ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 23 ท่านประธานจอมเผด็จการเข้าสิง
หลินเยียนเดินไปที่เตียงทีละก้าวและมองไปที่หุ่นตัวตลกบนเตียง
เธอค่อยๆ หลับตาลง หลังจากนั้นประมาณสามวินาที พอลืมตาขึ้นอีกครั้งสายตาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
หลินเยียนจ้องไปที่หุ่นบนเตียง แล้วค่อยๆ เผยรอยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ รอยยิ้มนั่นกลับไร้ซึ่งการเย้ยหยัน และไม่ได้จงใจแสดงความเย่อหยิ่ง ไม่เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูคู่อาฆาตของตน แต่ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยคนหนึ่ง…
“โถ่ แค่นี้ก็ลุกไม่ขึ้นแล้วเหรอ? น่าผิดหวังจริงๆ ท่านประธานเฉิน!”
ทั้งที่ยังเป็นบทพูดเดิมแท้ๆ แต่บรรยากาศและความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ทีแรกเจียงอีหมิงก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว แต่พอดูถึงตรงนี้ พลันยืดตัวตรงขึ้นมา
นักแสดงทุกคนที่แคสเมื่อครู่นี้แสดงออกมาดูเป็นปรปักษ์กับพระเอกอย่างสิ้นเชิง เฮ่อซานซานยิ่งแสดงได้แย่จนทนดูไม่ได้
แต่ผู้หญิงคนนี้แสดงความรู้สึกอย่างที่เขาต้องการได้ในทันที
ความสัมพันธ์ของนางรองหมายเลขสี่คนนี้กับพระเอก ถ้าจะบอกว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต ไม่สู้บอกว่าเป็นเพื่อนที่รู้ใจมากกว่า!
ทักษะการแสดงของผู้หญิงคนนี้ยังมือใหม่อยู่ แต่ความสามารถในการทำความเข้าใจ…กลับอยู่ในระดับที่ชาตินี้ทั้งชาตินักแสดงหลายคนก็ไม่อาจเอื้อม
การแสดงของหลินเยียนยังคงดำเนินต่อไป
เธอกระตุกมุมปาก เผยรอยยิ้มอย่างกำชัย เหมือนมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าอีกฝั่งจะต้องตอบตกลงคำขอของตน “ร่วมมือกันฉัน นี่เป็นโอกาสเดียวของนาย พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ฉันจะต้มชารอ”
“ดีมาก!” เจียงอีหมิงลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น
ใครบอกว่านักแสดงคนนี้ไม่มีทักษะการแสดง?
ทักษะแบบนี้ยังจะเรียกว่าไม่มีทักษะเหรอ?
ที่ผ่านมาเธอกลับแสดงพวกบทรีเมคมาโดยตลอด เสียของจริงๆ!
สีหน้าของเจียงอีหมิงเหมือนขูดเจอขุมทรัพย์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
เห็นความตื่นเต้นของเจียงอีหมิง ความจริงหลินเยียนก็งุนงง เมื่อครู่นี้เธอเพียงแสดงไปตามความเข้าใจของตนเท่านั้น…
ทว่าจากสถานการณ์ในตอนนี้ คิดว่าแม้จะได้รับการยอมรับจากเจียงอีหมิง ก็ไม่มีทางจะยกบทนี้ให้เธอแน่
เพราะเบื้องหลังที่หลินซูหย่าหาให้เฮ่อซานซาน ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก
เธออาจจะใช้เส้นสายจากฝั่งผู้ลงทุน…
ตามคาด เจียงอีหมิงเตรียมจะประกาศผล เฝิงอานหวากลับรีบห้ามเขาไว้
“ผู้กำกับเจียง คุณดูให้ดี ฉันรู้สึกว่าก็ธรรมดา!” เฝิงอานหวาพยายามส่งสายตาให้เจียงอีหมิง
ธรรมดางั้นเหรอ? แบบนี้ยังจะเรียกว่าธรรมดาอีกเหรอ? นี่มันฆ่าทุกคนที่มาเข้ารับการคัดเลือกในวันนี้ในเสี้ยววินาทีชัดๆ
ขณะนี้เองนักแสดงตัวเล็กๆ หลายคนที่อยู่ข้างๆ ก็เสริมขึ้นตาม “เธอแสดงอะไรของเธอเนี่ย! ไม่เหมือนท่านประธานหญิงจอมเผด็จการเลยสักนิด!”
“ใช่ๆ! ตัวละครนี้ควรจะเป็นปรปักษ์กับพระเอกไม่ใช่เหรอ? เธอแสดงได้จืดมาก!”
หวังเฉี่ยวฮุ่ยหลุดขำ พลันพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูก “ดูท่าทางของเธอก็รู้ว่าแสดงไม่เป็น! นี่มันแสดงบ้าอะไร?”
เฮ่อซานซานมองนาฬิกาอย่างเหลืออด “ยังไม่เลิกอีกเหรอ?”
เจียงอีหมิงได้ยินคนพวกนี้อวดฉลาด ก็โกรธจนแทบคลั่ง แบบนี้มันหยามอาชีพของเขาชัดๆ
เฝิงอานหวารีบเกลี้ยกล่อมเจียงอีหมิง “เหล่าเจียง นายใจเย็นๆ หน่อย นายจะล่วงเกินฝั่งผู้ลงทุนเหรอ? ถ้าตานเฟิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ถอนทุนขึ้นมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ของเราแย่แน่! เพื่อนางรองหมายเลขสี่คนเดียว ไม่คุ้มหรอก!”
เฝิงอานหวาเห็นเฮ่อซานซานและแม่เริ่มไม่พอใจแล้ว จึงเร่งหลินเยียน “เอาเถอะๆ เธอลงไปเถอะ! อย่ามาเกะกะแถวนี้!”
เจียงอีหมิงใบหน้าหม่นแสง สุดท้ายก็ถูกคำว่า ‘ถอนทุน’ ของเฝิงอานหวาปิดปากเอาไว้ได้
หวังเฉี่ยวฮุ่ยและเฮ่อซานซานที่อยู่ข้างๆ เห็นเช่นนี้ ต่างเผยสีหน้าเย้ยหยัน
หวังเฉี่ยวฮุ่ยยิ้มเยาะมองไปทางหลินเยียน “ไม่ได้ยินหรือไงว่าเธอตกรอบไปแล้ว? ยังจะยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้?”
หลินเยียนก็ไม่ได้สนใจที่ตกรอบการคัดเลือก แต่กลับรู้สึกว่าได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย
เธอได้ประสบการณ์การคัดเลือกนักแสดงที่ไม่เลวเลย อีกทั้งยังเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำการบ้านมาได้ผล ถึงขั้นที่ได้รับการยอมรับจากเจียงอีหมิง
ด้านนี้หลินเยียนเองก็เดินออกไปก้าวหนึ่งแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม หลังจากเดินไปก้าวเดียว จู่ๆ ก็ชะงักฝีเท้ายืนนิ่งอยู่กับที่
เฝิงอานหวาขมวดปมคิ้วแน่น “เธอยังจะยืนทำอะไรอยู่ที่นี่?”
ชั่ววินาทีที่สิ้นเสียงของเฝิงอานหวา สายตาที่เดิมดูอ่อนโยนของหญิงสาว ราวกับถูกลมพายุอันเยือกเย็นพัดผ่านอย่างกะทันหัน
เมื่อพายุสงบลง ดวงตาที่มองมาทางเขากลายเป็นดวงตาที่เย็นเยียบเสียดกระดูกและเฉียบคมราวกับคมดาบ ความกดดันอันรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับบีบกรงเล็บอันแหลมคมบีบคอเขาเอาไว้…