“แค่ก แค่ก…”
หลินเยียนตกใจที่เผยอวี่ถังเรียกเธอว่าพ่อจนเกือบสำลักน้ำลาย “ว่าไงนะ?”
เผยอวี่ถังตะโกน “คุณพ่อ คุณสุดยอดมาก! สอนผมหน่อย!”
หลินเยียนพูดอะไรไม่ออก
จุดยืนของนายอยู่ที่ไหนกัน พ่อหนุ่ม? ก่อนหน้านี้เขาตราหน้าว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์และเหยาะแหยะ แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นพ่อของเขาไปแล้ว?
ถ้าเธอรู้ว่าเขาสามารถเอ่ยปากเรียกใครต่อใครว่าพ่อได้ง่ายๆ แบบนี้ เธอคงไม่เอาตัวไปพัวพันกับปัญหาต่างๆ นานาเพื่อช่วยเขาแน่ๆ
โชคยังเข้าข้างที่การแข่งนั้นไม่ได้ยากเย็นจนเธอต้องลงแรงมากมายนัก ไม่อย่างนั้น เธออาจต้องโหมใช้ขาข้างที่บาดเจ็บของเธอจนทนไม่ไหวก็ได้
หลินเยียนไม่พูดอะไร เธอมองตาชายหนุ่มที่กำลังฉายแววเปล่งประกายสดใสราวกับมีดวงอาทิตย์เก้าดวงอยู่ในนั้น
แววตาของเขาระยิบระยับจนเธอสบตาเขาตรงๆ ไม่ไหว
เผยอวี่ถังยังคงจ้องเธอด้วยดวงตาสดใสของเขาต่อไป “พ่อครับ! ทำแบบนั้นได้ไงอะ? ขนาดต่อให้ตั้งรอบหนึ่ง แต่คุณก็ยังเอาชนะซ่งเย่าหนานได้!”
หลินเยียนตอบไม่ถูก
ที่เธอทำก็แค่เอาชนะมือสมัครเล่น มันน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นเลยหรือ?
เผยอวี่ถังพูดต่อ “ฝีมือคุณนี่ระดับโปรเลยนะ! คุณเป็นหัวหน้าทีมแข่งรถอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า”
หลินเยียนขัดจังหวะ “เดี๋ยวก่อนนะคะ…นายน้อยที่สาม เราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่าไหม แล้วก็หยุดเรียกฉันว่าพ่อได้หรือยัง”
เธอตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเผยอวี้เฉิงและเผยหนานซวี่
เผยอวี่ถังถามกลับ “แล้วให้เรียกว่าอะไรดี”
หลินเยียนตอบ “อะไรก็ได้ ยกเว้นพ่อ”
“พี่สะใภ้ใหญ่!” เผยอวี่ถังเสนอ
หลินเยียนตอบ “ไม่เอา…”
“พี่สะใภ้รอง?” เผยอวี่ถังถามกลับ
หลินเยียนรู้สึกโมโหสุดๆ ให้ตายเถอะ!
เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนตอบว่า “เรียกหลินเยียนก็พอ”
เผยอวี่ถังตกลงอย่างว่าง่าย “โอเค พี่เยียน! ไม่มีปัญหา! ว่าแต่พี่เยียนยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะ”
“ก็ยกยอกันเกินไป คุณเคยเจอหัวหน้าแก๊งแบบฉันด้วยเหรอ? ฉันแค่ขับเร็วกว่าเขาก็เท่านั้น” หลินเยียนตอบอย่างขอไปที
เผยอวี่ถังเบิกตาโพลง “แค่เร็วกว่านิดหน่อย? พี่เยียนน่าจะเข้าใจผิดเรื่องการแข่งรถระดับมือโปรแล้วนะ สำหรับนักแข่ง ความเร็วคือทุกอย่าง!”
“ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ฉันแค่เคยมีเอี่ยวกับการแข่งรถพักหนึ่งน่ะ”
หลินเยียนไม่อยากพูดถึงอดีตของเธอนัก เพราะถึงยังไง ชื่อของเธอก็ถูกลบออกจากสารบบของรายการแข่งรถมืออาชีพไปแล้ว
เผยอวี่ถังกะพริบตาอย่างสงสัย “ทำไมพี่ถึงเป็นนักแข่งรถล่ะ มันอันตรายมากเลยนะ”
หลินเยียนเกาจมูกพลางพยายามเลี่ยงคำถามนั้น “มัน…เรื่องมันยาว…”
เผยอวี่ถังตอบกลับ “ไม่เป็นไร! ค่อยๆ เล่ามาก็ได้!”
ราวกับว่าเผยอวี่ถังอยากจะจดบันทึกทุกคำที่เธอกำลังจะพูด
หลินเยียนหมดทางหนี เธอได้แต่ครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะตอบคำถามอย่างไร
ในอึดใจต่อมา เธอเริ่มเล่าเรื่อง “จริงๆ แล้วเรื่องมันเป็นอย่างนี้…ฉันเริ่มแข่งรถเพราะอยากมีโอกาสเจอคนคนหนึ่ง คือตอนนั้นฉัน…ชอบผู้ชายที่เป็นนักแข่งรถเหมือนกัน…ฉันเลยเข้ามาพัวพันในวงการแข่งรถเพราะเขานั่นแหละ”
เผยอวี่ถังนิ่งไปชั่วขณะ “พี่มาแข่งรถเพราะผู้ชาย…”
หลินเยียนตอบ “ทำไมล่ะ”
เผยอวี่ถังรีบแก้ตัว “ไม่มีอะไรครับ…แล้วหลังจากนั้นล่ะ พี่ชนะใจเขาได้ไหม ได้คบเป็นแฟนกันรึเปล่า”
หลินเยียนแสดงสีหน้าโหยหาและเศร้าโศกขณะที่นึกถึงอดีต “ฉันเริ่มศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการแข่งรถมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งฉันเก่งขึ้นมากเท่าไร ฉันยิ่งขับรถได้เร็วมากเท่านั้น สุดท้ายแล้วฉันก็รู้ว่า…ฉันสนุกกับการแข่งรถมาก แล้วทำไมฉันต้องมีแฟนด้วย แฟนกินไม่ได้หน่อย”
เผยอวี่ถังตอบ “โอ้…”
เขาแอบเดาเรื่องราวไว้อยู่บ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าจะจบแบบนี้