ณ อะพาร์ตเมนต์ลำน้ำเมเปิล…
หลินเยียนสั่งให้พนักงานขนย้ายจัดแจงวางข้าวของสัมภาระในอะพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ของเธอ
หลินเยียนเป็นคนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของประดับทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอจึงชอบข้าวของเหล่านี้มาก เมื่อเธอทำความสะอาดและลงมือตกแต่งห้องแล้ว ที่นี่ก็ดูอบอุ่นและน่าอยู่ขึ้นมาทันที
แม้ว่าอะพาร์ตเมนต์นี้อาจเทียบไม่ได้กับบ้านเก่าของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องทนอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคนอื่นอีกต่อไป ในที่สุดเธอก็มีสถานที่ที่เรียกว่าเป็นบ้านได้เสียที
แต่จู่ๆ หลินเยียนก็คิดถึงบางอย่างขึ้นมาก่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวม เธอถอนหายใจยาวๆ หลายครั้ง ท่าทางดูหดหู่ไม่สดใส
วังจิ่งหยางแอบมองหลินเยียน เขาเดาได้ว่าเธอกำลังรู้สึกเศร้า เขาจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ เพื่อปลอบใจ “ไม่ต้องเศร้าเรื่องป้ากับน้องเธอหรอก คนพวกนั้นน่ะไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่เธอหยิบยื่นให้ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องติดต่อสองแม่ลูกคู่นั้นอีกนะ…”
หลินเยียนถอนหายใจพลางบีบข้อมือแน่น “เจ้าหมา ฉันโมโหมาก! ทำไมฉันถึงได้พลั้งปากว่าจะจ่ายค่าแรงพนักงานขนของเป็นสองเท่าเนี่ย เสียเงินไปเยอะเลย!”
วังจิ่งหยางอึ้ง “นี่เศร้าเพราะเรื่องนี้เรอะ”
หลินเยียนกระพริบตาใส่เขา “ทำไมล่ะ ฉันจะเศร้าเพราะเสียเงินเสียทองไม่ได้หรือไง”
วังจิ่งหยางพูดไม่ออก
เขาเกือบลืมไปเลยว่าหลินเยียนมักเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เสมอ…
วังจิ่งหยางกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ในทันใดนั้นเอง สกู๊ปข่าวก็ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา
วังจิ่งหยางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปในเพียงอึดใจต่อมา “อะไรเนี่ย…หลินเยียน…เธอเป็นข่าวอีกแล้วนะ!”
หลินเยียนดูไม่ใส่ใจ “นี่ขนาดฉันอยู่เงียบๆ แล้วนะ ไหน ข่าวฉาวอะไรอีก ใครจะมาจำฉันได้เนี่ย”
“ดูสิ เนี่ยรูปเธอ!” วังจิ่งหยางยัดโทรศัพท์ใส่มือหลินเยียน
หลินเยียนมองโทรศัพท์ด้วยท่าทีฉงน
เธอเกือบลื่นตกเก้าอี้ด้วยความกลัวเมื่อเห็นพาดหัวข่าว
‘เนื้อร้ายแห่งวงการบันเทิง หลินเยียน คืนชีพจากเถ้าถ่าน แอบควง เผยหนานซวี่ ดาราชื่อก้องยามวิกาล!’
“อะไรเนี่ย!” หลินเยียนทำโทรศัพท์ลื่นหลุดมือ “ฉัน…เผยหนานซวี่กับฉัน?”
ในชั่วชีวิตนี้ หลินเยียนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชื่อของเธอจะได้ปรากฏอยู่ข้างชื่อเผยหนานซวี่ในข่าวซุบซิบเช่นนี้
วังจิ่งหยางมองเธอด้วยสายตาเวทนา “ฉันว่าจะถามนานละว่าเธอกับเผยหนานซวี่นี่ยังไงกัน เธอตายแน่คราวนี้ พวกติ่งของเผยหนานซวี่ทั้งโหดทั้งดุ ฉันว่า…ฉันคงไม่ได้เก็บศพเธอในสภาพที่เป็นชิ้นเดียวแล้วล่ะ…”
หลินเยียนอ่านข่าวทั้งหมดด้วยอาการนิ่งไม่ไหวติง จากนั้นเธอคลิกบนรูปภาพประกอบข่าวอย่างรวดเร็ว
รูปภาพประกอบข่าวนั้นถูกถ่ายในคืนงานเลี้ยงของหลินซูหย่า ตอนที่เธอกับเผยหนานซวี่ยืนอยู่หน้าประตูโรงแรม
ในงานเลี้ยงวันนั้น หลินซูหย่าเสียหน้ายับเยิน เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้น หลินซูหย่าจะต้องปิดข่าวไว้ ไม่ให้มีเรื่องอะไรเล็ดลอดออกไปได้แน่
แล้วรูปนี้โผล่มาจากไหนล่ะ?
นอกเสียจากว่า… หลินซูหย่าเป็นคนปล่อยออกมาเอง…
วังจิ่งหยางมองหลินเยียน “แล้วระหว่างเธอกับเผยหนานซวี่นี่คืออะไร ดูจากในรูปแล้วพวกเธอดูสนิทกันมากเลยนะ!”
“คืออะไรงั้นเหรอ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่!”
หลินเยียนกระทืบเท้าพลางตะโกนลั่น “แก…ออกมาเดี๋ยวนี้! กล้าดียังไงมาสิงร่างกายฉัน มาใช้ร่างคนอื่นก่อเรื่องแล้วก็หนีไปให้คนอื่นตามล้างตามเช็ด แกกล้าดียังไง”