ตอนที่ 119 ลาก่อนพี่ใหญ่
“ใครบอกว่านี่คืออาหาร! ฮี่ฮี่ฮี่ เจ้าคนตะกละตัวน้อย ในหัวมีแต่อาหารเหรอ ดูชัดๆ! ท๊าด๊ามมมม~~ !!” ถังหยุนห่าวยิ้มอย่างลึกลับแล้วดึงบางอย่างออกจากถุงพลาสติกของเขา
“นี่คือหนังสือการ์ตูนและนวนิยาย! ทั้งหมดนี้เธอจะไม่มีวันเบื่อเลย แม้ว่าฉันจะไม่อยู่ที่นี่กับเธอด้วย ดูสิ ฉันเอาแท็บเล็ตมาให้เธอด้วยนะ! เธอสามารถอ่านนิยายบนเว็บหรือดูภาพยนตร์จาก YouTube ได้ด้วยสิ่งนี้!” ถึงหยุนห่าวหยิบสิ่งของในถุงพลาสติกออกมาทีละชิ้นอย่างร่าเริงและแนะนําให้ถังลี่เสวี่ยอย่างสุภาพ
“พี่ใหญ่ ทําไมพี่ถึงใช้เงินซื้อของไร้ประโยชน์ทั้งหมดนี้ พี่ควรเก็บเงินทั้งหมดเพื่อ…” ถังลี่เสวี่ยขมวดคิ้ว และพยายามตําหนิพี่ใหญ่ของเธอ แต่พี่ชายใหญ่ของเธอขัดจังหวะคําพูดของเธอทันที
“อ๊ากกกกก!! ฉันไม่ต้องการที่จะได้ยินมัน! เสี่ยเอ๋อร์ฉันไม่ได้ซื้อของพวกนี้ทั้งหมด! ฉันขอยืมมันทั้งหมดจากเพื่อนของฉันต่างหากล่ะ!” ถังหยุนห่าวอธิบายอย่างรวดเร็วเพื่อทําให้ถังลี่เสวี่ยสงบลง
“จริงเหรอ แต่ฉันเห็นป้ายราคาด้านหลังชัดเจนเลยนะ” ริมฝีปากของถังลี่เสวี่ยโค้งขึ้นและกล่าวว่า
“อะไรนะ! นั่นเป็นไปไม่ได้! ฉันแน่ใจว่าฉันได้ดึงมันออกทั้งหมดแล้ว และฉันตรวจสอบมันทั้งหมดสองครั้งก่อนที่ฉันจะให้” ถังหยุนห่าวตื่นตระหนก ตรวจสอบหนังสือทั้งหมดและแท็บเล็ตอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน… เสี่ยเอ๋อร์! เธอโกหกพี่ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง!” ถังหยุนห่าวจ้องถังลี่เสวี่ยด้วยความโกรธ
ถังลี่เสวี่ยหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อเธอเห็นว่าพี่ใหญ่ของเธอยังงี่เง่าเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอก็ไอออกมาอย่างแรงทันทีหลังจากนั้น
ถังหยุนห่าวรีบหยิบน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้กับถังลี่เสวี่ย
ถังลี่เสวี่ยสงบลงหลังจากที่เธอดื่มน้ำอุ่นหนึ่งคํา เธอยังคงจ้องมองพี่ชายของเธอด้วยความอ่อนโยนและโหยหา
“อะไรกัน ตอนนี้เธอเริ่มหลงรักความหล่อของพี่แล้วเหรอ ฮิฮิ… ถ้าอย่างนั้นพี่ใหญ่จะรับรักจากเธออย่างไม่เต็มใจ ถ้าเธอสามารถจับแก้มฉันได้แล้ว!” ถังหยุนห่าวขยายแก้มขวาของเขา เข้าไปใกล้ถังลี่เสวี่ย
ถังลี่เสวี่ยหัวเราะคิกคักและพึมพําช้าๆ
“หากเพียงช่วงเวลานี้สามารถคงอยู่ตลอดไป แม้ว่าฉันจะยังปวยและอ่อนแอเช่นนี้ แต่ฉันเต็มใจที่จะ… เห้อ… น่าเสียดายที่…. ตลอดไป…”
“พี่ใหญ่ เสี่ยเอ๋อร์มีความสุขมากในขณะนี้
“เสี่ยเอ๋อร์มีระบบของตัวเองในตอนนี้ เหมือนกับในนวนิยายที่พี่ใหญ่มอบให้ฉันเลย”
“เสี่ยเอ๋อร์ไม่ได้อ่อนแอและปวยอีกต่อไป เสี่ยเอ๋อร์แข็งแกร่งมากในตอนนี้ เสี่ยเอ๋อร์สามารถเอาชนะศัตรูทั้งหมดได้เหมือนฮีโร่ในภาพยนตร์และการ์ตูน”
“เสี่ยเอ๋อร์ยังมีมังกรขนาดใหญ่เป็นสัตว์ขี่ และนางฟ้าที่สวยงามเป็นสัตว์เลี้ยง เสี่ยเอ๋อร์ยังมีจิ้งจอกดําตัวเล็กที่แข็งแกร่งสุด ๆ แต่น่ารักเป็นเพื่อนร่วมทาง! ระบบของเสวี่ยเอ๋อร์นั้นทรงพลังมากและจะทําให้เสี่ยเอ๋อร์ได้เป็นเทพที่สวยงามและแข็งแกร่งที่สุดในเวลาไม่นาน!”
ถังลี่เสวี่ยเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ชายของเธอฟัง แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ถังหยุนห่าวตะลึง และการแสดงออกของเขาบอกว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ถังลี่เสวี่ยบอกเขา
“เอ่อ ก็คือสรุปได้ว่า ในตอนนี้เสวี่ยเอ๋อร์มีความสุขมาก ดังนั้นพี่ใหญ่ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเสวี่ยเอ๋อร์อีกต่อไปแล้วนะ… พี่ใหญ่ ได้โปรดวางใจเถอะ พี่สามารถแสวงหาความสุขของพี่เองต่อจากนี้ไป.พี่ได้ทําดีมาก มันเพียงพอสําหรับเสี่ยเอ๋อร์แล้ว” ถังลี่เสวี่ยสะอื้นไห้แต่คําพูดของเธอก็ผ่อนคลายมาก
ถังหยุนห่าวเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อคิดคําพูดของถังลี่เสวี่ยอย่างระมัดระวัง และเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนทันทีแล้วพูดว่า
“ฉันเห็น.. เธอมีความสุขมากในตอนนี้ อั้ยยะ! แต่เมื่อเธออยู่ที่นี่ฉันคิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่สามารถทําให้เธอมีความสุขได้นะ!”
“มังกร นางฟ้า และจิ้งจอกดํา อืม…. ระบบที่ทรงพลังด้วย! เฮ้อ…. ตอนนี้ฉันเริ่มอิจฉาเสวี่ยเอ๋อร์แล้วด้วย! จะทํายังไงดี! ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่จําเป็นอีกแล้ว!” ถังหยุนห่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง แต่การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ราวกับว่าในที่สุดเขาก็ได้รับการปลดปล่อยจากภาระทั้งหมด
“เสี่ยเอ๋อร์ ได้โปรดใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุขที่สุดตอนนี้ เธอจะไม่ต้องเสียใจในภายหลังพี่ใหญ่ จะไม่สามารถไปกับเธอได้อีกต่อไป แต่พี่ใหญ่มั่นใจมากว่าเธอจะหาใครซักคนได้ เขาจะล้ำค่ากว่าพี่ใหญ่ของเธอในวันข้างหน้า” ถังหยุนห่าวยืนขึ้นและจูบหน้าผากถังลี่เสวี่ยอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้าย
“ลาก่อน… พี่ใหญ่” ถังลี่เสวี่ยพึมพํา เธอหลับตาลงและน้ำตาไหลอาบใบหน้าของเธอ
“ลาก่อน เสวี่ยเอ๋อร์ พี่ใหญ่รักเธอจริงๆ และจะรักตลอดไป” ถังหยุนห่าวยิ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยน จากนั้นเขาก็เปิดประตู และเดินออกจากห้องของถังลี่เสวี่ย
เพล้งเพล้ง..เพลงเพลงเพล้ง
ฉากหน้าถังลี่เสวี่ยเริ่มแตกทีละนิดเหมือนกําแพงแก้ว
ห้องพยาบาลที่มีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ
หมอนนุ่มและเตียง..
โซฟาริมหน้าต่างที่พี่ใหญ่เธอหลับตลอด
ดอกไม้กับแจกันที่พยาบาลใจดีดูแลเสมอมา
ที่ที่เธอคุ้นเคยที่สุด
ในที่สุดทุกอย่างก็พังทลายลงในความว่างเปล่า
อาณาจักรอันดับต่ำ โลกสมัยใหม่ โรงพยาบาลเพิ่งหัว
ในห้องที่ถังหยุนห่าวยังคงนอนอยู่ในสภาพที่เป็นพืช…
ไม่มีใครรู้ แต่จิตสํานึกของถังหยุนห่าวยังคงดิ้นรนในทุกช่วงเวลา
เขายังไม่อยากตาย..
เขายังมีหนี้ก้อนโตที่ต้องจ่าย
และที่สําคัญ เขายังมีน้องสาวสุดที่รักของเขาที่รอเขาตื่นอยู่
แต่ตอนนี้เขาฝัน…เขาฝันว่าได้พบน้องสาวของเขาอีกครั้ง และน้องสาวของเขานั้น เธอบอกกับเขาว่าเธอสบายดี
เธอยังกล่าวคําอําลาครั้งสุดท้ายกับเขา
ตาของถังหยุนห่าวยังคงปิดอย่างแน่นหนา แต่ริมฝีปากสีซีดของเขาค่อยๆ โค้งขึ้น
ตี๊ดดดดดดดดดดดดด~~!!
ชีวิตของถังหยุนห่าว ในที่สุดก็หยุดลงแล้วในขณะนี้
….
….
.
ร่างกายของถังลี่เสวี่ยกระตุก และเธอค่อยๆลืมตาขึ้น
เธอมองไปรอบๆ บริเวณหมอกสีรุ้งด้วยความสับสน แต่เธอก็สงบสติในทันที และมองไปยังหญิงสาวผมดําที่อยู่ข้างหน้าเธอด้วยความระแวดระวัง
“ยี่สิบนาที ไม่เป็นไรจริงๆ เจ้าหนูน้อย! คุณเป็นคนแรกที่หลุดพ้นจากภาพลวงตาใต้พิภพท่ามกลางทุกคน” สาวผมดําพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แม้จะสวมหน้ากากจิ้งจอกไว้ก็ตาม ถังลี่เสวี่ยก็รู้ดีว่าสาวผมดํายกย่องเธอขณะยิ้ม
เด็กสาวผมดํานั่งอยู่บนก้อนหิน และนั่งไขว่ห้างด้วยขาเรียวยาวของเธอ
ถังลี่เสวี่ยมองไปรอบ ๆ เธอ และเห็นสุนัขจิ้งจอกที่หมดสติตัวอื่น ๆ นอนราบอยู่บนพื้นเหมือนเธอก่อน
“ลวงตาใต้พิภพกําลังทดสอบพลังจิต ความอุตสาหะ และพลังวิญญาณของพวกคุณ หากพวกคุณไม่ตื่นขึ้นหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ก็จะไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีกเลย จริงๆ แล้วฉันค่อนข้างแปลกใจที่สัตว์ร้ายอย่างคุณเป็นคนแรกที่หลุดออกมาจากลวงตาใต้พิภพได้ ตอนนี้ฉันอยากรู้จริงๆ คุณทําได้ยังไง! คุณยังไม่ได้เป็นสัตว์อสูรด้วยซ้ำ!” หญิงสาวผมดําวางฝ่ามือบนคางและสังเกตถังลี่เสวี่ยอย่างสงสัย
ถังลี่เสวี่ยสั่นเล็กน้อยภายใต้การจ้องมองของสาวผมดํา
ถังลี่เสวี่ยรู้สึกประหม่าและหวาดกลัวจริงๆ เธอกลัวว่าสาวผมดําจะรู้อะไรบางอย่างภายในร่างกายของเธอ.. เช่น [ไข่มุกแห่งราชามังกรสุริยัน] หรือระบบของเธอ
“มันยากจริงหรือที่จะทําลายภาพลวงตานั้น? อันที่จริงฉันยังจําทุกอย่างชัดเจนในภาพลวงตานั้น และฉันสามารถทําลายมันให้เร็วขึ้นได้อย่างง่ายดายหากต้องการ แต่… เห้อ… ฉันคิดถึงพี่ใหญ่ของฉันจริงๆ ดังนั้นฉันจึงอยู่ในภาพลวงตานั้นนานขึ้นอีกนิด
หญิงสาวผมดําหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อเห็นการจ้องมองที่สงสัยของถังลี่เสวี่ย
“มายาใต้พิภพไม่ใช่ภาพลวงตาจริงๆ จริงๆ แล้วมันคือสะพานที่เชื่อมโยงคุณทั้งหมดชั่วคราวกับวิญญาณที่ตายแล้วของคนที่คุณรักผ่านภาพลวงตา แต่ถ้าคุณอยู่ที่นั่นนานเกินไป คุณจะไม่สามารถกลับมาได้อีก และคุณต้องอยู่ที่นั่นตลอดไป คุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไรใช่ไหม” บางที่เด็กสาวผมดําอาจจะเบื่อแล้ว ดังนั้นเธอจึงอดทนอธิบายทุกอย่างให้ถังลี่เสวี่ยฟัง
ร่างกายของถังลี่เสวี่ยสั่นไหวขณะคิดว่า
“หมายความว่าพี่ใหญ่ที่ฉันพบก่อนหน้านี้คือของจริงงั้นหรอ? ไม่ใช่ภาพลวงตา? ไม่มีทางใช่ไหม พี่ใหญ่ของฉัน…ยังไม่ตาย…”
ถังลี่เสวี่ยตกอยู่ในความงุนงงสักครู่หลังจากนั้น แต่เธอก็ส่ายหัวทันที
“อืม… ทําไมฉันต้องคิดเรื่องนี้ด้วย! ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้นจากหมอกสีรุ้งนี้! ลืมมันไปเสียก่อน และโฟกัสกับสิ่งที่ฉันต้องทํา!”
ถังลี่เสวี่ยนั่งและหลับตา เธอวางอุ้งเท้าทั้งสองไว้ด้วยกันแล้วสวดอ้อนวอนให้พี่ใหญ่ของเธอเพื่อที่เขาจะได้ตื่นจากสภาพพืชในเร็ววัน และฟื้นคืนสติจากนั้นเขาก็จะได้รับความสุขของตัวเองในที่สุด
“โอ้ จําไว้นะ ฉันรู้นะว่าก่อนหน้านี้คุณโกง ดังนั้นคุณต้องเกลี้ยกล่อมแฟนของคุณให้เข้าร่วมชั้นเรียนของฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไปบอกลูกศิษย์ และผู้สอนทุกคนในบ้านจิ้งจอกให้รับรู้เรื่องนี้!” หญิงสาวผมดําพูดอย่างเกียจคร้านด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของเธอ แต่หัวข้อการพูดคุยของเธอนั้นไม่หวานสําหรับถังลี่เสวี่ย
ถังลี่เสวี่ยสะดุดเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่หญิงสาวผมดําบอกกับเธอ
“อะ…อะไรนะ! นี่เป็นภัยคุกคามใช่มั้ย? บังคับ?! ไม่ นี่มันแบล็กเมล์กันชัดๆ เลยนี่ ใช่ไหม!”
ถังลี่เสวี่ยเกือบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อเธอได้ยินคําขู่ของหญิงสาวผมดํา
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มจิ้งจอกที่อยู่เบื้องหลังถังลี่เสวี่ยเริ่มฟื้นคืนสติทีละคน
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาจิ้งจอกทั้ง 20 ตัวที่ผ่านเขตหมอกสีดํา มีจิ้งจอกเพียง 11 ตัวเท่านั้นที่สามารถฟื้นคืนสติได้หลังจากเข้าไปในพื้นที่หมอกสีรุ้งนี้ในที่สุด
พวกเขาอยู่ในการทดสอบครั้งแรกเท่านั้น และการทดสอบที่โหดร้ายเหล่านี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้น แต่พวกเขาได้สูญเสียสุนัขจิ้งจอกไปมากกว่าหนึ่งในสามในกลุ่มแล้ว