เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก – ตอนที่ 153

ตอนที่ 153

ตอนที่ 153 อย่าได้ผิดพลาดอีก!
สิ่งแรกที่ถังลี่เสวี่ยทําหลังจากที่เธอกลับเข้ามาในห้องของเธอคือการโยนแกนอสูรระดับ [หายาก] ที่เธอได้มานั้นเข้าไปในหม้อโบราณด้วย
ถ้าชายคนนั้นได้สิ่งที่เขาต้องการในคืนนี้ ฉันก็จะสามารถขายแกนอสูรระดับหายากนี้ได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ปัญหาตอนนี้คือผู้ชายคนนั้นไม่ได้สิ่งที่ต้องการในคืนนี้ ดังนั้นเขาอาจจะค้นหามันอย่างไม่ลดละหลังจากที่เขารู้แล้วฉันไม่สามารถขายแกนสัตว์อสูรระดับ [หายาก] นี้ในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นได้อีกต่อไปไม่เช่นนั้นชายคนนี้ นสามารถตามตัวฉันได้!
ถังลี่เสวี่ยกัดฟัน และตัดสินใจที่จะไม่ขายแกนสัตว์อสูรระดับ [หายาก] นี้
ถังลี่เสี่ยเรียกญาญ่าออกจากระบบ หลังจากที่เธอสงบลงแล้ว
ญาญ่าโกรธถังลี่เสี่ยชั่วขณะหนึ่ง แต่ถังลี่เสี่ยพยายามเกลี้ยกล่อมเธอด้วยคํามั่นสัญญาว่าจะเลี้ยงเธอด้วยอาหารอร่อยๆ ในอาหารค่ําคืนนี้
ญาญ่าก็กระโจนเข้าหาถังลี่เสวี่ย และหอมแก้มถังลี่เสวี่ยอย่างมีความสุขหลังจากที่เธอได้ยินคําสัญญานั้น
ถังเสวี่ยเปิดใช้งานความสามารถขั้นเทพ [การแปลงร่าง] อีกครั้ง และเธอก็กลายเป็นมนุษย์ ก่อนที่เธอจะมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารสุดหรูบนชั้นหนึ่งกับญาญ่า
ถังลี่เสวี่ย และญาญ่าพบกับ ปิงอี้ เฮยหยิงห่าว หลี่จึงและคนอื่นๆ ในร้านอาหารสุดหรู และพวกเขาก็ทักทายกัน
เมื่อหลี่จึงและคนอื่นๆ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และญาญ่าก็ยุ่งกับอาหารทุกจานที่อร่อยบนโต๊ะ ถังลี่เสวี่ ยกินสิ่งที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเธอโดยไม่รู้ตัว
จิตใจของเธอกําลังวุ่นอยู่กับการคิดว่าเธอจะจัดการกับกล่องดําเล็กๆ นั้นอย่างไร
เธออยากรู้จริงๆ และต้องการเปิดมันตอนนี้เพื่อดูว่าข้างในนั้นมันคืออะไร แต่มันอาจจะเหมือนกับเธอกําลังฆ่าตัวตายก็ได้หากเธอเปิดมันตอนนี้
ถังลี่เสวี่ยจึงตัดสินใจที่จะเปิดมันในอีกแปดวัน ในวันที่เธอจะทําการวิวัฒนาการ เพราะเธอจะใช้ [สติกเกอร์มหาโชค] ในขณะนั้นด้วย
อย่างน้อยเธอจะได้รับการคุ้มครองโชคจาก [สติกเกอร์มหาโชค] และเธอไม่ต้องกังวลหากชายผู้นั้นจะพบเธอในวันนั้น
หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ถังลี่เสวี่ยและญาญ่าก็กลับมาที่ห้องของพวกเขา ถังลี่เสี่ยใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกฝน [ศิลปะแห่งการปกปิด] และท่าเต้นแปลก ๆ ที่อาจารย์เหมยหลานให้เธอมาฝึกเป็นเวลาสองสามชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืนก่อนที่เธอจะหลับไปพร้อมกับญาญ่า
ชายที่สวมเสื้อคลุมสีดําปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้ในห้องมืด ดูเหมือนว่าเขาใช้พื้นที่เคลื่อนย้ายเพื่อเข้าไปในห้องมืด
เขาคุกเข่าด้วยความเคารพทันที
“เธอได้ “สิ่งนั้น” มาไหม?” เสียงผู้หญิงถามอย่างเกียจคร้าน
มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องมืดนี้ และเธอก็มีความงามที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับมีผมสีม่วงยาว
ใบหน้าของเธอดูเหมือนหยกขัดเงา และผิวของเธอก็ดูเรียบเนียนและขาว ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยจิตวิญญาณ และหน้าอกที่ใหญ่โตเป็นพิเศษของเธอดูเหมือนกับจะหลุดออกจากชุดสีขาวหลวมๆของเธอ ได้ทุกเมื่อ
ข้างหน้าเธอมีกระดานหมากรุก และเธอกําลังเล่นคนเดียวโดยไม่มีใครมาเล่นกับเธอ
รูปร่างหน้าตาของเธอเหมือนกับเด็กสาววัยรุ่นที่สวยงามทั่วไป แต่น่าประหลาดใจที่มีหางสีม่วงสี่หางอยู่ข้างหลังเธอ
หางทั้งสี่ของเธอก็ไม่ปกติเหมือนจิ้งจอกตัวอื่นๆ!
ดูเหมือนว่าหางทั้งหมดของเธอจะควบแน่นจากเปลวไฟสีม่วง
แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะดูเด็ก แต่เสียงของเธอดูแก่และมีอายุมาก เห็นได้ชัดว่าอายุของผู้หญิงคนนี้ไม่ตรงกับรูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอเลย
จิ้งจอกระดับ [ไม่ธรรมดา] มีสองหาง
จิ้งจอกระดับ [หายาก] มีสามหาง
ผู้หญิงที่สวยคนนี้มีสี่หาง หมายความว่าเธอไปถึงระดับสัตว์วิญญาณหรือจิ้งจอกระดับ [ตํานาน] แล้ว!
“ท่านหญิง ข้าน้อยนํากระเป๋าอวกาศมาได้!” ชายคนนั้นก้มศีรษะลงและเข้าหาผู้หญิง
ผู้หญิงคนนั้นโบกมือขาวเรียวของเธอ และชายคนนั้นก็วางกระเป๋าไว้บนมือของผู้หญิง จากนั้นเขาถอยกลับไปที่เดิมแล้วคุกเข่าลงอีกครั้ง
ผู้หญิงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ขณะที่เธอจ้องไปที่ผู้ชายด้วยความพึงพอใจในดวงตาของเธอ
“ทําได้ดีมาก! ฉันจะให้รางวัลอย่างมากมายในภายหลัง!” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มขณะเริ่มค้นหาของในกระเป๋าอวกาศ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มที่มีความสุขของผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มจางหายไป และกลายเป็นการแสดงออกที่เยือกเย็นซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความผิดหวัง
ป้างงง
ผู้หญิงคนนั้นโยนกระเป๋าอวกาศลงบนหัวของผู้ชาย ชายคนนั้นสั่นเทาด้วยความกลัวและก้มหน้าลงจนหน้าผากแตะพื้น เขากลัวเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นและพบกับสายตาที่เย็นชาของหญิงสาว
“ได้โปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วย! ข้าน้อยสาบานว่าพบเพียงกระเป๋าอวกาศนี้เท่านั้นบนร่างของทูตผู้นั้น! มันไม่มีอย่างอื่นอีกเลย!” ชายคนนั้นรีบอธิบาย
“คุณตรวจทุกตารางนิ้วของศพทูตคนนั้นหรือเปล่า”
“ได้ตรวจในปาก หรืออวัยวะภายในทั้งหมดนั้นหรือไม่!”
“คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่าได้ตรวจสอบแล้วว่านักการทูตคนนั้นไม่ได้ทิ้งอะไรไว้หลังจากคุณกําจัดศพโดยใช้ของเหลวพิษนั้นจริงๆ ใช่มั้ย!” ผู้หญิงคนนั้นถามไม่หยุด แต่คําพูดของเธอแต่ละคํามีพลังมากจนผู้ชายรู้สึกหายใจไม่ออกและหัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น
“ฉัน…ฉัน… ฉันขอโทษ ท่านหญิง! ฉันจะกลับไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้!” ชายคนนั้นก้มโค้งอีกสองสามครั้งจน หน้าผากชนกับกระเบื้องและมีเลือดออก
“รอ!” ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากที่นั่งและค่อยๆ เข้าหาชายคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ผู้ชาย แต่ดวงตาของเธอเย็นชา มันเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความกระหายเลือดที่ทําให้ชายคนนั้นตัวสั่น
ผู้หญิงคนนั้นแตะใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นเบา ๆ ด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเธอ ราวกับว่าเธอพยายามจะเกลี้ยกล่อมเขาและนําใบหน้าที่สวยงามยิ่งของเธอเข้ามาใกล้เขา
ริมฝีปากเชอร์รี่เซ็กซี่ของหญิงสาวแนบชิดกับแก้มของชายคนนั้นมาก และหน้าอกอันใหญ่โตที่ยั่วยวนของเธอก็กดลงบนไหล่ของผู้ชาย
หากเป็นชายอื่นคงจะกระโจนเข้าหาผู้หญิงตรงนี้ที่สวยและมีเสน่ห์คนนี้ เพื่อระบายความต้องการทางเพศกับร่างกายที่เย้ายวนของเธอแล้ว
แต่นั้นก็จะเกิดขึ้นต่อเมื่อผู้ชายเหล่านั้นไม่รู้จักความโหดร้ายที่แท้จริง และความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้!
หากพวกเขารู้ พวกเขาจะไม่กล้าที่จะมีความคิดสกปรกใด ๆ ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้เป็นอันขาด!
“คุณสามารถพาคนไปด้วยได้อีกห้าคน แต่จําไว้ใ จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดอีกต่อไป! ฉันเพียงต้องการได้ยินเพียงแค่ความสําเร็จของคุณในครั้งนี้ ดังนั้นถ้าฉันได้ยินอย่างอื่น… คุณรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณใช่ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นขยับริมฝีปากเชอร์รี่เซ็กซี่ของเธอไปที่หูจิ้งจอกข้างขวาของชายคนนั้นและกระซิบเบา ๆ
ผู้ชายสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของผู้หญิงที่หจิ้งจอกข้างขวา แต่มันทําให้เขารู้สึกหวาดกลัวและ สยดสยองมากขึ้นเท่านั้น
“ข้า… ข้าน้อยคนนี้… เข้าใจ! ข้อน้อยสาบานว่าจะไม่ทําผิดอีก ไม่เช่นนั้น… จะตายอย่างน่าสยดสยอง!” เสียงของชายคนนั้นสั่นและเขาพูดติดอ่าง
อ๊ากกกกกกกก!!!
ชายคนนั้นแทบอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่เขารีบกลืนเสียงกลับและกัดฟันทนต่อความเจ็บปวด
ทุกส่วนของร่างกายของผู้ชายคนนั้นที่ผู้หญิงเคยสัมผัสมาก่อนเริ่มละลายราวกับว่าเทียนถูกจุดไฟร้อน
เนื้อที่แก้ม หูขวา และไหล่ขวาของเขาละลายจนเผยให้เห็นกระดูกของเขา
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ล้อเล่นเลย เธอตั้งใจจะฆ่าชายคนนั้นจริงๆ แต่เธอยังคงไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพราะมีเพียงชายผู้นี้เท่านั้นที่รู้ฉากสุดท้ายที่เขาฆ่าทูตคนนั้นก่อนหน้านี้
แน่นอน เธอสามารถใช้เทคนิคการค้นหาวิญญาณเพื่อดูความทรงจําของชายคนนั้นได้ แต่น่าเสียดายที่ตัวเธอเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นแห่งนี้ เนื่องจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ
มันเหมือนกับว่านายกรัฐมนตรีจะดึงดูดความสนใจของทุกคน แม้ว่าเขาจะเดินไปตามถนนเหมือนคนอื่นๆ
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เธอทําไม่เพียงแต่เดินไปตามถนนเท่านั้น แต่เธอยังแย่งชิงสมบัติของคนอื่นด้วย!
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจให้โอกาสผู้ชายคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย!
แต่เธอก็ยังเลือกที่จะฆ่าชายคนนี้ทันที ถ้าเขากล้ากรีดร้องออกมาดังๆ เมื่อเธอลงโทษเขา
ชายคนนั้นไม่รู้ว่าความอดทนของเขานั้นเพิ่งช่วยชีวิตเขาไว้
“นั่นคือการลงโทษสําหรับความล้มเหลวครั้งแรกของคุณ คุณสามารถไปได้แล้ว! อย่าลืมเก็บเป็นความลับ!อย่าให้ใครรู้ตัวตนของคุณ! ถ้าหากโดนจับได้ขึ้นมา…” ผู้หญิงคนนั้นขยับออกจากชายคนนั้นโดยให้คําเตือนครั้งสุดท้ายแก่เขา
“ได้! ท่านหญิง! หาพวกเขาจะจับข้าน้อย ข้าน้อยจะฆ่าตัวตายทันที ก่อนที่พวกเขาจะจับได้”ชายคนนั้นตอบด้วยน้ําเสียงหนักแน่น
ผู้หญิงคนนั้นนั่งเอนหลังอย่างเกียจคร้าน และโบกมือที่เรียวยาวของเธอให้ชายคนนั้นเป็นสัญญาณว่าชายคนนั้นไปได้แล้ว
ชายคนนั้นก้มศีรษะลงขณะเดินถอยหลังก่อนที่ร่างของเขาจะเคลื่อนตัวออกจากห้องมืด
ผู้หญิงคนนั้นเหล่นัยน์ตาสีม่วงเป็นประกายของเธอ ในขณะที่ความปรารถนาอันแรงกล้ากําลังลุกไหม้อย่างรุนแรงในดวงตาส่วนลึกของเธอ
เธอมีส่วนเล็กๆ ที่ทําให้ชายคนนั้นทํางานนี้ผิดพลาด เพราะว่าเธอไม่ได้บอกข้อมูล หรือเบาะแสอะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้น” หรือ “ไอเทม” นั้นให้กับชายคนนั้นรู้เลย
แต่เธอไม่มีทางเลือกเพราะสิ่งนั้น”นั้นมีค่าเกินไป มันไม่สามารถประมาณค่าได้เลย!
หากเธอบอกชายคนนั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และข้อมูลเกี่ยวกับ สิ่งนั้น รั่วไหลออกไป ผลที่ตามมาจะมากกว่าเรื่องเลวร้าย!
แน่นอนมันจะนําการนองเลือดมาสู่สถาบันจิ้งจอกนับหมื่นแห่งนี้!
นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์จึงไม่รับ สิ่งนั้น เป็นการส่วนตัว แต่ใช้โรงประมูลเป็นตัวแทนในการรับสิ่งนั้น จากนั้นก็ให้ทูตคนนั้นนํามันจากโรงประมูลไปส่งให้กับจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น
แต่น่าเสียดายที่ลูกน้องของผู้หญิงคนนั้นได้สกัดกั้นทูตระหว่างทาง และวางแผนที่จะขโมยสิ่งนั้น
ใครจะรู้ว่าลูกน้องของผู้หญิงคนนั้นสามารถปล้นทูตได้ แต่สุดท้ายก็ยังล้มเหลวที่จะได้ สิ่งนั้น มา!
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะอยู่ที่ระดับสัตว์วิญญาณหรือสัตว์ร้ายระดับ [ตํานาน] และแข็งแกร่งเกินจินตนาการแต่เธอยังไม่ถึงขีดสุดในโลกอมตะนี้
แม้แต่ในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นแห่งนี้ มีจิ้งจอกหลายสิบตัวที่อยู่ในระดับสัตว์วิญญาณระดับ [ตํานาน]!
แต่มันคงจะแตกต่างออกไป หากเธอสามารถวิวัฒนาการอีกครั้ง และไปถึงระดับสัตว์วิญญาณระดับ [โบราณ] ได้! ในโลกอมตะนี้ สัตว์ร้ายระดับ [โบราณ] จะถูกเรียกว่า “เทพอสูร!
ทําไมถึงถูกเรียกว่าเทพอสูร?
เพราะสัตว์วิญญาณระดับ [โบราณ] เป็นการดํารงอยู่สูงสุดที่แท้จริงในโลกอมตะนี้!
อันดับแข็งแกร่งไร้เทียมทาน!
สัตว์วิญญาณทั้งหมดในโลกอมตะที่พัฒนาเป็น เทพอสูร” ได้สําเร็จสามารถนับได้ด้วยมือเดียว!
นั่นแสดงให้เห็นว่าหายากมาก และโอกาสที่พวกเขาจะพัฒนาเป็น “เทพอสูร” น้อยเพียงใด!
ว่ากันว่าทุกๆ 10,000 ตัว สัตว์ดุร้ายเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จะพัฒนากลายเป็นสัตว์อสูรได้
สัตว์อสูรทุกๆ 10,000 ตัว มีเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จะพัฒนากลายเป็นจ้าวอสูรได้
จ้าวอสูรทุกๆ 10,000 ตัว มีเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จะพัฒนากลายเป็นอสูรวิญญาณได้
อสูรวิญญาณทุกๆ 10,000 ตัว มีเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จะพัฒนากลายเป็นเทพอสูรได้
หมายความว่าโอกาสที่เธอจะพัฒนาเป็นเทพอสูรได้มีเพียง 0.0001 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม สิ่งของ” นั้นสามารถเพิ่มโอกาสของสัตว์วิญญาณใดๆ ที่จะวิวัฒนาการเป็น “เทพอสูร” ได้ถึง10 เปอร์เซ็นต์!
จาก 0.0001 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์!
สัตว์วิญญาณตัวไหนจะพลาดโอกาสนี้กันล่ะ!
อันที่จริงหากเผ่าพันธุ์อสูรอื่นๆ รู้เกี่ยวกับ “สิ่งนี้” นี้ พวกเขาจะบุกมายังสถาบันสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อจะคว้า สิ่งนั้น” ไว้!
ผู้หญิงคนนั้นกําหมัดแน่นจนเล็บของเธอเจาะเข้าไปในผิวที่เรียบเนียน ในขณะที่คิดว่า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งนั้น จะต้องเป็นของฉัน!!!”

เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก

เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก

เรื่องย่อ

ถังลี่เสวี่ยเกิดใหม่เป็นจิ้งจอกโดย โดยมีระบบที่สามารถช่วยให้เธอพัฒนา และเพื่อที่ทำให้เธอได้เป็นเทพแห่งจิ้งจอก

ในโลกอมตะอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกฝนพลังสัตว์อสูร และวิญญาณลึกลับ ถังลี่เสวี่ยจะอยู่รอดในฐานะสุนัขจิ้งจอกได้อย่างไร?

ไม่มีทางอื่นนอกจากถังลี่เสวี่ยจะต้องเพิ่มเลเวลต่อไป เพื่อวิวัฒนาการ เพื่อฟื้นร่างมนุษย์ของเธอ และกลายเป็นเทพจิ้งจอกผู้มีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด!

มาร่วมลุ้นไปกับถังลี่เสวี่ยในการเดินทางของเธอ เพื่อฝ่าอันตรายทั้งหมดและค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นทีละขั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท