึ้น?  ผู้อมตะปัตกใจ

นักวางแผนตกใจเช่นกัน  เสียงปีศาจัดงขึ้นในเวลานี้ได้อย่างไร? 

ผู้อมตะกล่าว  การอนุมานครั้งก่อนของเจ้าถูกต้อง จังหวะของเสียงปีศาจเกิดความปั่นป่วน เราไม่สามารถจับจังหวะของมันได้อีกต่อไป รีบหนีกันเถอะ! ที่นี่อันตรายเกินไป! 

ใบหน้าของนักวางแผนปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขาตะโกนไปทางฟางหยวน  เสียงปีศาจดังขึ้นแล้ว ถอยเร็ว! เราต้องออกจากชั้นเจ็ดเดี๋ยวนี้! 

ฟางหยวนหันกลับไปมองพวกเขา

สองปีศาจอมตะสูญเสียความสงบและเร่งล่าถอยด้วยความตื่นตระหนก

 ดูเหมือนพวกเขาไม่มีความคิดที่จะทําร้ายข้า  ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

เมื่อเสียงปีศาจดังขึ้น ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จะเกิดความปั่นป่วนโดยเฉพาะชั้นที่เจ็ดในสถานการณ์นี้ แม้ราชันมังกรจะอยู่ที่นี่ เขาก็ยังต้องเผชิญหน้ากับอันตรายร้ายแรง เขาจะอ่อนแอราวกับเด็กทารก ความตายเป็นผลลัพธ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง

อาจมีเพียงผู้อมตะระดับเก้าที่สามารถต่อต้านสิ่งนี้

 เร็วเข้า เราเกือบถึงทางออกแล้ว!  ดวงตาของนักวางแผนส่องประกายด้วยความยินดี

 ข้าไปไม่ไหวแล้ว!  ผู้อมตะล้มลงบนพื้น

นักวางแผนกัดฟันกล่าว  อดทนไว้! 

ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด นักวางแผนไม่สนใจอันตรายและพยายามลากดึงผู้อมตะปู้ที่หมดสติไปแล้ว

ใบหน้าของนักวางแผนกลายเป็นซีดขาว เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขา แต่เขาไม่กล้าหยุดพัก เขาทําได้เพียงกัดฟันอดทนและลากตนเองกับผู้อมตะออกไปที่ชั้นหก

 เดี๋ยว ฟางหยวนอยู่ที่ใด? ก่อนจะออกจากชั้นเจ็ด เขาเสี่ยงหันหลังกลับ

 อันใด!?  ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

เขาตกตะลึง

ฟางหยวนไม่ได้ล่าถอยแต่กลับเดินลึกเข้าไปอีก

 เจ้า เจ้า เจ้า!  นักวางแผนรู้สึกกระวนกระวายใจ

ฟางหยวนตอบกลับเสียงดัง  มันสายไปแล้วที่จะหลบหนี แต่ข้ามีทักษะลับ ข้ายังมีโอกาสรอดชีวิตเล็กน้อย การสํารวจที่นี่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ข้าเตรียมใจมาแล้ว อย่ากังวล นักวางแผน ขาหวังว่าเราจะมีโอกาสพบกันอีกครั้ง! 

นักวางแผนเงียบ เขาต้องการกล่าวว่า โอ้ ฟางหยวน เจ้าเป็นคนที่ตายไปแล้ว แต่เขาไม่สามารถกล่าวมันออกมา

ในที่สุดเขายังกล่าวบางคํา  ฟางหยวน เราจะพบกันอีกอย่างแน่นอน! 

ถ้อยคําเหล่านี้มีความหมายลึกซึ้ง

ด้านหนึ่งเขาให้กําลังใจฟางหยวน ในทางกลับกันมันเป็นการบอกลาล่วงหน้า ในอนาคตเขาอาจตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับฟางหยวน พวกเขาอาจพบกันอีกครั้งหลังความตาย

ฟางหยวนยิ้ม  นักวางแผนผู้นี้เป็นมิตรจริงๆ 

ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน นักวางแผนไม่ยินดีออกจากถ้ําปีศาจคลั่งขณะที่ผู้อมตะและเพิ่งซานถูกดึงเข้าสู่สงครามห้าภูมิภาค

อย่างไรก็ตามเพื่อปกป้องสหาย นักวางแผนจึงต้องออกจากถ้ําปีศาจคลั่งในที่สุด

แม้เขาจะเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา เขากลายเป็นปัญหาใหญ่สําหรับภาคกลางและวังสวรรค์

สามปีศาจอมตะจากถปีศาจคลังไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่พวกเขากลับมีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าสมาชิกตระกูลของฝ่ายธรรมะ

หลังจากใช้เวลาร่วมกันและช่วยเหลือกันมานานหลายร้อยปี ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็มาถึงจุดที่สามารถเดิมพันชีวิตเพื่ออีกคน

ฟางหยวนมองร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ในป่วนแต่ยังรู้สึกสงบ

หลังจากทั้งหมดพวกมันไม่ส่งผลกระทบต่อเขาแม้แต่น้อย

ในความเป็นจริงฟางหยวนกระทั่งรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าก่อนหน้าเพราะตอนนี้นักวางแผนและผู้อมตะปู้จากไปแล้ว

เขาเผยรอยยิ้มบางและเดินไปข้างหน้าอย่างสบายอารมณ์

เขามองความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นและรู้สึกว่ามันเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

‘ในอนาคตหากข้าต้องทิ้งมรดกเอาไว้เบื้องหลัง ข้าจะบันทึกฉากนี้เอาไว้และส่งต่อมั่นให้กับคนรุ่นหลังอย่างแน่นอน’ ฟางหยวนคิด

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท