เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1900 สุดยอดคนดี

บทที่ 1900 สุดยอดคนดี

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1900 สุดยอดคนดี

เกาะรวงผึ้งมีรูปร่างที่แปลกประหลาด มันเต็มไปด้วยหลุมและรูมากมาย

ผู้อมตะระดับหกไหล่กว้างเอวบางสวมชุดเกราะสีเขียวอยู่ที่นี่

ชายผู้นี้คือหนึ่งในผู้ติดตามของเมียวหมิงเฉิน เฟิงเจียง

 ฟบ ฟุบ ฟบ… 

ไส้เดือนด้ายแดงพุ่งเข้าโจมตีเฟิงเจียงจากทุกทิศทาง การโจมตีของพวกมันสามารถบังคับให้สัตว์อสูรเดียวดายล่าถอย

เฟิงเจียงเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล หลังจากไม่นานเหงื่อก็ไหลออกมาจากทั่วร่างของเขา

แม้เขาจะมีพลังการต่อสู้เหนือกว่าสัตว์อสูรเดียวดายและมีท่าไม้ตายอมตะมากมาย แต่มันยังเป็นเรื่องยากสําหรับเขาในการปราบปรามฝูงไส้เดือนด้ายแดงเหล่านี้

เขารับภารกิจปราบปรามฝูงไส้เดือนด้ายแดงบนเกาะรวงผึ้งและทําให้ระบบนิเวศของมันกลับมาเป็นปกติ

หากเขาลงมือรุนแรงเกินไป เกาะรวงผึ้งจะได้รับความเสียหาย เฟิงเจียงจะได้รับแต้มบุญน้อยลง

 บัดซบ!  เฟิงเจียงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยและบินออกจากเกาะรวงผึ้ง

ไส้เดือนด้ายแดงไม่ตายจากการตกจากที่สูง ร่างกายของพวกมันทั้งอ่อนนุ่มและแข็งแกร่ง หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่ชั่วครู่ พวกมันก็กลับเข้าไปในรัง

 ไส้เดือดด้ายแดงมีมากเกินไป ข้าเกรงว่าอาจมีสัตว์อสูรเดียวดายซ่อนอยู่ภายใน หลังจากทั้งหมดมันเป็นภารกิจระดับกลาง

 มันเป็นเรื่องยากที่คนผู้หนึ่งจะเข้าไปในรังของพวกมัน ยิ่งลึกลงไปเท่าใด มันก็ยิ่งแคบลงเท่านั้น ที่จะทําให้ข้าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เฟิงเจียงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจ

เขาเปิดทางเข้าออกมิติช่องว่างของตนและส่งฝูงผึ้งออกมา ผึ้งเหล่านี้มีพลังการต่อสู้ระดับน้ํา ผู้นําของพวกมันเป็นผึ้งระดับสัตว์อสูรเดียวดาย

นี่คือผึ้งวงแหวนสีเหลือง

เฟิงเจียงเลี้ยงผึ้งหลายชนิดเอาไว้ในมิติช่องว่าง ผึ้งวงแหวนเป็นหนึ่งในนั้น

โดยทั่วไปผึ้งจะอยู่รวมกันเป็นฝูง สมาชิกของพวกมันจะมาจากสายพันธุ์เดียวกัน แต่ผึ้งวงแหวนสี่เหลีองแตกต่างออกไป มันสามารถอยู่ร่วมกับผึ้งชนิดอื่น นอกจากนั้นพวกมันยังสามารถสืบพันธุ์และช่วยเพิ่มจํานวนผึ้งสายพันธุ์อื่นได้อีกด้วย

ผึ้งวงแหวนสีเหลืองเป็นผึ้งสายพันธุ์หลักในมิติช่องว่างของเฟิงเจียง

เฟิงเจียงเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออก เขามีทรัพยากรมากมายและสามารถเลี้ยงผึ้งระดับสัตว์อสูรเดียวดายเอาไว้มากกว่าสิบตัว ผึ้งวงแหวนสีเหลืองเป็นผึ้งสายพันธุ์หลักของเฟิงเพียงแต่เขามีผึ้งวงแหวนสีเหลืองเดียวดายเพียงสามตัวเท่านั้น

ครั้งนี้เฟิงเจียงนําผึ้งฝูงใหญ่ออกมา เขากําลังเสียง

ภายใต้คําสั่งของเฟิงเจียง ฝูงผึ้งวงแหวนสีเหลืองบุกเข้าไปในรังของศัตรู

การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดปะทุขึ้น

เกาะรวงผึ้งเกิดการสั่นสะเทือน รอยแตกร้าวค่อยๆปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมัน

เฟิงเจียงที่รออยู่เร่งซ่อมแซมเกาะทันที

เขาปล่อยให้ฝูงผึ้งต่อสู้อยู่ภายในขณะที่เขารับหน้าที่สนับสนุนอยู่ภายนอก

หลังจากชั่วครูไส้เดือนด้ายแดงเดียวดายก็น่าสมาชิกของมันล่าถอยออกจากรั้ง

เฟิงเจียงถอนหายใจ

ไส้เดือนด้ายแดงหลบหนีลงไปในทะเล เฟิงเจียงลังเลอยู่ชั่วครู่แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไม่ไล่ล่า

หากเขาต่อสู้ในทะเล เขาต้องทุ่มสุดตัวเพราะมีสัตว์อสูรหลายชนิดซ่อนตัวอยู่รอบๆ สถานการณ์อาจกลายเป็นเลวร้ายมากขึ้น

 ข้าไม่ควรเสี่ยง ข้าต้องซ่อมแซมเกาะรวงผึ้งก่อน 

เขาใช้เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนในการซ่อมแซมเกาะรวงผึ้ง

นอกจากซ่อมแซม เขายังเสริมจุดอ่อนของเกาะอีกมากมาย เขานําผึ้งจํานวนมากออกมาจากมิติช่องว่างและปลูกทุ่งดอกไม้เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์

 ตอนนี้มันกลายเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดกลางไปแล้ว  เฟิงเจียงถอนหายใจ

หากเป็นไปได้ เขาต้องการยึดเกาะแห่งนี้ แต่นี่เป็นภารกิจของหอคอยเกียรติยศ เขาไม่สามารถทําเช่นนั้น

หลังจากกลับมายังหอคอยเกียรติยศ เฟิงเพียงพบว่าเขาได้รับแต้มบุณประมาณแปดสิบแต้ม

เขาคิด มันไม่ใช่หนึ่งร้อยแต้ม ดูเหมือนการกระทําของข้าจะไม่สมบูรณ์ บางทีข้าควรกําจัดไส้เดือนด้ายแดงเหล่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันย้อนกลับมาที่เกาะรวงผึ้งในภายหลัง

 หรืออาจเป็นเพราะการสร้างระบบนิเวศบนเกาะยังไม่เพียงพอ

 ทะเลรอบๆเกาะรวงผึ้งอาจเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ แต่ข้าไม่ได้จัดการมัน นี่เป็นข้อผิดพลาดของข้า

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฟิงเจียงก็ถอนหายใจ

ไม่กี่วันก่อนฟางหยวนบอกความลับเกี่ยวกับตําแหน่งคนดีให้แก่เมียวหมิงเฉินและพันธมิตรของเขา

ดังนั้นเฟิงเจียงจึงแลกเปลี่ยนป้ายตําแหน่งคนดีและสามารถรับภารกิจระดับกลาง

เฟิงเจียงทําภารกิจระดับกลางสําเร็จเป็นครั้งแรกแต่เขาไม่มีความสุข

ไม่เพียงเขาจะไม่เข้าใจข้อกําหนดของภารกิจแต่เขายังต้องลงทุนกับภารกิจนี้ค่อนข้างมาก

เพื่อให้ได้รับแต้มบุญ เขาต้องเสียสละฝูงผึ้งวงแหวนสีเหลือง

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ

หลังจากทั้งหมดแต้มบุญสามารถแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ หากเขารวบรวมแต้มบุญได้มากพอ เขาจะสามารถแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ!

มันเป็นธุรกรรมที่คุ้มค่า

หากเป็นโลกภายนอก เฟิงเจียงจะไม่สามารถใช้ฝูงผึ้งแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะ

 แต่ภารกิจระดับกลางค่อนข้างยาก ข้าเชี่ยวชาญในการเลี้ยงผึ้ง ภารกิจนี้จึงเหมาะสมกับข้า แต่ข้ายังได้รับแต้มบุญเพียงแปดสิบแต้มเท่านั้น

 แล้วภารกิจอื่นจะเป็นเช่นไร? 

เฟิงเจียงมองหอคอยเกียรติยศ

มีภารกิจมากมายแต่เขาไม่สามารถรับภารกิจเหล่านั้น

ตัวอย่างเช่นภารกิจซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะ เฟิงเลี้ยงไม่มีความสามารถดังกล่าว

บางภารกิจเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บของสัตว์อสูรบรรพกาล ทักษะการรักษาของเฟิงเจียงก็ไม่ดีพอเช่นกัน

เฟิงเจียงเข้าใจทันที่ว่าเหตุใดฟางหยวนจึงเก็บตําแหน่งคนดีไว้เป็นความลับ

ตราบเท่าที่เขาเริ่มก่อน เขาจะสามารถเลือกภารกิจที่เหมาะสมกับตนเอง มันจะทําให้เขาสามารถรวบรวมแต้มบุญได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามเฟิงเจียงยังรู้สึกแปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้  ไม่ แม้มันจะเป็นเช่นนั้นแต่แต้มบุญของชองก็เพิ่มเร็วเกินไป เขาทําภารกิจเกือบสมบูรณ์ทั้งหมด เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมีประโยชน์กับที่นึ่งั้นหรือ?

เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้น

 ท่านชูอิง  เฟิงเจียงทักทาย

ฟางหยวนพยักหน้าให้เขาก่อนจะมองไปยังหอคอยเกียรติยศ

แต้มบุญของเขาที่เคยอยู่ด้านล่างสุดพุ่งขึ้นสู่สามอันดับแรกอีกครั้ง

 เขาได้รับแต้มบุญห้าร้อยแต้มในครั้งเดียว!  หัวใจของเฟิงเจียงสั่นสะท้านขึ้น

 ข้าใช้แต้มบุญหนึ่งพันแต้มแลกเปลี่ยนป้ายตําแหน่งคนดีจริงๆ มันทําให้ข้าสามารถรับภารกิจระดับสูง  ฟางหยวนอธิบายด้วยรอยยิ้ม

เฟิงเจียงตกตะลึงก่อนจะโค้งคํานับ  ขอบคุณสําหรับคําแนะนํา

ฟางหยวนพยักหน้าขณะที่เขาเดินไปด้านหลังหอคอยเกียรติยศและแลกเปลี่ยนป้ายตําแหน่งสุดยอดคนดี

เฟิงเจียงสงสัยจแต่เขาไม่กล้าถามขณะที่ฟางหยวนก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้

เฟิงเจียงมั่นใจว่าสิ่งที่ฟางหยวนแลกเปลี่ยนต้องมีประโยชน์มาก

 ดูจากเวลา พวกเขาจะกลับมาในไม่ช้า  ฟางหยวนไม่ได้รับภารกิจทันทีแต่เดินเข้าไปหาเฟิงเจียง

เฟิงเจียงพยักหน้า เขารู้ว่าฟางหยวนหมายถึงกลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉิน เขาตอบ  พวกเขาควรจะมาถึงเร็วๆนี้ 

ดังคาด หลังจากไม่นานเมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆก็กลับมา

เฟิงเจียงบอกความลับเกี่ยวกับตําแหน่งคนดีจริงๆแก่คนอื่นๆอย่างรวดเร็ว

เมียวหมิงเฉินคิด  ตําแหน่งคนดีสามารถรับภารกิจระดับกลาง ขณะที่คนดีจริงๆสามารถรับภารกิจระดับสูงนี้ คือชุดของชื่อ มันสามารถเชื่อมโยงได้อย่างง่ายดาย

เมียวหมิงเฉินรู้สึกขอบคุณฟางหยวน

ฟางหยวนบอกข้อมูลเกี่ยวกับตําแหน่งคนดีให้แก่พวกเขา ขณะที่สมาชิกตระกูลเฉินกับเหรินซิ่วผิงเก็บมันไว้เป็นความลับ

 พี่เยี่ยว ท่านไม่จําเป็นต้องกลัวเฉินกงเจิ้ง ข้ามีวิธีที่จะหลบหนีจากเฉินกงเจิ้งเมื่อพวกเราออกไปข้างนอก ระยะห่างที่พวกเราถูกส่งออกไปเพียงพอให้พวกเราปลอดภัย  ฟางหยวนโกหกขณะที่กลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินรู้สึกตกใจมาก

กุ้ยฉีเย่ขมวดคิ้ว  มันเป็นสมบัติของหอคอยเกียรติยศงั้นหรือ? 

 ถูกต้อง  ฟางหยวนพยักหน้าแต่เขาไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่

เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆต้องเชื่อเขาโดยไม่มีทางเลือก

เพราะเหตุใด?

มันเป็นเพราะทัศนคติรนหาที่ตายของชูอิงที่มีต่อเฉินกงเจิ้ง ความจริงที่ว่าเขาปราศจากความกลัว มันเกิดจากความมั่นใจบางอย่างของเขา

ฟางหยวนกล่าวต่อ  ตอนนี้ข้าสามารถรับภารกิจระดับสุดยอด แต่ข้าไม่สามารถทํามันได้โดยล่าพัง ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านทั้งหมด 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็แบ่งปันรายละเอียดของภารกิจระดับสุดยอดกับคนอื่นๆ

เมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆรู้สึกตกใจมาก หลังจากได้รับข้อมูล การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

แท้จริงแล้วในชีวิตก่อนหน้าเมี่ยวหมิงเฉินเป็นคนค้นพบความลับนี้

ตําแหน่งสุดยอดคนดีอนุญาตให้พวกเขารับภารกิจระดับสุดยอดและแบ่งปันภารกิจ

ฟางหยวนสามารถแบ่งปันภารกิจ แต่เขาไม่สามารถบังคับให้คนอื่นๆรับภารกิจ

เสี่ยวหมิงเฉินคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยอมรับมัน

เขาพึ่งทําภารกิจระดับกลางเสร็จเป็นครั้งแรก เขามีความรู้สึกเหมือนเฟิงเจียง

ฟางหยวนมีช่วงเวาที่สะดวกสบายเพราะเขาบ่มเพาะหลายเส้นทาง เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆบ่มเพาะบนเส้นทางสายเดียว มีไม่กี่ภารกิจที่เหมาะสมกับพวกเขา

ภารกิจระดับกลางไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขายังต้องลงทุนบางอย่าง นี่ทําให้เสี่ยวหมิงเฉินตัดสินใจทํางานร่วมกับฟางหยวนและทดลองสิ่งใหม่ๆ

 

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท